Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ฺBody Talk (Boys love) บทที่ 13 ติดต่อทีมงาน

บทที่ 1 http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/09/W11123446/W11123446.html

บทที่ 2 http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=vanessia&month=10-2011&date=11&group=3&gblog=2

บทที่ 3 http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/10/W11141850/W11141850.html

บทที่ 4 http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/10/W11163455/W11163455.html

บทที่ 5 http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/10/W11175649/W11175649.html

บทที่ 6 http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/10/W11182060/W11182060.html

บทที่ 7 http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/10/W11194112/W11194112.html

บทที่ 8 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11228490/W11228490.html

บทที่ 9 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11629250/W11629250.html

บทที่ 10 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11639907/W11639907.html

บทที่ 11 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11657287/W11657287.html

บทที่ 12 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11687075/W11687075.html

บทที่ 12.1  http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=vanessia&month=10-02-2012&group=3&gblog=17

บทที่ 12.2 http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=vanessia&month=02-2012&date=10&group=3&gblog=18

บทที่ 12.3 จบตอน http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=vanessia&month=10-02-2012&group=3&gblog=19

บทที่ 13

ชีวิตที่เป็นปกตินั้นเป็นอย่างนี้เองซินะ ผมยกกาแฟขึ้นจิบขณะมองต้นไม้ ดอกไม้ที่โผล่สีสันหรอมแหรมตามระเบียงบ้านคน รถรา ผู้คนที่เดินบนถนนไกลๆนอกหน้าต่างห้องแพนทรี ทุกอย่างที่เห็นล้วนมีวิถีของมันเอง ผมวางถ้วยกาแฟบนจานรอง กระเบื้องกระทบกันก่อให้เกิดเสียงกังวาลใสเล็กๆ ผมก้มมองกาแฟที่เหลือในถ้วยแล้วถอนใจ ผมควรหาวันว่างสักวันเพื่อไปหาหมอ ให้หมอพูดออกให้กระจ่างว่าผมผิดปกติหรือชีวิตของผมเพียงถูกดึง ถูกพาให้ไปอยู่ในวงเวียนของเซ็กส์ไม่จักจบสิ้น หรืออย่างอื่น ผมอยากมีวิถีที่ปกติเหมือนสายลมที่พัดพา เหมือนสายน้ำที่ไหลริน เหมือนดอกไม้ที่เบ่งบาน เหมือนท้องฟ้าที่ใส่กระจ่างด้วยสีคราม เหมือนแมวน้อยที่โดดโลดเต้นยามสนุกสนานกับหนวดและหางของตัวเอง และสำคัญผมไม่อยากทำให้เมษาเจ็บปวดอีก ถึงเขาจะเข้าใจโลกมากกว่าผมแค่ไหน แต่แค่ไหนกันล่ะที่ร่างกายของผมจะทนรับความยับเยินต่อไปได้อีก

บอกตามตรงทุกวันนี้ผมยังกลัวทศวรรษแต่ไม่แน่ใจอีกเหมือนกันว่าหรือผมกลัวตัวเอง ผมจึงอยากคุยกับหมอให้สิ้นสงสัย ผมหันหลังพิงโต๊ะก้มหน้ามองปลายรองเท้าที่มันวาว....ลึกๆแล้วร่างกายของผมยังรู้สึกกับทศวรรษ แม้มีเซ็กส์แบบไม่เต็มใจกับเขาก็จริงแต่หากหลังจากนั้น ร่างกายของผมก็รื่นรมย์ราวเพิ่งพบรักที่คิดถึงเสมอ ไม่ชอบเลยที่เป็นร่างกายกับจิตแยกส่วนกันแบบนี้ยามอยู่ใกล้กับเขา  ถ้าเหลียวกลับมาถามจิตใจผม  สำหรับทศวรรษมันคือความว่างเปล่า เป็นอะไรที่ผมไร้ความรู้สึกนานแล้ว อาจจะเสียดายคำว่ารักของเขาที่มันสายเกินไป ผมรักคนอื่นไปแล้ว แต่มันก็แค่นั้น ตรงนี้เองทำให้ผมกลัวตัวเอง กลัวจะเป็น SEX ADDICT ไปจริงไม่ใช่แค่แนวโน้ม ผมทรุดตัวนั่งชันเข่าข้างหนึ่ง อีกข้างนาบลงกับพื้น วางมือบนเข่าที่ตั้งฉากพื้น  ผมอยากเป็นคนที่ปกติ มีคนรักที่รักกันไปตลอด รักในแบบที่เรียกได้ว่าเป็นของกันและกันอย่างแท้จริง เราสองคนจะเพศใดก็ช่าง มันไม่สำคัญเท่าหัวใจของเรา ผมสูดหายใจลึกเงยหน้ามองตู้ติดผนังด้านบน  เคยอยู่กับความคิดที่ว่ามันยากเย็นนักที่จะทำให้ใครสักคนมารัก ทว่าตอนนี้กลับเห็นว่าการดำรงตนในยามมีความรักนั้นมันช่างยากกว่ามากนัก

