Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
>>>ตำนานรักลำน้ำไนล์<<< บทที่ 3 ติดต่อทีมงาน

บทที่ 3 ความจริงและความเข้าใจผิด

“ไปกันเถิดขอรับ... ธิดาแห่งไนล์”

ชายหนุ่มผิวสีน้ำผึ้ง ดวงตาเป็นประกายคมกล้าและมีเส้นผมหยักศก เดินจูงอูฐบรรทุกสัมภาระเข้ามาพลางทรุดกายลงหมอบกราบ แต่แคโรลีนก็หน้านิ่วขึ้นด้วยความไม่พอใจ

“เราบอกเจ้ากี่ครั้งแล้วว่า ให้เรียกแคโรลีนเฉย ๆ ให้อูฐพักดื่มน้ำพอแล้วหรือจ๊ะ เช่นนั้นก็เดินทางกันต่อเถิดอูเช”

หญิงสาวปีนขึ้นอูฐตัวใหญ่โดยที่อูเชช่วยประคอง เขาแอบลอบมองวงพักตร์พริ้มเพราที่ซีดเซียวหลายครั้งก็รู้ว่านางกำลังฝืนยิ้ม ดวงตาสีฟ้าคู่งามนั้นไร้ประกายและปกปิดเรือนผมสีทองเด่นจนมิดชิด อูเชพบหญิงงามเป็นหนึ่งผู้นี้ที่ริมฝั่งไนล์ใกล้กับดงปาปิรัส แคโรลีนเดินระโหยโรยแรงเข้ามาขอน้ำดื่ม เนื้อตัวเปื้อนคราบดินโคลนสกปรกเพียงใดก็มิอาจดับราศีแห่งจอมนาง ทุกคนในหมู่บ้านต่างยินดียิ่งนักที่ราชินีเสด็จกลับคืนมาแล้ว ทว่าแคโรลีนกลับร่ำไห้ และขอร้องให้เขาพาหลบหนีออกมาเงียบ ๆ แม้จะสงสัยเพียงใดแต่เขาก็ยอมตามพระทัย และใจอ่อนยวบทุกครั้งเมื่อเห็นน้ำพระเนตรไหลรินจนแทบปลิดชีวิตองค์เองต่อหน้าหากเขาไม่พาหนีไป

“ที่เราจะไปอยู่อีกไกลมากไหมจ๊ะ? ที่นั่นสวยมากไหม?”

“ขอรับ... คาดว่าไม่วันมะรืนก็อีกสามวันก็คงจักถึงขอรับ ที่นั่นอยู่ในหุบเขาถัดจากเขาซีนาย ชาวฮีบรูที่นั่นก็เป็นมิตรดี อีกทั้งเงียบสงบและห่างไกลจากโลกภายนอกตามที่ท่านต้องการ”

“ขอบคุณนะอูเช หากไม่ได้เจ้า เราก็คงต้องลำบาก ขอบคุณจริง ๆ ที่พาเรามาถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์”

“หามิได้ขอรับ เมื่อไปถึงที่นั่นแล้ว กระผมจะบอกทุกคนที่นั่นว่าท่านเป็นลูกสาวขุนนางนะขอรับ ธิดาแห่งไนล์..”

“เรียกแคโรลีนจ้ะ อย่าต้องให้เราพูดซ้ำซากเลยนะ เราไม่ถือจริง ๆ”

อูเชน้อมเศียรลงต่ำและรับไมตรีนี้ไว้ด้วยความอบอุ่น แต่ทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง อูเชพยายามชี้ชวนให้แคโรลีนดูสองข้างทางก็เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้บ้าง แต่แล้วอาการวิงเวียนก็ทำให้แคโรลีนต้องหยุดพักเป็นระยะ เธอปกปิดเรื่องเลือดเนื้อเชื้อไขไว้เป็นความลับและเก็บงำเหตุผลที่พยายามหลบหนีฟาโรห์จนหัวซุกหัวซุน อูเชเองก็มิกล้าซักไซ้ ได้แต่ปล่อยให้ธิดาแห่งไนล์ร้องไห้ไปตามลำพังเงียบ ๆ

