Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
>>>ตำนานรักลำน้ำไนล์<<< บทที่ 2 ติดต่อทีมงาน

>>>ตำนานรักลำน้ำไนล์<<< บทที่ 1
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11691423/W11691423.html


บทที่ 2 การย้อนสู่อดีตที่แสนสับสน

 เช้าวันใหม่ที่แสนสดใสเริ่มต้นด้วยมื้อเช้าแสนอร่อย ไข่ดาวสองฟองทานกับไส้กรอกหมูแฮมชั้นดี น้ำส้มคั้นสั่งตรงมาจากนิวซีแลนด์ กลิ่นกาแฟบราซิลคั่วสดหอมกรุ่นไปทั้งคฤหาสถ์ สลัดผักและโกโก้ร้อนของสองสาววางพร้อมอยู่แล้ว มาเรียปาดเนยบนขนมปังให้พี่สตีฟเป็นพิเศษเพื่ออ้อนเป็นกรณีพิเศษ แต่สุดท้ายแคโรลีนก็หัวเราะคิกที่พี่ชายจับมาเรียฟาดก้นแต่เช้า

“โอย... พี่ขา หนูแค่อยากพาแคโรลีนออกไปเที่ยวบ้างเท่านั้นเอง”

“อย่าลืมสิว่าแคโรลีนกำลังมีหลานนะ พาปีนหน้าต่างออกมาแบบนี้ถ้าเกิดเรื่องขึ้นมาจะทำอย่างไร คราวที่แล้วแคโรลีนถูกสิงโตตะปบกลับมาก็น่าสงสารพอแล้ว ถ้ากระทบกระเทือนอีก ใครจะรับผิดชอบ” มาเรียก้มหน้าสำนึกผิดพลางทำตาปรอย

“พี่จะยึดกุญแจรถไว้จนกว่าความประพฤติจะเรียบร้อยกว่านี้ เย็นวันนี้พี่ต้องเห็นเรียงความสำนึกผิดสิบหน้ากระดาษอยู่บนโต๊ะทำงานนะ”

มาเรียอยากจะบ้าตายจึงออกฤทธิ์กรีดร้องใส่พี่สตีฟ แต่สาวน้อยในชุดกางเกงหนังสีดำสนิทและเสื้อกล้ามสีแดงเพลิงก็ถูกพี่รอยด์คว้าไม้ตีแมลงวันมาตบพลัวะเข้าที่สะโพก มาเรียจึงต้องยอมขึ้นไปเปลี่ยนชุดให้เรียบร้อยสมกุลสตรีกว่านี้ แต่ในตู้เสื้อผ้าตัวเองไม่มีก็ต้องไปรื้อที่ห้องน้องสาว

“อ๊าย... ยัยเป็ดเค็ม นั่นมันชุดเก่งของฉันนะ”

“สวยใช่ไหมล่ะ ขอพี่เลยล่ะกัน โฮ๊ะโฮ๊ะ”

หญิงสาวกลับมาอีกครั้งในชุดกระโปรงน่ารักของแคโรลีน ครบเครื่องด้วยสร้อยแหวนกำไลจากตู้ของน้อง แล้วยักย้ายส่ายสะโพกอวดพี่อวดแม่ราวกับกำลังเดินแบบ เรียกเสียงหัวเราะจากครอบครัวฮิลตันให้กลับมาทีละน้อย

“ไปมหาวิทยาลัยกันเถิดแคโรลีน ทุกคนบ่นคิดถึงเธอกันใหญ่แล้ว” มาเรียหอบตำราเล่มโตและเลกเชอร์ของเมื่อวานขึ้นมา พลางจูงมือน้อง

“ไม่ได้นะ แคโรลีนกำลังไม่สบาย พี่จะทำเรื่องของดเรียนให้เอง” ดวงตาสีฟ้าจ้องกราดใส่พี่ชายที่แสนดีจนสตีฟเริ่มผงะถอยเสียเอง ก่อนที่ตำราแพทย์เล่มหนาจะวางโครมคืนไว้บนโต๊ะที่เดิม

“สิทธิสตรีถูกจำกัดเสียแล้วหรือ มีเหตุผลกลใดทำให้ผู้ชายคิดว่าหญิงโง่งมลงจนมิสามารถเรียนรู้วิชาระหว่างตั้งครรภ์ได้กระนั้นหรือ แคโรลีนไม่สบายตรงไหนมิทราบคะ”