“อรุณสวัสดิ์ค่ะรุจน์” คุณน้ำฟ้าโผล่หน้าเข้ามาในห้องพร้อมเสียงหวานใส ราวสกุนาขับขานยามอรุณรุ่ง หล่อนอยู่ในชุดกางเกงกับสูทเข้าชุดกันดูเท่เหมือนทอมบอย
“อรุณสวัสดิ์ครับ” ผมรีบจะลุกขึ้น แต่คุณน้ำฟ้ากลับก้าวเข้ามานั่งตรงหน้าผม หล่อนจับขาผมเหยียดตรงก่อนจะก้าวมาคุกเข่าขึ้นนั่งบนตักของผม ผมพ่นหัวเราะออกมาเบาๆ นี่ถ้าวันนี้หล่อนไม่ใส่กางเกงผมคงหัวใจวาย ถึงเราจะคุ้นเคยร่างกายกันมากมายขนาดไหนก็เถอะ
“ดื่มกาแฟไหม?”ผมเลื่อนมือไปจับเอวของหล่อน หล่อนก็ยื่นแขนมาวางบนไหล่ผม

“ก็ดีนะ”ว่าแล้วก็ยื่นหน้ามาจูบกับผม ริมฝีปากผมรับรู้ได้ถึงกลิ่นและรสของลิปติกที่หล่อนเคลือบริมฝีปากน่าหลงใหลนั้น ในนาทีเดียวกันนั้นผมก็คิดถึงทศวรรษเขาจะรับรู้และสัมผัสมันบ้างหรือไม่ว่าหอมหวานเพียงใด
“ดื่มที่รุจน์ดื่มนั่นล่ะ หวานดี” หล่อนผละออกจากผมพร้อมเลียริมฝีปาก
“ไหนว่าเราจะไม่...” ผมกำลังจะพูด แต่หล่อนก็จูบผมอีก ผมอดใจตอบสนองไม่ได้ เราเลยนัวเนียกันพักใหญ่คล้ายจะเรียกความทรงจำให้ร่างกายกระนั้น ผมยกมือประคองใบหน้าสวยงามนั้นไว้ในฝ่ามือขณะจูบกับหล่อน

ทว่าในเวลาที่เรากำลังลิ้มความหวานของกันและกันนั้น ผมและคุณน้ำฟ้าก็ได้ยินเสียงหนึ่ง เราหันไปพร้อมกัน บนพื้นมีช่อดอกไม้ตกอยู่ เมษาจ้องพวกเราแทบไม่กระพริบ เขาถอยออกจากห้อง หัวอกผมเย็นวาบไปถึงเท้า คุณน้ำฟ้าลุกขึ้นยืนเดินไปหยิบช่อดอกไม้ ด้านผมเอาแต่หายใจรัวคล้ายคนกำลังจมน้ำ

“หึๆๆ พี่ทศส่งมาให้น่ะค่ะ พักนี้เขาไม่ค่อยว่างมาหาฟ้า นี่คงรู้สึกแย่เลยส่งดอกไม้มาขอโทษที่หายหน้าไป ว่าแต่ เมื่อครู่น่ะแย่จัง เมษามาเห็นซะได้” คุณน้ำฟ้าหอบช่อดอกไม้ที่เมษาทำหล่นไว้ออกไป ส่วนผมลุกไม่ขึ้น ในสมองมีแต่คำพูด คำพูด และคำพูด จะพูดอย่างไรให้ฟังแล้วมันไม่ใช่การแก้ตัว จะพูดอย่างไรถึงบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น ต่อหน้าเมษาผมรู้ว่าผมไม่สามารถพูดว่ามันไม่มีอะไร ผมโกหกเขาไม่ได้ด้วยว่าที่จริงผมรู้สึกดีมากกับการได้จูบกับน้ำฟ้า ในบางคืนก็ยังหลับใหลไปกับความฝันที่มีเรือนร่างของหล่อน  แต่การใช้ชีวิตกับใครสักคนบางทีคำโกหกเล็กน้อยหากมันสามารถรักษาสิ่งที่เราหวงแหนไว้ได้ก็ควรทำไม่ใช่หรือ

