Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
...Dragon Delivery...#18 (2/5) ติดต่อทีมงาน

http://writer.dek-d.com/lawit/writer/view.php?id=738340

###

๒.

กว่าการพูดคุยจะเสร็จสิ้นก็ดึกมากแล้ว  ทุกคนจึงค้างที่ร้านเอชาน  ขณะคนอื่นจัดแจงที่ทางกัน โซลโทซึ่งไม่สามารถนอนได้เพราะเป็นวิญญาณก็มองออกผ่านหน้าต่าง  หิมะเพิ่งหยุดตกชั่วคราว  ภายนอกจึงจัดว่าพอจะเดินทางได้  มองไปก็เห็นพื้นหิมะขาวสะท้อนแสงจันทร์นวล ๆ

"เทย์ ข้าไปหาเรนาได้หรือยัง" ชายหนุ่มหันมาถาม

"ฝันไปเถอะ" พ่อมดโบกมือจากเก้าอี้ยาว ไม่แม้แต่เงยหน้า

"แต่..."

"เจ้าอยากแตกนักหรือไง" อีกฝ่ายถามเสียงต่ำ "อย่างเจ้าต่อให้ขึ้นมาได้ก็ใช่จะสมบูรณ์หรอกนะจะบอกให้  ที่อยู่เป็นรูปร่างอย่างนี้ได้ก็แค่เพราะท่านเจวานเคยให้พลังมา   ถ้าไม่มีพลังนั่นป่านนี้เจ้าเป็นชิ้น ๆ กระจายไปถึงไหนแล้ว"

คนฟังเจออย่างนี้ก็ไหล่ตกลงนิดหนึ่ง   แต่ว่ากันตามตรง เทย์ย่อมพอจะรู้เหมือนกันว่าจามีมันดื้อ  ผ่านไปหลายนาที  จามีไปครุ่นคิดวิธีต่อรองแบบใหม่สำเร็จแล้ว   ก็มีเสียงระลอกสองลอยมา

"เทย์  ให้ข้าไปเถอะ  ข้าจะรีบกลับมา" ท่านเจ้าของร้านว่า "ข้าอยากไปดูเรนา"

คนฟังชักหงุดหงิด  ถึงจะชอบแกล้งชาวบ้าน  แต่ให้มาเล่นเป็นตัวร้ายในสถานการณ์แบบนี้เขาก็ไม่สนุกนักหรอก  พออึดอัดขึ้นมา  พ่อมดเลยทำท่าจะอ้าปากด่า   แต่น่าเสียดายยังไม่ทันว่าอะไร  เจวานก็เดินลงบันไดมาพอดี

"มีอะไรหรือ" ผู้ช่วยประจำร้านถาม "นายน้อย  ท่านนอนหลับไม่ได้จะไปนั่งคุยกับข้าไหม  ข้าเองก็ไม่ต้องนอนเหมือนกัน"

"ท่านเจวานขอรับ  ข้าอยากไปดูเรนา" คนถูกเรียกรีบถือโอกาส  ส่งผลให้ท่านลูกจ้างที่เคารพเริ่มโมโหขึ้นมา

"นี่ไอ้เวร  เจ้าอย่าเที่ยวฟ้องพ่อให้มันมากนักได้ไหม"

"เช่นนั้นเหตุใดไม่ไป" เจวานเลิกคิ้วถาม   ครั้นแล้วชายวัยกลางคนจึงได้ฟังคำอธิบายจากเทย์ที่รีบสอดขึ้นก่อน  และพยายามใส่ไฟสุดความสามารถ  มันว่าไอ้ขอรับควรอยู่ในร้านนี้ไปจนกว่าจะดำเนินแผนการกัน   ถึงอย่างไรไซธีนก็ปรับร้านไว้สำหรับคนธาตุน้ำอยู่แล้ว   อีกอย่างหนึ่ง ถ้ามันทะเล่อทะล่าออกไปแล้วแตก  ใครจะทำอะไรได้   มีแต่ความหายนะอย่างเดียว   ไม่มีประโยชน์อะไร

