Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
xxxซีรี่ย์ ดอกไม้ หัวใจในควันปืน : ไฟซ่อนรัก..บทที่๓ xxx (กรณ์ วรรณกานต์) ติดต่อทีมงาน

บทที่๒
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11643776/W11643776.html

........................................................

ชนาธิปพูดคุยกับหลานสาวไม่นานนัก ก็แยกจากไปและชวนลูกชายไปออกรอบตีกอล์ฟกับเพื่อนนักธุรกิจด้วยกัน..ราโมน่าเลือกหยิบหนังสือนิตยสารเล่มหนึ่งเดินออกมานั่งอ่านบนเก้าอี้ภายในสวน และพลิกเปิดเจอหน้าบทสัมภาษณ์ของอนาวินและภาพประกอบของเขาในชุดลำลองในท่วงท่าเป็นกันเอง ใบหน้าหล่อเหลาแย้มยิ้มพรายฉายแววขี้เล่นซุกซนออกมาทางดวงตาคู่คมชวนตาชวนใจให้แก่ผู้พบเห็น โดยเฉพาะเธอ ที่ขณะนี้กำลังจับจ้องภาพเขาและเผลออมยิ้มออกมา พลางคิดว่า เธอชอบเขาในบุคลิกสบายๆเช่นนี้ มากกว่ามาดเคร่งขรึมในชุดสูททำงานเสียมากกว่า

และหันมาสนใจไล่สายตาอ่านบทสัมภาษณ์ทุกตัวอักษร ซึ่งคำถามคล้ายคลึงกับหนังสือเล่มอื่นๆที่เคยสัมภาษณ์เขามาแล้ว ทั้งเรื่องงานและตบท้ายด้วยความรัก ที่ผู้สัมภาษณ์จะถามว่าเขาเลือกคบกับใครแน่ เพราะมีข่าวกับผู้หญิงหลายคน ทั้งในวงการบันเทิงและสาวในสังคมชั้นสูง จนถูกตั้งฉายาว่าเป็น คาสโนว่า

“ที่เห็นก็เพื่อนๆกันทั้งนั้น ไม่มีอะไรหรอกครับ..ผมไม่ใช่คาสโนว่า แต่การที่จะเลือกคบใครสักคน ผมคิดไกลไปถึงการมาเป็นแม่ของลูก ผมเลยต้องใช้หัวใจตรึกตรองมากหน่อย ก็เท่านั้นเองครับ”

ราโมน่าอ่านคำให้สัมภาษณ์นั้น ความอิจฉาเล็กๆก็ผุดขึ้นในใจ ถึงผู้หญิงที่จะมาเป็น ‘แม่ของลูก’ เขาในอนาคต เพราะตัวเธอนั้น หมดสิทธิ์ยื่นใบสมัครตั้งแต่เกิดเลยด้วยซ้ำ

“โม้นา”

จู่ๆเสียงเรียกของฉันทิกาดังแว่วขึ้นมา หญิงสาวรีบพลิกหนังสือเป็นหน้าอื่นก่อนหันไปตามเสียง เห็นผู้เรียกกำลังเดินตรงมาใกล้ เธอจึงลุกขึ้นถาม
“มีอะไรหรือคะ คุณป้า”

“ป้ามีเรื่องจะคุยกับเราหน่อย เราไม่รีบออกไปไหนใช่ไหม”

“ไม่ค่ะ”

“งั้นนั่งสิ ป้าจะได้คุยธุระเลย..ใช้เวลาไม่นานหรอก”

หญิงสาวจึงยอบตัวลงนั่งอีกครั้ง ตามฉันทิกาที่นั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม และเปิดประเด็นโดยไม่อ้อมค้อม
“รู้สึกว่าหมู่นี้งานของเธอจะมีมากกว่าเมื่อก่อนนะ..ป้ามาคิดว่า เพื่อความสะดวกของเธอ เธอน่าจะออกไปอยู่ตามคอนโดอย่างพวกเพื่อนๆนางแบบของเธอบ้างนะ”

“แต่อยู่บ้านนี้ หนูก็สะดวกดีแล้วนะคะ หนูไม่อยากเสียตังส์จ่ายค่าเช่าคอนโดหรอกค่ะ” ราโมน่าตอบพร้อมรอยยิ้ม โดยไม่รู้ถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของผู้พูด

