Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
PSYCHO..........DIARY.....................(กุ้ง หอย ปู ปลา) ติดต่อทีมงาน

========================
Diary of a madman
บันทึกของคนบ้า.........(กุ้ง หอย ปู ปลา)
========================



มีคนเคยบอกว่า บรรดาสัตว์เล็กสัตว์น้อยทั้งหลาย มันมีชีวิต แต่ไม่มีจิตใจที่จะรู้สึกนึกคิด ไม่มีความหวาดกลัว รัก โลภ โกรธ หลง  ผมได้ฟังแล้วหัวเราะในใจ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็อาจหมายถึงว่าบรรดาสรรพสัตว์พวกนั้นอยู่ในภาวะบรรลุหลุดพ้นไปจากกิเลสทั้งหลาย ซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งทุกข์ทั้งหลายแล้วนั่นเอง


แต่ผมก็ไม่ได้คุยเรื่องแบบนี้กับใครเท่าไรหรอกครับ โดยเฉพาะพวกหมอและพยาบาล ซึ่งมักจะพาผมไปในห้องแคบๆ และซักถามด้วยคำถามอันน่าเบื่อหน่าย ซึ่งผมก็ตอบเท่าที่จำเป็นและระมัดระวัง


ทำไมผมถึงเข้ามาอยู่ในสถาบันวิเคราะห์ทางจิตแห่งนี้ และมานั่งเขียนบันทึกเล่มนี้ เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อเดือนก่อน คุณหมออย่าเอาไปเล่าให้คนอื่นฟังเชียวนะครับ ผมอายก็เป็น..ถึงจะบ้าก็ตามเถอะครับ บ้าแต่ก็ไม่ได้หน้าด้าน

วันนั้น..เป็นช่วงบ่ายแก่ๆ ผมและเธอ.....เธอในวันนั้นหมายถึงแฟนของผมเอง ส่วนเธอในวันนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นแฟนของใคร แต่ช่างเถอะครับ นั่นไม่สำคัญเท่าเรื่องที่ผมจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ ถึงไหนแล้วนะ....อ๋อ...! ถึงผมและเธอกำลังนั่งอยู่ในร้านอาหารหรูหราราคาแพง ผมไม่อยากไปเท่าไรหรอกครับเพราะชอบร้านส้มตำปูปลาร้าปากซอยมากกว่า แต่ขัดใจเธอไม่ได้

ผู้หญิงก็เป็นเสียแบบนี้ล่ะครับ...อย่าลืมนะครับว่าห้ามไปบอกใคร โดยเฉพาะพวกพยาบาลสาวๆ เดี๋ยวพวกเธอจะหาว่าผมบ้าและนินทาพวกเธอ แล้วพวกเธอจะให้ผมกินยาผิด ผมก็แย่สิครับ

เธอลากกึ่งบังคับผมมาร้านอาหารใหญ่โตโอ่อ่า คนก็เยอะ รอก็รอนาน ผมไม่ชอบเอาเสียเลย

อาหารที่สั่งยังไม่มาเสียด้วยซ้ำ ผมก็เริ่มได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนดังไปทั่วร้าน เสียงนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดทุกข์ทรมานแสนสาหัส ผมมองหน้าคนโน้นคนนั้นเหมือนจะถามว่า ได้ยินอะไรบ้างไหม แต่พวกเธอพวกเขาเหล่านั้นยังทำท่าทางปกติ

หรือผมจะหูแว่วไปเอง....

ทันใดนั้นเอง ผมได้ยินเสียงกรีดร้องดังมาจากโต๊ะข้างๆ จึงรีบหันไปมองด้วยความตกใจและแปลกใจ สองคนนั้นคงเป็นคนรักกันและพากันมากินอาหารในร้านนี้เหมือนพวกเรา และคงมาก่อนแน่นอน สังเกตจากมีอาหารวางบนโต๊ะอยู่แล้ว

ชายหนุ่มหน้าตาดีแต่งกายหรูหราสมกับคนรักน่ารักซึ่งนั่งตรงกันข้าม  ผมเห็นพวกเขากำลังใช้ส้อมพยายามตั้งใจงัดแงะหอยนางรมตัวใหญ่ออกจากเปลือกแบบสดๆ

