ภายในร้านอาหารมีชื่อ สายตาของบรรดาลูกค้าที่มีบางตาเริ่มหันมองเป็นตาเดียวเมื่อรถสปอร์ตสีแดงเพลิงปราดมาจอดที่หน้าร้าน ตามด้วยร่างอวบอิ่มกลมกลึงของดารานางแบบสาวคนดังเปิดประตูลงจากรถและก้าวเข้ามาด้วยเสื้อตัวหลวมสีสวยเนื้อเบาสบายแต่กระนั้นขนาดของทรวงอกที่เกินมาตรฐานก็ยังดันเนื้อผ้าขึ้นมาจนโดดเด่น และกางเกงขาสั้นอวดเรียวขาคู่สวยสวมใส่รองเท้ามีส้นเพียงเล็กน้อยพอเดินได้สบาย ส่งให้ร่างงามยิ่งระเหิดระหงยามเยื้องย่าง เส้นผมยาวสีน้ำตาลปล่อยเป็นลอนสลวยเคลียร์แผ่นหลังบาง ดวงตาคู่สวยที่คอยสะกดตรึงเหล่าบุรุษบดบังไว้ภายใต้แว่นตากันแดดราคาแพง
หญิงสาวก้าวตรงไปยังโต๊ะมุมใน ซึ่งชายหนุ่มผู้มีดีกรีเป็นลูกชายนายธนาคารใหญ่ในชุดเรียบเนี๊ยบนั่งคอยอยู่ก่อนแล้ว ใบหน้าขาวสะอาดคมเข้มแย้มยิ้มละไมก่อนลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นเธอเดินเข้ามาใกล้
ราโมน่าถอดแว่นตาก่อนเอ่ยถาม มานานรึยังคะ
สักสิบนาทีได้ครับ
พนักงานสาวนำรายการอาหารมาให้ เมื่อเห็นว่าลูกค้าเจ้าประจำทั้งสองยอบตัวนั่งลงเก้าอี้เรียบร้อยแล้ว..และรอเพียงไม่นาน อาหารตามออร์เดอร์ก็ถูกนำมาวางบนโต๊ะ และบทสนทนาระหว่างมื้ออาหารก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง
แล้วงานอีเว้นวันนี้จะเลิกดึกไหมครับ
คงราวๆสาม-สี่ทุ่มนั่นล่ะค่ะ
กว่าจะกลับถึงคอนโด ก็คงดึกเหมือนกันนะ
ก็..นิดหน่อยค่ะ แต่โม้นาชอบนะคะ เพราะตอนกลางคืนน่ะรถไม่ติด ไม่ต้องเครียดเหมือนตอนกลางวัน
ถ้าวันนี้พี่ไม่ติดธุระล่ะก็ พี่จะอาสาเป็นสารถีให้ทั้งวันเลย
หญิงสาวยิ้มกว้าง แต่น่าเสียดายนะคะที่พี่ปอไม่ค่อยมีเวลาว่าง ไม่อย่างนั้นล่ะก็ โม้นาคงทำงานสบายไปเลย
ใช่..พี่ก็เสียดาย
ปริพันธ์พึมพำด้วยประโยคเรียบง่าย แต่ในความรู้สึกนั้นช่างแสนเสียดายเป็นที่สุด เพราะช่วงจังหวะเวลาในหน้าที่การงานของเขาและเธอมันไม่ค่อยตรงกันเลย แม้เขาจะพยายามหาเวลาแล้วก็ตาม แต่มันก็ยังไม่มากพอตามความต้องการของหัวใจที่เรียกร้องอยากอยู่ใกล้ชิดกับเธอมากกว่าที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้..แต่ดูเหมือนว่าอุปสรรคใหญ่มันไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของช่วงเวลาเท่านั้น แต่เป็นที่ตัวของเธอเองต่างหาก ที่แม้จะให้ความสนิทสนมกับเขามากกว่าผู้ชายคนอื่นที่ตกเป็นข่าว แต่ดูเหมือนว่าสี่ห้องหัวใจของเธอนั้นได้ถูกใครบางคนจับจองไว้แล้ว เธอถึงไม่เปิดโอกาสให้เขาเปลี่ยนสถานะจากพี่ชาย กลายเป็น คนรัก เสียที