เขาปล่อยให้แคโรลีนระลึกไปถึงเรื่องที่เชือดเฉือดจิตใจที่สุด ซึ่งทำให้เธอต้องเสียน้ำตาจนแทบไม่มีเสียงจะร้อง

“โอ... ทรงทราบไหมเพคะ หม่อมฉันปวดเมื่อยไปทั้งตัว พระวรกายล่ำสันกำยำเช่นนั้น กับท่านแล้วคงจักร้อนแรงมิแพ้กัน”

เจ้าหญิงคาฟลาแห่งนูเบียเดินยักย้ายลงมาจากเสลี่ยงคานหาม แล้วแกล้งเข้ามากระซิบที่ข้างหู เรือนร่างอวบอัดและผิวสีน้ำผึ้งละมุนตามเชื้อชาติ ทำให้นายทหารหนุ่มหลายคนหลงใหล กิริยามารยาทของนางดูงามชดช้อย สมกับที่เป็นเจ้าหญิงผู้รับหน้าที่ราชทูต รวมทั้งท่าทางก้อร่อก้อติกอยู่ไม่ห่างกายองค์เรมอสก็ทำให้แคโรลีนหึงหวงจนเจ็บพร่า

ขบวนแห่เครื่องราชย์อภิเษกสำหรับคาฟลาถูกส่งมาจากนูเบียอย่างยิ่งใหญ่เมื่อหลายวันก่อน ซ้ำร้ายสังฆราชฮาตูห์ยังเข้ามากราบทูลบังคับให้เธอยอมรับการแต่งตั้งคาฟลาขึ้นมาเสมอในหัวใจของเรมอส ซึ่งในฐานะราชินีแล้ว แคโรลีนจักต้องออกไปยืนรอต้อนรับขบวนของหมั้นด้วยสีหน้าชื่นบาน แต่มันเกินจะทานทนแล้วจริง ๆ  

คำเสียดแทงสั้น ๆ ของเจ้าหญิงคาฟลา ยิ่งทำให้แคโรลีนหลงทาง ร่างบางซบหน้าร้องไห้กับฝ่ามืออยู่หลังเสาหินแกรนิต เดือดร้อนให้ฟาโรห์ที่เพิ่งเสด็จกลับจากเมืองหน้าด่านพร้อมคาฟลาต้องออกเดินตามหา ทรงส่งรอยแย้มสรวลกว้างพร้อมด้วยประทับจูบที่กลางหน้าผาก ก่อนจะโอบประคองสาวน้อยเข้าแนบแผงพระอุระกว้าง และมีรับสั่งน้ำเสียงทุ้มนุ่มนวลเป็นกิริยาอ่อนหวานให้แด่แคโรลีนเท่านั้น

“เด็กขี้แย คิดถึงเราจนร้องไห้เชียวหรือ? ไยจึงไม่ออกไปต้อนรับ เรามีของฝากมาให้เจ้ามากมายเชียวนะ คาฟลาเองก็ช่วยเลือกให้”

เพียงแค่สิ้นรับสั่ง เสี้ยวพระพักตร์ก็สะบัดไปตามแรงตบทันที เพลิงพิโรธก็ถูกจุดระเบิดออกมาและสำแดงความเกรี้ยวกราด แคโรลีนกลั้นเสียงสะอื้นและพยายามสู้กับพญาราชสีห์ที่ขึ้นชื่อว่าดุร้ายที่สุด ในตอนนี้ความเจ็บปวดมันชำแรกออกจากใจจนชาไปทั้งร่าง แคโรลีนไม่สนใจอีกต่อไปแล้วว่าชายผู้นี้เป็นใคร รู้แต่เพียงว่าเขาไม่ใช่คนที่เธอรักอีกแล้ว

“เจ้า! เจ้ากล้าดีอย่างไรจึงทำเยี่ยงนี้!”

“คนโกหก! คนหลอกลวง!”

ทรงกระชากลากถูร่างบางแล้วเหวี่ยงแคโรลีนทิ้งกับแท่นบรรทมทันที ดวงพระเนตรลุกฉานแผดเผา ทรงกัดพระทนต์แน่นขณะกำหมัดทุบโต๊ะและกวาดข้าวของจนราบพนาสูร แม้แต่นาฟเทล่าก็ยังตัวสั่นและมิเคยเห็นพระองค์จะพิโรธโกรธาใส่พระนางน้อยได้ขนาดนี้มาก่อน

“เราคือเจ้าแผ่นดิน จักทำสิ่งใดก็ได้ตามที่ต้องการ เจ้ามิมีสิทธิ์ว่ากล่าว จำเอาไว้!”

