Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กีฏมนตรา บทอวสาน ติดต่อทีมงาน

ขอบคุณเพื่อนนักอ่านทุกท่านครับ ที่ติดตามกีฏมนตรา จนมาถึงบทอวสานแล้วในวันนี้
ขอบคุณกิฟต์จากคุณ นวลน้ำผึ้ง, คุณแก้วกังไส, คุณHermosa, คุณเขมปัณณ์, คุณรพิชา,คุณ npuiy,คุณ อินทรายุธ,คุณ กุหลาบมอญ, คุณTravel to the moon, คุณนารีจำศีล, คุณwor_lek, คุณกาแฟเย็นเพิ่มช็อต, คุณSky With Rainbow, คุณเรียวรุ้ง และ คุณSetakan ด้วยครับ

สำหรับกีฏมนตรา ตอนที่ 45ที่ผ่านมาครับ
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11641480/W11641480.html

สำหรับโอกาสหน้า ขอเชิญเพื่อนนักอ่านทุกท่าน "ล่องกัลปาลัย"ไปกับหมอกมุงเมือง ด้วยนะครับ  

     อีกไม่นานเกินรอครับ

กีฏมนตรา บทอวสาน

บทส่งท้าย


            คดีของบุรโชติเป็นเรื่องสะเทือนขวัญอยู่ไม่น้อย ผู้หญิงที่เสียชีวิตจากการฆาตกรรมของชายหนุ่มผู้นั้นมีจำนวนหลายคน แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นเพียงหญิงขายบริการที่อยู่ต่างท้องที่การสืบสวน ทำให้การติดตามร่องรอยฆาตกรเป็นไปได้ค่อนข้างลำบาก และนอกจากนี้ยังมีผู้ร่วมสมคบคิดช่วยกลบเกลื่อนร่องรอยหลักฐานด้วยอีกคนหนึ่ง


              คันธรส... เพื่อนสาวคนสนิทของเกตุมาลานั่นเอง นอกจากจะหลงรักแฟนของตัวเองมากเพียงพอที่จะทำทุกสิ่งทุกอย่างได้เพื่อเขา ยังเป็นการสนองตอบต่อความต้องการส่วนลึกในด้านมืดของตนเอง ทั้งคู่จึงสามารถทำงานร่วมกันได้ไม่ต่างกับเป็นคู่หูสังหาร


            แม้ไม่ได้เป็นคนลงมือเอง แต่การร่วมมือ ก็เป็นความผิดที่ร้ายแรงเช่นเดียวกัน


        ร่องรอยลายนิ้วมือที่พบบนต่างหูเป็นข้อมูลสำคัญที่โยงไปยังหญิงสาวอย่างชัดเจน ตรงกับการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลของศพคันธรสทุกประการ และเป็นชิ้นส่วนต่างหูชิ้นเดียวที่หล่นไว้ในที่เกิดเหตุโดยเจ้าตัวคงไม่ทันได้คาดคิด


             มันเป็นต่างหูคู่ที่มีลักษณะเหมือนกับของเกตุมาลาทุกอย่าง เครื่องประดับสวยงามที่เพื่อนรักทั้งสองซื้อมาจากแหล่งร้านเดียวกัน ในเวลาเดียวกัน และด้วยตัวอักษรย่อตัวหลักเดียวกัน


               K คือ Ketemala หรืออีกนามหนึ่งก็คือ Kantharos!  


            เกตุมาลายังจำเหตุการณ์ได้เป็นอย่างดี หล่อนและคันธรสต่างถูกใจต่างหูคู่งามในขณะเดินเล่นอยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งนั้น จึงตัดสินใจซื้อมาให้เหมือนกันทุกอย่าง


           “อุ๊ย! เกตุ ดูสิ ตัวอักษรชื่อย่อของมันเหมือนเราทั้งคู่เลย รสว่าเราซื้อไว้เป็นที่ระลึกในมิตรภาพความเป็นเพื่อนรักของเราดีไหมจ๊ะ?”


