Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
สาวมาดเซอร์ หัวใจเจอรัก บทที่ 5 : สงบเงียบ เรียบร้อย มีน้ำใจ ติดต่อทีมงาน

ตอนที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11668398/W11668398.html

ตอนที่ 2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11677401/W11677401.html

ตอนที่ 3
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11691103/W11691103.html

ตอนที่ 4 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11702461/W11702461.html






“งานใหม่”

คมคิดยื่นแฟ้มสีดำส่งให้เพียงขวัญกับอู๊ดที่นั่งอยู่ตรงข้าม เธอรับแฟ้มมาเปิดดูพร้อมๆ กับคมคิดที่พูดขึ้นต่อ

“ผ้าอ้อมเด็กน่ะ ไหนๆ ก็ทำแป้งเด็กมาแล้ว ก็เด็กต่อเนื่องไปเลยแล้วกัน”

เพียงขวัญยื่นแฟ้มต่อให้อู๊ด แล้วทำหน้าเหยเกเมื่อนึกถึงฝูงเด็กจำนวนมหึมาที่ต้องรับมือ แป้งเด็กเอย ผ้าอ้อมเด็กเอย ต่อไปจะอะไรอีกล่ะที่เกี่ยวกับเด็ก แชมพูเด็ก สบู่เด็ก น้ำยาซักผ้าเด็ก

โอ๊ย...เดี๋ยวก็จับเด็กมากินเสียเลยนี่

“พี่ไม่คิดว่าขมจะเบื่อบ้างหรอ เจอแต่เด็กเนี่ย” เพียงขวัญแอบโวย ถ้าเป็นไปได้ก็จะขอเปลี่ยน

แต่คมคิดกลับหัวเราะเหอะๆ “ก็เจอเด็กเยอะๆ เข้าไว้ เผื่อจะได้อยากมีเด็กเป็นของตัวเองไง”

“พี่ก็พูดไป” เพียงขวัญพูดเก้อๆ

“ผมว่ามันจะจับเด็กหักคอเคี้ยวเล่นซะมากกว่า” อู๊ดเอ่ยแซวขึ้นมา

“ฉันไม่ใช่ยักษ์ไม่ใช่มารนะเว้ย” เพียงขวัญหันขวับไปมองจิก

“ก็คล้ายๆ แหละ แต่เป็นเวอร์ชั่นม้าดีดกะโหลก”

“ไอ้...” เพียงขวัญตั้งท่าจะด่าเพื่อนปากเสีย แต่ได้ยินเสียงกระแอมของคมคิดขัดขึ้นมาก่อน เลยยอมหุบปากลงแต่โดยดี

“วันนี้แคนดี้ไม่ว่าง ก็ดูรายละเอียดคร่าวๆ ที่แคนดี้เตรียมมาให้ไปก่อนแล้วกัน แล้วค่อยเรียกประชุมกันอีกที”

เพียงขวัญได้ยินคมคิดสรุปแบบนั้นก็ยิ่งเบ้หน้าเข้าไปใหญ่ แคนดี้เป็นเออีงานนี้อีกแล้วหรือนี่ ถึงแม้ไม่ควรจะเอาเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวมาพัวพันกัน แต่ถ้าคมคิดจะกรุณา เธออยากให้เตวิชมาเป็นเออีงานนี้มากว่า เธอกับเขาจะต้องประสานงานกันได้ดีเป็นที่สุด แต่ถ้าเป็นแคนดี้ งานนี้คงประสานงากับเธอเต็มๆ อย่างแน่นอน เรียกปอเต็กตึ้งมาสแตนด์บายรอได้เลย
         
เพียงขวัญกับอู๊ดออกจากห้องของเจ้านายกลับมานั่งทำงานต่อ ทุกคนในฝ่ายต่างก็ทำงานของตัวเอง ธนัชที่นั่งอยู่ตรงข้ามเพิ่งได้งานใหม่มาเหมือนกัน ของนายนั่นรู้สึกจะเป็นน้ำดื่มอะไรสักอย่างและเตวิชเป็นเออีงานนั้นด้วย

เฮ้อ...ได้เตวิชเป็นเออีเสียด้วย อิจฉาจังเลยน้อออ....

