เรื่องจาก http://writergallery.com/litterature/articles/168--mega-flood-.html ร่วมประกวดโครงการเรื่องสั้นโดนใจ ดูกติกาการประกวดและการโหวต คลิก อ่านเรื่องสั้นอื่นๆในโครงการคลิก
ฉันเคยได้รับหนังสือคำทำนายตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งทำนายว่า
เดือนตุลาคม ปี 2554 จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ ซึ่งปัจจุบันเกิดแล้ว
50 จังหวัดจะจมบาดาล ขณะนี้จมไป 46 จังหวัด กรุงเทพกำลังจะเสียเมืองให้พระแม่คงคา
จะเกิดโรคระบาดติดต่อกันอีก 2 เดือนหลังจากนั้น ขณะนี้เริ่มมีโรคระบาดที่มากับน้ำแล้ว
และปีศาจจะมาเคาะประตูบ้าน..
อา...ปีศาจ...ฉันสงสัยมาตลอดว่าปีศาจคืออะไร พ่อค้าที่พากันขึ้นราคาของอย่างหน้าเลือดนั่นหรือคือปีศาจ โจรที่ชอบมาขโมยของบนบ้านว่างเปล่าของผู้ประสบภัยที่อพยพหนีน้ำ นั่นใช่ปีศาจหรือเปล่า
ฉันได้แต่คิดและคิด ทว่าบัดนี้ฉันได้เผชิญหน้ากับมันแล้ว!
*****
ฉันกำลังขับรถไปตามทางด่วนบูรพาวิถี ที่ถูกน่าจะเป็น บึ่งหน้าตั้ง จากชลบุรีเข้ากรุงเทพ ในทันทีที่ได้ยินข่าวว่าน้ำที่ท่วมมาแรมเดือน กวาดพื้นที่เกือบครึ่งประเทศ กำลังจะมาถึงบ้านในกรุงเทพของฉันในอีกไม่กี่ชั่วโมงนี้ ถึงจะรู้ว่าตอนนี้บางที่ประกาศเตือนแล้วแต่น้ำไม่มา บางที่ไม่ประกาศน้ำดันมา อยู่ในอาการเคว้งคว้างหันหน้าไปฟังใครไม่ได้ แต่สำหรับฉัน กันไว้ดีกว่าแก้
นาฬิกาข้อมือบอกเวลา 12.00 น. ฉันเริ่มเป็นกังวลจนต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาน้องชายซึ่งควรจะออกจากบ้านที่กทม.มาอยู่บ้านพ่อแม่ที่ชลบุรีได้แล้ว
ฮัลโหล อยู่ไหนแล้วฟลุค
อยู่บนรถทัวร์ กำลังจะกลับบ้านที่ชลแล้วพี่แฟร์ เสียงน้องตอบกลับมา
ดีแล้ว เขาว่าน้ำจะเข้ากทม. ในอีก 24 ชั่วโมง เก็บของดีหรือยัง
เก็บแล้ว
โล่งอก! น้องชายฉันเก็บของเรียบร้อยแล้ว แต่ก็นั่นละ ตามประสาผู้ชาย ทำอะไรไม่เคยเรียบร้อย ที่บึ่งเข้ากทม.เพื่อที่จะ เก็บตก ข้าวของอีกสักรอบคงไม่ใช่ความกังวลที่เกินจริง
ทันทีที่เข้าเขตเมืองหลวงของประเทศ รถขาเข้าก็บางตาลงอย่างน่าใจหาย ทุกๆทางขึ้น-ลงทางด่วนมีแต่รถที่ขึ้นมาจอดหนีน้ำ บางคันถูกถอดล้อแม็ก ถอดยางอะไหล่ไปหมด ทันทีที่ลงด่วนที่พัฒนาการ ฉันก็พบว่ากรุงเทพตอนนี้มีสภาพเหมือนเมืองร้าง ถนนทั้งสายมีรถวิ่งอยู่แค่ไม่กี่คัน ร้านรวงปิดเงียบ ฟุตบาทโล่งไร้ผู้คน ทำเอาอดหนาววาบขึ้นมาตามแนวสันหลังไม่ได้
ฉันหยิบหนังสือคำทำนายชะตากรรมโลกขนาดเท่าหนังสือสวดมนต์ที่พกติดรถมา 2-3 ปีขึ้นมา แล้วใส่มันลงไปในกระเป๋าเสื้อ หวังว่าวันนี้คงไม่ใช่วิกฤตการณ์ที่จะทำให้ปีศาจออกมาเพ่นพ่านตามคำทำนาย ถึงมันจะดูคล้ายอย่างน่าใจหายก็ตาม