             คันธรสสนับสนุนเต็มที่ และเกตุมาลาก็ไม่ปฏิเสธ ไม่นึกว่าสุดท้าย ของที่ระลึกความสัมพันธ์ชิ้นนี้จะกลายมาเป็นหลักฐานมัดตัวเพื่อนรักของหล่อนเอง!


            มิตรภาพความเป็นเพื่อน... เพื่อนรัก แท้จริงทุกอย่างก็เป็นเพียงภาพลวงตา...


              ด้วยข้อมูลและหลักฐานที่กัทลีได้รับการบอกเล่าจากเกตุมาลา และหลักฐานของต่างหูอีกคู่หนึ่งของหญิงสาวที่มีอยู่ครบบริบูรณ์โดยมิได้ขาดหาย


             ส่วนบุรโชติ...


              บนท่วงท่าบุคลิกอันมีเสน่ห์ต้องตาต้องใจแก่สตรีเพศ ไม่มีใครอาจล่วงรู้ได้เลย ถึงจิตใจส่วนลึกนั้น ว่ามีความวิปริตแปรปรวนซุกซ่อนเอาไว้ มีเพียงคันธรสเท่านั้นที่เข้าใจอีกฝ่ายได้ดีที่สุด


           เข้าถึงจิตวิญญาณและความเป็นฆาตกรของเขาอย่างแท้จริง เพราะแม้แต่พรีออนที่สร้างมันขึ้นมา ก็ยังมีนามเรียกขานว่า กีฏยา...


              กีฏยาอันหมายถึงนางแมลง หรือ แมลงเพศเมีย เพศตรงข้ามที่ก่อให้เกิดความลุ่มหลงเกินควบคุมของเขา แม้ในอีกความหมายหนึ่งคือแมลงอันเป็นพาหะสำหรับให้พรีออนได้ฝังตัวซ่อนเร้นเอาไว้ และรอการติดเชื้อเข้าสู่ร่างกายมนุษย์


             ความลุ่มหลงของบุรโชติปรากฏหลักฐานชัดเจน เมื่อตำรวจเข้าตรวจค้นห้องพักบนคอนโดสุดหรูใจกลางกรุงของชายหนุ่ม


             แล้วทุกคนต่างก็ต้องตกตะลึงกับภาพของ “ห้องผีเสื้อ”ที่เขาสร้างมันขึ้นมาด้วยตัวเอง ไม่ต่างกับคลังผีเสื้อที่รวบรวมแมลงหลากสีเหล่านั้นเอาไว้ราวกับพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม


             ที่สำคัญมันมิได้มีเฉพาะผีเสื้อสตาฟฟ์ที่ถูกกฎหมายเพียงอย่างเดียว บรรดาผีเสื้อในกฏหมายคุ้มครองก็ประดับประดาในห้องผีเสื้ออยู่ไม่น้อย


              และหลักฐานสำคัญอีกชิ้นหนึ่งที่ทำให้ตำรวจเพ่งประเด็นของการสังหารของฆาตกรหนุ่มรูปงามผู้นี้ไปพร้อมกัน นอกเหนือจากความผิดปกติทางจิตแล้วก็คือ ยาฉีดที่เขาเก็บเอาไว้ในตู้เย็น


                อนาบอลิก เสตียรอยด์... มันคือสารกระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อที่ผสมผสานด้วยฮอร์โมนเพศชาย สำหรับการเพิ่มมัดกล้ามในทางลัด ในกลุ่มชายเพาะกายที่นิยมสร้างความงดงามแห่งสรีระ โดยพึ่งพาทั้งยาเสริมและการออกกำลังไปพร้อมกัน


                    สารอันตรายตัวนั้น มีการโฆษณาขายกันอยู่ทั่วไปทางอินเทอร์เนตทั้งที่ไม่ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานใดๆ บางครั้งผู้นำไปใช้เองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผ่านการทดสอบความเป็นพิษและอันตรายข้างเคียงต่างๆที่จะเกิดขึ้น รวมถึงระบบประสาทหรือไม่


                “บางทีสารพวกนี้อาจจะทำให้เขามีอาการผิดปกติทางสมอง เกิดอาการประสาทหลอนและเสียสติได้”


                  แพทย์ผู้ชันสูตรพยายามอธิบายกับผู้กองภากรและหมวดเขมชาติ เมื่อนำสารดังกล่าวไปตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว


           ส่วนคันธรส...