“พี่ๆ ครับ หิวไหม ผมซื้อขนมมาฝาก”

เพียงขวัญหูผึ่งทันทีที่ได้ยิน ไม่ได้หูผึ่งเพราะมีลาภปากมาถึงที่ แต่หูผึ่งที่ได้ยินเสียงของเตวิชต่างหาก เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นหนุ่มหล่อเดินยิ้มถือกล่องขนมก้าวเข้ามาที่ฝ่ายครีเอทีฟ

“พี่เป้กินไหม” เตวิชเปิดกล่องให้ธนัชดู ข้างในมีโดนัทชิ้นโตวางเรียงกันอยู่ พร่องไปบ้างแล้วเพราะเตวิชผ่านไปที่ฝ่ายอื่นก่อน

“ยังไม่หิว” ธนัชส่ายหน้าปฏิเสธ

“เอาน่าพี่ ไม่ต้องเกรงใจ” เตวิชดึงกระดาษทิชชู่บนโต๊ะของธนัชขึ้นมาหนึ่งแผ่นและหยิบขนมวางลงบนนั้น ก่อนจะบอกต่อด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “เผื่อหิวไงพี่”

เจอสีหน้ายิ้มๆ เต็มใจให้ขนาดนี้ ธนัชเลยต้องกล่าวขอบใจไปโดยปริยาย

เตวิชเดินไปโต๊ะอื่นต่อ เขาเป็นน้องใหม่ของบริษัทที่ขึ้นชื่อเลยว่านิสัยดี มีน้ำใจมาก แถมพูดจาสุภาพด้วย พูดกับลูกค้ายังไงก็พูดกับเพื่อนร่วมงานอย่างนั้น นี่แหละที่ทำให้เพียงขวัญปลื้ม ยิ่งเมื่อเขายื่นกล่องขนมมาให้พร้อมกับรอยยิ้มหวานๆ เธอก็แทบจะละลายไปซะเดี๋ยวนั้นเลยทีเดียว

เพียงขวัญกล่าวขอบคุณเสียงหวาน แล้วกระมิดกระเมี้ยนหยิบขนมไปชิ้นหนึ่ง

เตวิชเดินกลับออกจากฝ่ายครีเอทีฟไปแล้ว แต่เพียงขวัญยังนั่งอมยิ้มไม่ยอมหุบ ถ้าไม่กินได้ เธอจะไม่กิน และจะเก็บขนมชิ้นนี้ไว้ในอ้อมใจ ใส่กรอบเลี่ยมทองดูแลเป็นอย่างดี แต่เพราะเก็บไม่ได้ เธอจึงละเลียดกินอย่างอิ่มอกอิ่มใจ ขนมจากคนที่ชอบรสชาติมันสุดยอดอย่างนี้นี่เอง

“เอ้า” ธนัชลุกพรวดจากเก้าอี้ แล้วหยิบโดนัทมาวางไว้บนโต๊ะตรงข้าม “เห็นชอบมันนัก ยกให้”

เพียงขวัญที่กำลังยกกาแฟขึ้นจิบแทบจะสำลักกาแฟ เมื่อธนัชพูดออกมาโต้งๆ แบบนั้น ถึงหมอนี่จะรู้ว่าเธอชอบเตวิช แต่คนอื่นยังไม่รู้นี่นา แล้วนายเที่ยวมาป่าวประกาศความลับในใจของเธอต่อหน้าธารกำนัลอย่างนี้ได้ไงเนี่ย!!!