เสียงโครมครามและเสียงแก้วแตกยังคงดังสนั่นไปตลอดเส้นทางพระราชดำเนิน แม้ฟาโรห์หนุ่มเลือดร้อนจะมิได้ทุบตีทำร้ายร่างกาย แต่พระองค์ก็เหยียบย่ำจิตใจอีกฝ่ายจนไม่เหลือชิ้นดี ดรุณีน้อยจึงโทษตนเองที่ยอมเผลอใจเผลอกายให้ชายผู้นี้ และหลงเข้าสู่กับดักที่คนใจคดวางแผนไว้แยบยล เธอจึงรวบรวมพลังใจพลังกายอันน้อยนิด เดินโซซัดโซเซออกมาจากห้องบรรทมด้วยจิตใจที่ระโหยโรยแรง

“ท่านจะรับหญิงอีกกี่คนขึ้นเป็นราชินีก็ตามใจท่านเถิด แต่สำหรับแคโรลีนผู้นี้ เราขอสละสิทธิ์”

แคโรลีนยืนนิ่งอยู่ที่บันไดท่าน้ำหลวง แม้ว่าน้ำตาจะไหลพรากแต่ก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองสถานที่ที่เคยคิดว่าจะฝากชีวิตไปตลอดกาลอีกครั้ง เมื่อนึกถึงคืนวันอันแสนสุขก็กลายเป็นเพียงความว่างเปล่า เสียงนางกำนัลตะโกนร้องห้ามดังขึ้น แต่ธิดาแห่งไนล์ทิ้งตัวลงสู่สายน้ำเย็นเฉียบ วิงวอนขอให้สายธารช่วยลบความทรงจำอันเลวร้ายเหล่านี้ไปให้หมด

ในยามนี้ แคโรลีนได้กลับมาอยู่บนแผ่นดิน ณ ห้วงเวลาเดียวกับพระองค์แล้ว แต่หัวใจกลับอ้างว้างและว่างเปล่า เพียงสายลมล่องพัดต้องผิวกายวูบเบาก็แสนเศร้าทั้งวิญญาณ มีอีกชีวิตกำลังจะเกิดมา แต่แม่ผู้อ่อนแอคนนี้ก็มิกล้าพอจะสู้ความจริง ป่านนี้ฟาโรห์กับราชินีคาฟลาคงจะสุขสำราญดี และลูกที่เกิดมาอาจจะไม่มีวันได้พบหน้าพ่อ เธอจะขอหลบไปอยู่คนเดียวเงียบ ๆ แล้วเลี้ยงดูให้เขาเติบใหญ่ตามลำพังเอง

‘ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ข้าต้องพาลูกหนีไปให้พ้นพ่อใจร้ายให้ไกลที่สุด... ช่างขมขื่นระทมทุกข์นัก’

..............................................

มาเรียขยับตัวยุกยิกอีกครั้งเพราะรู้สึกว่ามีใครประทับจุมพิตปลุกที่เปลือกตา ซ้ำยังป้อนยาขมปร่าให้และกระซิบปลอบที่ข้างหู ไหนจะยังโอบประคองกอดรัด ในที่สุดดวงเนตรสีฟ้าสดใสก็กระพริบตาถี่ ๆ แล้วรับแสงอรุณแห่งดินแดนโบราณ แต่ก็ยังยิบหยีและหน้ามุ่ยเพราะแพ้แสงราวกับเด็กเล็ก ๆ ที่ถูกขัดใจ เรียกรอยสรวลของชายหนุ่มที่นอนเขลงอยู่ไม่ห่าง

“อือ... อย่ายุ่ง หนูจะนอน พี่สตีฟออกไปเลย”

