ฺBody Talk (Boys love) ทดลองโพสต์ บทที่ 12
|
 |
บทที่ 12
รุจน์พบว่าที่เขาคาดการณ์ไว้นั้นผิดถนัด ทศวรรษนั้นไม่ได้กลับเข้ามาในแกลลอรี่อีกครั้ง เมื่อสังเกตจากน้ำฟ้าก็พบว่าหล่อนไม่ได้มีทีท่าจะเอ่ยถึงทศวรรษแต่ประการใดแสดงว่าหล่อนมาทำงานเพียงลำพัง ทศวรรษไม่ได้นัดที่จะมาหาหรือมาส่งหล่อนเหมือนทุกครั้ง รุจน์ทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน เสยผมแล้วหยิบเอกสารส่งของมาเปิด หยิบปากกามาจรด เสียงเคาะประตูชายหนุ่มเงยหน้าแล้วอนุญาตให้ผู้ที่อยู่หลังประตูก้าวเข้ามา เมษาก้าวเข้ามาแล้วปิดประตู รุจน์มองเขาด้วยความรู้สึกลึกซึ้ง เด็กหนุ่มเดินมาที่หน้าโต๊ะทำงานของผู้เป็นนาย รอยช้ำที่ระหว่างปากกับจมูกยังมีปรากฏให้เห็น รุจน์เดินลุกเดินอ้อมจากด้านในโต๊ะมาหยุดตรงหน้าเมษา ยื่นมือออกไปแตะรอยนั้นอย่างเบามือ แต่เมษายกมือขึ้นกันไว้
“ผมไม่เป็นไร นิดหน่อยเอง ว่าแต่คุณโอเคนะ” “อืม” รุจน์หดมือกลับพร้อมพยักหน้าแรง “ดีฮะ วันนี้ตารางงานมีว่าไงเจ้านายว่ามาเลยครับ” เมษาค้อมกายอย่างนอบน้อม รุจน์ยิ้มแล้วหันไปหยิบเอกสารส่งของ ยื่นให้ “นายเอารถฉันไปใช้นะ ช่วงเช้านายรับไป 5 รายนะ ในช่วงบ่ายฉันต่ออีก 3 ราย” เมษาเงยหน้าทำตาโต “ หูย ถือว่าเป็นเจ้านายเอาเปรียบนี่นา” รุจน์กอดอกเชิดคางเรียวได้รูปของเขา หลุบตามอง “ก็เมื่อคืนใครทำให้ฉันต้องเลือดตกยางออกกันล่ะ แล้วยังไม่สำนึกมากล่าวหาว่าเอาเปรียบอีก ก็ได้ๆๆ ช่วงเช้าฉันรับเอง ทำงานหนักๆให้กระเทือนแผลเยอะๆเลย คราวนี้จะได้พักยาวไม่รู้ใครกันจะอดอยาก” รุจน์หรี่ตามองแล้วจะหันเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ เมษารั้งเอวเขาเข้ามากอด
“บ่นนิดเดียวพูดซะยาว แก่แล้วเหรอ?” เมษายื่นหน้าเข้ามาชิด “ผมขอโทษนะครับที่ปากเสีย” เมษาทำหน้าซื่อใส ปริบตา ปากยื่น ราวเด็กน้อย รุจน์อมยิ้มที่สุดก็ปล่อยก๊ากออกมา “ดูทำหน้าเข้า ประสาท” รุจน์บีบจมูกโด่งเป็นสันของเมษา “วันนี้ทำให้หมดทุกรายการเลย ไถ่โทษที่โหดไปหน่อย โอเค๊” เมษาทำนิ้วมือ โอเค