ราโมน่านั่งทานอาหารไปเรื่อยๆพร้อมบทสนทนากับบุคคลที่ทำให้เธอรู้สึกสบายใจที่สุด แม้จะถูกสายตาหลายคู่จับจ้องแต่เธอก็ชินเสียแล้ว และก็รู้ว่ามีใครบางคนแอบถ่ายรูป ที่เดี๋ยวมันก็จะกลายเป็นข่าวตามหน้าหนังสือกรอสซิปทั่วไป..ซึ่งเธอก็เบื่อที่จะใส่ใจแล้ว คิดเสียว่าเป็นการทำบุญทำทานช่วยเหลือคนอื่นให้มีรายได้พิเศษบ้าง
หลังจากมื้ออาหารผ่านไป สองหนุ่มสาวพากันเดินเที่ยวไม่นาน ก็ต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่การงานของตน
ขณะที่ราโมน่ากำลังนั่งให้ช่างแต่งหน้า และเห็นเจ๊ต้อยผู้จัดการส่วนตัวเดินป้วนเปี้ยนกระวนกระวายเหมือนว่ามีเรื่องกลุ้มใจเสียหนักหนา และมีแต่เธอเท่านั้นที่จะช่วยเหลือได้ ซึ่งท่าทางเช่นนี้เธอรู้สึกเบื่อหน่ายเต็มทนแล้ว
ผู้จัดการหนุ่มหายใจฟืดฟาดเท้าเอวอย่างหงุดหงิด ในที่สุดก็หมุนวนเดินเข้ามาใกล้ ก่อนจิกกัดช่างแต่งหน้าทันที เอ้าแม่คุณ จะแต่งหน้าให้สวยยันไปถึงชาติหน้าเลยรึไง นี่มันใกล้เวลาจะเริ่มงานแล้วนะ
ช่างแต่งหน้าเพศเดียวกันตวัดหางตาขุ่นเคืองก่อนบรรจงปัดบรัชออนบนแก้มเนียนอีกเล็กน้อยก็หันเก็บอุปกรณ์ทั้งหมดใส่กระเป๋า และสะบัดหน้าใส่เจ๊ต้อยก่อนหิ้วกระเป๋าเดินออกจากห้อง
ราโมน่าถอนใจเฮือก เงยหน้าขึ้นมองผู้จัดการหนุ่มที่กำลังทำปากขมุบขมิบไล่หลังช่างแต่งหน้า ก่อนจะหันมายิ้มหวานเจี๊ยบให้เธอ เจ๊มีอะไรจะพูดกับโม้นาหรือคะ
คือ.. เจ๊ต้อยเริ่มอ้ำอึ้งเป็นเสต็ปแรก จากนั้นก็เริ่มทำหน้าเศร้าเป็นเสต็ปที่สอง เจ๊ต้อยรับงานมางานหนึ่งจ้ะ..
งานอะไรคะ ราโมน่าถามเสียงเย็นเช่นเดียวกับสีหน้า
เอ่อ..เป็น..คอลเลกชั่นชุดนอนจ้ะ กระมิดกระเมี้ยนตอบ และทันที่ที่เห็นว่าอีกฝ่ายอ้า:-)ยปฏิเสธ เจ๊ต้อยก็ชิงงัดเสต็ปที่สามออกมาด้วยการกะพริบตาทำท่าจะร้องไห้ เจ๊ต้อยรู้ว่าโม้นาไม่อยากรับงานพวกนี้ แต่ครั้งนี้เจ๊จำเป็นต้องใช้เงินจริงๆนะ แล้วอีกอย่างเจ๊ก็สกรีนชุดเรียบร้อยแล้วด้วย รับรองเซตนี้ไม่โป้ไม่เปลือย แค่เรียกเลือดลมให้แล่นซู่ซ่ากระชุ่มกระชวยเท่านั้นเอง
ให้เลือดกำเดากระฉูดน่ะสิไม่ว่า
ราโมน่าต่อให้พร้อมลุกขึ้นยืน..คราวที่แล้ว เธอก็หลงคารมยอมถ่ายแฟชั่นชุดว่ายน้ำจนถูกลุงของเธอเรียกไปสวดเสียยกใหญ่ คราวนี้อย่าหวังเลยว่าเธอจะยอมใจอ่อนอีก
โธ่โม้นาจ๋า ครั้งนี้ครั้งเดียวจริงๆนะ..ไม่งั้นเจ๊ตายแน่ เจ๊ต้อยพยายามอ้อนวอน ราโมน่าเขม็งมองผู้จัดการส่วนตัวของเธอก่อนยืนยันหนักแน่น
ไม่ต้องมาคร่ำครวญเลย ต่อให้เจ๊ไปฆ่าตัวตายโม้นาก็ไม่สน แต่โม้นาจะช่วยเป็นเจ้าภาพเลี้ยงกระเพาะปลาให้สักคืนก็แล้วกัน
พูดจบก็หันเดินไปหาออแกนไนเซอร์ เจ๊ต้อยกระทืบเท้าขัดใจที่เด็กในสังกัดแข็งข้อจนทำให้ส่วนแบ่งก้อนโตหายวับไปในอากาศ ซึ่งถ้าหญิงสาวไม่ใช่ลูกหลานของผู้มีอิทธิพลล่ะก็ คงถูกเขาจับใส่พานทองประเคนพวกนักการเมืองหรือไม่ก็เสี่ยกระเป๋าหนักคนใดคนหนึ่งไปแล้ว ฮึ!