มาเรียพลิกตัวหนีคนที่ฉวยโอกาสหอมแก้ม แต่ชื่อของพี่ชายก็เป็นเหตุให้เธอต้องตื่นเต็มตา เมื่อองค์เรมอสคว้าข้อมือเล็ก ๆ มาบีบแน่นด้วยความหึงหวง สาวน้อยจึงสะบัดออกตามสัญชาตญาณแล้วกระเด้งตัวลุกขึ้นทันที แต่ทว่าหน้ามืดจนเซทรุดลงไปกลิ้งอยู่บนเตียงอย่างหมดท่า เสียงหัวเราะทุ้มต่ำของอีกฝ่ายจึงดั่งลั่นไปถึงด้านนอกห้องบรรทม

“เอ้า ๆ จักรีบร้อนไปไหนกันสาวน้อย แต่คราวหลัง อย่าเอ่ยชื่อชายอื่นให้เราได้ยินอีก เราไม่ชอบ” ดวงเนตรสุกใสหันกลับไปจ้องมองคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ มาเรียก็สำแดงความเกรี้ยวกราดให้พระองค์ประจักษ์ทันที

“แก! แกเป็นใคร?! ฉันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? แกลักพาตัวฉันมาเรอะ?!”

เสียงขู่ฟ่อดับเสียงสรวลลงทันควัน สีพระพักตร์ขององค์เรมอสกระตุกเครียดและมิชอบใจที่นางแสดงท่าทางรังเกียจกันถึงเพียงนี้ มาเรียสะบัดผ้าห่มออกจากตัว ก่อนจะพยายามคลานหนีลงจากแท่นบรรทมกว้างใหญ่โดยไว แต่ทว่าพระหัตถ์หนาก็คว้าข้อเท้าเล็ก ๆ ไว้และลากกลับคืนมา หญิงสาวจึงถีบกลับใส่ไม่ยั้ง เพิ่มแรงโทสะของอีกฝ่ายได้ไม่ยาก

“อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ ไอ้บ้า!”

“เจ้าเป็นบ้าอะไรขึ้นมา?! แคโรลีน... ฟังกันก่อนสิ เจ้าจะฟังกันดี ๆ หรือฟังหลังจากถูกเราเปลื้องผ้า”

“ทุเรศ! อย่ามาทำเรื่องหยาบคายแบบนี้นะ”  

เสี้ยวพระพักตร์คมกร้าวกับดวงเนตรทอแสงเป็นประกายทำให้นางนึกเกร็ง คำขู่สั้น ๆ นี้ได้ผลชะงักทันตา แต่มาเรียก็ยังถอยห่าง ทรงเป็นชายร่างใหญ่เปี่ยมมัดกล้าม ไม่ว่าหญิงหรือชายที่ได้พบพักตร์ก็ต้องหลงละเมอในพระโฉม แต่สำหรับมาเรียแล้ว ชายผู้นี้น่ากลัว พระหัตถ์ที่จับข้อขาไว้ย้ายมาคว้าต้นแขนขาวผ่อง ก่อนจะลงโทษนางด้วยจูบเร่าร้อนรุนแรงให้สมกับที่ทรงถูกทอดทิ้งมานานแสนนาน

“ฟังเราก่อนเถิดหนา... สิ่งที่เจ้ารับฟังมาจากไอ้ฮาตูห์และเจ้าหญิงคาฟลาเป็นเรื่องหลอกลวงทั้งเพ เรามิเคยรับใครขึ้นมาเทียบเทียมเสมอเจ้า มิเคยทำผิดต่อเจ้า ไยเจ้าจึงมิยอมฟังความกันก่อน หนีกันไปเยี่ยงนี้ รู้บ้างหรือไม่ว่าเราทรมานเพียงใด แคโรลีน... เราดีใจเหลือเกินที่เจ้ากลับมา”

ทรงยินดีที่เจ้าเนื้อนวลในอ้อมพระอุระนิ่งฟังโดยดุษณี พลางโน้มพระพักตร์เข้ามาใกล้ หมายจะพร่ำจุมพิตรับขวัญกันให้หายคิดถึง แต่ผลลัพธ์ที่มันบังอาจทำให้น้องสาวของเธอร้องไห้ก็คือหมัดลุ่น ๆ ชกเข้าเต็มพระพักตร์ หญิงสาวทุ่มเทเรี่ยวแรงที่ฟื้นคืนจากความป่วยไข้และความแค้นใส่ไปที่มันให้หมด!