ทันทีที่รถแล่นข้ามสะพานคลองตัน ฉันเป็นต้องชะโงกดู เคยโทรถามกรมชลประทานแล้วเขาว่าคลองตันยังรับน้ำได้อีก 15 ซม. รวมคันกั้นน้ำอีก 30 ซม. แต่ดูยังไงก็ปรี่ปริ่มทำเอาใจตกวูบไปอยู่ที่ตาตุ่ม ไม่นานนักฉันก็มาถึงบ้านบนถนนสุขุมวิท 71 เพื่อนบ้านบางคนเริ่มกั้นกระสอบทราย บางคนซื้อหาเรือมาเตรียมไว้ แต่บ้านของฉันไม่ได้เตรียมของพวกนั้นเลย ฉันเพียงแต่วางแผนไว้กับน้องชายว่าจะต้องขนอะไรขึ้นไปบนชั้นสองบ้างเท่านั้น การมา เก็บตก ของฉันในวันนี้ไม่มีใครรู้ พ่อแม่และน้องคิดว่าฉันนั่งทำงานสบายอยู่ในออฟฟิส
ฉันจอดรถหน้าบ้าน ภาพแรกที่สายตาสัมผัสคือถุงขยะกองใหญ่ที่วางไว้ในโรงรถ ฟลุ๊คลืมทิ้งขยะ นั่นทำเอาฉันนึกฉุนขึ้นมาติดหมัด ก็แล้วถ้าน้ำมันมา ขยะก็เน่าลอยคุ้งอยู่ในโรงรถนะซิ
พรึบ! อยู่ๆเหมือนมีเงาประหลาดทาทาบพื้นปูนเหมือนกับมีอะไรบางอย่างร่อนถลามาในอากาศ ทั้งที่โรงรถมีเพดานเตี้ยและฝาสามด้านมิดชิด ไม่มีทางที่สิ่งซึ่งมีร่างกายจะโฉบฉันไปได้โดยมองไม่เห็นตัว หรือว่ามันคือ...ปีศาจ!
เร็วเท่าความคิดฉันรีบวิ่งออกนอกโรงรถมุ่งไปยังประตูเข้าสู่ตัวบ้าน สัมผัสของพลังงานประหลาดบอกชัดว่ามีอะไรบางอย่างกำลังตามฉันมาติดๆ และพวกมันคงคว้าตัวฉันให้จมดิ่งสู่ความดำมืดของพวกมันไปแล้ว หากสองขาไม่พาร่างมาถึงประตูเสียก่อน
แอ๊ด! ปัง!
ฉันกระแทกบานประตูกับวงกบ ลงกลอนแน่นหนา ในขณะที่เงาดำประหลาด เกาะลามตามกระจกฝ้าเหนือบานประตู มือสั่นเทาของฉันรีบคว้าคำทำนายมาเปิดอ่าน และมันก็เขียนไว้ว่า
ปีศาจจะมาเคาะประตูบ้าน ท่านจะเชื้อเชิญพวกมันเข้ามา ทุกคนต้องอยู่แต่ในบ้าน เพราะปีศาจจะมาในทุกรูปแบบ มันอาจจะมาในร่างของญาติท่าน พี่น้องท่าน หรือคนที่ท่านรัก จงอย่าเปิดประตูรับผู้ใดเป็นอันขาด
แค่อยู่แต่ในบ้านก็ปลอดภัย...นั่นทำให้ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอก พอหายใจทั่วท้องแล้วฉันจึงเริ่มกวาดสายตาไปรอบๆบ้าน...นี่มัน...อะไรกัน! น้องฉันมันเล่นเก็บแต่ของๆมัน ซึ่งก็คือการหิ้วแต่โน้ตบุ๊คส์ตัวเดียวกลับชลบุรี แถมข้าวของที่ฉันเก็บขึ้นไปบนชั้นสองเมื่อสัปดาห์ก่อน ไมโครเวฟเอย ไทรทัศน์เอย ทุกอย่างมันกลับลงมากองที่ชั้นหนึ่ง!
ไฟโทสะในใจฉันมันลุกโหม โกรธจนเนื้อตัวสั่นไปหมด ตอนนั้นเงาประหลาดก็ดูเหมือนจะชูช่อลามเลียประตูเหมือนไม้ที่เลื้อยรัดตัวบ้าน แต่ฉันไม่สนอะไรทั้งนั้นจนกว่าจะได้เล่นงานไอ้เด็กบ้านั่นให้สะใจเสียก่อน
แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 55 11:00:53
แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 55 10:56:49