“หา! ไอ้ขมชอบไอ้เตเหรอ”  

เพียงขวัญหันขวับไปหาคู่หู อ้าว...นั่นก็ปากสว่างขึ้นมาอีกคนล่ะ เจ๋งก็ยิ้มๆ มองมาแบบจับผิด ส่วนตัวต้นเหตุกลับหย่อนตูดนั่งลงตามเดิมอย่างไม่ทุกข์ร้อน ทำเป็นมองหน้าจอคอมพิวเตอร์โดยไม่สนใจว่าได้พูดอะไรออกไปบ้าง

สาวเซอร์จ้องคนปากโป้งอย่างอารมณ์เสีย เธอชอบเตวิช นั่นเป็นความจริง ถึงธนัชจะรู้ แต่เธอก็ไม่สน เพราะเธอก็ยังวางตัวเป็นปกติ ไม่ได้หาญกล้าไปจีบเขา เธอกำลังซาบซึ้งกับความรักข้างเดียวแบบนี้ การได้ปลื้มใครสักคนมันมีความสุข เป็นความรู้สึกเหมือนได้เติมพลังใจทุกวัน วันละเล็กละน้อยในยามที่ได้เจอกันเวลาทำงาน เธอชอบความรู้สึกแบบนี้และอยากจะค่อยๆ พัฒนาไปทีละขั้นแบบช้าๆ

แต่ธนัชทำมันสูญสลายไปหมดเลย!

เพียงขวัญนึกย้อนถึงท่าทีของตัวเอง... หรือเราแสดงออกทางสายตาชัดเจนเกินไป ถ้ารู้กันหมดอย่างนี้ต่อไปก็ต้องโดนแซว พูดกันให้แซ่ดทั้งบริษัท ถ้าน้องเขาไม่ชอบเราเราก็แย่น่ะสิ คงเข้าหน้ากันไม่ติดแน่ ว้า~ไม่เอาๆ …

“ถ้ามีน้ำใจ พูดจาเพราะๆ ฉันก็ชอบทั้งนั้นแหละ” เพียงขวัญแก้ตัวไปแกนๆ ตวัดสายตามองไปที่อู๊ด เจ๋งและธนัช กะจะแขวะต่อแล้วว่าไม่ใช่คนพูดจาหยาบๆ อย่างพวกแกหรอก

แต่จู่ๆ ธนัชก็ลุกพรวดจากเก้าอี้เดินดุ่มๆ หายไปไหนของเขาก็ไม่รู้ ทำเอาเจ๋งงงว่าเพื่อนเป็นอะไรไป ทำเหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง

“มันจะไปไหนวะ” เจ๋งบ่นเบาๆ แต่อู๊ดได้ยินและตอบให้แบบไม่ต้องใช้เวลาคิดเลยว่า

“ไปขี้มั้ง”

เจ๋งหัวเราะร่วนกับคำสันนิษฐานของอู๊ด แต่เพียงขวัญนั่งหน้าเฉย จะไปไหนก็เชิญไปเลยไม่สนใจอยู่แล้ว

เมื่อธนัชไปเรื่องเตวิชก็หยุดไปด้วยโดยปริยาย ขนมบนโต๊ะที่ธนัชยกให้ยังวางอยู่อย่างนั้น เพียงขวัญเลยหยิบมาเข้าปากเสียเลย โดยคิดว่าเป็นของที่เตวิชให้ ไม่ใช่ธนัชก็แล้วกัน            


เวลาเลิกงานเลยผ่านมาได้ชั่วโมงหนึ่งแล้ว แต่ฝ่ายครีเอทีฟยังอยู่กันครบเป็นปกติ พวกเขาเลิกงานไม่เป็นเวลาเสมอ เลขาฯ ของคมคิดสะพายกระเป๋าเดินมาหาเจ๋งที่โต๊ะ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติอีกเช่นกัน เพราะสองคนนี้เป็นแฟนกัน คบกันมากว่าสองปีแล้ว ทั้งคู่คุยกันกระหนุงกระหนิงได้ยินแว่วๆ ว่าจะชวนกันไปดูหนัง      

“พี่อู๊ด พี่ขม พี่เป้ ไปด้วยกันไหมคะ” กุกกุ๊กหันมาชวนตามประสาคนมีน้ำใจ คนถูกชวนก็พร้อมใจกันปฏิเสธไม่อยากจะไปเป็น กขค.