“สะดวกเธอ แต่ฉันลำบาก”
รอยยิ้มสดใสนั้นเจื่อนลงทันใด กับน้ำเสียงและท่าทางขึ้งโกรธ
“เวลาเธอขับรถกลับมาบ้านดึกๆป้าก็ต้องถ่างตาตื่นขึ้นมาด้วย กว่าจะหลับอีกทีก็เกือบเช้า ไหนยังจะบรรดาเพื่อนๆนางแบบของเธออีก เวลามาบ้านทีก็ไม่รู้อะไรกันนักส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดหัวเราะเสียงดังไม่รู้จักเกรงใจกันบ้างเลย โดยเฉพาะแม่เจ้ต้อย ผู้จัดการของเธอนั่นก็อีกคน ช่างเจ้ากี้เจ้าการทำราวกับบ้านนี้เป็นของเธออย่างนั้นล่ะ..ป้าพยายามอดทนมากแล้วนะ แต่ตอนนี้ป้าเบื่อที่จะทนแล้ว ถึงอยากให้เธอออกไปอยู่ข้างนอกจะได้มีพื้นที่ส่วนตัวเป็นของเธอเองเลย ป้าก็จะได้ไม่ต้องทนอะไรที่มันขัดหูขัดตาอีก”

“..หนูขอโทษค่ะ..”

“ไม่ต้องมาขอโทษหรอก เพราะยังไงเธอก็เป็นหลานของคุณชัช..เพียงแต่ป้าต้องการความเป็นส่วนตัวภายในครอบครัวเท่านั้น ป้าไม่อยากให้คนอื่นเข้ามาวุ่นวาย..หวังว่าเธอคงจะเข้าใจ แล้วก็ทำตามในสิ่งที่ป้าต้องการนะ”

หญิงสาวกลืนก้อนแข็งๆที่จุกกลางลำคอ ก่อนตอบรับเสียงแผ่วเบา
“ค่ะ..”

“ถ้าเข้าใจก็ดี เดี๋ยวเย็นนี้ก็ลองเกริ่นกับคุณลุงเขาเลย แล้วก็เรื่องค่าเช่าคอนโดอะไรนั่นก็ไม่ต้องเสียหรอก เดี๋ยวป้าให้เลขาลุงเขาจัดการดูคอนโดของเราที่ยังมีห้องว่างให้ แต่ถ้าเต็มหมดเดี๋ยวก็จะหาที่อื่นให้ ส่วนวันอาทิตย์ก็ค่อยแวะมากินข้าวเย็นที่บ้านให้ลุงเขาเห็นหน้าเสียหน่อย อ้อ! แล้วเรื่องที่ป้าแนะนำเราวันนี้ ก็อย่าให้ลุงรู้เชียวนะ ทุกอย่างเป็นความคิดของเราทั้งหมด..เข้าใจไหม ราโมน่า” เธอย้ำหนักแน่น และถึงแม้ว่าหญิงสาวจะไปอยู่ข้างนอก เธอก็ไม่ห่วงกังวลใดๆ เพราะยังมีคนของเธอคอยจับตามองตลอดเวลา

“ค่ะ..”

ราโมน่าตอบรับอีกครั้ง สร้างความโล่งอกให้ฉันทิกาที่ทุกอย่างเป็นไปตามที่หวัง..แต่เมื่อเห็นท่าทางเซื่องซึมของหญิงสาวแล้ว ลึกๆในใจก็รู้สึกสงสารเช่นกัน เพราะหลังจากที่เสียผู้ให้กำเนิดไปแล้ว ราโมน่าก็เข้ามาอยู่ในความปกครองของเธอ ซึ่งในตอนนั้นเธอก็เอ็นดูไม่น้อยทีเดียวกับความน่ารักของเด็กน้อย..แต่เมื่อเวลาผ่านไปความเอ็นดูระคนสงสารนั้นถูกบดบังด้วยความหวาดระแวงกลัวว่าความสาว ความสวยที่หญิงสาวมี จะนำพาปัญหาใหญ่มาสู่ครอบครัว เธอจึงจำเป็นต้องกระทำในสิ่งที่เหมือนเป็นการเห็นแก่ตัวไปบ้าง เพื่อปกป้องสิ่งที่หวงแหน

“โม้นา..ที่ป้าให้ออกไปอยู่ข้างนอกเพียงลำพังน่ะ ใจจริงป้าก็เป็นห่วงเราเหมือนกันนะ แต่ป้าเห็นว่าเราก็โตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว และควรจะใช้ชีวิตได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องถูกควบคุมให้รู้สึกอึดอัดเหมือนที่ผ่านๆมา..อย่าโกรธป้าเลยนะจ้ะ”

“หนูไม่โกรธคุณป้าหรอกค่ะ หนูเข้าใจ..”