“ไม่ต้องหรอกตามนี้ล่ะ ถ้าฉันไม่ทำอะไรเลยคุณน้ำฟ้าจะสงสัยว่าฉันเอาเปรียบลูกน้องจริงๆ” รุจน์ยิ้ม เมษาพยักหน้าพร้อมพูดเบาๆว่าก็ได้ รุจน์มองใบหน้าของเขานิ่งขึงไปพักหนึ่ง ดูเอาเถอะมีเหตุร้าย คนใจดำมาทำเรื่องให้หน้าตาหวุดหวิดจะแตกเยินปานฉะนั้น เด็กคนนี้ยังยิ้มให้เรื่องราวที่ดำเนินต่อจากนั้นได้ หากให้เขาพูดออกมาเขาก็คงหัวเราะแล้วบอกว่า ....ก็แล้วไงโลกได้มันหมุนไปแล้ว สิ่งใดที่เกิดขึ้นย่อมผ่านเลย ที่เหลือก็ดำรงชีวิตในนาทีต่อจากนี้ให้ดีที่สุด... รุจน์วางท่อนแขนทั้งสองบนบ่าของเมษาก่อนจะรั้งดึงเขาเข้ากอด
“ฉันว่าฉันตกหลุมรักนายจริงจังเลยล่ะเมษา” รุจน์ซบใบหน้ากับต้นคอล่ำสันของเมษา เขาได้ยินเสียงถอนใจ แอบคาดเดาเอาว่าดวงตารีเรียวคู่นั้นคงหรี่แคบลงจนเป็นเส้นหมึกดำที่ตวัดด้วยพู่กัน ริมฝีปากกระจับนั้นคงคลี่ยิ้มเบิกบานดั่งแดดอุ่นที่ทอดแสงจากตะวันดวงโตด้วยเช่น ไม่นานร่างกายของรุจน์ก็รู้สึกถึงอ้อมแขนที่แข็งแรงรัดรึงแนบแน่นเช่นกัน “อยู่กับฉันนะ” รุจน์กระซิบแผ่วออกไป ครู่เดียวก็รับรู้ถึงการตอบรับจากความสั่นไหวของร่างกายของเมษาจากการพยักหน้าแรง รุจน์ผละออกมามองหน้าเมษาเขาเองก็จ้องกลับมาราวกับจะรับคำขอของรุจน์อย่างเต็ม รุจน์ยื่นหน้าไปจูบกับเมษา เขาตอบรับอย่างอ่อนโยน เสียงเคาะประตูอีกครั้งทำให้ทั้งคู่รีบผละออกจากกัน ทั้งรุจน์และเมษาต่างเลียริมฝีปากพร้อมกัน
“ครับ” รุจน์จัดเสื้อผ้า เมษารีบถอยไปยืนอีกด้าน มือยื่นไปหยิบเอกสารส่งของ ประตูเปิดออกพร้อมร่างเพรียวบางในชุดติดกันผ้าไหมจีนสีเบจของน้ำฟ้า “ฟ้า มาดูเมษาน่ะค่ะ เป็นไงบ้างล่ะเรา” น้ำฟ้าก้าวเข้าประชิด หล่อนยื่นมือไปแตะที่ริมฝีปากของเมษามากกว่าจะเป็นร่องรอยช้ำ เมษายิ้มและบอกว่าไม่เป็นไร มีรอยนิดหน่อยลูกค้าคงไม่ทันสังเกต เขาจะพยายามหลบๆแบบดาราอาศัยมุมกล้องช่วยอะไรแบบนั้น น้ำฟ้าเงยหน้าหัวเราะชอบใจ หล่อนจับแก้มของเมษาแล้วว่า เออ เข้าใจพูดเล่นแน่ะ รุจน์หายใจลำบากเขามองตาไม่กระพริบ แม้จะรู้ว่าน้ำฟ้าเป็นสาวตะวันตกสุดขั้ว ความเป็นกันเองทำให้ไม่ถือสาหญิงชาย ทุกคนเท่าเทียมกันไม่เว้นการถึงเนื้อถึงตัว และแม้จะเป็นคู่นอนกันมาระยะหนึ่งแต่มันก็ไม่เกี่ยวกับที่เขารู้สึกเหมือนมีฟองอากาศปุดๆในอกกับความไม่ชอบมาพากลกับที่หล่อนมาแตะต้องใกล้ชิดเมษาที่เขาเพิ่งบอกรักไป