“มะไม่ใช่... พี่ไม่ได้หมายความเช่นนั้น พี่แค่เป็นห่วง”

สุดท้ายน้องก็ชนะ แคโรลีนแอบยิ้มขณะก้าวตามพี่สาวออกจากบ้านไป สองมือหอบหิ้วหนังสือโบราณคดีที่เธอรักไว้อย่างหวงแหน นึกอยากจะเข้มแข็งให้ได้สักครึ่งหนึ่งของพี่มาเรียบ้างเหลือเกิน ยิ่งคิดเปรียบเทียบก็ยิ่งเศร้าใจ แต่แล้วก็มีเสียงของชายคนนั้นคอยให้กำลังใจที่ข้างหูว่าเชื่อมั่นในความสามารถของเธอเสมอ

‘เขาเป็นใครหนอ ...ช่างอ่อนโยนเหลือเกิน’

“แคโรลีน... แคโรลีน อย่าเหม่อสิ ถึงมหาวิทยาลัยแล้วจ๊ะ”

สาวน้อยสะดุ้งตัวไหวตามแรงเขย่าตัว เมื่อกระพริบตาถี่เพื่อปรับสายตามองไปรอบตัว แคโรลีนก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศการเรียนการสอนที่คุ้นเคยอีกครั้ง แคโรลีนยิ้มออกมาแต่ก็ถอยหนี มีสายตาตำหนิติเตียนและอยากรู้อยากเห็นพุ่งตรงมาที่เธอคนเดียวนับร้อยคู่ เพราะมีเสียงเล่าลือด้วยความสนเท่ห์แกมสะใจมากมายว่านางสาวแคโรลีน ท้องไม่มีพ่อ

“รีบไปเถิดจ๊ะ เธอหยุดเรียนไปนานแล้ว ฝากสวัสดีอาจารย์กับเพื่อน ๆ ของเธอด้วยนะ พี่ต้องรีบไปเรียนแล้ว ขึ้นลงบันไดก็ระวังด้วยนะจ๊ะ”

“ฮิ ๆ มาเรียชักจะเหมือนคุณแม่เข้าไปทุกวัน รับทราบแล้วค่ะ”

“จริงสิ... อย่าลืมนัดของพี่สตีฟนะจ๊ะ วันนี้ต้องกลับเร็วหน่อยนะ เราต้องไปล่องเรือสำราญในแม่น้ำไนล์กัน แล้วฉันจะมารับ” สองพี่น้องจุมพิตแก้มให้กันและกัน ก่อนจะแยกย้ายกันเข้าคณะไป วันนี้เธอต้องไปฝึกงานชันสูตรศพของวิชานิติวิทยาศาสตร์ที่โรงพยาบาลจนถึงเย็น จากนั้นจึงค่อยเดินทางไปร่วมงานเลี้ยงหรูหราของบริษัท

ทว่าไอกลิ่นมรณะจากศพนั้นติดร่างกายอยู่นานแสนนาน เรียกความสนใจจากเทพอนูบิสให้ครวญเพลงเป็นท่วงทำนองเศร้าสร้อยอยู่ไม่ห่าง ร่างบางในชุดราตรีสีดำสนิทก้าวลงมาจากรถลิมูซีน กรุ่นกลิ่นกายด้วยน้ำหอมและโคโลญจ์ชั้นสูง งามโดดเด่นจนเหล่าพนักงานต้อนรับของโรงแรมมองตาค้าง พรมหนานุ่มพาแขกทุกท่านไปสู่เรือสำราญริมฝั่งไนล์ในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทลูกในเครือฮิลตันเวิร์ลกรุ๊ป เมื่อจัดปอยผมให้เข้าที่เข้าทางอีกนิด เธอก็พร้อมเฉิดฉายแล้ว

“โอ... คุณหนูสายเสมอของพวกเราปรากฎตัวแล้วคร้าบ คาดว่าสบู่และแชมพูที่บ้านหมดแล้วแน่นอน”

คุณหนูแทบเซหกล้ม เมื่อพี่รอยด์ผู้เป็นโฆษกกิตติมศักดิ์อยู่บนเวทีประกาศเผาน้องทันที แสงแฟลชรัวไม่หยุดจากเหล่าตากล้องหนังสือพิมพ์ เธอน้อมศีรษะเล็กน้อยแสดงความขอบคุณและยื่นมือสัมผัสทักทายบรรดานักธุรกิจที่ติดต่อค้าขายกับพี่ๆอย่างเป็นกันเอง สักพักสาวน้อยจึงอุ้มช่อดอกไม้ขึ้นไปมอบให้ท่านประธานฮิลตันบนเวที เสียงปรบมือจึงยิ่งดังสนั่นให้กับความงามสง่าของเหล่าบรรดาพี่น้องตระกูลนี้

“แคโรลีน... ขอโทษทีนะ ฉันเลิกเรียนช้า รอนานรึเปล่า?”