ฉันทิกาลุกขึ้นเดินมายืนข้างหญิงสาวที่ยังนั่งก้มหน้า และลูบเส้นผมยาวเป็นลอนสลวยอ่อนนุ่นเบาๆ
“ดีมากจ้ะ..แล้วเย็นนี้ก็อย่าลืมพูดเรื่องนี้กับลุงเขาด้วยล่ะ..ป้ามีเรื่องจะพูดแค่นี้ล่ะ หลานรัก”

พูดจบก็หันก้าวเดินจากไป ทิ้งให้ หลานรัก นั่งซึมกับคำพูดสวยหรู แต่ผลของมันก็ไม่ต่างไปจากเดิม นั่นคือ เธอต้องออกจากบ้านหลังนี้โดยเร็ว

บ้านหลังใหญ่ ที่คุ้มกะลาหัวเธอมาตั้งแต่อายุเก้าขวบ แม้จะมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันบ้างระหว่างเธอกับญาติทั้งสอง โดยเฉพาะกับฉันทัชที่มักจะล้อเลียนถึงรูปกายที่ผิดแผกไปจากญาติพี่น้องคนอื่นๆ แต่บางครั้งก็ยังมีเสียงหัวเราะและการแบ่งปันความสุขให้แก่กันและกัน รวมทั้งความอบอุ่นที่ลุงและป้ามีให้ แม้ว่าจะไม่อาจเติมเต็มความรักความต้องการทั้งหมดตามที่เธอปรารถนา แต่ก็สามารถชดเชยให้หัวใจอันอับเฉาแห้งแล้งของเธอยังคงเหลือความชุ่มชื่นหล่อเลี้ยงไว้ได้บ้าง..แต่ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ยิ่งเธอเติบโตขึ้น ป้าที่เคยเอ็นดูเธอเสมอมากลับแปรเปลี่ยนเป็นมึนตึง ทั้งๆที่เธอเองก็พยายามเอาอกเอาใจ อดทนทุกอย่าง ไม่เคยแสดงตัวต่อต้านหรือคิดอคติเลยสักครั้ง..แต่ก็ไม่สามารถ ทำให้ป้ากลับมารักและเอ็นดูหลานคนนี้ได้ดั่งแต่ก่อนอีกเลย

ราโมน่านั่งปล่อยใจให้ลอยล่อง แล้วก็ผ่อนลมหายใจยาวอย่างปลงตกในชีวิต
“ช่างเถอะ..อย่างน้อย ป้าก็ไม่ได้เกลียดเรา..เหมือนที่แม่เกลียด”

“แกมันเป็นตัวมารที่มาทำลายชีวิตของฉัน..ฉันไม่น่าให้แกเกิดมาเลย นังราโมน่า!”

น้ำเสียงเคียดแค้นกับสายตาเกลียดชังของมารดายามอยู่ในอาการเมามายไร้สติผุดขึ้นในหัว แม้ว่าเวลาจะผ่านมาแล้วเนิ่นนาน แต่ภาพนั้นยังติดตรึงเสียดแทงใจให้รวดร้าวมาจนถึงทุกวันนี้ ตลอดมา..เธอไม่เคยเข้าใจเลยว่า การที่เธอเกิดมาบนโลกใบนี้มันจะเป็นความผิดมหันต์ จนไม่เป็นที่ต้องการของใครเลยสักคน แม้แต่ผู้ให้กำเนิดก็ยังปฏิเสธในการมีตัวตนของเธอ..และบนโลกกว้างใบนี้ จะมีใครสักคนไหมที่มองเห็นคุณค่าในการมีตัวตนของเธอ มากกว่าการที่คิดจะแสวงหาความสุขบนเรือนร่างนี้..ซึ่งเธอตั้งปณิธานไว้แน่วแน่ ว่าจะไม่มีวันเดินตามรอยแม่ของเธออย่างเด็ดขาด !