เสียงหอยกรีดร้องโหยหวน จนขนลุกขนพอง

จะเปรียบเทียบอย่างไรดีคุณหมอจึงจะเข้าใจถึงเสียงแบบนั้น ลองนึกถึงเสียงคนถูกเลาะเนื้อออกจากกระดูกทั้งเป็น คงประมาณนั้นครับ เนื้อหนังสั่นระริกไปด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส แต่สายตาวาววามของคนทั้งสองกลับมองอย่างชื่นชมสมหวัง

“หอยสดมากนะคะ”

หญิงสาวพูดเสียงหวานพร้อมรอยยิ้ม “ร้านนี้ดีจริงๆ คัดมาแต่หอยสดๆ ตัวใหญ่ หอยเป็นหอย ดูสิคะ เนื้อยังสั่นระริกอยู่เลย แบบนี้ต้องอร่อยหวาน”

ว่าพลางมือเรียวก็งัดหอยออกมาจนได้ เจ้าหอยผู้น่าสงสารยังร้องไม่ยอมหยุด เธอวางมันคงบนจาน ใช้ช้อนตัดน้ำจิ้มรสเผ็ดมาราดลงบนเนื้อหอยระริกร้าวซึ่งเพิ่งถูกถลกเนื้อเป็นๆ

“โอ๊ย......”

เสียงหอยนางรมร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดเหมือนคนมีแผลสดแล้วราดด้วยทิงเจอร์ไอโอดีน “เจ็บแสบจะตายอยู่แล้ว”

นั่น...ทะลึ่งพูดเป็นภาษาคนอีก หอยบ้าอะไร เอ๊ะ...หรือผมบ้ากันแน่..ผมไม่เคยได้ยินมาก่อนในชีวิตว่าหอยพูดได้

ผมนั่งตะลึงตัวแข็ง นี่ผมต้องฟั่นเฟือนไปแล้วแน่นอน....

หอยอีกตัวก็กำลังพยายามดิ้นรนให้พ้นจากส้อมในมือของชายหนุ่ม เลือดของมันแดงฉานอย่างไม่น่าเชื่อ และคงไม่มีใครเชื่อ เพราะผมเองยังไม่อยากเชื่อ หอยจะมีเลือดสีแดงขนาดนี้เชียวหรือ ไม่เคยเห็น จะต้องมีอะไรผิดปกติ

“ลาก่อนเพื่อนรัก”

เจ้าหอยตัวนั้นสั่งเสียเพื่อนซึ่งเหลืออีกสองสามตัวบนจานอย่างสิ้นหวัง ก่อนจะถูกดึงออกมาและยัดใหญ่ปากของชายหนุ่ม ซึ่งทำหน้าที่บดเคี้ยวขยี้ราวเป็นเครื่องจักรมรณะ เจ้าหอยผู้น่าสงสารพยายามดิ้นรนตามสัญชาตญาณของการเอาตัวรอดจนกระทั่งถูกบดขยี้แหลกเหลวเลอะเลือนคลุกเคล้ากับน้ำจิ้มรสเด็ดและใบกระถินกระทั่งเสียงร้องขาดหายไปเมื่อถูกกลืนลงไปในหลุมดำ

ผมรู้สึกอยากจะอ้วก

“เป็นอะไรไปคะ หน้าซีดเชียว..”

เสียงของคนรักแววในหูในขณะผมกำลังตาลายเหมือนจะเป็นลม แต่จะให้ผมบอกว่า ช่วยด้วย...หอยพูดได้..ช่วยหอยด้วย...อย่ากินหอย..แบบนั้นใครจะไปเชื่อล่ะครับ

ผมลุกขึ้น ขอตัวเข้าห้องน้ำ ในขณะนั้นเสียงกรีดร้องยังดังระงมร้าน ผมเดินตามเสียงพวกนั้นไปอย่างไม่ตั้งใจจนถึงห้องครัว ซึ่งเป็นจุดที่เสียงร้องดังหนาแน่นมากที่สุด


ภาพที่บังเอิญเห็นยิ่งกว่าฝันร้าย!