เมื่อมาเรียปลีกตัวมาได้ก็รีบจ้ำไปหาน้องสาวที่ยืนหลบมุมอยู่กับแม่ทันที แคโรลีนที่ใส่ชุดราตรีสีขาวอ่อนหวาน ยิ่งดูบอบบางน่าทะนุถนอม เธอส่งยิ้มให้พี่สาว แต่จานขนมเค้กและอาหารว่างมากล้นที่พี่ ๆ ยัดเยียดมาให้ก็ยังไม่พร่องเลยสักนิด

“ไม่หรอกจ๊ะ พี่สตีฟรู้ตารางเรียนของมาเรียล่วงหน้าอยู่แล้วก็เลยส่งคนมารับก่อน”

เสียงหวูดเรือดังขึ้นเป็นระยะถี่ขึ้น พื้นที่ยืนอยู่ก็ขยับโยกไหว บ่งบอกว่าเรือกำลังออกจากท่าไปสู่สายนทีแห่งดินแดนทะเลทราย มาเรียเห็นสีหน้าหมองเศร้าของน้องสาวจึงจูงมือให้ออกมารับลมเล่นที่ลานเปิดกว้างด้านนอกด้วยกัน

“ยังคิดมากอยู่อีกหรือ? อย่าไปสนใจเสียงนกเสียงกาเลย ใครมันปากมากก็มาบอก ฉันจะไปจัดการให้เอง”

“ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอกจ๊ะ ฉันทำใจเรื่องเด็กในท้องได้แล้ว เพียงแต่พยายามนึกชื่อของคน ๆ นั้นให้ออก เรื่องราวมันวูบวาบไปมาเหมือนฟองสบู่ไหลผ่านซอกมือเราไป ฉันเก็บกักอะไรไว้ไม่ได้ ไม่หลงเหลืออะไรเลย แม้จะพยายามไม่นึกถึง แต่พอมีเรื่องสะกิดใจเล็กน้อย เงาของชายคนนั้นก็ฟุ้งกระจายขึ้นมาไม่หยุด ฉันจำได้ว่าฉันร้องไห้ มันเจ็บที่อกข้างซ้ายนี่”

“นั่นสินะ คราวที่แล้วเธอถูกสิงโตทำร้ายกลับมา คราวนี้เธอก็ร้องไห้กลับมา การผจญภัยแบบนี้ชื่ออะไรหนอ”

มีเพียงความเงียบช่วยเยียวยาแคโรลีน มาเรียจึงปล่อยให้น้องเหม่อมองดาวจำรัสกระจัดกระจายบนฟากฟ้าสะท้อนผืนน้ำเป็นประกาย ดูแล้วสวยแต่เจ็บปวดนัก

“ถอยออกมาจากริมระเบียงเถิด คราวก่อนที่ฉันตกน้ำจนเกือบตายก็ยังขนลุกไม่หาย ทั้งเธอทั้งฉันตกน้ำกันเป็นอาชีพเสริมแล้วนะ”

“พี่มาเรียเคยตกแม่น้ำไนล์ด้วยหรือคะ?”

ยังไม่ทันที่มาเรียจะเอื้อมมือไปรั้งตัวน้องเข้ามา เทพแห่งมรณะที่ติดตามเธอมาจากห้องเก็บศพก็แผลงฤทธิ์เสียก่อน ฉับพลันมีเสียงปืนดังกระหน่ำขึ้นเป็นชุด ความวุ่นวายโกลาหลจึงบังเกิดขึ้น เมื่อชายวัยกลางคนผู้หนึ่งชักปืนขึ้นมาเล็งยิงไปทั่วหลังจากดื่มวอดก้าจนเมามาย ทุกคนต่างก้มหลบหมอบกับพื้น แล้วส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ บ้างก็วิ่งหนีกันสับสน

“มิงโกงเงินกุ! หักหลังจนพี่กุฆ่าตัวตาย บ้านแตกสาแหรกขาด กุจะให้มิงรู้สึกเสียบ้าง ไอ้สตีฟ!”