ยามเมื่อสมาชิกทุกคนของบ้านรัตนากร นั่งรวมตัวกันภายในห้องอาหาร..ราโมน่านั่งเขี่ยข้าวในจาน พลางเหลือบสายตามองชนาธิปที่กำลังพูดกับลูกชายด้วยเรื่องทั่วไป และเมื่อรอจังหวะที่เขาว่างเว้นจากบทสนทนา เธอจึงรวบรวมความกล้าพูดเรื่องที่ฉันทิกาต้องการ

“คุณลุงชัชคะ..”

ชนาธิปหันสายตาตามเสียงเรียกของหลานสาว
“มีอะไรรึ โม้นา”

“คือ..หนูจะขออนุญาตออกไปอยู่ข้างนอกค่ะ”

และประโยคของเธอเรียกทุกสายตาให้หันมองเป็นจุดเดียว ก่อนน้ำเสียงเคร่งขรึมของชนาธิปจะเอ่ยถาม
“ทำไมล่ะ”

“คือ..” และในแวบหนึ่งของสายตา เธอตวัดมองฉันทิกาที่กำลังจ้องเขม็ง ก่อนตั้งสติพูดกับลุงอีกครั้ง “ หนูคิดว่า..ถ้าออกไปอยู่ข้างนอก เวลาไปไหนมาไหนมันจะสะดวกสบายกว่าค่ะ..โดยเฉพาะเวลาที่ต้องกลับบ้านดึกๆ”

“ไม่เห็นมีความจำเป็น ลุงก็เคยบอกหลายหนแล้วไม่ใช่เรอะว่า ถ้าวันไหนกลับดึก ก็ให้คนขับรถที่บ้านคอยรับ-ส่งก็ได้..รึไม่ ก็ออกจากวงการแล้วมาทำงานกับลุงไปเลย”

ฉันทิกาซ่อนความหงุดหงิดใจกับอาการอึกอักไม่ฉะฉานของหลานสาว จึงรีบช่วยพูดสนับสนุน เพราะขืนปล่อยให้สามีไล่ต้อนอีกเพียงไม่กี่คำ ก็คงสามารถตะล่อมหลานสาวให้อยู่บ้านหลังนี้ต่อไปเป็นแน่
“ถ้าหลานอยากจะไปก็ให้ไปเถอะค่ะคุณ พวกคนวงการบันเทิงก็อย่างนี้ล่ะ ชอบที่จะอยู่อย่างอิสระ..แล้วอีกอย่าง คุณก็ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะคะ ฉันว่าจะให้เลขาของคุณช่วยเลือกห้องในคอนโดของเราให้อยู่น่ะค่ะ ระบบรักษาความปลอดภัยเชื่อมั่นหายห่วง”

ชนาธิปหันกลับมามองภรรยา
“คุณรู้อยู่ก่อนแล้วเรอะ ว่าโม้นาอยากจะออกไปอยู่คอนโด”

ฉันทิกานิ่งไปอึดใจ แล้วก็แสร้งยิ้ม
“ค่ะ..โม้นามาปรึกษาฉันหลายวันแล้ว แต่ไม่กล้าบอกคุณ กลัวว่าคุณจะดุเอา..ฉันก็เลยรับปากว่าจะบอกให้ แต่ช่วงนี้ฉันมีเรื่องยุ่งๆที่สมาคมก็เลยลืมบอกน่ะค่ะ..แต่นี่คงเห็นว่าฉันไม่บอกคุณเสียที คงจะใจร้อนรอไม่ไหวก็เลยลองพูดกับคุณเองเลยมั้งคะ” แล้วก็หันไปทางหลานสาว

“ใช่ไหม โม้นา”

“..ค่ะ” หญิงสาวรับคำเสียงแผ่ว แล้วก็ให้อึดอัดใจกับสายตาของชนาธิปที่หันมามองคล้ายไม่พอใจ

“เรื่องของตัวเอง โม้นาก็ควรจะรับผิดชอบด้วยตัวเองนะ ไม่ใช่ว่ารอให้คนอื่นมาออกหน้าแบบนี้”

“..หนูขอโทษค่ะ”