หากวันนี้ผมโกหก แล้ววันหน้าเมษารู้ว่าผมกับคุณน้ำฟ้ายิ่งกว่าจูบ ที่พูดว่าความลับไม่มีในโลกเป็นคำอมตะ คำไม่มีวันตายคำนี้เองที่จะออกฤทธิ์กับเรื่องโกหกของผมในวันนั้น  ผมไม่กล้าวาดภาพเลย  ในยามนั้นเมษาคงไม่มีวันหันกลับมาหาผมอีก ผมยันตัวลุกขึ้นจัดสูทและไทด์ให้เข้าที่ก่อนจะเดินออกจากห้องแพนทรี ผมจะพูดทั้งหมด ผมอาจชอบคนอื่นทีผ่านเข้ามาในชีวิต อาจมีหลงทางไปบ้างกับความรู้สึกที่ยังคงชื่นชม หากแต่เมษาคือความรักที่ผมมั่นใจ คือคนที่ผมสนใจใคร่ดีต่อความรู้สึก คือสิ่งสำคัญที่ผมไม่อาจสูญเสียไปได้  ผมเหลียวมองหาเมษาไปตามทางเดินจนมาถึงโถงกลางแกลลอรี่ แต่เขาไม่อยู่ที่ใดที่ผมมองหา ขณะที่ผมกำลังจะก้าวเข้าห้องทำงานตัวเอง คุณน้ำฟ้าก็ตะโกนมาจากข้างบนหน้าห้องทำงานของหล่อน
“รุจน์คะขึ้นมาคุยงานกันหน่อยซิ อ้อ เมษาออกไปหาลูกค้านี่นา งั้นฟ้าลงไปคุยกับรุจน์ที่ห้องรุจน์ดีกว่า” หล่อนพูดพลางเดินลงบันไดมาที่ผม ท่วงท่าอันสง่างาม เรือนร่างเพรียวบางน่ามอง สะโพกที่แกว่งย้ายตามจังหวะการก้าวเท้าชวนให้ใจเต้นเมื่อจับตามอง แต่ทั้งหมดนี้กลายเป็นเรื่องไกลตัวผมในอารมณ์นี้ ผมเม้มปากแล้วเดินไปเปิดประตูห้องทำงานผายมือเชิญหล่อน แล้วเดินตามเข้าไป ประตูที่เปิดยังคงค้างไว้เช่นนั้น

13.1
เมษาพ่นควันบุหรี่สีเทาทึบลอยขึ้นสู่อากาศตรงหน้า ควันเทาค่อยๆจางสลายลงเมื่อลอยขึ้นสูง ท้องฟ้าที่ถูกบดบังด้วยควันหนาเมื่อครู่กลับมากระจ่างตรงหน้าอีกครั้ง
“ว้าว วันนี้ใส่สูทผูกไทหล่อเชียว จะมาชวนเดทอีกครั้งในรอบเกือบสิบปีก็ไม่บอกจะได้แต่งตัวสวยๆมาแต่เช้า” ซีซ่าในชุดพนักงานบริษัทที่หล่อนสังกัดเดินยิ้มมาหา เมษาพลิกนาฬิกาข้อมือแล้วขยี้บุหรี่ลงบนทรายที่อยู่ส่วนบนของถังขยะ
“พอดีมาส่งของให้ลูกค้าแถวนี้น่ะ พักเที่ยงแล้วซินะ ไปหาอะไรกินกัน ผมเลี้ยงเอง”
“ปกติพักเที่ยงฉันจะไปหาลูกที่เนอสเซอรี่” ซีซ่าทัดผมยาวกับใบหู หล่อนยิ้มอ่อนหวานประกอบคำพูด แสดงให้เห็นว่าสำหรับหล่อนแล้วในตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าลูกอีกแล้ว

“อืม งั้นวันนี้ผมไปด้วย อยากเห็นลูกเหมือนกัน” เมษาออกเดินนำไปก่อน ซีซ่าเร่งฝีเท้าจนตามเขาทัน หล่อนคล้องแขนเขา
“วันนี้แกคงดีใจพ่อกับแม่พร้อมหน้าไปหา”
“นั่นสินะ พอคิดถึงรอยยิ้มของแกผมก็อยากเห็นขึ้นทันทีเลย”
“ตอนนี้น่ะรู้จักอมยิ้มแบบหล่อแบบคุณพ่อแล้วนะ”
“จริงเหรอ? อย่างนี้สาวๆที่เนอสเซอรี่ก็ติดตรึมซิ”

