Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
Ooo๐... เลี่ยมลายรัก...ตอนที่ 10 - 11 ๐ooO ติดต่อทีมงาน

บทนำ+ ตอนที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11533190/W11533190.html

ตอนที่2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11546089/W11546089.html

ตอนที่3http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11557827/W11557827.html

ตอนที่4 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11577082/W11577082.html

ตอนที่5 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11586009/W11586009.html

ตอนนี้6-7http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11628444/W11628444.html

ตอนที่ 8-9http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11635854/W11635854.html


Ooo๐... เลี่ยมลายรัก...๐ooO


ตอนที่ 10




...และด้วยความรู้สึกอึดอัดเช่นนั้นและก็ไม่น่าเชื่อว่าณิชนันท์จะสามารถทนแบกรับความรู้สึกเช่นนั้นมาโดยตลอดเป็นเวลาถึงสามปีเต็มโดยที่ไม่คิดจะระเบิดความรู้สึกที่กักเก็บให้ใครรู้ โดยเฉพาะบิดาและมารดา ด้วยเหตุผลที่หลากหลาย เธอไม่อยากให้ทั้งบิดาและมารดาผิดหวังในตัวเธอ  และหวาดกลัวว่าเมื่อเธอระเบิดความรู้สึกอัดแน่นนั้นออกไป จะทำให้ท่านทั้งสองมองเธอกลับมาว่าเธอกำลังอิจฉาในตัวมนัญชยา ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้ว เธอไม่เห็นจะต้องอิจฉาเลย  ยังไง เสียเธอก็เหนือกว่ามนัญชยาอยู่แล้ว ไม่นับผลการเรียนที่สูสี หรือแม้หน้าตาที่นับวันทั้งคนทั้งคู่ยิ่งโตยิ่งก็ยิ่งสะสวยไปคนและแบบ

กับตัวณิชนันท์เองรูปร่างสูงปราดเปรียว ใบหน้า เรียวเล็ก  จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากคู่อิ่ม แต่ที่โดดเด่น สะดุดตาที่สุดในเครื่องหน้าก็คงไม่พ้นดวงตาคู่สวยที่หางตาดูรีเรียวที่ดูเพิ่มความเฉี่ยว คมทางดวงตาทั้งคู่ได้ไม่น้อยเลย    

และ กับมนัญชยาเอง รูปร่างเล็กบาง รับกับท่าทางกิริยาที่ดูอ่อนหวานละมุนตา บนวงหน้าที่หวานอยู่แล้วกับดูหวานสะดุดตาเข้าไปอีกด้วย ดวงตากลมโตใสแจ๋วล้อมกรอบด้วยขนตาแพงอน ดูรับกับได้ดีกับริมฝีปากบางๆ เวลาเธอยิ้มขึ้นมาดูสว่างไสวอ่อนหวานและ  เป็นสิ่งที่น่าดึงดูดต่อใครหลายคนที่พบเห็น  ยามเมื่อเธอยิ้ม

และข้อนี้นี่แหละที่ทำให้ณิชนันท์ไม่ชอบ  เธอมองออกว่ามันเป็นรอยยิ้มที่ปลิ้นปล้อนหลอกลวงใครต่อใครที่ได้เห็นชัด ๆ เลย ว่าทำตัวให้มีความสุข  สดชื่น   และเชิดหน้าโอ้อวดบิดามารดาของเธอกับใครๆ ทำราวกับว่า ท่านทั้งสองเป็นบิดามารดาของมนัญชยาไปแล้วจริงๆ เช่นนั้นแหละ ...