หลังจากจบงานอีเว้นเจ๊ต้อยพยายามตื๊ออีกรอบ แต่หญิงสาวปฏิเสธเสียงแข็งและขู่ว่าถ้าตื๊อมากๆเข้า เธอจะไปอยู่กับผู้จัดการคนอื่น เจ๊ต้อยจึงรีบถอยทัพคอตกกลับบ้านไป เพราะรู้ว่ามีนักปั้นหลายคนจ้องฉกหญิงสาวไปจากเขา เนื่องจากหญิงสาวยังเป็นสินค้าที่สร้างรายได้อีกมหาศาล
ราโมน่าถอนใจฟืด เปลี่ยนเสื้อผ้ากลับเป็นชุดเดิม..แค่เหนื่อยที่ต้องปั้นหน้าฉีกยิ้มหวานๆให้กับผู้คนภายในงานแล้ว ยังต้องมาหนักใจกับเรื่องบ้าบอคอแตกอีก..น่าเบื่อจริงๆ!
หญิงสาวขับรถด้วยความเร็วไม่มากนัก เพียงแค่คิดว่าจะต้องกลับไปสถานที่ที่มีแต่ความเปลี่ยวเหงา หัวใจเธอก็รู้สึกห่อเหี่ยวจนบอกไม่ถูกเลยจริงๆ
และขณะที่แล่นบนเส้นทางที่ค่อนข้างเงียบ รถเก๋งกลางเก่ากลางใหม่สีดำมีคนนั่งมาสามคนก็ขับตีขนาบข้างขึ้นมา และคนนั่งฝั่งผู้โดยสารทั้งเบาะหน้าและหลังต่างเลื่อนกระจกลงโผล่หน้ามาตะโกนแซวเธอลั่นถนน
ขับรถคนเดียวเหงาไหมจ๊ะ
ให้พี่นั่งเป็นเพื่อนไหมจ๊ะคนสวย
ไอ้พวกบ้า! ไปให้พ้นเลยนะ ราโมน่าเข่นเขี้ยวนึกก่นด่าสารพัดและคิดจะเหยียบคันเร่งหนี ซึ่งมั่นใจว่าความเร็วรถของเธอเหนือกว่าแน่นอน แต่ในวินาทีนั้น..อีกฝ่ายกลับเร่งเครื่องแซงหน้าขึ้นไปก่อนพร้อมกระทำในสิ่งที่หญิงสาวไม่คาดฝัน เมื่อเจ้าสองคนเมื่อครู่ดันขว้างไข่ดิบใส่หน้ากระจกรถแตกกระจายบดบังวิสัยทัศน์ ก่อนจะพากันหัวเราะลั่นจากไป
หญิงสาวจอดรถเข้าข้างทางกรี๊ดลั่นรถทั้งเจ็บใจ ทั้งคลั่งแค้นกับการกระทำของพวกมัน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเปิดประตูลงไปแช่งชักหักกระดูกไล่หลังไปเท่านั้น แล้วก็กลับเข้ารถเปิดสวิตซ์ฉีดน้ำพร้อมไล่ที่ปัดน้ำฝนทำความสะอาดแผ่นกระจก แต่ก็ล้างคราบสกปรกออกไม่หมด จึงคว้ากล่องกระดาษทิชชู่เปิดประตูรถลงไปอีกครั้ง ขยุ้มดึงแผ่นกระดาษเช็ดคราบสกปรกอย่างกระฟัดกระเฟียด
วันนี้มันเป็นวันซวยอะไรของฉันเนี่ย ไอ้บ้าเอ้ย!
