ตอนที่ 2 .....
ในยามที่ดวงอาทิตย์ยังไม่พ้นเส้นขอบฟ้าอย่างเช่นเวลานี้ หากเป็นสถานที่อื่นของกรุงเทพมหานคร อาจยังถูกปกคลุมไว้ด้วยความมืดมิดแห่งราตรี และความเงียบเชียบไร้ร้างผู้คน ซึ่งตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิงกับแหล่งขายส่งดอกไม้ขนาดใหญ่ที่สุดของเมืองกรุงอย่างปากคลองตลาด ด้วยความสดใหม่ของดอกไม้นานาชนิดที่เพิ่งถูกส่งมาถึงเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า และราคาอันย่อมเยากว่าแหล่งอื่นๆ เป็นสิ่งดึงดูดใจให้ผู้คนมากมายที่ต้องการซื้อดอกไม้ทั้งพันธุ์ไทยและพันธุ์ต่างประเทศ มารวมตัวกันอย่างคึกคักตั้งแต่เที่ยงคืนเรื่อยไปจนถึงย่ำรุ่ง
อริสา สาวน้อยผู้คุ้นชินกับความชุลมุนวุ่นวายของตลาดแห่งนี้มาตั้งแต่เด็ก ไม่รู้สึกแปลกใจอะไรนักที่เช้ามืดวันนี้เธอจะได้เห็น ‘ป้าน้อย’แสดงกริยาตามแบบฉบับของ ‘แม่ค้าปากตลาด’ออกมา เมื่อเกิดมีชายคนหนึ่งซุ่มซ่ามชนมาถังดอกคัตเตอร์หน้าร้านจนล้มระเนระนาด จนดอกไม้เล็กๆสีขาวหล่นกระจัดกระจาย ความเสียหายนี้เป็นเหตุให้นางหงุดหงิดจนต้องแผดเสียงส่งคำผรุสวาทออกไปชุดใหญ่ สร้างความตระหนกให้คนทั่วไปรวมทั้งชายผู้โชคร้ายคนนั้นด้วย
ท่ามกลางความสับสนอลหม่านอริสาได้แต่ขบขันอยู่คนเดียวที่มุมๆหนึ่งของร้าน และยิ่งขำหนักขึ้นเมื่อได้เห็นนางร้ายอย่างป้าน้อยกลายร่างเป็นนางฟ้าไปเสียดื้อๆ เมื่อหนุ่มซุ่มซ่ามคนนั้นควักกระเป๋าจ่ายกลับมาเป็นเงินก้อนงาม ป้าของเธอก็สงบปากคำตัวเองลงได้ทันทีราวกับเป็นนางพิกุลทอง
“โอ้โห วันนี้ป้าน้อยได้ลาภลอยตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่ เยอะกว่าถูกหวยสามงวดติดกันอีกนะเนี่ย” หญิงสาวเสียงใสชะโงกหน้าข้ามไหล่เพื่อใช้สายตาช่วยนับธนบัตรหลายใบในมือป้าน้อย เมื่อความวุ่นวายทั้งหลายคลี่คลายกลับเข้าสู่ความสงบดังเดิมแล้ว
“อย่าเอ็ดไปน่าไอ้ตัวเล็ก เดี๋ยวตาช้างมันได้ยินเข้าล่ะเป็นเรื่อง ป้าชวดเงินหมดพอดี ลุงเอ็งน่ะเขายิ่งเป็นพ่อมหาเถรตรงอยู่ด้วย”
หญิงวัยกลางคนร่างอวบอ้วนผู้มีทุกอย่างตรงข้ามกับคำว่าน้อย ส่งเสียงกระซิบกระซาบกับลูกค้าสาว ขณะทื่มือสองข้างกำลังพยายามยัดธนบัตรหลายใบลงไปร่องเสื้อชั้นในของตัวเอง ก่อนที่สามีผู้เคยเป็นมหาและซื่อสัตย์เที่ยงตรงยิ่งกว่าไม้บรรทัดจะเข้ามาได้ยิน และเร่งเร้าให้นำเงินนั้นไปคืนเจ้าของเสียตามนิสัยที่นางรู้จักเป็นอย่างดี
แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 55 23:48:13
แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 55 21:49:53
แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 55 21:48:59
แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 55 14:36:52
แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 55 14:35:46
แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 55 14:34:55