แม้ไอ้เทย์จะพูดถึงเพียงนั้น  เจวานก็เห็นเหมือนกันว่าโซลโททำสีหน้าอย่างไร   เจ้าหนุ่มคงกระวนกระวายไม่น้อย  ที่จริงหากเป็นไปได้  ไม่ใช่เพียงเรนาหรอก   มันคงอยากกลับบ้านไปหาพี่สาวและญาติ ๆ ด้วยซ้ำ  ในสภาพที่ยังไม่แน่นอนแบบนี้  โซลโทก็คงอยากแน่ใจว่าตนจะเตรียมตัวเท่าที่ทำได้  หากเกิดอะไรขึ้นจะได้ไม่ต้องหวนคิดเสียใจ

"ข้าจำได้ว่าตอนวิดามอรีตายอยู่สองสัปดาห์  เจ้าบ่นเช้าบ่นเย็นบ่นกลางวัน" ชายวัยกลางคนพูดลอย ๆ

"เฮ้ย เหมือนกันที่ไหน"

"หากไม่เหมือนกัน   คราวหน้าก็ไม่ต้องมาครวญครางเรื่องแก้คำสาปใส่หูข้า" เจวานเลิกสนใจพ่อมด  หันไปทางโซลโท "นายน้อย  ท่านไปเถอะ  แต่ควรกลับมาในหนึ่งชั่วโมง อย่าให้เกิน"

"ขอรับ" ท่านเจ้าของร้านรีบรับด้วยความดีใจ  ส่งผลให้คนถูกเมินเร่งประท้วงเสียงดัง

"นี่ตาลุง  ข้ายังไม่ได้..."

ชายวัยกลางคนหันไปมองเขา  เทย์เห็นสายตานั้นก็นิ่งไปครู่หนึ่ง  ก่อนจะแค่นเสียงเฮอะ...เขามีสติปัญญา  ทำไมจะไม่เข้าใจ  แต่เขาเกลียดความตาย  เกลียดจนถึงขั้นไม่อยากคิดถึงด้วยซ้ำไป  ชายหนุ่มจึงเงียบเป็นอึดใจใหญ่  สุดท้ายจึงยอมบอกอย่างแกน ๆ ว่าตนจะติดต่ออาจารย์ผู้ดูแลให้เปิดทางไว้  แต่วิญญาณประหลาดอย่างไอ้ขอรับ  ทั้งเขาทั้งคุณหนูวิดาทำอะไรไม่ได้   มันต้องไปวิทยาลัยเอาเอง

ตอนที่โซลโทออกจากร้าน  เจวานมาส่งที่ประตู   ทั้งชายหนุ่มที่เป็นวิญญาณ  และชายวัยกลางคนที่เป็นมังกรต่างไม่รู้สึกถึงสภาพอากาศแต่อย่างใด

"เทย์เป็นห่วงท่าน" ผู้ช่วยร้านเอชานบอก  แน่นอนว่าไม่ให้สิ่งมีชีวิตที่นอนงอนอยู่ในร้านได้ยิน  เพราะถึงอย่างไรมันก็ไม่มีทางยอมรับอยู่แล้ว

"ข้าทราบขอรับ" โซลโทพยักหน้า

"ผู้อื่นก็เป็นห่วงท่านเช่นกัน ท่านเองจึงควรรักษาเนื้อรักษาตัวไว้  อย่าให้เป็นอะไร" เจวานพูดเรียบ ๆ ต่อไป "อีกอย่างหนึ่ง  ท่านทาร์นจะนอนเฝ้าเอนาเรแทบทุกคืน  หากพบเขาเข้าควรอธิบายเรื่องต่าง ๆ  ให้เรียบร้อย  และถ้าถูกโกรธเคืองขับไล่  ท่านเองควรต้องเข้าใจ  เขามีเอนาเรเป็นหลานสาวคนเดียว"