            ข้อมูลการทำงานวิจัยของหญิงสาวถูกค้นพบในคอมพิวเตอร์ส่วนตัว ในไฟล์พิเศษที่เจ้าตัวซ่อนเอาไว้ด้วยลำดับรหัส ก่อนที่จะถูกนักโปรแกรมเมอร์ของสำนักงานตำรวจถอดและแกะข้อมูลเหล่านั้นออกมาได้สำเร็จ


              เป็นความจริงที่ไม่มีใครคาดฝัน โปรตีนก่อโรคที่ทำให้เกิดการแปรผันทางพันธุกรรมถูกสร้างขึ้นได้จริงในห้องทดลอง ด้วยสมองอันเป็นอัจฉริยะของหญิงสาวที่ดูเหมือนจะตรงข้ามกับบุคลิกสดใสร่าเริงภายนอกอย่างสุดโต่ง ความรู้ที่ควรจะนำมันไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในทางสร้างสรรค์แก่โลก แต่กลับนำไปใช้ในการทำลายเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง


             พรีออนสำหรับการเปลี่ยนโฉมผีเสื้อไร้รงควัตถุที่เรียกว่าผีเสื้อหิมะ ให้กลายเป็นผีเสื้อเรืองแสง คุณสมบัติแท้จริงของมันควรจะมีเพียงเท่านั้น แต่คันธรสก็ยังสร้างพรีออนพิเศษเพิ่มเติมขึ้นมาโดยการแทรกโปรตีนที่ก่อให้เกิดพยาธิสภาพร้ายแรงแก่มนุษย์เข้าไปด้วยโดยไม่มีใครล่วงรู้ โปรตีนที่มีอานุภาพไม่ต่างกับไวรัสสมองอักเสบ เพียงแต่วงจรชีวิตและการดำเนินโรคของมันไม่อาจก่อให้เกิดการติดตามร่องรอยได้ชัดเจน เหมือนกับการติดเชื้อจุลชีพอื่นๆ


             นับเป็นการใช้เครื่องมือสังหารอันทรงประสิทธิภาพอย่างน่ากลัวที่สุด ไม่ต่างกับอาวุธชีวภาพ


                 นงลักษณ์คือเหยื่อรายแรกที่เกิดขึ้น... ไม่ใช่สิ คนแรกก็คือ อาจารย์คาเรนนั่นเอง เพราะเจตนาที่จะกำจัดหล่อนออกไปจากความสำเร็จที่มองเห็นอีกไม่ไกล


               “คาเรนเรียกฉันเข้าไปพบ เมื่อการสังเคราะห์โปรตีนพรีออนสำเร็จ และบอกว่าการค้นพบนี้ในฐานะหัวหน้าโครงการ เธอจะนำไปเขียนเพื่อตีพิมพ์งานวิจัยชิ้นนี้เอง แต่ฉันแย้งว่า พรีออนสังเคราะห์เกิดขึ้นจากฉันเพียงคนเดียว ฉันทุ่มเทเพื่อมันมากกว่า  แต่นังปีศาจคาเรนมันขู่ว่า หล่อนมีพาวเวอร์ในเรื่องการเจรจาต่อรองขอทุนวิจัยได้สูงมากกว่าฉัน ที่เป็นเพียงนักศึกษาปริญญาโท และทุกอย่างก็ไม่หลักฐานว่าหล่อนขโมยผลงานนี้มาจากฉันเลย


          ใช่ ฉันพลาดเอง ที่ส่งข้อมูลโครงสร้างโปรตีนพรีออนไปให้หล่อนทั้งหมด


           ฉันเกลียดมัน!เ นังแม่มดปีศาจ  


          แต่คาเรนไม่รู้หรอกว่า ฉันเตรียมแผนการที่สองเอาไว้แล้ว...”