“เวลาผ่านไปเร็วจริง ๆ อีกไม่กี่วันเด็กสองคนก็จะจบม.6 แล้วนี่”

ธีริทธ์เปรยๆ ขึ้นมาในช่วงสายๆ ของวันหยุด  เมื่อเขาได้มานั่งๆ นึกดูว่าเด็กสาวทั้งสองคนในบ้านหลังนี้ ไม่ว่าจะเป็นลูกสาวของตนเองหรือลูกสาวของเพื่อนที่ไม่สามารถปฏิเสธเลยว่ายิ่งโตมนัญชยาจะยิ่งเหมือนแม่ของเธอที่ตนเคยเห็นเข้าไปทุกที  ใช่คุณแม่ของมนัญชยาจัดได้ว่าเป็นผู้หญิงที่สวยคนหนึ่ง ที่เขาเคยเห็นมา
“หนูฝ้าย แกยิ่งโตก็ยิ่งเหมือนแม่ของแกมากนะ คุณว่ามั้ย”

ธีริทธิ์เอ่ยถามภรรยาลอยๆ  ขณะใช้สายตามองหลังบางๆ ของเด็กสาวที่กำลังง่วนอยู่ในห้องครัว

ชุติมนวางถ้วยน้ำชาลงกับจานรองเบาๆ พร้อมกับเหลียวกลับไปดูเด็กสาวที่สามีเธอหมายถึง ก่อนจะหันกลับมามองใบหน้าสามีต่อ ตอนนี้เธอเห็นถึงแววตาของเขาที่ทอดมองดูยามที่พูดถึงมนัญชยาด้วยความเอื้อเอ็นดูอย่างเห็นได้ชัด  ซึ่งในความชัดเจนนี้บ้างครั้งก็ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกนัก  และเธอก็ไม่กล้าแม้แต่ จะหาคำตอบว่าทำไมเธอถึงรู้สึกไม่สบายใจทุกครั้งที่จะเห็นแววตาอ่อนเชื่อมดูเอ็นดูเด็กสาวเป็นพิเศษของสามี  ดูเลยเถิดไปไกล

…บางครั้ง พอคิดมากๆ เข้าจะทำให้เธอมานึกกระดากอายและตำหนิตนเองเสร็จสรรพกับความคิดบ้าๆ นั้น

“อีกไม่กี่วัน เด็กทั้งสองคนจะเรียนจบแล้ว คุณให้คำแนะนำแกไปบ้างมั้ยว่าจะเรียนต่ออย่างไรบ้าง ” ธีริทธิ์ถามขึ้นมาอีกครั้ง โดยมือข้างหนึ่งก็หยิบช้อนที่วางอยู่บนจานรอง มาชงกาแฟในถ้วย เขาไม่ทันได้รู้สึกหรอกว่า จะถูกสายตาของภรรยามองในแง่ไหนบ้าง

“ก็ให้ไปแล้วค่ะ ทั้งสองคน สำหรับ เด็กทั้งสองแกคงมีตัวเลือกอยู่ในใจแล้วล่ะ เดี๋ยววันนี้ถ้าสองคนนั่นมาคุณลองถามๆ ดูสิคะว่าคิดที่จะสอบเข้าเรียนต่อที่ไหนบ้าง”

“แล้วตกลงยัยเพลินยังไม่ตื่นใช่มั้ยเนี่ย” เขาถามขึ้นมาอีกครั้ง พลางยกนาฬิกาตรงข้อมือมาดูประกอบ

ชุติมนเองก็ให้การส่ายหน้าเป็นคำตอบแรกไปก่อน  “ยังเลยค่ะ” และเธอก็รู้สึกว่าในช่วงเวลาสามปีที่ผ่านมานี้  เวลาเธอจะต้องตอบคำถามแบบนี้ของสามีทีไร เธอจะรู้สึกไม่สบายใจแทนลูกสาวทุกครั้ง เพราะอดห่วงไม่ได้ว่าเขาอาจจะเอาลักษณะนิสัยข้อนี้ของณิชนันท์ไปเปรียบเปรยกับเด็กสาวอีกคนที่อยู่ตรงนั้น

“อะไรกัน ลูกคนนี้ ยิ่งนานวันยิ่งตื่นสาย”