เธอยังคงงุ่มง่ำตั้งหน้าตั้งตาเช็ดกระจก จนไม่ทันเห็นว่าเจ้ารถคันเดิมได้เลี้ยวกลับมาอีกครั้ง..กว่าจะเห็น ก็เมื่อตัวรถปราดมาจอดใกล้ และชายฉกรรจ์ทั้งสามลงจากรถตรงเข้าคุกคามอย่างรวดเร็วจนเธอหนีกลับขึ้นรถไม่ทัน
นะ..นี่ พวกนายมาทำไมกันอีก ไปให้พ้นเลยนะ
ราโมน่าถามเสียงตื่นพลางขยับถอยหนี แต่ก็ถูกต้อนจนติดรถของตัวเอง ซึ่งสายตาหื่นกระหายของแต่ละคนนั้นกวาดมองโลมเลียทั่วเนื้อตัว ทำให้เธอขยะแขยงระคนหวาดกลัวจนแทบร้องไห้
..ถอยออกไปนะ พวกนายต้องการอะไร..จะเอาเงินเหรอ ฉันมีอยู่ในกระเป๋าน่ะ เอาไปได้เลย มือถือก็อยู่ในนั้น คงขายได้หลายตังค์อยู่นะ..
เธอพยายามเปล่งเสียงสั่นเครือต่อรองกับกลุ่มคนที่กำลังรุมล้อมรอบตัว ภาวนาให้พวกมันสนใจในสิ่งที่เธอเสนอ ซึ่งหนึ่งในสามแสยะยิ้มเย็น
เงินน่ะเราเอาแน่ รวมทั้งตัวเธอด้วย แม่ดาราคนสวย
และทันทีที่พูดจบ ทั้งสามต่างกรูเข้ารุมจับหญิงสาวที่ส่งเสียงกรี๊ดลั่นพยายามวิ่งหนีแต่สองแขนนั้นฝ่ามือใหญ่ของชายทั้งสองคว้าไปล็อกแน่น และหมายพาไปจัดการตามคำสั่งของผู้ว่าจ้างที่ต้องการให้พวกเขารุมโทรมแม่ดาราสาวคนนี้พร้อมเผยแพร่ภาพให้คนทั่วไปได้เห็น ซึ่งพวกเขาต่างรีบกระโจนรับข้อเสนอทันที..ได้ทั้งเงิน ได้ทั้งผู้หญิงที่สวยสะเด็ดขนาดนี้ เป็นใครก็เอาทั้งนั้น!
ปล่อยฉันนะ! ปล่อย! กรี๊ด..ช่วยด้วย!!
ราโมน่าพยายามดิ้นสุดฤทธิ์พร้อมกรีดร้องไม่หยุด จนทั้งสองแสบแก้วหูไปหมดแล้ว แต่เจ้าเพื่อนร่วมขบวนการอีกคนมันยังไม่สามารถรวบขาหญิงสาวได้เสียที
เฮ้ย! เร็วสิโว้ย เดี๋ยวพ่อมืงก็แห่กันมาหรอก
เจ้าคนที่โน้มตัวพยายามรวบขาทั้งสองข้างของหญิงสาว เงยใบหน้ามาเถียงเพื่อน มืงไม่เห็นรึไง :-)ดิ้นฉิ_หาย ถีบจนกูเจ็บไปหมดแล้ว
ก็ทุบเลยสิวะ :-)โง่อยู่ได้
เออว่ะ เจ้าคนฟังคล้อยตามเพื่อน แต่ในวินาทีนั้นเอง ราโมน่าหาจังหวะได้จึงรีบยกเข่ากระแทกเสยเข้าปลายคางอย่างจัง จนคนร่างใหญ่ตรงหน้าผงะล้มหงายวูบไหวเห็นดาวเดือนเลยทีเดียว
เฮ้ย!