            ประโยคในบันทึกส่วนตัวที่หญิงสาวบันทึกเอาไว้ ร่วมกับข้อมูลในไฟล์พิเศษ ทำให้รับรู้ถึงความรู้สึกเจ็บแค้น เมื่อถูกแบล็กเมล์และขโมยผลงานตัวเองไปใช้อย่างไร้จริยธรรม นี่คืออีกหน้ากากหนึ่งของศาสตราจารย์สาวใหญ่ผู้น่านับถือในสายตาเกตุมาลา...


           “มันพยายามขู่จะเปิดเผยคลิปลับของฉันและพี่โชติ... ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่อาจารย์ที่ฉันเคยรู้สึกศรัทธาอีกต่อไป แต่มันคือนางแม่มด นางปีศาจผมทอง...”


            ถ้อยคำร้ายกาจเหล่านั้น บ่งถึงความเคียดแค้นเป็นอย่างดี แม้ว่าจะไม่เข้าใจ “หลักฐานการแบล็คเมล์”ที่คันธรสเอ่ยถึงก็ตาม แต่เกตุมาลาคิดว่าก็ไม่ควรจดจำไว้อีกต่อไป การจำในสิ่งที่ทำให้เราทุกข์ทรมาน ทั้งที่คนผู้เป็นต้นเหตุก็ได้เสียชีวิตไปทั้งหมดแล้ว ย่อมไม่มีประโยชน์อันใด


              “คาเรนบอกฉันว่า งานที่สำคัญอย่างนี้ มีแต่ฉันเท่านั้นแหละที่สามารถทำได้ เพราะคนอย่างเกตุมาลาไม่มีทางเด็ดขาด!”


               หญิงสาวอ่านข้อความในนั้นด้วยหัวใจรานร้าว มิใช่เพราะรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ เมื่ออาจารย์ที่ปรึกษาไว้วางใจศิษย์คนอื่นมากไปกว่าตนเอง แต่เป็นเพราะความจริงที่ประจักษ์ชัด ในความคิดของเพื่อน เพื่อนคนที่หลงคิดว่าเป็นเพื่อนรักมาโดยตลอดนั่นต่างหาก


           ตลอดเวลา คันธรสไม่เคยคิดว่าเธอคือเพื่อนเลย สักนิดเดียว!


         ส่วนคาเรนนั้นเล่า?


            ยิ่งนึกก็ยิ่งรู้สึกโหวงลึกในทรวงอก คำว่า “ครู”เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เหลือเกินในความคิดของหญิงสาว หล่อนศรัทธาและชื่นชม ครูทุกคนที่ให้ความรู้แก่ตนเองมาโดยตลอด ไม่เคยมีคำอื่นในความคิดเกี่ยวกับคาเรนทั้งสิ้น นอกเหนือจากความเคารพศรัทธา...


           แต่สิ่งที่เกิดขึ้น ทำลายความเชื่อทั้งหมดจนไม่เหลือซาก มีเพียงธุมชาลเท่านั้นที่เข้าใจความรู้สึกได้ดีที่สุด


        “ผมขอให้เกตุอย่าสิ้นความหวังนะ ไม่ใช่ว่าครูทุกคนจะเป็นอย่างโปรเฟสเซอร์คาเรนไปทั้งหมดเสียเมื่อไร คนที่เป็นครู เป็นนักวิจัย ที่มีจรรยาบรรณ ก็มี และมีอีกมากเสียด้วย”


             เขามองใบหน้าขาวซีดที่ก้มน้อยๆยอมรับความเห็นนั้นด้วยความเวทนาและเข้าใจอย่างที่สุด


                โชคดีเหลือเกินที่ไม่ได้ตกเข้าไปอยู่ในวังวนแห่งอำนาจและความหมกมุ่นจากกิเลสตัณหาเหล่านั้นไปด้วย เกตุมาลาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่ท้าทายมโนธรรม เหมือนกับที่คันธรสต้องเผชิญ จะเลือกการแก้ปัญหาในรูปแบบใด?