ราโมน่าก้มหลบสายตาลงมองจานข้าว ข่มกลั้นอาการสะท้านสั่นไหว..ตัวเธอเองก็ไม่เคยคิดอยากจะไปจากบ้านหลังนี้สักนิด แต่หากจะดื้อรั้นอยู่ต่อไป ป้าที่คอยมึนตึงกับเธออาจกรุ่นโกรธจนกลายเป็นเกลียดชัง ซึ่งเธอไม่อยากให้ใครๆเกลียดเธอ เหมือนอย่างที่แม่เกลียด

“อย่าไปดุโม้นาเลยค่ะคุณ หลานเราก็โตแล้ว เค้าก็อยากจะอยู่กับเพื่อนอยู่กับสังคมของเขามากกว่าที่จะจับเจ่าอยู่กับคนแก่ๆแบบเรา..ปล่อยๆแกไปเถอะค่ะ”

ฉันทิกายุยงส่งเสริม ชนาธิปถอนใจเฮือก
“ถ้าอยากไปอยู่ข้างนอกนักก็ตามใจ”

อรดีนั่งทานข้าวข้างบิดาฟังการสนทนาไปเงียบๆ และเมื่อเห็นว่าได้บทสรุปแล้ว จึงโพล่งออกไปตามประสา
“อุ้ย! ดีจังเลยพี่โม้นา แอ้มชอบอยู่คอนโดนะ ยิ่งที่ห้องสูงๆเห็นวิวได้ทั่วเลย แอ้มว่ามันสวยดี..แล้วแอ้มจะไปค้างด้วยนะ”

แต่คณินหันมาดุเสียงเข้ม
“ไม่ต้องเลยนะยายแอ้ม อยู่บ้านแบบนี้น่ะดีแล้ว..พี่เขาอุตส่าห์ไปอยู่ข้างนอกแล้ว เราก็ไม่ต้องตามไปวุ่นวายเลย”

“แหม ! ” หญิงสาวทำปากยื่นที่ถูกขัดใจ แล้วก็ก้มหน้าทานอาหารต่อ..คณินเหลือบสายตาไปยังหลานสาวที่นั่งมองตาปริบๆ แล้วก็ก้มหน้าทานข้าวตามลูก เก็บซ่อนความยินดีที่หลานสาวออกจากบ้านไว้ภายใน สาเหตุเพราะลูกสาวของเขานั้นชื่นชอบญาติสาวที่เป็นดารา นางแบบคนดังจนออกหน้าออกตา ไม่ว่าญาติผู้พี่จะแต่งตัวแต่งหน้าแบบไหน ลูกสาวของเขาก็มักจะทำตาม หรือแม้แต่การเลียนแบบพฤติกรรมในหลายๆอย่างจนเขารำคาญ คอยบ่นคอยว่าไปหลายครั้งแล้ว แต่ลูกสาวก็ยังหลงใหลชื่นชมอยู่กับความสวยงามของญาติสาวไม่เปลี่ยน

และขณะนี้กระแสข่าวของหลานสาวที่ออกตามหน้าสื่อต่างๆนั้นมีบ่อยครั้งและค่อนข้างแรง เนื้อหาส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นเรื่องผู้ชายหรือไม่ก็ไปเป็นมือที่สามคอยทำให้ครอบครัวคนอื่นแตกแยก ซึ่งตัวเขานั้นแม้จะอยู่บ้านเดียวกัน แต่ก็ไม่สนิทสนมหรือใส่ใจที่จะรู้เรื่องส่วนตัวใดๆของหลานสาว ต่างจากน้องชายที่มักจะเรียกหลานสาวมาพูดคุยให้กระจ่างทุกครั้งที่มีข่าวเสียๆหายๆออกมา และน้องชายจะเชื่อสิ่งที่หลานสาวแก้ต่างให้ตัวเองทุกครั้งไป ต่างจากตัวเขาที่ยังคงมีอคติ และเชื่อว่า สิ่งที่นักข่าวนำเสนอออกมามันต้องมีมูลความจริงอยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นจะเขียนออกมาได้อย่างไรกัน จึงไม่อยากให้ลูกสาวซึมซับพฤติกรรมแหลกเหลวเหล่านี้จากราโมน่า..พลางเปรียบเทียบอย่างหยามหยัน

‘ฮึ! นิสัยเหมือนแม่ของมันไม่มีผิด’


ต่อค่ะ

จากคุณ : ระรินใจ
เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 55 12:47:41




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com