ชายทั้งสองต่างอุทานกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเพื่อน จึงถูกปลายของรองเท้าส้นสูงกระทืบลงบนปลายเท้าของชายคนหนึ่งอย่างจังจนเต้นโหยง หญิงสาวรีบสะบัดแขนจนหลุดและหันไปใช้สองนิ้วจิ้มตาของอีกคนจนร้องลั่นตามเพื่อนเช่นกัน..แม้ว่าจะสะบัดหลุดมาได้ แต่เธอก็ไม่สามารถกลับขึ้นรถได้ทันแน่ จึงหันหลังกลับหมายวิ่งไปยังถนนอีกเส้นที่เห็นว่าพอมีรถแล่นผ่านไปมา พร้อมส่งเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือลั่น เผื่อจะมีใครได้ยินบ้าง
เฮ้ย! หนีไปโน้นแล้ว
เจ้าคนที่ถูกกระทืบปลายเท้าโวยวาย รีบแตะเพื่อนที่นอนมึนกับพื้นให้รีบลุกขึ้นไล่ตามโดยเร็ว พร้อมแค่นคำรามฤทธิ์มากนักนะมืง จับได้ล่ะน่าดู
ทั้งสามเร่งฝีเท้าสุดฤทธิ์ ในที่สุดก็คว้าร่างอวบอิ่มละมุนมือได้สำเร็จ ก่อนเงื้อมือตบใบหน้าสวยนั้นเต็มอารมณ์โกรธจนล้มคว่ำลงไปกับพื้น
ราโมน่ารับรู้ถึงรสเลือดที่ค้างอยู่ในโพรงปากพร้อมๆกับอาการเจ็บชาของซีกแก้ม พลางกระถดร่างถอยหนีก่อนยกมือไหว้วอนขอชายทั้งสามที่กำลังย่างสามขุมเข้ามาเสียงเครือ พร้อมน้ำตาร่วงรินกับชะตากรรมที่จะส่งให้เธอตกนรกทั้งเป็น
ฉันไหว้ล่ะ..ปล่อยฉันไปเถอะนะ..อยากได้อะไรก็เอาไปเลย ฉันจะไม่แจ้งความด้วย แต่อย่าทำอะไรฉันเลยนะ..ฉันไม่เคยทำอะไรให้พวกนายเลย..ขอร้องล่ะ..ปล่อยฉันไปเถอะนะ
เธอไม่ได้ทำ แต่ลุงของเธอเป็นคนทำ
คุณลุง!?
ก็นายชนาธิปไม่ใช่เรอะที่ส่งคนไปลอบกัดเจ้านายของพวกเราจนเกือบเดี๊ยงไง..ถ้าจะโทษ ก็โทษที่ลุงของเธอก็แล้วกัน
ไม่! คุณลุงไม่ได้ส่งคนไปทำร้ายคุณอชิรนะ พวกนายเข้าใจผิดแล้ว ราโมน่ารีบแย้ง เมื่อคิดว่าพอจะเข้าใจอะไรบ้างแล้ว แต่อีกฝ่ายตะคอกกลับ
ไม่ต้องมาแก้ตัวให้ลุงของเธอหรอก เพราะใครๆเขาก็รู้กันทั้งนั้น พร้อมยื่นมือมาฉุดดึงหญิงสาวที่ส่งเสียงกรี๊ดลั่นพร้อมดิ้นรนอีกครั้งให้ลุกขึ้น ก่อนส่งกำปั้นหนักหน่วงกระแทกเข้าบริเวณหน้าท้องบอบบางอย่างจังจนร่างที่ดิ้นรนตัวงอฟุบลงไปกับวงแขนแกร่งที่รองรับไว้
สิ้นฤทธิ์ซะที..จัดการตรงนี้เลยดีกว่าไหมว่ะ
แต่เพื่อนอีกคนรีบแย้งเฮ้ย ไม่ได้หรอกเดี๋ยวใครมาเห็น รีบพาไปดีกว่า
ก็ได้วะ
ชายหนุ่มที่มีร่างกายใหญ่โตที่สุดในกลุ่มก้าวเข้ามาแบกร่างไร้สติกลับขึ้นรถ แต่ทั้งหมดจำต้องหันขวับตามแสงไฟหน้ารถที่สาดเข้ามาขัดจังหวะ และไม่กี่อึดใจ..ร่างสูงเพรียวกำยำเปิดประตูลงจากรถยนต์คันใหญ่ให้หนึ่งในสามลอบกลืนน้ำลายอย่างขลาดๆ เมื่อเห็นใบหน้าของผู้มาใหม่ชัดเจน
บรรลัยแล้ว!
.......................................................................
จบตอนค่า โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ
จากคุณ |
:
ระรินใจ
|
เขียนเมื่อ |
:
21 ก.พ. 55 04:42:31
|
|
|
|