“ออกไปทำงานได้แล้ว ปากเจ่อยังอยากจะจ้ออยู่ได้”รุจน์พูดห้วนๆ น้ำฟ้าหันมามองเขานิดหน่อยก่อนจะโบกมือให้เมษาออกไป พอประตูปิดลงพร้อมการหายออกจากห้องของเมษา น้ำฟ้าก็หัวเราะออกมาอีก หล่อนเบิกบานอะไรกันนักนะ รุจน์ยังไม่หายเคือง “รุจน์หึงหรือคะ” น้ำฟ้านั่งบนโซฟาพร้อมตบเบาที่ข้างตัว รุจน์เลยเดินเข้าไปนั่ง หล่อนวาดเรียวขาขึ้นพาดบนตักของรุจน์ ผิวเนียน กับ ขาที่ผอมพอดี ชายกระโปรงที่หดขึ้นอีกเผยให้เห็น ต้นขาขาวกระจ่างราวหิมะ รุจน์ปรายตามองน้ำฟ้า หล่อนกำลังจ้องเขาอย่างนิ่งสงบรอยยิ้มที่ให้กับเมษาเมื่อครู่หายไป เรียวนิ้วของหล่อนยื่นมาสอดเส้นผมนิ่มของรุจน์ เขาเอนศีรษะคลอเคลีย
“บางคืนฟ้าก็คิดถึงคุณมากๆเลยนะคะ คิดถึงที่เราอยู่ด้วยกัน” น้ำฟ้าเอื้อมแขนมากอดคอของรุจน์ หล่อนซบหน้าอันอุดมด้วยความงดงามผ่องพรรณแม้จะมีเครื่องสำอางค์ปิดทับบางเบาของหล่อนกับปกเสื้อของรุจน์ “คุณโกรธฟ้าหรือเปล่าที่ขอร้องคุณแบบนั้น” น้ำเสียงอ่อนเบา รุจน์เงยหน้ามองเพดาน เขากำลังนึกรูปภาพอันอัปลักษณ์ที่เกิดจากต่อจิ๊กซอว์ผิดชิ้นต่อไม่สนิท รูปที่ออกมาเลยออกมาบิดเบี้ยวเสียรูปทรงอันเป็นธรรมชาติ ไม่รู้ตัวเมื่อไรที่มือของเขาได้ยกขึ้นลูบไล้ต้นขาของหล่อนเบามือก่อนปล่อยให้ปลายนิ้วเคลื่อนเลื่อนสอดเข้าใต้ชายกระโปรงผ้าเนื้อนุ่ม
“บางครั้งผมก็เหมือนกัน บางครั้งจริงๆ ทั้งที่คิดว่าผมคิดแบบนั้นไม่ได้แล้ว และผมไม่คิดโกรธเลยที่คุณบอกให้เราต้องกลายเป็นแบบนี้ ผมรู้ดีว่าใครเหมาะสมกับคุณในทุกด้าน” รุจน์หยุดมือที่เคลื่อนไหวเมื่อมันเข้าใกล้ศูนย์กลางลำตัวของน้ำฟ้า ด้วยรู้ดีเขาไม่มีสิทธิ์อีกต่อไปไม่ว่าจะทางกายภาพหรือจิตใจ แต่น้ำฟ้ากลับจับมือของเขากลับไป หล่อนพาปลายนิ้วของเขาสอดเข้าในแพนตี้ตัวเล็กจ้อยของหล่อน รุจน์พยายามฝืนมือกลับ เขามองหน้าหล่อนเหมือนจะหาความแน่ใจ ใบหน้าฝาดด้วยสีเรื่อและดวงตาปรอยปรือมีแววเว้าวอน ปลายนิ้วของรุจน์สัมผัสความเป็นหญิงที่ลื่นและอุ่นชื้นของน้ำฟ้า ที่ซึ่งเขาคุ้นเคยและกระหายที่จะหลบเร้นเข้าดูดดื่มความหอมหวานนับครั้งไม่ถ้วนเมื่อครั้งกระนั้น น้ำฟ้าขยับขึ้นนั่งบนตัวรุจน์
