26
แค่เห็นสายตาก็รู้แล้วว่าผิดหวังที่เขาไม่ใช่คนที่เธอรอ ธรณิศเบือนหน้าหลบ
“พี่กบ”
บัณฑิตาไม่รู้ว่าน้ำเสียงตัวเองบอกถึงความไม่พอใจเพียงใด แต่คำที่ชายหนุ่มตอบมันบอกอารมณ์ชัดกว่า
“นายเข้ติดธุระเลยให้ผมไปส่งก่อนเดี๋ยวตามไป”
‘ผม’ เหรอ
บ้าไปแล้ว!! หญิงสาวอยากจะกรี๊ดอีกระลอก คราวนี้มามุกประชดประชันเหรอ ไม่ได้รู้เลยนะเธอกำลังน้อยใจใคร ใครบางคนที่คิดมากจนไม่เป็นตัวของตัวเอง บางทีก็ทำเป็นหยอดคำหวานให้ดีใจ บางทีทำเป็นเย็นชา ไม่เข้าใจจริง ๆ หรือถ้าไม่คิดอะไรก็เลิกทำตาละห้อยเป็นลูกแมวถูกทิ้งแบบนั้นเสียทีจะได้ไหม เห็นแล้วมันปวดใจจี๊ดเหลือเกิน ทำตัวไม่สมกับเป็นลูกผู้ชายเลย
เธอเม้มปาก หายใจถี่ ระงับอารมณ์
“ไม่ไป จะรอพี่เข้ มีปัญหาไหม” “เดี๋ยวนายเข้ก็ตามไป ตอนนี้ติดธุระ”
บัณฑิตานิ่ง ชายหนุ่มเหมือนไม่มีต่อมรับความรู้สึกที่เธอยียวน เขาทวนประโยคเดิมเหมือนหุ่นยนต์ ภูเขาไฟอารมณ์ปะทุเปรี้ยะ
“พี่มีหน้าที่แค่นี้เหรอ”
ธรณิศสบตา ตอบเรียบ “ใช่ เดี๋ยวส่งเสร็จก็จะกลับ”
อะไรกันเนี่ย!! พูดมาได้ รู้ไหมนี่ว่าเธอแดกดัน แล้วไง ถ้าไม่ใช่พี่เข้สั่งก็จะไม่มาใช่ไหม บัณฑิตาเริ่มเข้าใจความรู้สึกของนางอิจฉาที่พอไม่ได้ดั่งใจก็กระทืบเท้าและร้องกรี๊ดเต้นเร่า ๆ เพราะตอนนี้เธออยากทำแบบนั้นเหลือเกิน
แต่ไม่ใช่ที่สาธารณะแบบนี้ ต่อหน้าฐารกำนัล คุณครูบุ้งทำไม่ได้ ตอนนี้นอกเวลาสอนก็จริง แต่ถ้านักเรียนสักคนมาเห็นมันไม่ใช่ภาพที่น่ารักเท่าไรแน่นอน
เธอกำมือแน่น เดินจ้ำพรวด ๆ จนธรณิศต้องชักตัวหลบเพราะอาการเธอตั้งใจจะชน
ธรณิศถอนใจ ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้ ความจริง...
เขาตั้งใจว่าจะถาม อยากจะเกริ่นถึงความสัมพันธ์ของเธอกับนายเข้เพื่อขยับความเป็นไปได้ที่ตัวเองจะได้ใกล้ชิดมากกว่าเดิม แต่คำนั้นมันเหมือนสายฟ้าฟาดเปรี้ยง ประกาศิตให้รู้สึกตัว เป็นที่แน่ชัดว่าหญิงสาวต้องนายฟาร์ม ไม่มีทางเป็นเขา ไม่เช่นนั้นจะไม่แสดงอาการไม่พอใจขนาดนี้
แต่ไหนแต่ไรมา เขาพยายามลืมเรื่องถึงเนื้อถูกตัว การไปรับส่ง หรือแม้กระทั่งการให้เงินส่งเสีย ทั้งหมดทั้งมวลไม่ใช่นิสัยเจ้านายอายุน้อยกว่าจะทำ นั่นเพราะเธอเป็นคนพิเศษ ไหนจะตำแหน่ง ‘ผัว’ นั่นอีก
สามวันก่อนที่โรงพยาบาล เขาเพิ่งรู้ว่าวันนั้นนายเข้ไปกรุงเทพ เธอคงโทรไปหาก่อนแล้ว พอผิดหวังจึงเบนเป้ามาหาเขา
‘โทรหาพี่กบก่อนเลย’
เธอก็พูดให้เขาดีใจเล่นไปอย่างนั้น เพื่อจะได้ไปส่งเธอได้ เท่านั้นเอง...
“ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมทะเลจีนใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรงอย่างต่อเนื่อง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันสูง 2-4 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีก 2-3 วันนี้ ส่วนประชาชนที่อาศัยตามบริเวณชายฝั่งทะเลของภาคใต้ฝั่งตะวันออกให้ระมัดระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงซัดฝั่งในช่วงนี้ไว้ด้วย”
นอกจากจะไม่มีการพูดคุยหรือเสียงเพลงขัดความอึดอัดแล้ว บนรถยังเป็นข่าวภาคเที่ยงซึ่งปิดท้ายด้วยการพยากรณ์อากาศ บัณฑิตาเบนหน้าออกไปนอกหน้าต่าง ธรณิศก็มองข้างหน้าราวกับว่าเส้นทางที่ไปเต็มไปด้วยหมอก แทนที่จะเป็นกลางวันซึ่งแดดจัดจ้า
ผืนทะเลสีฟ้าอมเขียวแผ่ตัวอยู่ใต้ฟ้าสีคราม เชื่อมต่อด้วยผืนทรายสีขาวสะอาดยาวสุดลูกหูลูกตา มองเห็นทิวเขาสีน้ำตาลเขียวทอดยาวแทบจะกลืนเป็นแผ่นเดียวกันกับฟ้า นักท่องเที่ยวเดินกันขวักไขว่และมีมากพอ ๆ กับพ่อค้าแม่ค้าและคนทำกิจการให้เช่าเรือนำเที่ยว เสียงจ้อกแจ้กจอแจสมกับเป็นวันหยุด
ธรณิศเอารถมาจอดบนถนนเลียบหาด บัณฑิตามองเขา
“จะดับเครื่องทำไม มีหน้าที่แค่นี้ทำเสร็จแล้วก็กลับไปสิ อย่ามาทำเกินหน้าที่”
ชายหนุ่มเหมือนคนเป็นใบ้ไปโดยสิ้นเชิง นั่นปะไรล่ะ เขาเม้มปาก
“ก็...ลงไปเป็นเพื่อน ระหว่างบุ้งรอนายเข้”
"ไม่ต้อง ไหนว่าส่งเสร็จแล้วจะกลับไง"
ธรณิศเหมือนตัวเองขาดน้ำรุนแรง คอแห้ง ใจเหี่ยว ถึงกับต้องไล่เลยเหรอ ดูท่าทางเธอจะโกรธเรื่องที่พ่อเลี้ยงพูดจริง ๆ เขาเองก็เสียใจ ทั้งที่อุตส่าห์หย่อนความรู้สึกตัวเองผ่านตุ๊กตากระรอกกับเครื่องสำอางค์ที่เดินข่มความอายเข้าไปซื้อมาให้ทั้งที
บัณฑิตาเปิดประตู
“บุ้งจะรอนายเข้ตรงไหน”
“ทำไม” เธอยักคิ้ว “อ้อ รายงาน บอกไปเลยว่าบุ้งลอยคอรออยู่ในทะเล” แล้วเธอก็ลงจากรถไป
ธรณิศได้แต่มอง ใจลอยตามไปแล้ว แต่ตัวถูกตรึงด้วยคำแดกดัน ถ้าดื้อดึงเกินไปคงได้รับอีกหลายชุด เขาถอนหายใจ ไม่ได้กลัว แต่ถ้าเสี่ยงกับการถูกเธอเกลียดแล้วมันเจ็บยิ่งกว่า
ชายหนุ่มลงจากรถ มองร่างเล็ก ๆ ที่เดินอยู่ในกลุ่มคน หญิงสาวไปหยุดที่ร้านขนม สั่งเครปชิ้นใหญ่มากินแล้วเดินไปนั่งใต้ร่มผ้าใบริมทะเล หลายนาทีที่บัณฑิตาอยู่ในสายตาของเขาโดยที่เธอไม่รู้ตัว หญิงสาวผมยาว สวมชุดกระโปรงแขนกุดท้าทายแดด กับกางเกงขาสั้นอวดผิวเนียน ธรณิศจุดยิ้มบางเมื่อเห็นผู้ชายต่างชาติเหลียวมอง
