Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
การเข้าโรงพยาบาลครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของแม่ ติดต่อทีมงาน

วันนี้เมื่อ ๒ ปีที่แล้วเป็นวันแรกที่แม่เข้าโรงพยาบาล

ขณะที่ฉันยังต้องนั่งเรียนวิชาปัญหากฎหมายมหาชน ทันทีที่เรียนเสร็จฉันนั่งเครื่องไปหาแม่ทันที

กว่าชั่วโมงที่อยู่บนเครื่องเหมือนนานเป็นปี ณ เวลานั้นฉันเหมือนคนสติแตก

ทุกอย่างวนเวียนอยู่ในหัวแต่ไม่สามารถร้อยเรียงเป็นถ้อยคำได้

ทันทีที่เครื่องลงจอด....................

ฉันโทรถามอาการแม่จากเื่พื่อนแม่โดยมิชักช้า เธอบอกฉันให้ "ทำใจ"

"แม่เป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย..."

วินาทีนั้น เหมือนความฝัน มันเป็นฝันร้ายที่สุดเท่าที่ฉันเกิดมา ฉันค่อยๆทรุดลงนั่งบนเก้าอี้

ในสนามบิน เหมือนทั้งสนามบินมีฉันเพียงลำพัง น้ำตาค่อยๆไหลอาบแก้มครั้งแล้วครั้งเล่า

แต่มันยังไม่มากพอที่จะเป็นตัววัดความเสียใจของฉันได้  ฉันร้องไห้ตลอดระยะทางไปหาแม่

ในสมองคิดแต่เพียงว่า ฉันจะใช้ชีวิตต่อจากนี้ต่อไปอย่างไร?

เพราะ แม่ คือ ทั้งชีวิตและจิตวิญญาณของฉัน...


และเมื่อถึงโรงพยาบาล....

สิ่งแรกที่ฉันทำคือ "การหยุดร้องไห้" มันเป็นเรื่องที่ยากที่สุดในชีวิตที่เคยทำมา

ฉันปาดน้ำตาครั้งแล้ว ครั้งเล่า แต่เหมือนน้ำตามันจะไม่ได้น้อยลงไปเลย

ฉันต้องรีบหยุดมันเสียก่่อนที่จะเดินเข้าไปหาแม่



ระหว่างนั้น เพื่อนๆแม่ต่างนั่งรอการกลับมาของฉัน ทุกคนต่างลุ้นว่าฉันจะมาถึงทันเวลาหรือไม่


วินาทีที่เห็นแม่...เบื้องหน้าคือ แม่ แต่เหมือนไม่ใช่แม่...

อุปกรณ์ทางการแพทย์ระโยงระยางเต็มร่างกาย ทั้งสายออกซิเจน เครื่องวัด

ชีพจรและร้ายกว่านั้นแม่ต้องเจาะปอด เพราะหายใจเองไม่ได้แล้ว

ฉันถลาเข้าไปกอดแม่แล้วบอกเธอว่าฉันมาแล้ว อดทนอีกหน่อย เดี๋ยวก็หาย

แม่จะต้องไม่เป็นอะไร แม่ยังไม่เห็นฉันสวมครุยธรรมศาสตร์ที่แม่อยากเห็นเลย

ฉันยังไม่สำเร็จอะไรให้แม่ภูิมิใจสักอย่าง...


ตลอดระยะเวลาที่อยู่โรงพยาบาล ๓ วัน ฉันไม่เคยร้องไห้ให้แม่เห็น

ทุกคนคงคิดว่าฉันเสียสติไปแล้ว แต่มันจะมีประโยชน์อะไรที่ต้องฟูมฟาย

เพราะมันไม่ได้ทำให้แม่หายจากโรคร้ายนี้ ซ้ำร้ายถ้าฉันร้องไห้ฟูมฟาย

คนที่ไม่สบายใจที่สุด คือ "แม่"


วินาทีนี้ ฉันต้องรวบรวมความเข้มแข็งทั้งหมดของคนอายุ ๒๔ ปี เพื่อแสดงให้เห็นว่า

ถ้าวันข้างหน้าไม่มีแม่แล้ว ฉันต้องอบู่ให้ได้...อยู่ให้ได้แบบไม่มีข้อยกเว้น


"แม่" คือ ตัวแทนของความเข้มแข็งทั้งหมดที่ฉันมี แม่ไม่เคยบ่นเวลาแม่เจ็บ

แม่ไม่เคยร้องไห้เวลาแม่อ่อนแอหรือแม้่แต่เวลาที่แม่ป่วย แม่เจ็บปานจะขาดใจ

แม่ก็ไม่เคยจะแสดงความอ่อนแอให้คนข้างนอกเสียกำลังใจ

ดังนั้นถ้าฉันจะร้องไห้ต่อหน้าแม่มันคงจะดูขี้ขลาดเกินไป

ตอนนี้ เวลานี้ ฉันคิดได้แค่เพียงว่า ฉันจะจัดการกับชีวิตอย่างไร?

จะดูแแลตัวเองในวันที่ไม่มีแม่ให้ดีเฉกเช่นวันที่มีแม่ได้อย่างไร?

และมากกว่านั้นชีวิตฉันจะดำเนินต่อไปอย่างไร?

"ในวันที่ไม่มีเงาของแม่ที่คอยบังแดด บังลมและให้ร่มเงา"








ปล... ฉันจะมาเล่า "วินาทีที่แม่จากไป...." ในครั้งหน้า

เป็นเรื่องที่แอนเคยเขียนไว้ใน FB วันนี้ลองเอามาแบ่งปันให้ได้อ่านค่ะ :)

จากคุณ : นางร้ายลิเก๊ลิเก
เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 55 10:06:02




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com