          แผนการที่สองของคันธรส ถูกค้นพบโดยบังเอิญจากผีเสื้อหิมะที่อาจารย์คาเรนนำกลับมาจากผาติ้วนั่นเอง ภายหลังการทดสอบการใช้ผีเสื้อพาหะให้ติดพรีออนลุล่วง และเผชิญกับผลลัพธ์นั้นแล้วจนเอาชีวิตไม่รอด ผีเสื้อหิมะตัวนั้น ก็ถูกส่งมาให้หล่อนทดสอบโดยเจตจำนงของผู้ตาย เพื่อให้ได้ค้นพบความจริงที่เลวร้ายของเพื่อนรัก นั่นเอง


              ในขณะเดียวกัน คาเรนก็ได้ทดสอบตัวตนของหล่อนด้วยเช่นกัน หญิงสาวหลับนัยน์ตาลง เมื่อหวนนึกถึงการตัดสินใจเลือกของตัวเอง การเลือกที่เกิดขึ้นจากการใช้หัวใจตัดสิน เช่นเดียวกับธุมชาล


              และผลการทดสอบจากผีเสื้อหิมะนั้นก็มาถึงช้าเกินไป เกินกว่าที่จะล่วงรู้ได้ทัน มีเพียงธุมชาลที่รู้ความจริง แต่เขาก็เป็นห่วงหล่อนเกินกว่าจะพะวงไปถึงคันธรส ไม่คิดว่าหญิงสาวจะตัดสินใจลอบเข้ามาในคืนนั้นเลยด้วยซ้ำ


            ชายหนุ่มเลือกเดินทางมาผาติ้วในวันนั้นทันที ไม่รู้แม้แต่น้อยว่าทุกการกระทำของเขาอยู่ในสายตาของคันธรสมาโดยตลอด หล่อนรอจังหวะสำคัญที่จะนำผีเสื้อติดพรีออนกลับไปใช้ประโยชน์ ซึ่งกระบวนการทดสอบต่อจากนั้นไม่เป็นปัญหาสำหรับความเชี่ยวชาญและเปรื่องปราดของคันธรสอยู่แล้ว ที่จะลงมือสร้างผีเสื้อเรืองแสงด้วยตัวเองโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาคาเรน ในเมื่อหล่อนมีทุกอย่างอยู่ครบครัน และมันก็ก็ควรจะจบลงอย่างสวยงามโดยสมบูรณ์


              ถ้า...


             คันธรสจะไม่ได้เผชิญกับ “อะไรบางอย่าง”ที่เหนือกว่าประสาทสัมผัสทั้งห้า อะไรที่ทุกคนก็ไม่อาจหาคำตอบชัดเจนมาอธิบายได้ และอะไรที่ทำให้ต้องจบชีวิตลงเช่นนี้ เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับบุรโชติ


               ดอกเตอร์หนุ่มถอนลมหายใจยาวเหยียด แม้ว่าเหตุการณ์เหล่านั้นจะผ่านพ้นไปแล้ว และปิดคดีฆาตกรรมสยองขวัญลงโดยผู้ร้ายตัวจริงได้กระทำอัตวินิบาตกรรมตนเองลง  เขาหยิบแผ่นกระดาษข้อมูลผลการทดสอบที่ได้จากคันธรสขึ้นมามอง ข้อมูลที่ตำรวจเองก็คงไม่คาดคิดว่าอาจจะโยงใยไปสู่แรงจูงใจในการฆาตกรรม


            พรีออนสังเคราะห์... พรีออนพิเศษที่คันธรสสร้างมันขึ้นในห้องทดลอง นี่ฤาคือสาเหตุทั้งหมดทั้งมวล?