“พี่ทศ ใจดี เป็นสุภาพบุรุษ แต่เขาไม่เคยรู้หรอกว่าที่เขาไม่แตะต้องฟ้าเลยมันทำให้ฟ้าเหงา รุจน์คะเข้าใจฟ้าไหมคะ” น้ำฟ้าจูบใบหน้าของรุจน์ก่อนจะมาที่ปาก รุจน์ย่นคิ้วเขาผละจูบของเพื่อจะถาม “เขาไม่นอนกับคุณเลยจริงๆหรือ” “เขาบอกว่าจนกว่าจะคบให้แน่ใจว่าเราไม่อาจมีใครอื่นได้อีกค่ะ ไม่ยักรู้ว่าพี่ทศเชยบรมแบบนี้”น้ำฟ้าถอดสูทของรุจน์แล้วผลักรุจน์นอนลง หล่อนทัดผมยาวดำขลับราวไหมคุณภาพดีที่ใบหูขณะจูบนัวเนียกับรุจน์ ทั้งใบหน้า ลำคอ ใบหู รุจน์คำนึงถึงแนวโน้มของตัวเองและไม่ต้องการจะกลายเป็นสิ่งที่เขากลัว แม้กระนั้นก็ไม่สามารถหยุดได้เมื่อถูกเชิญชวนจากร่างกายผอมบางหากแต่ได้สัดส่วนของน้ำฟ้า กลิ่นน้ำหอม กลิ่นแชมพูในเส้นผมของหล่อน อุ่นกายของอิสตรีอันแท้จริง สัมผัสที่มีแต่ความคุ้นชินผุดวาบหวิวราวแมลงไต่ยุบยิบบนผิวกาย
รุจน์ขยับตัวเพื่อให้หล่อนได้แนบกับร่างกายเขาได้อย่างสนิทแน่น ตอนนั้นเองที่ล่างสุดของแนวสันหลังก็เกิดเจ็บร้าวจนรุจน์ไม่อาจขยับเขยื้อนใดๆได้อีก รอยปริที่ยังคงสดใหม่นั้นเสมือนฝ่ามือที่ตบเข้าใบหน้าเขาอย่างแรงจนชาดิก ชายหนุ่มรีบยันตัวลุกขึ้น จนน้ำฟ้าประหลาดใจกึ่งเสียอารมณ์ “อะไรคะ” หล่อนถามอย่างไม่เม้มความไม่พอใจ “เปล่า แต่ว่าผมคิดว่ามันผิดแล้วล่ะ เราไม่ได้อยากทำแบบนี้จริงๆใช่ไหมครับ คุณก็แค่เหงาที่ไม่ได้มีเซ็กส์กับคนที่รัก” รุจน์หอบหนักเขารีบลุกขึ้นยืน จัดไทด์ใหม่แล้วเดินไปที่โต๊ะ น้ำฟ้าลุกขึ้นจัดกระโปรงเข้าที่แล้วเดินตามกอดจากด้านหลัง
“คุณเคยคิดอยากแต่งงานกับผมไหมครับ” “ตอบตามตรงคือ ไม่ค่ะ แม้ว่าจะชอบคุณมากขนาดนี้ แต่ฟ้านึกภาพการใช้ชีวิตร่วมกันของเราไม่ออกเลยค่ะ” “แล้วกับคุณทศ” “ไม่แค่ภาพนะคะฟ้าวางแผนที่จะแต่งงานกับเขาแน่นอนหากเราพร้อมทั้งคู่” “แล้วเราสองคนล่ะคุณคิดลักลอบกับผมตลอดไปไหม”
“ก็แค่ Body Talk” รุจน์หันขวับกลับมา “คุณมาขอร้องให้เราเลิกพฤติกรรมแบบนี้ แล้วคุณก็มากลับคำเสียเอง คุณฟ้า ขอร้องล่ะครับ ในเมื่อคุณทศให้เกียรติคุณขนาดนี้แล้ว ก็อย่าทำให้เขาเสียใจเลยนะครับ” รุจน์รู้สึกแปลกใหม่เมื่อรู้ว่าทศวรรษไม่ได้โกหกเขาจริงๆ เขาได้ยินเสียงน้ำฟ้าถอนใจแรงด้านหลัง หล่อนเกยคางกับบ่าของเขา แขนยังไม่ยอมปล่อยจากการรัดเอวของเขา “พูดแบบนี้ตบหน้ากันตรงๆเลยดีกว่าไหมคะ” น้ำฟ้าหัวเราะ รุจน์หันข้างยิ้มข้ามไหล่ตัวเองไปด้านหลัง เขาชอบหล่อนก็ด้วยเพราะหล่อนเป็นแบบนี้เปิดเผยและกล้าจะยอมรับในสิ่งที่ถูกต้อง