เพียงขวัญเห็นคู่รักประจำออฟฟิออกจากบริษัทแล้วก็พลิกข้อมือดูนาฬิกาบ้าง เห็นเวลาก็ตกใจ จะหกโมงเย็นแล้วนี่นา! เธอรีบเก็บของบนโต๊ะ ช่วงนี้จะทำงานจนดึกไม่ได้เพราะเธอไม่ได้อยู่คนเดียวอีกแล้ว คนที่อยู่ด้วยก็ไม่มีกุญแจห้อง เธอไม่อยากปล่อยให้แมนนี่ต้องนั่งตบยุงรออยู่หน้าห้องอย่างเมื่อวานอีก

“ฉันกลับก่อนนะ” เพียงขวัญพูดขึ้นลอยๆ เป็นการบอกทุกคนในฝ่ายและรีบลุกพรวดพราดออกไป เผอิญแก๊งขนมหวานเดินผ่านมาพอดี แม้ไม่ชนกันรุนแรงแต่ไหล่ที่กระแทกกันเบาๆ แค่นั้นแคนดี้ก็ทำเสียงจิ๊จ๊ะไม่พอใจแล้ว

“นี่! หล่อนจะรีบไปไหนยะ” แคนดี้หันไปแว้ดใส่

แต่เพียงขวัญกลับเดินจ้ำอ้าวเข้าลิฟต์ไป ไม่มาต่อปากต่อคำด้วยอย่างเคย

“รีบๆ อย่างนั้นสงสัยจะมีนัดนะพี่” พายกระซิบบอกแคนดี้ แต่เป็นเสียงกระซิบที่ไม่เบาเท่าไหร่นัก เพราะแม้แต่ธนัชกับอู๊ดก็ยังได้ยิน

“หรือไม่ก็มีใครรออยู่ที่บ้านมั้ง” เค้กสันนิษฐานขึ้นอีกคนอย่างสนุกปาก

“โอ๊ย อย่างยายนั่นน่ะเหรอจะมีใครรออยู่ เป็นไปไม่ได้หรอกย่ะ” แคนดี้ส่ายหัวแบบไม่ต้องเสียเวลาคิด ก่อนจะเดินดุ่มๆ นำทีมตรงไปที่ฝ่ายตัวเอง ทิ้งบทสนทนาเรื่องเพียงขวัญไว้ให้ใครบางคนในฝ่ายครีเอทีฟได้ขบคิดต่อ



เพียงขวัญทำเวลาได้ดีทีเดียว เพราะไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็กลับถึงคอนโดฯ เธอขึ้นลิฟต์มาถึงชั้นแปดแล้วเปิดกระเป๋าควานหากุญแจห้อง แต่เดินจนถึงหน้าห้องก็ยังหาไม่เจอ

แล้วเหตุการณ์เมื่อเช้าก็วกกลับเข้ามาในความคิด เมื่อเช้าเธอรีบมากจนแม้แต่ผมก็ยังไม่ได้หวี เห็นแมนนี่ยังไม่ออกจากห้องก็เลยปล่อยให้แมนนี่ล็อคห้อง แต่เธอจำไม่ได้ว่าได้หยิบกุญแจห้องออกมาหรือเปล่า

ใจของเพียงขวัญหายวาบ เมื่อค่อนข้างแน่ใจว่าเธอทิ้งกุญแจไว้ในห้อง แล้วแมนนี่ล่ะ เมื่อเช้าแมนนี่ออกจากห้องไปหลังจากเธอ แมนนี่ต้องไม่ทันสังเกตแน่ๆ ว่าเธอทิ้งกุญแจไว้ แล้วจะเข้าห้องยังไงล่ะ?

ลองเอื้อมมือบิดลูกบิดประตูดู และเมื่อมันดังแกร๊ก! เพียงขวัญก็ตาโต

เปิดได้!

จากคุณ : inmost
เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 55 16:32:15




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com