                มันคือมนตรา มายาการแห่งกีฏยา... หรือ เป็นเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ของเชื้อโรคเพียงชนิดหนึ่งเท่านั้นกันแน่?


                ถ้าเป็นมนตราจากกีฏยา จาก สาง หรือ“ผีเชื้อ”ที่มีพลังอำนาจเหนือธรรมชาติจริงๆ เพื่อลงโทษผู้บุกรุกและเบียดเบียน บัดนี้มันก็ได้จบสิ้นลงแล้วพร้อมกับความตายของบุรโชติ


              และหากเป็นพลังอำนาจของพรีออน น่าประหลาด ที่การระบาดนั้นก็ไม่ปรากฏขึ้นภายหลังจากนั้นเลย ดูเหมือนว่าทั้งเขาและเกตุมาลา จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆจากการสัมผัสอนุภาคอันตรายนั้น ภายหลังจากที่ผ่านการพิสูจน์ตนเองไปเรียบร้อยแล้ว ราวกับพรีออนเหล่านั้นสลายตัวจนแม้แต่การตรวจหาก็ยังไม่อาจพบ ไม่ว่าจะในร่างกายของเขา เกตุมาลา หรือแม้แต่การชันสูตรศพของนงลักษณ์และเหมวดี


             นอกจากหลักฐานการค้นพบ เพียงชิ้นเดียวชิ้นนี้...


                ชายหนุ่มหยิบไฟแช็คจากลิ้นชักโต๊ะขึ้นมา บรรจงกดปลายจ่อเข้ากับกระดาษรายงานผลทดสอบโครงสร้างทางเคมีของโปรตีนมฤตยูชิ้นนั้น แล้วจึงทิ้งมันลงไปในถังโลหะ ปล่อยให้เปลวไฟลามเลียจนมอดไหม้กระดาษทั้งแผ่นหมดสิ้น


              ให้มันจบลงไปพร้อมกับผู้ที่สร้างมันขึ้นมา

***********************


                  เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆอย่างมีมารยาท ก่อนบานประตูจะเปิดออกช้าๆ ร่างสูงโปร่งของเกตุมาลาก้าวเข้ามา


            อดีตนักศึกษาสาว วางเอกสารลงเบื้องหน้าพร้อมรอยยิ้มอ่อนหวานเช่นเดิม แต่เขาสังเกตเห็นแววเศร้าสร้อยยังทิ้งร่องรอยเหลือไว้บางส่วนบนใบหน้าอ่อนโยนนั้น แน่นอนความโศกเศร้าในโศกนาฏกรรมของเรื่องนี้ ยังติดตรึงอยู่ในใจของเขาและหล่อน แม้ว่ามันจะบรรเทาความโศกเศร้าลงไปบ้างแล้วก็ตาม


             “เกตุเอารูปเล่มวิทยานิพนธ์มาส่งค่ะ อาจารย์”


              หล่อนยังเรียกเขาด้วยความนับถือเหมือนเช่นเดิม ธุมชาลยิ้มให้ มองรูปเล่มปกแข็งเดินทองสวยงาม นี่คืองานวิทยานิพนธ์ที่เพิ่งได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการนานาชาติไปไม่นาน ภายหลังการสอบดีเฟนด์ธีสิสหรือสอบป้องวิทยานิพนธ์สำเร็จไปก่อนหน้านั้นแล้วเดือนเศษ


                แม้ว่าจะต้องมีการเปลี่ยนอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์กลางคัน หญิงสาวก็เพียรอุตสาหะกัดฟันสู้ทำงานวิจัยต่อจนเสร็จสิ้น โดยไม่คิดทดท้อ จนผ่านการสอบป้องวิทยานิพนธ์ไปได้ในที่สุด


            เพราะเกตุมาลา ได้ “สู้”กับสิ่งที่หนักหนาสาหัสยิ่งกว่านั้นมาได้สำเร็จแล้ว


            นั่นก็คือ กิเลสในใจตัวเอง!