ชายหนุ่มพยักหน้าอีกครั้ง  ท่าทางเคร่งขรึมขึ้นนิดหน่อย

"ท่าน...ใช้เวลาให้คุ้มค่า  ข้าเองแม้อยากหรือไม่อยากให้อะไรเป็นอย่างไร  ก็ไม่อาจทำนายอนาคตได้" อีกฝ่ายบอกในที่สุด "เท่านี้ละ  ขอโทษที่พูดยืดยาวไป"

ท่านเจวานก็คงไม่แน่ใจในอนาคตเหมือนกัน  เพราะชีวิตที่ผ่านมามีเรื่องไม่แน่นอนมากเกินไป   แต่โซลโทไม่คิดหรอกว่าจะเป็นอย่างนั้น   เขาคิดแล้วว่าตนจะพยายามเต็มความสามารถ   ชายหนุ่มทราบดีว่าตนติดหนี้คนมากมาย   แม้ไม่มีใครเรียกร้องให้ชดใช้   แต่เขาก็อยากจะอยู่ต่อไปเพื่อขอบคุณ

"ข้าไม่ตายหรอกขอรับ" เขาบอกในที่สุด "ข้าหมายความว่า...ข้าจะยังไม่ตายไปจริง ๆ"

"อย่างนั้นหรือ"

"ยังอยากชงชาให้ท่านเจวานขอรับ  ยังอยากทำงานกับเทย์กับท่านชาย  ยังอยากขี่รัฟ  อยากอยู่ซีเล  เห็นลูกของท่านกับเจ้าหญิง  ของเทย์กับท่านวิดา" ชายหนุ่มนิ่งไปนิดหนึ่ง  ถึงเป็นวิญญาณ หน้าก็ยังขึ้นสีเรื่อ ๆ ให้เห็นได้ "ยังอยากอยู่กับเรนาขอรับ  อยู่ด้วยกันนาน ๆ  อยู่ด้วยกันตลอดไป"

...

ทาร์น เฮเบล ตื่นขึ้นกลางดึก  

ยามตื่นแล้ว  เขาก็ลืมตามองเพดานอยู่ชั่วขณะ  จดจำไม่ได้ชั่วคราวว่าตนอยู่ที่ไหน  ก่อนจะนึกได้ว่าไม่ใช่ห้องนอนที่บ้าน  ไม่ใช่ห้องพักชั่วคราวในร้าน  แต่เป็นห้องพิเศษที่พวกอาจารย์จัดขึ้นอย่างเร่งด่วนในวิทยาลัยเวทมนตร์

ตอนที่รับทราบว่าไซธีนใช้เรนา  พวกอาจารย์ผู้ชำนาญการณ์เรื่องนี้ต่างช่วยกันสะกดหญิงสาวไว้  วางเกราะป้องกันให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้   เพื่ออย่างน้อยไซธีนจะได้ไม่สามารถดึงพลังไปอย่างเต็มที่  หลานสาวของท่านทาร์นจึงถูกนำมานอนในห้องหนึ่งของวิทยาลัย   เป็นห้องสบายใหญ่กว้างทีเดียว  ด้านหนึ่งเรนาอยู่บนเตียงไม้เสาสูง  ล้อมรอบด้วยอักขระสัญลักษณ์และข่ายใยเวทมนตร์  อีกด้านหนึ่งท่านทาร์นดื้อแพ่งจนทุกคนยอมตั้งเตียงผ้าใบให้เขานอนค้าง  ชายชราไม่สนใจว่าตนจะต้องถูกกักอยู่ในห้องนี้ตลอดคืนเช่นกัน   เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น  ตราบใดที่ยังสามารถปกป้องนานา

"ในชีวิตของข้า  มีคนที่ปกป้องไม่ได้มากเกินไปแล้ว" เขาเคยบอกไอ้เทย์เพราะไม่รู้จะบอกใคร   มันก็กวนประสาทกลับมาให้สมใจเสียด้วย