“ฟ้าชอบพี่ทศมากนะ ชอบในแบบที่ว่าใกล้เคียงกับคำว่ารักเข้าไปทุกวัน คนๆนั้นน่ะดูเหมือนจะไร้ใจเย็นชาและน่าค้นหาในเวลาเดียวกัน บางเวลาเขาก็เหมือนคนบ้าทำอะไรดีเดือด บางเวลาก็ใจดีเหมือนพี่ชาย นี่รู้ไหมคะ” น้ำฟ้าปล่อยมือจากรุจน์เดินมาหยิบก๊อปปี้ใบส่งของบนโต๊ะที่รุจน์เพิ่งตัวจริงกับเมษาไป “รู้ไหมตลอดสามปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยย่างกายมาที่แกลลอรี่ ไม่เคยสั่งภาพจากเราเลย จนฟ้าน่ะใจหายมากเลยคิดมากทุกวัน รุจน์เองก็เหมือนกันล่ะซิลูกค้าขาประจำหายตัวไปเลยใช่ไหมล่ะ” น้ำฟ้ายื่นใบก๊อปปี้ทั้งหมดมาตรงหน้ารุจน์ เขามองรายชื่อลูกค้าหญิงเหล่านั้นก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
เมษาเดินตามสาวสำนักงานรุ่นพี่ที่ส่ายเอวในชุดรัดรึงจนแทบปริไปตามโถงทางเดิน ในบรรดาลูกค้าสาวทั้งหมดที่ต้องมาส่งภาพเขียนให้ถึงมือ คนสุดท้ายนี่ทำให้เขาลำบากใจในการทำงานมากที่สุด แต่จะให้ทำอย่างไรเมื่อเช้ารุจน์ยื่นรายชื่อมาให้เขาพอเห็นชื่อหล่อน แม้จะรู้สึกคล้ายดั่งลาวาข้นร้อนอย่างไรก็ต้องมาเอง จะปล่อยให้รุจน์มาเองไม่ได้เด็ดขาด หญิงสาวผลักประตูไม้สักบานใหญ่เปิดออกแล้วหันมาผายมือเชิญเมษา เขาค้อมกายให้นิดหน่อยแล้วเดินเข้าไป “ผมมาส่งภาพเขียนครับ” เมษาพูดกับเบื้องหลังของคนที่ยืนหลังกระจกใส
“ชื่อคนสุดท้ายรุจน์ยังจำเค้าได้ใช่ไหมคะ” “อ้อ เป็นลูกค้าใหม่ในตอนนั้นนี่ แล้วเมื่อเร็วๆนี้เขามาติดต่อกับคุณน้ำฟ้า เพราะภาพที่เขาอยากได้เลยต้องไปพบกับซุรุงะซัง เป็นผู้หญิงเรียบๆแต่รสนิยมดีนะ” “นี่ล่ะ พี่ทศของพวกเราล่ะ หล่อนเป็นเลขาที่พี่ทศเพิ่งจ้างมาทำงานโครงการเมื่อสามปีก่อน พี่ทศให้หล่อนมาซื้อภาพที่นี่แทนเขา ฟ้าก็ไม่รู้เหตุผลของเขาหรอกนะ แต่คิดว่าเขาคงไม่อยากออกหน้าเพราะจะทำให้ฟ้าคิดว่าเป็นการซื้อขายกันเองในหมู่คนรู้จัก ธุรกิจแบบนั้นอย่างไรก็ไม่รอด อาจไม่คิดอยากทำต่อ พี่วุฒิก็คงเสียใจ การมีลูกค้าแปลกหน้าเข้ามาบ้างคงช่วยเรื่องกำลังใจให้เราทำต่อไปได้ และเราก็ทำได้จริงๆใช่ไหมรุจน์แกลลอรี่ขยายได้ขนาดนี้ก็เพราะกำลังใจจริงๆ ฟ้าให้ผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกค้าของรุจน์เพราะหล่อนแสดงเจตจำนงค์ว่าต้องการรุจน์ ที่แท้ก็เพราะพี่ทศสั่งมา พี่ทศน่ะไม่เคยทิ้งคนที่เคยโอบอุ้มกันเลยเนอะ” น้ำฟ้าหยิบกอปปี้ใบหนึ่งส่งให้รุจน์ เขารู้สึกเหมือนถูกกรีดเป็นริ้วกับคำว่า “เคยโอบอุ้ม” ใช่เลย อุ้มและโอบเขาขึ้นเตียงอย่างไม่เคยปราณี