“วันนี้สงสัยจะถูกคุณพ่อแย่งซีนล่ะมั้ง มาชุดโก้เสียด้วย” ซีซ่ายื่นไปหยิกแก้มเมษา เขาถอนใจมองไปอื่นพลางอมยิ้ม
“นี่ๆยิ้มแบบนี้เลยที่ตาหนูยิ้มน่ะ”
“นี่ชุดทำงาน แต่ก็แหละเนอะหล่อกระชากใจจริงๆล่ะ” เมษาหันมากระเซ้า ซีซ่าหัวเราะกิ๊ก
“ต้องถามคนที่นายอยู่ด้วยเสมอซิจ๊ะ”
เมษาหยุดตีหน้าเป็น สีหน้าของเขานิ่งสนิท ซีซ่าหยุดหัวเราะหล่อนบีบแขนเมษาเบาๆ
“เมษา”
“ผมอยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง ผมรักเขามากๆ”

“นึกอยู่แล้วสักวันนายต้องพูดออกมา บอกตามตรงว่าตอนแรกที่เราต้องเลิกกันฉันไม่เข้าใจว่าเราสองคนไปกันไม่ได้ตรงไหน เพราะอะไรทั้งที่เราเข้ากันได้ดี และเหมาะสมกันขนาดนั้น เคยคิดเหมือนกันถึงสาเหตุอย่างอื่นที่มันแตกต่าง แต่มันก็มากเกินกว่าที่ฉันจะจินตนาการตามไหว ไม่รู้ว่ากลัวหรือรับไม่ได้  มาถึงตอนนี้ฉันหมดสงสัยแบบหมดจดแล้ว” ซีซ่าปล่อยมือจากเมษา หล่อนยิ้มพร้อมทั้งยื่นมือให้
“ฉันไม่รู้สึกอย่างอื่นเลยนอกจากยินดี”
“ขอบคุณครับ” เมษายื่นมือออกไปจับ
“แล้วจะฉันจะได้รู้จักไหม?”
“แน่นอน ผมอยากให้เขารู้จักทุกคนในอดีตของผม เราจะอยู่ด้วยกันแบบไร้ข้อกังขาอันที่อาจเชื่อมโยงให้เราอาจต้องเป็นไปในปัจจุบัน นั่นเป็นความคิดของผม แต่ผมไม่รู้ในส่วนของเขาเลย” เมษาเปลี่ยนเป็นพึมพัมในตอนท้าย

“อะไรนะ?”
“อะไรเหรอ?” เมษาหันมายิ้ม
“เมื่อครู่ตอนท้ายนายว่าอะไรนะคะ รถผ่านไปผ่านมาไม่ได้ยินค่ะ”
“อือ ผมบอกว่าอยากได้ของฝากอะไรจากเชคไหม”
“เอ๊ะ!? จะไปเชคหรือ?
“ใช่ ไปทำงานน่ะ เป็นครั้งแรกที่บินเดี่ยวโดยไม่มีผู้ใหญ่ประกบเสียด้วย ตื่นเต้นชะมัด” เมษาลูบคางพลาง
เหม่อมองท้องฟ้าราวกับครุ่นคิดครู่เดียวก็ลดสายตาลงมาหัวเราะ

“ท่าทางนายจะสนุกมากกว่าประหม่ากลัวนะ”
“ใครจะไปรู้  อะไรๆก็เหมือนท้องฟ้าล่ะ เดี๋ยวก็ใส เดี๋ยวหลัว เดี๋ยวฝนตก ไปยาลใหญ่” เมษายักไหล่เดินนำไปก่อน ซีซ่าสูดหายใจมองถนนที่เต็มไปด้วยรถราแล้วหันไปมองเมษา ไม่รู้ทำไมหล่อนถึงรู้สึกถึงสิ่งที่เมษาพยายามฉาบหน้าด้วยรอยยิ้มและความรื่นเริง ซีซ่าก้าวเดินตามเมษา แผ่นหลังกว้าง รูปร่างสูงสง่างามนั้นก้าวย่างอย่างมั่นคง แบบว่าเขาแสดงออกจนเกินเหตุไปหรือเปล่า?