“แคโรลีน! มันจะมากไปแล้วนะ ความจริงก็ปรากฎแล้ว ไยจึงไม่ยินดี”

“หุบปาก! แล้วฟังฉันบ้างนะไอ้กร๊วก” สาวน้อยยืดตัวขึ้น ยืนตรงเป็นสง่าสมฐานะ พลางเชิดหน้าและเช็ดคางอย่างถือตัว โดยมิยอมให้ผู้ใดดูถูกและกระทำหยามหมิ่นอีก

“ฉันชื่อมาเรีย! มาเรีย ฮิลตัน! ฉันเป็นพี่สาวฝาแฝดของแคโรลีน”

ท่ามกลางความตกตะลึงของฟาโรห์ มาเรียก็ปราดเข้าไปหาเรื่องก่อน หากกระชากเสื้อและใช้ปืนกรอกปากแบบในหนังมาเฟียได้ก็คงทำไปแล้ว ทว่าคนตัวใหญ่ตรงหน้ามีเพียงภูษาพันบั้นเอวยาวกรอมพระบาท เปิดเปลือยแผงพระอุระหนาหนั่น ขอบพระเนตรที่ลงผงถ่านอย่างประณีตบรรจงทำให้มาเรียนึกไปถึงภาพวาดในงานนิทรรศการไอยคุปต์ และสัญลักษณ์ดวงเนตรแห่งฮอรัสก็ทำให้เธอขนลุกชันขึ้นโดยไม่มีเหตุผล

สาวน้อยจึงก้มมองดูชุดของตนเองบ้างแล้วต้องกลั้นเสียงกรีดร้อง ด้วยเพราะเนื้อผ้าช่างบางเบาแนบเข้ากับเนินถัน ทรงมองคราใดก็เห็นรูปรอยเส้นโค้งอ่อนหวาน ความโกรธทำให้มาเรียมองข้ามความสูงค่าเป็นหนึ่งของชุดนี้ไปสิ้น

“แกใช่ไหมที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด?! เพราะแก! แกลักพาตัวแคโรลีนมาทำไม?! พาตัวแคโรลีนออกมาเดี๋ยวนี้ ฉันจะพาน้องกลับบ้านแล้วแจ้งตำรวจจับแก จำไว้ให้ดี ตระกูลฮิลตันจะไม่ปล่อยแกไว้แน่!”

พูดจบก็ผลักอกชายหนุ่มอีกรอบด้วยความชิงชังน้ำหน้านัก ร่างบางหมุนตัวไปหาทางออก โถงห้องบรรทมกว้างใหญ่และแบ่งย่อยเป็นมุมนั่งเล่นหลายแห่งก็ล้วนวิจิตรงดงาม ม่านวิสูตรทิ้งตัวลงมาจากเพดานเป็นทางซับซ้อนให้คนที่ไม่คุ้นเคยอย่างเธอยิ่งทวีความหงุดหงิด และทิ้งให้เจ้าของห้องประทับนิ่งอึ้งอยู่ตามลำพัง
“แย่ที่สุด! เปิดประตู เปิดเดี๋ยวนี้! ฉันจะออกไปแจ้งความจับแก รับรองเลยว่าได้นอนคุกหฤโหดแน่”

สองมือระดมทุบโครมคราม โดยมิสนใจสักนิดว่ามือจะแตกช้ำ ชั่วอึดใจบานทวารก็เปิดออกตามรับสั่ง แต่เมื่อหญิงงามได้พบกับเหล่าขุนนางและนางกำนัลที่มารอเฝ้าพระอาการด้วยใจจดจ่อ ความเกรี้ยวกราดของนางก็ปลิวหายไป เหลือเพียงแต่ความมึนงง ทำอะไรไม่ถูกเท่านั้น

“ย้อนยุค คำสาปอีกแล้วหรือฉัน? กระโดดน้ำอีกทีดีไหม? แคโรลีน แม่คะ พี่จ๋า... เอ่อ ทุกคน คือว่าฉันไม่ใช่”