คนสวย ที่ใครเห็นก็ต้องหยุดสายตา
ชายหนุ่มยืนล้วงกระเป๋า จุดที่เขาอยู่คือบริเวณถนนที่ยกตัวสูงจากหาดทำให้มองเห็นทุกอิริยาบทของเธอ แต่เขาไม่ใช่คนมองคนที่รูปโฉม เทียบกันกับปุริมา ปูนิ่มเองก็น่ารัก มีท่าทีไว้ตัวนิด ๆ อย่างคนเมือง แต่ไม่ใช่คนที่แย่งชิงพื้นที่หัวใจเขาไปได้
บัณฑิตาทำให้เขารู้สึกอยากปกป้อง อยากดูแล เมื่อบางครั้งที่แววตาฉายความโดดเดี่ยวออกมาให้เห็นเหมือนเด็ก และเพราะความที่เธออายุน้อยกว่าเป็นรอบ ธรณิศไม่เคยโกรธเลยเวลาที่ถูกเธอใช้คำพูดประชดประชัน เธอทำให้ชีวิตเขามีสีสันและเขาหวังอยากให้เป็นแบบนั้นในช่วงเวลาต่อจากนี้
แม้รู้มันจะยากเหลือเกิน
เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง ธรณิศพบว่าจวนเจียนจะบ่ายสอง บัณฑิตายังนั่งอยู่ที่เดิม เขาถอนใจเดินกลับมาที่รถ ขับเคลี่อนพาหนะจากสถานที่แห่งนั้นได้พักใหญ่ก็หยิบโทรศัพท์
“นายเข้ ผมส่งบุ้งที่ทะเลแล้วนะ กำลังจะกลับ”
“บุ้งอยู่คนเดียวเหรอ”
ธรณิศเงียบไปครู่หนึ่ง “ครับ”
“เฮ้ย อย่าเพิ่งกลับ อยู่กับมันก่อน อาการมันแปรปรวนแปลก ๆ งานเสร็จแล้วไม่เกินครึ่งชั่วโมงคงถึง”
แล้วเขมรัฐก็วางสายไป ธรณิศงุนงงครู่หนึ่ง หมายความว่าเขาต้องกลับไปให้บัณฑิตาเห็นหน้า เนื่องจากความห่วงใยของนายเข้ซึ่งอีกฝ่ายคงไม่รู้ว่าอาการ ‘แปรปรวน’ นั่นอาจจะเกิดจากเขาเอง คนขับรถถอนใจ มองกระจก
ได้แค่ตัดพ้อในใจตามเคย
พอธรณิศมาถึงเขาก็ตกใจเนื่องจากบรรยากาศต่างออกไปราวกับหน้ามือหลังมือ ฟ้าที่แดดจัดสะท้อนน้ำทะเลส่องประกายระยิบเหลือแค่ความสว่างสลัวเพราะเต็มไปด้วยเมฆดำ ลมแรงพัดคลื่นเข้าหาฝั่งลูกแล้วลูกเล่า ผ้าใบ ป้ายโฆษณาปลิวพรึ่บพรับ นึกถึงคำพยากรณ์อากาศ พายุเข้าแน่แล้ว
ชายหนุ่มยืนเคว้งคว้างเมื่อไม่เห็นบัณฑิตาอยู่ที่เก้าอี้ผ้าใบตัวเดิม เธออยู่ที่ไหนล่ะ เขาหมุนกายซ้ายขวา กลุ่มคนทั้งนักท่องเที่ยวและพ่อค้าแม่ค้า พากันหลบสายฝนที่กำลังจะทิ้งตัวอีกในไม่ช้า
เขากดโทรศัพท์ขณะที่ใจเต้นระรัว
“ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก...”
มันก็น่าอยู่หรอก ลมกรรโชกขนาดนี้ ชายหนุ่มขบฟัน สาวเท้ายาว ๆ หวังว่าหญิงสาวจะอยู่แถวนี้
อย่างน้อยก็ให้ยังอยู่บนฝั่งทีเถิด
ต่อค่ะ
จากคุณ |
:
อุธิยา (BabyRed)
|
เขียนเมื่อ |
:
31 ม.ค. 55 20:51:39
|
|
|
|