13.2

ผมยอมรับว่าตกใจในขั้นที่เรียกว่าช๊อคก็ว่าได้ เมื่อได้ยินคุณน้ำฟ้าพูดเรื่องงานของผมกับเมษา ผมต้องอยู่คอยดูแลมิสเตอร์ซุรุงะ ฮิโรยูกิที่กำลังจะเดินทางมาพักผ่อนส่วนตัวที่เมืองไทย ส่วนเมษาถูกส่งไปซื้อภาพที่สาธารณะรัฐเชค ชิ้นงานเป็นคำสั่งซื้อของลูกค้าที่มีความเป็นวีไอพีน้อย ในความเห็นน้ำฟ้าคือหล่อนอยากให้เมษาฝึกจากงานง่ายๆก่อน  ในอนาคตสองคนควรจะส่งไปได้สองประเทศหรือสองที่ ไม่ใช่เป็นอย่างทุกวันนี้ที่ผมต้องเหนื่อยคนเดียว  ผมจำใจพยักหน้ารับทราบตารางงานทั้งหมด น้ำฟ้าวางกำหนดการเดินทางและสถานที่ท่องเที่ยวที่สตาฟของซุรุงะส่งอีเมล์มาให้ตรงหน้า ผมเลื่อนมือไปหยิบขณะที่หล่อนก้าวเดินออกจากห้อง

“พักนี้พี่ทศไม่มาที่นี่เลย รุจน์คิดถึงเขามั้ย” จู่คุณน้ำฟ้าก็หันมาถามผม
“ทำไมผมต้องคิดถึงด้วยล่ะครับ” ผมย่นคิ้วพลางหัวเราะ
“ก็เขาเป็นลูกค้าคนสำคัญของรุจน์ นี่นา” หล่อนยิ้มพลางเดินกลับเข้ามาในห้อง มายืนเผชิญหน้ากับผม ดวงตากลมโตดั่งไข่มุกดำแห่งอันดามันของหล่อนจับจ้องใบหน้าของผมก่อนจะหลุบต่ำไปที่มือที่กำลังจับไทด์ของผม
“ตอนนี้ฟ้าเหนื่อยจังค่ะ ความรักมีเส้นทางที่เราไม่สามารถไปถึงอย่างง่ายดายเลย หัวใจของผู้ชายสักคน หากอยากครอบครองให้ได้ จะต้องทำอย่างไร ต้องทำมากแค่ไหน ฟ้าไม่รู้จริงๆ ที่ผ่านมาความรู้สึกว่าชอบนั้นเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับความรัก แต่พี่ทศไม่เคยก้าวคืบหลังจากเริ่มต้น ในความรู้สึกของฟ้านับจากวันแรกที่ได้รับรู้ว่าเราจะเริ่มต้นนั้นช่างเป็นวันที่วิเศษ ดอกไม้คลี่กลีบจะผลิบานมันสวยงามที่สุด” คุณน้ำฟ้ากัดปากล่าง หล่อนไม่ได้หลั่งน้ำตา หล่อนยังคงมีสายตาเรียบง่ายให้ผม

“เวลาผ่านไปดอกไม้ของฟ้ากับพี่ทศกลับคล้ายกับถูกแช่แข็งมันไม่เคยผลิบานใน การที่พี่ทศขอเวลามันกลายเป็นการกดปุ่มเร่งความเย็นให้ดอกไม้ยังอยู่แค่นั้น ในทางกลับกันความรู้สึกแช่มชื่นกลับค่อยจางหาย  ตัวฟ้าเองที่มีความหวังก็เริ่มอ่อนล้า” คุณน้ำฟ้าก้มหน้ามองปลายเท้าของเราสองคน

“รุจน์คงสมน้ำหน้าฟ้าอยู่ล่ะซิ ที่ฟ้าเป็นฝ่ายขอเลิกแล้วถลันไปหาพี่ทศอย่างไร้เยื่อใย แล้วท้ายสุดก็ส่อแววจะไปไม่รอด” น้ำเสียงของคุณน้ำฟ้าเบาลงจนผมใจสะท้อนหายห้วง
“ไม่หรอกครับ เราเข้าใจกัน ผมไม่คิดแบบนั้นหรอกครับนอกจากขอเป็นกำลังใจให้” ผมวางมือบนไหล่ผอมบางของผู้หญิงที่ทำให้ผมร้อนรุ่มเสมอยามอยู่ชิดใกล้
“การที่ผู้ชายคนหนึ่งไม่ใยดีกับความรู้สึกอันอ่อนไหวเป็นไปของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า หมายความว่าเขานั้นหัวใจอยู่กับคนอื่นใช่ไหมรุจน์ คุณก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน ช่วยอธิบายให้เข้าใจหน่อยซิ”

แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 55 23:39:51

จากคุณ : vannessia
เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 55 23:28:52




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com