             บัดนี้หญิงสาวได้รับการบรรจุเข้าเป็นอาจารย์ในคณะวิทยาศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง แต่ก็ยังแวะเวียนกลับมาอยู่บ่อยครั้งด้วยความผูกพัน มันเป็นความสัมพันธ์ที่งอกงามมาจากความนับถือศรัทธาซึ่งกันและกัน และยิ่งเมื่อได้เผชิญเหตุการณ์ที่ทดสอบความรู้สึกแท้จริงนั้นจนผ่านพ้นไป ก็ยิ่งทำให้สายใยนั้นเหนียวแน่น และชัดเจนยิ่งขึ้น


               “เกตุจะเริ่มเลคเชอร์ครั้งแรกอาทิตย์หน้าแล้วค่ะ ไม่รู้ว่ากรรมจะตามสนองไหม คราวนี้ได้เปลี่ยนสถานภาพจากลูกศิษย์ไปเป็นอาจารย์ดูบ้าง กลัวจังเลยค่ะ”


               หล่อนเอ่ยยิ้มๆ เขาแตะมือลงสัมผัสกับหลังมือของอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน


                “ไม่หรอก ผมเชื่อว่าเกตุจะต้องเป็นอาจารย์ที่ดีได้แน่ๆ”


               “ขอบคุณค่ะ และเกตุก็จะพยายามเป็นครูที่ดีให้ได้ด้วยค่ะ ตอนนี้เกตุก็เริ่มเรียนรู้แล้วว่าการเป็นครู ต้องทำอย่างไรบ้าง เมื่อก่อนนึกว่าสบายๆ ที่ไหนได้... ทั้งงานสอน งานวิจัย งานดูแลนักศึกษาอีกจิปาถะจริงๆ”


              แม้จะเอ่ยเหมือนบ่น แต่เขาก็มองเห็นประกายของความสุขผลิบานในดวงตาคู่นั้น


                “ใช่แล้วล่ะเกตุ คำว่าครูมาจากศัพท์ว่า “ครุ” หมายถึงหนัก งานของครูจึงเป็นงานที่หนัก และต้องเต็มเปี่ยมด้วยคุณธรรมความเป็นครูตลอดเวลา ถ้าเกตุมีความสุขกับจุดนี้ ผมก็ถือว่าเป็นโชคดีของทั้งเกตุและลูกศิษย์ของเกตุด้วย”


              “ขอบคุณค่ะอาจารย์ชาล เกตุเองก็ยึดอาจารย์เป็นต้นแบบของการสอนหนังสือเหมือนกันค่ะ”


             หล่อนยังเรียกเขาด้วยความนับถือศรัทธาเหมือนเดิม เป็นธุมชาลที่ยิ้มน้อยๆตอบ ทั้งที่รู้สึกสะกิดแปลบอยู่ในใจ


                “เกตุเป็นของเกตุเองน่ะดีที่สุดแล้ว อย่างผมเองคงจะไม่ใช่คุณครูต้นแบบอะไรที่ดีนักหรอกครับ แค่ “พยายาม”ทำให้ดี เท่านั้นเอง”


               คราวนี้เป็นเกตุมาลาที่ยิ้มตอบอย่างเข้าใจ


                “อาจารย์ก็คืออาจารย์ที่เกตุศรัทธาเสมอค่ะ ไม่ใช่ศรัทธาที่อาจารย์ไม่เคยทำผิดพลาดใดๆหรือมีความสมบูรณ์เพียบพร้อม จนเป็นเสมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แตะต้องไม่ได้ แต่เกตุศรัทธาการยอมรับความผิดพลาดและพร้อมที่จะแก้ไขมันต่างหากล่ะคะ ไม่มีใครหรอกค่ะที่เกิดมาจะไม่เคยทำผิดหรือทำพลาด แม้แต่เกตุเอง...”