แต่พระหัตถ์หนาก็วางกดบนไหล่บอบบางเสียก่อน เมื่อมาเรียเงยหน้าขึ้นก็พบพระพักตร์เศร้าหมองของอีกฝ่าย ทรงเข้ามาห้ามมิให้เธอพูดสิ่งใดออกไป ข่าวการพบธิดาแห่งไนล์ได้แพร่สะพัดจนขวัญและกำลังใจของปวงประชากลับคืนมาแล้ว นางจักต้องสวมบทบาทราชินีตัวปลอมไปก่อนจนกว่าแคโรลีนจะกลับมา
การพบตัวธิดาแห่งไนล์เป็นที่ยินดีและเฉลิมฉลองไปทั่วอาณาจักร หาได้มีใครทราบไม่ว่านางมิใช่ตัวจริง ดังนั้นในหัวอกของพระองค์นั้นต้องย้อนกลับไปตรอมตรมเช่นดังเดิม เมื่อแคโรลีนผู้เป็นที่รักยิ่งก็ยังคงหายตัวไปไร้ร่องรอย

‘เจ้ายอดบูชาเอย... ตอนนี้เจ้าอยู่หนไหน เหตุใดจึงยังมิยอมปรากฎกาย... ฟ้าช่างเล่นตลกนัก!’

........................................

“สายลับที่เราส่งไปรายงานมาว่าธิดาแห่งไนล์ยังประทับอยู่ที่เขาซีนายพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้ท่านแม่ทัพแฝงกายเข้าไปในหมู่บ้านนั้นเรียบร้อยแล้ว รอให้พระองค์เสด็จไปรับเท่านั้น”

มุมพระโอษฐ์เรียวบางยกขึ้นสูงอย่างสมพระทัย พลางไสอูฐเร่งความเร็วขึ้นจนฝุ่นฟุ้งกระจายหลังจากที่ได้รับรายงาน เจ้าชายอิสมิลแห่งฮิตไทต์มิเคยรู้สึกอยากหัวร่อเช่นนี้มาก่อน เป็นเพราะฟาโรห์โง่งมก็ยังมัวแต่ตามหานางอยู่ที่ริมฝั่งไนล์ หารู้ไม่ว่านกน้อยได้บินหลบหนีมาซ่อนเร้นในหุบเขาลึกใกล้ชายแดนฮิตไทต์ต่างหาก ในครานี้เทพีอิชทาร์ได้มอบโอกาสให้พระองค์อีกครั้งแล้ว

‘เจ็บ’

แผลปริศนาที่บ่าซ้ายยังคงมีเลือดซึมออกมาเป็นระยะ มันย้ำเตือนให้พระองค์ทราบถึงความรักที่เจ็บปวด ทรงเคยดักฉุดขบวนเสด็จของราชินีอียิปต์ระหว่างเดินทางไปบาบิโลเนียเพื่ออวยพรงานอภิเษกของเมเรส เจ้าหญิงจึงวางอุบายล่อลวงให้แคโรลีนไปร่วมงานด้วยหวังจะฆ่าทิ้งเสียกลางทะเลทราย

ท่ามกลางความวุ่นวายระหว่างเหล่านักฆ่าที่ลงดาบกับทหารฮิตไทต์และราชองครักษ์อียิปต์ เสียงกัมปนาทก็ดังขึ้นในขณะที่ชายหนุ่มกำลังยื้อยุดฉุดคร่าให้แคโรลีนขึ้นอูฐ

ช่วงเวลา ณ อดีตและปัจจุบันหมุนวนเข้ามาบรรจบ สตีฟได้มาเยือนแท่นขุดเจาะน้ำมันกลางทะเลทราย เป็นจุดเดียวกันกับที่น้องสาวกำลังประสบวิกฤตคับขัน อุบัติเหตุที่ไม่ได้ตั้งใจก็เกิดขึ้นเมื่อสายส่งน้ำมันเกิดระเบิดจนเปลวไฟลุกท่วม พลันเสียงกรีดร้องของน้องสาวที่เขาจำได้ก็ดังขึ้นจากกองไฟ เพลิงต้องยอมสยบให้กับความโกรธที่แล่นไปทั่วร่าง สตีฟยิงปืนฝ่าเปลวเพลิงที่เปิดช่องว่างแห่งมิติเข้าใส่ชายนิรนามทันที