นั่นประไร ผิดจากที่เธอคิดที่ไหน ชุติมนลอบถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะตวัดสายตาขึ้น เมื่อเด็กสาวอีกคนที่ตนหมายถึงกำลังเดินออกจากห้องครัวโดยที่เนื้อตัวยังไม่สละผ้ากันเปื้อน เธอเดินตรงมาหา ชุติมนและสามีด้วยรอยยิ้มน้อยๆ เป็นรอยยิ้มที่ใครต่อใครเห็นต่างก็รู้สึกสดชื่นทุกครั้ง และยังไม่พอกับลักษณะนิสัยที่เอาใจเก่งอ่อนหวานของเธอ นั่นอีก  

... นี่ยังไงล่ะ จะไม่ให้คนที่เป็นสามีของตัวเธอ รู้สึกทั้งรักและเอ็นดูมนัญชยาเข้าไปทุกวันๆ ได้อย่างไรกัน  

ชุติมนหลุบสายตามองดูคุกกี้รสใหม่ที่มนัญชยาลงทุนเข้าครัวขอทำเอง แต่เช้า ก่อนจะเลยสายตาขึ้นไปมองเด็กสาวตรงหน้าต่อ เธอคนนั้นก็รีบสาธยายประกอบด้วยน้ำเสียงหวานดังกังวานสดใส  

“ฝ้ายเอามาให้คุณลุง คุณป้าชิมน่ะค่ะ  เพิ่งอบเสร็จใหม่ๆ ร้อนๆ เลย”

“น่าทานจริงๆ ด้วย เก่งนะเราน่ะ” ธีริทธ์ออกปากชมก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งหยิบขนมของเด็กสาวขึ้นมาพิจารณาดู และคนที่ถูกชมก็รีบทรุดลงนั่งยิ้มหวาน รู้สึกถูกอกถูกใจกับคำชมนั้น จนลืมนึกไปว่า ชุติมนที่นั่งอยู่อีกด้านก็กำลังมองดูเธออย่างเงียบๆ  

“ก็ ฝ้ายก็หัดทำเอาน่ะค่ะ หาวิธีทำทางเน็ต มาทำดู ถ้าคุณลุงออกปากชมขนาดนี้แล้ว ฝ้ายก็มีความมั่นใจขึ้นมา ที่จะทำของอร่อยๆ ให้คุณลุงชิมอีกเป็นกองเลย  ”
“เดี๋ยวนี้ศิษย์ก้นกุฏิคุณเก่งขึ้นตั้งเยอะนะ”

ธีริทธ์ยกมือขยี้ศีรษะศิษย์ของภรรยาด้วยความเอ็นดู และมนัญชยาก็ยื่นหน้ายิ้มประจบด้วยความดีใจ ก่อนจะยอมละสายตาจากคุณลุงของเธอ แล้วหันมายิ้มให้ ชุติมนต่อ  ที่ชุติมนเองก็สามารถทำได้แค่ยิ้มน้อยๆ รับรอยยิ้มของเด็กสาวแค่นั้น

“มาแล้วค่ะ ..”

ช่วงเวลานั้น ณิชนันท์ก็เดินกระเตงลงมา ด้วยท่าทางสบายใจ.. พอเธอสืบเท้ามาใกล้กับโต๊ะอาหารเด็กสาวก็ได้ยินบิดาตัวเองบ่นขึ้นมาลอยๆ เลย  “ตื่นซะสายเชียวนะ..”

ณิชนันท์ทำเป็นไม่ได้ยินกับเสียงบ่นเบาๆ นั่นก่อนจะเดินตรงไปกอดมารดาอย่างเอาใจ ทำให้ธีริทธ์รู้สึกหงุดหงิดนิดๆ แม่ลูกสาวกำลังมองตนเป็นหัวหลักหัวตออยู่  

และนั่นจึงทำให้ธีริทธ์บ่นขึ้นมาอีกด้วยระดับน้ำเสียงที่ดังกว่าเดิม โดยตั้งใจจะให้ณิชนันท์ได้ยินอย่างชัดเจนขึ้นอีก ไม่อย่างนั้นลูกสาวคนเดียวของตนก็จะทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ยิน  