           แววตาคู่นั้นหม่นแสงลงเล็กน้อย ธุมชาลกุมมือน้อยอีกฝ่ายแล้วบีบเบาๆเพื่อให้กำลังใจ เขาผุดลุกขึ้นช้าๆ เสมองหน้าปัดนาฬิกาบนข้อมือ


             “ผมว่าเราออกไปหาอะไรทานกันดีกว่านะ ตอนนี้ก็เกือบเที่ยงแล้วล่ะ แล้วก็จะได้ถือโอกาสฉลองความสำเร็จให้กับอาจารย์ใหม่ด้วยไงล่ะครับ”


           นัยน์ตา “อาจารย์สาวคนใหม่” เป็นประกายระยิบระยับขึ้นแทน หญิงสาวเองก็พร้อมยอมรับความคิดเห็นของอีกฝ่ายเต็มที่


              “ดีเหมือนกันค่ะ เกตุก็หิวแล้ว งั้นให้อาจารย์เป็นเจ้ามือมื้อนี้แล้วกันนะคะ”


           เขาหัวเราะจนตาหยีไม่ต่างกับเด็กชายตัวน้อย ไม่ใช่ดอกเตอร์หนุ่มผู้ทรงภูมิและพยายามสร้างภาพให้เกร็งอยู่ภายในกรอบเหมือนเดิมอีกต่อไป ธุมชาลแตะข้อศอกหญิงสาวอย่างสุภาพแล้วเปิดประตูให้หล่อนเดินนำออกไป


             เกตุมาลาเดินผ่านห้องด้านหน้าที่เคยเป็นส่วนของพิพิธภัณฑ์ที่บัดนี้เหลือเพียงห้องรับรองทั่วไปของภาควิชาเท่านั้น แต่อย่างน้อยก็ยังมีภาพวาดสีน้ำมันหลายรูปประดับประดาไว้ที่ส่วนผนังห้อง แทนที่จะเป็นตู้กระจกบรรจุกล่องผีเสื้อแทน


            หญิงสาวเผลอมองไปมุมด้านในสุด ก่อนจะหยุดชะงักราวกับถูกสาปให้ร่างทั้งร่างตรึงแข็งอยู่ ณ ที่นั้น


         ภาพจากแสงแดดยามเที่ยงทอลอดผ่านม่านหน้าต่างพลิ้วไสวด้วยแรงลม มันเลื่อนลำแสงฉายกราดเข้ามาทาบทาบนภาพวาดสีน้ำมันรูปหนึ่งอย่างนุ่มนวล


             เป็นภาพสีเขียวขจีของผืนป่า และมีจุดเล็กๆแตะแต้มอยู่บนนั้นเหมือนกับรอยเลอะของหยดสี เกตุมาลามองเห็นเหมือนจุดสีขาวๆค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆและมันเริ่มขยับทีละน้อย ก่อนจะกระพือปีกโบยบินออกมา ราวกับถูกเสกสร้างด้วยมนตรา


           ผีเสื้อสีขาว...


            ปีกเลื่อมระยับสะท้อนผ่านแสงแดดเป็นประกาย แวบนั้นคล้ายหล่อนจะสดับเสียงหัวเราะเบาๆของสตรีที่จดจำได้ไม่มีวันเลือน


               กีฏยา จิตรางคนางค์


             แล้วผีเสื้อพวกนั้นก็จุดประกายเรืองแสงขึ้นเองในชั่วนัยน์ตากระพริบ...

 
             สรรพ์สีสาดยั่วล้อ          เริงตะวัน
           ปรายปีกกระพือพลัน      เพริศพร้อย
           ชั่วเพียงพริบตาฝัน         โลกนิ่ง งันเอย
           ดุจดั่งมนตร์เสกร้อย       ภาพแพร้วพลันสลายฯ


                 ****************อวสาน*******************

จากคุณ : สามปอยหลวง
เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 55 20:06:48




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com