นักธุรกิจรุ่นใหญ่ที่ถูกประธานฮิลตันเล่นงานด้วยการกว้านซื้อหุ้นจนหมดเนื้อหมดตัวส่ายปืนไปทั่ว ยามรักษาการณ์ที่มีเพียงไม้ตะบองกับกุญแจมือ ทำได้แค่เพียงหลบอยู่หลังเสาและติดต่อให้กัปตันนำเรือจอดเทียบท่าโดยด่วน แต่ยมทูตที่ไร้ความปรานีเดินย่างสามขุมเข้ามาหาสองสาวแล้ว มาเรียจึงลุกขึ้นมาขวางมันไว้เสียก่อน

“หุบปากนะไอ้บ้า! แกทำตัวเองทั้งนั้น อย่าผลักบาปให้ผู้อื่นแบกรับนะ ถ้ายิงสิ รับรองว่าได้ฉลองคริสต์มาสในคุกจนแก่ตายแน่!”

“นังนี่! อยากตายนักใช่ไหม?!”

ความรู้สึกอยากปกป้องน้องสาวที่กำลังตั้งครรภ์ผลักดันให้หญิงสาวตัวเล็กบ้าระห่ำ มาเรียอาศัยจังหวะที่มันกำลังหัวเสีย เตะกวาดพื้น ชายคลุ้มคลั่งจึงเสียหลักล้มลงด้วยความตื่นตะลึง แต่มาเรียก็ไม่ยอมปล่อยง่าย ๆ รีบตีศอกกระแทกเข้าไปเต็มรัก ทุกสิ่งทุกอย่างจึงกลับมาสงบเรียบร้อยอีกครั้ง

“แคโรลีน! เธอทำอะไร?!”

เมื่อเธอหันกลับมาหาก็ต้องตื่นตะลึงยิ่งกว่าเดิม แคโรลีนกำลังยืนโงนเงนอยู่นอกรั้วดาดฟ้าเรือด้วยแววตาเหม่อลอย เรือนผมสีทองพลิ้วสยายท่ามกลางนวลแสงเดือนผ่องแต่กระชากวิญญาณของมาเรียให้ล่วงลับ เสียงตะโกนเรียกอื้ออึงแค่ไหนก็มิอาจสื่อไปถึงแคโรลีน จิตแห่งธิดาแห่งไนล์กำลังนำพากลับไปสู่สถานที่ที่จากมา ร่างบางจึงทิ้งกายลงสู่สายน้ำแห่งเทพคเนมู ขอให้พระองค์ช่วยพาเธอกลับไปหาชายที่ร่ำร้องเรียกหากันอีกครั้ง

“เกิดอะไรขึ้นมาเรีย?! น้องจะทำอะไร?!”

“พี่สตีฟอย่าเพิ่งห้ามหนู แคโรลีนตกน้ำไปอีกแล้ว หนูจะตามลงไปช่วย ปล่อย!”

สาวน้อยกัดมือพี่ชายแล้วคว้าห่วงชูชีพ ก่อนจะกระโจนตามลงไป แต่พอน้ำเย็นกระทบร่าง ความกล้าแกร่งก็เริ่มถดถอย มาเรียเริ่มรู้ตัวแล้วว่ามิสมควรล้อเล่นกับพลังอำนาจของธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ กระแสน้ำพร้อมใจกันถาโถมเข้ามากดทับจนห่วงชูชีพหลุดมือไป มนุษย์ตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งจึงพยายามตะเกียกตะกายต่อสู้กับโชคชะตา สู้กับเสียงหัวเราะจากเทพอนูบิสที่ดังสะท้อนก้องลำน้ำ แต่ทว่าหัตถ์ของเทพคเนมูผู้เป็นบิดาแห่งไนล์ก็ตรงเข้าโอบประคองสาวน้อย และนำพามาเรียที่สำลักน้ำจนสลบไสลให้กลับไปสู่ยุคอดีตที่น่าเศร้าเช่นกัน