คนที่หลังกระจกใสหันกลับมาที่เมษา เขาเดินเข้ามาใกล้แล้วยิ้ม “วิทยายุทธของฉันนี่ดีชะมัด รอยหมัดแทบไม่มีรอย แต่ระวังจะช้ำใน” “ผมอาจจะถูกหมัดคุณจริงแต่ก็แปลกที่อาการช้ำในกลับย้อนกลับไปหาคุณเอง สงสัยคุณคงเรียนวิทยายุทธ ผิดหลักสูตรมา” “หมายความว่าไง” ทศวรรษยื่นหน้าเข้ามาชิดเมษา “วันนี้ได้ยินชัดหรือยัง ผู้จัดการพูดใส่หน้าว่าไง ผมบอกแล้วใช่ไหมว่าผมจะทำให้เขาพูดกับคุณเอง” เมษายิ้มมุมปาก เขาดึงปกเสื้อสูทของทศวรรษแล้วปล่อยก่อนจะตบให้เรียบร้อยเหมือนเดิม
น้ำฟ้ามองต้นไม้แห้งๆกับลานจอดรถว่าง นอกหน้าต่าง “อย่างไรพี่ทศก็ยังต้องการให้ค่าคอมเป็นของรุจน์อยู่ดี ฟ้าว่าเขารักรุจน์เหมือนน้องนะ พี่วุฒิเล่าให้ฟังว่าตอนที่รุจน์มาสมัครงานน่ะ แท้จริงแล้วพี่ชายฟ้าตั้งใจจะปฏิเสธโดยที่ไม่คิดอ่านใบสมัครด้วยซ้ำ แต่พี่ทศน่ะเป็นคนบอกพี่วุฒิเองให้รับไว้ พี่วุฒิอย่างไรก็ไม่เห็นด้วยเพราะรุจน์ไม่มีประสบการณ์เลย พี่ทศบอกว่าการให้โอกาสคนไม่เห็นเสียหายนี่ และหากรุจน์เกิดทำเสียหายขึ้นมาจริงๆเขาจะรับผิดชอบเอง” น้ำเสียงของน้ำฟ้าเรื่อยเอื่อยราวลมอ่อนในท้องทุ่งที่ชวนเคลิบเคลิ้ม หากรุจน์กลับรู้สึกเหมือนตัวเองถูกบางสิ่งดึงให้จมลงบ่อโคลนเหนียวข้นลงเรื่อยๆ สิ่งที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน รุจน์ทรุดตัวนั่งบนเก้าอี้
นี่เขาหลงซาบซึ้งน้ำใจวุฒิมาตลอดนี่มันกลายเป็นเรื่องผิดด้านผิดคนราวกับไม่เคยมีอยู่จริงไปเลยหรือ? รุจน์กัดปากล่างแน่น เหตุผลที่น้ำฟ้าไม่มีวันได้รู้ว่าทำไมทศวรรษถึงหายหน้าจากแกลลอรี่ถึง 3 ปี เหตุผลนั้นคือคำอำลาที่เขาให้กับรุจน์ ....จะไม่มาให้เห็นหน้าอีก... แต่ด้วยเหตุใดก็ตามทศวรรษยังอาวรณ์ว่ารุจน์อาจจะไม่มีเงินใช้จ่ายเพื่อชีวิตสุขสบายเหมือนเดิมเขาจึงกลับมาในรูปของลูกค้าสาว
จากคุณ |
:
vannessia
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ก.พ. 55 19:21:17
|
|
|
|