เจ้าชายทรงถอนพระทัยพลางกุมบาดแผล ข่มความเจ็บ แล้วก้าวข้ามผ่านราตรีที่น่าเศร้าไปหานางด้วยใจระทึก ความพยายามตามหาความรักจากหญิงผู้นั้น เมื่อใดจึงจะสมปรารถนา ความทรมานที่กายนี้มิต่างจากใจของพระองค์เลย

“กระหม่อมวางยาเรียบร้อยแล้ว เชิญเสด็จเข้าไปได้เลยพ่ะย่ะค่ะ”

ท่านแม่ทัพที่ปลอมตัวเป็นลุงแก่น้อมศีรษะถวายการต้อนรับ วรองค์ร่างสูงสง่าโพกผ้าคลุมมิดชิดสาวพระบาทเข้าไปช้อนร่างปวกเปียกที่ทรุดหมดสติขึ้นมาแนบพระอุระ และกอดรัดอีกครั้งด้วยความคิดถึงคะนึงหา อูเชที่พอจะหลงเหลือสติเลือนรางอยู่บ้างก็ร้องขอความช่วยเหลือ แต่คนสนิทของเจ้าชายก็กระทืบซ้ำจนสติวูบดับไป กว่าทหารอียิปต์จะมาถึง ขบวนเสด็จที่เคลื่อนไหวราวกับกองโจรของเจ้าชายหนุ่มก็แฝงกายเร้นลับไปกับรัตติกาลเสียแล้ว

...............................................

“ฟื้นแล้วหรือ? ธิดาแห่งไนล์”

เมื่อแคโรลีนปรับสายตาได้ก็ผงะถอยทันที เพราะคนที่ได้ชื่อว่าเป็นอริอันดับหนึ่งโอบกอดเธอบนหลังอูฐ ทรงเป็นเจ้าชายรูปงามที่หญิงทั่วหล้าต่างยกย่อง ทว่าดวงพระทัยมั่นคงแน่วแน่คล้ายเก็บไว้เพื่อเฝ้ารอรักที่ไม่มีวันสมหวัง พระพักตร์คมคายปรากฎรอยยิ้มแฝงความเจ็บปวดไว้บางเบา เมื่อร่างบางดิ้นรนโดยไม่กลัวว่าจะตกจากหลังอูฐเลยสักนิด ท่อนพระกรจึงเข้าโอบรัดแน่นและตวาดดุ ทำให้สาวน้อยยอมหยุด

“เมื่อไหร่ท่านจึงจะเลิกทำเช่นนี้เสียที? จักเลวจักร้าย เราก็มีฐานะเป็นราชินีแห่งเรมอส ท่านมิสมควรเสียมารยาทหลายครั้งหลายคราเช่นนี้”

“เราจะเลิกก็ต่อเมื่อเจ้ายอมมาเป็นชายาของเรา!”

แคโรลีนเริ่มวิงเวียนและเหนื่อยที่จะอธิบายให้คนผู้นี้เข้าใจอีก สายลมหนาวพัดวูบมาจนต้องห่อร่างและสั่นไปทั้งกายใจ ราชบุรุษจึงห่มผ้าคลุมผืนหนาให้ แคโรลีนรับไว้โดยนิ่งเงียบ พลางใช้สายตามองหาทางหนีทีไล่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เมื่อขบวนอูฐค่อย ๆ ไต่ไปตามความสูงของภูผาชัน บ่งบอกว่ากำลังก้าวเข้าสู่ดินแดนบนเทือกเขาสูง แต่แล้วสายตาของราชินีอียิปต์ก็ปะทะเข้ากับท่านแม่ทัพแห่งฮิตไทต์

“ดีนักนะ หลอกลวงกันได้ ใช้น้ำใจของผู้อื่นเป็นเครื่องมือเช่นนี้ มันอยู่ในหนังสือตำราของชาวฮิตไทต์กระมัง”

“อภัยให้กระหม่อมด้วย กระหม่อมเสียใจ”

คำต่อว่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือของราชนารีที่มีน้ำพระทัยงดงาม ทำให้เขานึกละอาย ชายวัยกลางคนผู้นี้ปลอมแปลงเข้าแฝงกายเป็นคนป่วยพลัดหลงมาสลบที่หน้าบ้าน พระนางก็ช่วยดูแลและหาข้าวหายาให้ตลอดมา ความเอื้ออารีและอ่อนโยนของแคโรลีน ทำให้คนที่อยู่ใกล้พลอยชื่นบาน แต่หน้าที่ที่ต้องรับใช้ต่อเจ้าชายผู้เป็นเจ้าชีวิต ต่อให้ต้องฆ่าคนทั้งโลก เขาก็ต้องทำ!