“แทนที่จะรีบตื่นเช้าๆ ลงมาทำนั่นทำนี่ดูบ้าง กลับนอนอยู่แต่ในห้อง นี่เพลินไม่รู้หรือลูก คนที่ตื่นสายๆ เหมือนคนที่ขาดกำไรในชีวิตไปเยอะเลยนะ”  

“ก็มี ‘คนอื่น’ คอยทำอะไรๆ อยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ”

ณิชนันท์ประชดกลับไปเบาๆ โดยที่เธอก็ไม่อยากจะประชดบิดากลับนัก แต่มันก็อดไม่ได้ เมื่อสายตาเธอเหลือบไปเห็น ‘คนอื่น’  ที่ชอบทำอะไร เพื่อเอาใจคุณพ่อและคุณแม่เธออยู่แล้ว และตอนนี้หล่อนคนนั้นก็นั่งไม่ห่างจากบิดา ในท่าทางคอยประจบประแจงเสียด้วยสิ  

เมื่อเห็น ธีริทธ์ตวัดสายตาคมๆ ขึ้นมองใบหน้าณิชนันท์เชิงตำหนิ ชุติมนเองที่เปรียบเสมือนคนกลางระหว่างพ่อและลูกคู่นี้ ที่ยิ่งนับวันก็ยิ่งมีเรื่องระหองระแหงกันขึ้น เธอรีบวางมือลงบนมือบางลูกสาว แล้วดึงตัวให้ลูกสาวลงมานั่งพูดกันดี  โดยเธอเองก็จงใจที่จะเปลี่ยนเรื่องด้วย  

“แล้วนี่ลูกจะออกไปไหนกัน”

ธีริทธิ์ถามยามเห็นการแต่งเนื้อแต่งตัวลูกสาวที่ดูทะมัดทะแมงด้วยเสื้อยืดเข้ารูปพิมพ์ลายตามสมัยนิยม และกระเป๋าสะพายใบใหญ่ที่ลูกสาวเอาคาดไหล่ติดตัวมาด้วย

“ไปอ่านหนังสือค่ะ เพลินจะต้องเตรียมสอบเข้า..” ณิชนันท์ตอบคำถามแล้วเอ่ยถึงชื่อมหาวิทยาลัยแห่งชื่อดังของกรุงเทพฯ เธอบอกคนเป็นแม่ด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจ และแววตาที่สื่อให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในตัวเอง  

“งั้นจะออกจากบ้าน มานั่งทานขนมกับแม่รองท้องก่อนดีมั้ย”

คำชวนของคนเป็นแม่ ทำให้ณิชนันท์เลื่อนสายตามองลงไปที่คุกกี้น่าตาน่าทานตรงหน้าทันที  คิดจะเอื้อมมือไปเพื่อจะหยิบมันขึ้นมาใส่ปากด้วยความอยาก แต่เมื่อรู้ว่าเป็นฝีมือของใครจากปากของมารดา  

ณิชนันท์ก็รีบชักมือกลับเสียรวดเร็ว ทำราวกับว่าเธอไม่อยากจะแตะต้องของๆ ที่มาจากน้ำมือของใครคนนั้น !“ชิมดูหน่อยนะ เป็นฝีมือของหนูฝ้ายเอง”

“ใครอยากจะทานก็ทานไปนะคะ เพลินไปอ่านหนังสือสอบกับเพื่อนๆ ดีกว่า”

เด็กสาวไม่เพียงแค่ชักมือกลับ ยังพูดออกมาคล้ายๆ เหยียดของที่อยู่ในจานตรงหน้านิดๆ ด้วยหางตา  พร้อมกับหมุนตัวออกไปจากโต๊ะอาหารรวดเร็ว โดยไม่ยอมมองหน้า หรือทักทายเด็กสาวอีกคนหนึ่ง  ที่ตอนนี้ก็ใช้สายตานิ่งๆ มองตามหลังเธอไปด้วยเช่นกัน


(มีต่อค่ะ)

.

จากคุณ : พิณพลอย
เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 22:07:26




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com