แคโรลีนลืมตาขึ้นในสายน้ำ เธอมองเห็นแสงสว่างจ้าที่ก้นแม่น้ำและดูดกลืนให้ดรุณีน้อยหายวับไป ขณะที่ปล่อยร่างกายให้ล่องลอยไปตามกาลเวลา แม้อากาศในปอดจะเหลือเพียงไม่กี่ลมหายใจ แต่สมองกลับปลอดโปร่งที่สุดนับตั้งแต่ได้กลับมาสู่โลกปัจจุบัน ภาพในความทรงจำมากมายลำดับขึ้นมาเป็นขั้นๆราวกับกำลังฉายย้อนอดีต รวมทั้งเจ้าของพระพักตร์คมเข้มที่ประทับฝังอยู่กลางฤทัยผู้นั้น

‘ใช่แล้ว! เราคือราชินีของฟาโรห์เรมอส!’

แต่ไม่เธออยากกลับไปอีกแล้ว... คำหลอกลวงของคนหลายใจมันทำให้หัวใจนี้
แตกสลายไม่มีชิ้นดี คำสาบานว่ารักมั่นเพียงหนึ่งเดียวก็เป็นแค่ลมปาก เรมอสรับเจ้าหญิงคาฟลาแห่งนูเบียขึ้นเป็นราชินีคนที่สองโดยมิคิดถึงจิตใจกันเลยแม้แต่น้อย แคโรลีนกระโดดแม่น้ำหนีกลับคืนสู่ครอบครัวที่รักได้สำเร็จแล้ว ไยหัวใจจึงทุรนทุรายกลับมาอีก รอยชอกช้ำในหัวใจมิสามารถใช้ระยะเวลารักษาได้เลย

‘เรามันโง่งมงาย มิขอปรารถนาพบท่านอีก’

...........................................

แสงแดดร้อนแรงสาดส่องอยู่เหนือยอดไม้ ชาวประมงช่วยกันกู้แหขึ้นมาและร้องเพลงสนุกสนาน ด้วยเพราะความอุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งปีของดินแดนลำน้ำไนล์ องค์เรมอสทรงโหมงานหนักราวกับคนคลั่งเพื่อให้ลืมความทุกข์หลังจากที่ธิดาแห่งไนล์เสด็จลาจากไป นางถูกลวงจากแผนการอันแยบยลของเจ้าหญิงคาฟลากับสังฆราชฮาตูห์ ล่อหลอกให้แคโรลีนเข้าใจพระองค์ผิด ช่างน่าเจ็บใจ

“ยังไม่มีข่าวคราวอีกหรือ? ไยจึงเงียบอยู่อีก! หาแคโรลีนพบหรือไม่?”

“ขอทรงอภัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ ที่ผ่านมากระหม่อมเร่งตามหาโดยมิได้หยุด แต่
ก็จนด้วยเกล้าจริง ๆ”

แม่ทัพคาซัสก้มเศียรลงต่ำ เมื่อได้รับคำตอบเดิม ๆ ถ้วยสุราจึงถูกเขวี้ยงใส่หน้าแม่ทัพคู่ใจจนเสียงดังสะท้อนไปทั่วโถงว่าราชการ ทำเอาหัวใจของชายชาตินักรบหล่นวูบทันทีเมื่อต้องเผชิญกับสายพระเนตรคมกริบดั่งเนตรฮอรัส คำตอบที่น่าผิดหวังซ้ำซากยิ่งจุดประกายเชื้อเพลิงโหมให้ฟาโรห์เผาผลาญทุกสรรพชีวิต

“ทหารมีตั้งมากมายแล้วจะหาไม่พบได้อย่างไร! เพียงแค่ธิดาแห่งไนล์เพียงคนเดียวก็ยังหาไม่พบ จักให้ขายหน้าไปถึงไหน!” พระสุรเสียงตวาดคำรามจนทหารตัวเล็ก ๆ ที่กำลังจะขอเข้าเฝ้าชะงักถอย แต่ก็มิอาจพ้นสายพระเนตรเฉียบขาด

“มีเรื่องอะไร?!”

“อะฟาโรห์... ข่าวด่วนพ่ะย่ะค่ะ! มีรายงานว่าพบตัวธิดาแห่งไนล์แล้ว!”