“อย่าได้ไปเคืองมันเลย เจ้าก็ยังไม่เปลี่ยนไปสักนิด พบกันคราใดก็ยังถอยหนี หวังว่าคราวนี้คงจะไม่เตะเราอีกนะ”

เสียงสรวลดังขึ้นในลำคอด้วยความขบขัน พลางลูบคางคมสันไปมา แต่แคโรลีนงุนงงนัก เพราะตั้งแต่เกิดมา เธอยังไม่เคยเตะใครเลยสักครั้ง

“ที่นี่อยู่ห่างจากแม่น้ำไนล์มาก อย่าคิดว่าจะหนีกลับลงน้ำไปได้เหมือนคราวที่แล้วเลย” ร่างบางถูกดึงให้แนบชิดพระวรกายร้อนผ่าว ทรงเชยพระพักตร์ค้างไว้ที่บ่าเล็กๆ ก่อนจะซุกไซ้ซอกคอจรดช่วงไหล่บอบบาง

“โปรดหยุดการกระทำต่ำช้าด้วย ท่านพูดถึงเรื่องอะไร เราไม่เข้าใจสักนิด เรามิเคยพบท่านที่ริมฝั่งไนล์เสียหน่อย”

“อย่ากลบเกลื่อนกันเลยธิดาแห่งไนล์ จำอ้อมอกที่เรานอนกอดเจ้าไม่ได้เสียแล้วหรือ? ใครกันที่ดิ้นมาขอซุกตัวในอกอุ่นนี้ ถึงแม้ว่าตอนนี้เจ้าจะอภิเษกไปแล้ว แต่เราก็ยังคงยืนยันว่ารักเจ้าเช่นเดิม” ทรงจัดผ้าเนื้อหนามาคลุมกันลมภูเขาให้เข้าที่เข้าทาง พลางนึกขันและหลงเข้าใจผิดที่เห็นสาวน้อยนิ่งเงียบไป แล้วคิดตู่เอาเองว่านางกำลังเขินอาย

“ท่านพบนาง... เอ่อ พบเราที่ใด? ผมสีทองรึ?”

“ตอนนั้นเจ้านอนสลบอยู่ที่ดงปาปิรัส ทุกแว่นแคว้นต่างก็ออกระดมตามหาธิดาแห่งไนล์ที่ถูกสิงโตทำร้ายจนตกน้ำไป แต่โชคชะตาก็ดลให้เจ้ามาพบกัน เรายังนึกอัศจรรย์นักที่เนื้อตัวของเจ้ามิมีร่องรอยขีดข่วนแม้เพียงเส้นขน เทพธิดาแท้ ๆ”

“เลวทรามนัก ท่านถือดีอย่างไรจึงเปลื้องผ้าหญิงดูตามใจชอบเช่นนี้”
แคโรลีนแน่ใจแล้วว่าหญิงผู้นั้นก็คือมาเรียพี่สาวฝาแฝดของเธออย่างไม่ต้องสงสัย สิ่งเดียวที่จะแยกแยะความแตกต่างของสองพี่น้องได้ก็คือจุดตำหนิ แผลสิงโตกัดที่หลังของแคโรลีนก็ยังคงปรากฏรอยสีชมพูจาง ๆ อยู่เล็กน้อย แต่เจ้าชายฮิตไทต์ก็ยังมิรู้ว่าหญิงในราตรีนั้นเป็นคนละคนกัน

‘พระเจ้า... ไยจึงคอยตามกลั่นแกล้งบุตรของพระองค์เช่นนี้ด้วย’

จากคุณ : natthakarn64
เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 21:03:36




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com