"คนพวกนั้นเขาบอกหรือว่าอยากให้ท่านปกป้อง" พ่อมดทำมองไปอีกทางอย่างเบื่อหน่าย "ข้าว่าท่านเผด็จการคิดเอาเองมากเกินไป   ระวังจะเครียดตายพอดี"

"ใครอยากหรือไม่อยากให้ข้าปกป้อง  ข้าไม่สนใจ" ชายชราเผด็จการจริง ๆ "สิ่งที่ข้าอยากรักษาไว้   ข้าจะรักษาให้สุดกำลัง"

"ให้สมสมญาผู้มีความพยายามของเทพเจ้าหรือไง"

"ให้ไม่ต้องเสียไป"

ไอ้เทย์พ่นลมหายใจพรืด  ท่าทางเซ็งเต็มประดา  แต่เขาคิดว่ามันคงพยายามในแบบของมันเหมือนกัน  ชายชราเองก็ชักจับทางได้แล้วว่าหลานตนเอะอะอะไรก็กวนประสาทกลับซ้ายเป็นขวาไว้ก่อน  เทย์มาบอกเขาว่าจะไม่อยู่  มีเรื่องต้องทำ  หายไปสามวันจนชายชราชักกังวลจึงได้กลับมา  ยามเห็นหน้ากันอีกครั้งมันก็ยวนว่าท่าทางอิดโรยไปมาก  ควรต้องรีบเขียนพินัยกรรมไว ๆ

"ถึงเขียนก็ไม่มีชื่อเจ้าตรงไหนหรอก"

"หนอย ตาแก่ใจร้าย"

มันกวนอย่างนั้น  แต่ยังสำทับสองครั้งสามครั้งว่าพรุ่งนี้ให้พักผ่อน  งานก็ไม่ต้องทำ  ชาวบ้านก็ไม่ต้องช่วย  แถมยังหาว่าเขาแก่จนไม่มีประโยชน์แล้ว   ไม่ทำงานสักวันก็ไม่มีใครสะดุ้งสะเทือนเป็นอะไร   มันพูดจาปากไม่มีหูรูดมากนัก   เขาเลยถีบมันกระเด็นตกหน้าต่างชั้นสองของร้านไป  ไอ้หลานเวรดันไม่ยักตาย

แต่พออยู่คนเดียวจริง ๆ  ท่านทาร์นกลับอดคิดไม่ได้  ...เรื่องคราวนี้ทำให้เขาแก่ลงมากอย่างที่มันบอกจริงหรือ  อาจใช่กระมัง  และบางทีเพราะแก่แล้วนี่เองจึงเริ่มไม่เห็นประโยชน์ที่จะมีทิฐิอะไร   บางทีพรุ่งนี้เขาอาจจะไปหาตัวไอ้เทย์  ถามว่าเป็นอย่างไร  เขาก็ไม่รู้...หลานสองคนยังหนุ่มยังสาว ตัวเขายังแข็งแรงจนชาวบ้านนินทาว่าถึงฆ่าคงไม่ตาย  แต่โลกนี้มีความแน่นอนอะไรหรือ   โลกก็บอกเขาอย่างนั้นมาตั้งนานแล้ว  แถมไม่ใช่แค่หนเดียว

ตอนนั้นเอง  เจ้าของร้านเฮเบลก็นิ่งไป  

เขารู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งแปลกประหลาดในบรรยากาศ   ไม่ใช่ทั้งเสียงหรืออากาศที่สั่นไหว   ชายชราสัมผัสได้อย่างนั้น  แม้เขาไม่เข้าใจว่ามีอะไรเกิดขึ้น  มือก็ยังเอื้อมไปคว้าขวานด้ามยาวของตนขึ้นมา

"ใคร!" เขาตวาดออกไป

ครั้นแล้วเขาก็เห็น...ด้วยความตกใจ...ไอ้เด็กร้านเอชานอยู่ตรงหน้า  ร่างกายของมันโปร่งใส  คล้ายกับวิญญาณ

...

จากคุณ : ลวิตร์
เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 01:34:00




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com