วรองค์ร่างสูงสง่าผุดลุกจากราชบัลลังก์ทองคำทันที ดวงตาที่แห้งผากคล้ายว่ามีน้ำทิพย์กลับมาหล่อเลี้ยงให้ชุ่มชื้นดังเดิม พลกำลังกลับมาฟื้นฟูฮึกเหิมอีกครั้ง ทรงถลาเข้าไปคว้าสาส์นด้วยสีพระพักตร์ปิติเป็นล้นพ้น เพียงชั่วอึดใจ ขบวนเสด็จก็พุ่งตรงไปหมู่บ้านชาวประมงดั่งเกิดพายุทะเลทรายโหมคลั่ง สิ่งเดียวที่ขอจดจ่อก็คือเจ้ายอดดวงหฤทัยผู้เดียวเท่านั้น

หญิงงามนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มเก่าซ่อมซ่อซึ่งดีที่สุดในหมู่บ้านแล้ว ข้าวปลาอาหารมากมาย รวมทั้งหยูกยาเท่าที่พอจะหาได้เตรียมพร้อมไว้ข้างกาย แต่ผู้มาเยือนจากแดนไกลก็ยังมิฟื้นคืนสติ สาวน้อยในชุดราตรีสีดำขับให้ผิวขาวผ่องยิ่งงามโดดเด่น แต่ทว่าไข้กำลังขึ้นสูงและเนื้อตัวซีดเซียว ริมฝีปากแห้งผาก และยังเหนื่อยอ่อนด้วยพิษไข้ มาเรียสะลึมสะลือขึ้นมาหลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถรับรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้ไหว

ราชบุรุษถีบพระบาท กระแทกประตูเข้าไปหานางโดยมิได้สนพระทัยเหล่าชาวบ้านที่มารอต้อนรับเลยด้วยซ้ำ แม้จะไม่ทราบว่าผิดฝาผิดตัวแต่ก็ยินดีสุดจะหาใดเปรียบ สองพระพาหาตรงเข้ากอดแนบแน่นแล้วพร่ำจุมพิตรับขวัญ โหยหาสุดจะบรรยาย องค์เรมอสจึงพบว่านางกำลังป่วย

“ตัวร้อนเป็นไฟ มีไข้เยี่ยงนี้ พวกเจ้าดูแลเมียข้าอย่างไร?! ไม่ได้เรื่องสักคน”

ถ้วยโถเก่า ๆ ในเพิงพักสกปรกถูกขว้างลงไปแตกกระจายอยู่กับพื้น ไม่ต้องมีใครบอกก็รู้ว่าบุรุษอันดับสูงสุดในแผ่นดินกำลังเดือดดาลเพียงใด เหล่าข้าราชบริพารต่างก้มหน้านิ่งเหงื่อไหลเต็มหน้า แต่ชาวบ้านที่เป็นผู้ดูแลมาเรียต่างสั่นไปถึงกระดูก แล้วทิ้งตัวลงหมอบกราบให้ต่ำติดดินที่สุด แม่ทัพคาซัสจึงพยายามกราบทูลให้คลายพิโรธ แต่ก็มิอาจบรรเทา

“อย่าได้ทรงขุ่นเคืองไปเลยพ่ะย่ะค่ะ แม้ชาวบ้านพวกนี้จะยากจนแต่ก็พยายามดูแลราชินีอย่างสุดความสามารถแล้ว โปรดเมตตาพวกมันด้วยเถิด”

“กล้าดีอย่างไรจึงนำแคโรลีนมานอนพักในที่แบบนี้ หากนางเป็นอะไรขึ้นมา ข้าจักสั่งกวาดล้างให้หมด!”  

“นะน้ำ... แม่คะ หนูหิวน้ำ”

เสียงระโหยโรยแรงดับความกริ้วลงได้ในฉับพลัน อ้อมพระพาหาจึงยิ่งทะนุถนอมเจ้าตัวน้อย ดวงเนตรฉายแสงอ่อนโยนเปี่ยมห่วงใยเหลือคณา ทรงรับน้ำสะอาดมาแล้วจัดแจงป้อนด้วยพระโอษฐ์ให้ทันที หลายต่อหลายคำกว่ามาเรียจะหยุดร้อง เธอจึงหลับต่อด้วยความอ่อนเพลีย แล้วซบตัวเองนิ่งอยู่ในอ้อมอกของชายผู้เป็นพระสวามีของน้องสาว ก่อนจะกลับคืนสู่วังหลวงแห่งดินแดนไอยคุปต์

นำไปสู่ความเจ็บปวดและทรมาน

จากคุณ : natthakarn64
เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 11:57:48




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com