ผมไม่ได้ยินเฉพาะเสียงอีกต่อไป เพราะผมเห็นภาพที่คนอื่นมองไม่เห็นเหมือนอย่างที่ผมเห็น

กุ้งตัวใหญ่วางเรียงรายอยู่บนคะแกรงย่างเหนือเตาถ่าน ความร้อนระอุออกมาราวไฟนรก กุ้งพวกนั้นกำลังถูกเผาทั้งเป็น...พวกมันยังไม่ตายแต่ถูกนำมาเผาทั้งยังสดๆและมีชีวิตเหมือนพวกผู้คนซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดในสมัยโบราณแล้วถูกเผาทั้งเป็น ร่างกายของบรรดากุ้งบิดเบี้ยวดิ้นรนเร่าๆอย่างแสนเจ็บปวดทรมาน กลิ่นเนื้อเหม็นไหม้คละคลุ้ง บางตัวหันหน้าใช้ขาของพวกมันกอดเกี่ยวกันแบบตายในอ้อมขาของกันและกันอย่างไร้ทางเลือก บางทีทั้งสองอาจเป็นกุ้งรักกัน แทนที่จะใช้ชีวิตคู่อย่างสงบสุขในแหล่งน้ำอย่างควรจะเป็น มีลูกมีหลานสืบเชื้อสายวงศ์ตระกูลไปนานเท่านาน...แต่น้ำมือของมนุษย์กลับทำลายชีวิตรักสวยงามตามประสากุ้งลงอย่างน่าสยดสยอง

ร่างกายของมันหงิกงอรวดร้าว ในอ้อมขาซึ่งกันและกัน

“ลาก่อนที่รัก....”

เสียงร้องครั้งสุดท้ายของกุ้งตัวหนึ่งซึ่งพยายามดิ้นรนไปหากุ้งรักซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่งของตะแกรง แต่ไร้ผล...พวกมันเพียงใช้หนวดกุ้งแตะกันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนลาจากกันชั่วกาลนาน

“พวกแกทำอะไร.....”

ผมร้องสุดเสียงจนพวกพ่อครัวหันมามอง ใบหน้าของพวกเขาเป็นมันเพราะทำงานอยู่กับความร้อนและความทุกข์ทรมาน

“ก็กุ้งเผาไง....”

เสียงใครบางคนตอบด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ

“คุณคงติดใจในรสชาติใช่ไหมครับ ถึงมาเยี่ยมมาดูงานกิจการในห้องครัว...พวกเราเลือกใช้ปลา ปู กุ้ง กอย สดๆ ทั้งนั้นครับ เผาเป็นๆ เห็นๆ ขนาดว่าปลาลงกระทะยังดิ้นด๊อกแด๊กอยู่เลย หอยนึ่งนั่นก็สดทุกตัวนะครับ”

เขาพยักหน้าไปทางมุมห้องให้ดูหม้อนึ่งขนาดใหญ่

ผมมองเห็นอีกแล้ว....มองเห็นบรรดาหอยอยู่ในหม้อนึ่ง พวกมันตอนแรกคงไม่รู้ว่าความตายกำลังจะมาเยือน คงพูดคุยกันไปตามประสา แต่แล้วพวกมันก็เริ่มรู้สึกว่าอากาศร้อนขึ้นทุกที ร้อนขึ้นเรื่อยๆ.....มากขึ้น.....และมากขึ้น

พวกมันเริ่มแตกตื่น แต่อนิจจา พวกมันไม่มีขามีมือจะดิ้นรนเอาตัวรอด ความร้อนถึงจุดทำให้พวกมันอ้าปากกว้างอย่างทรมานขับของเหลวออกมาจากปากเพื่อระบายความร้อนตามมีตามเกิด เนื้อของพวกมันเริ่มสุก แต่เสียงร้องอย่างเจ็บปวดทรมานของมันคงดังก้องไปมาอยู่ในหม้อนึ่งเท่านั้น

ผมถอยหลังกรูดออกมาจากห้องครัว


ตอนนั้นเองผมเห็นพ่อครัวคนหนึ่งจับปลาช่อนขึ้นมาจากตะกร้า ผมมองเห็นไข่อยู่เต็มท้องของมัน แขกมาร้านคงอยากกินต้มยำพุงปลาแสนอร่อย แต่ในครัวกำลังจะเกิดการฆาตกรรมปลาท้องแก่ให้ตายทั้งกลม ครอบครัวของพวกมันคงแตกแยกไปคนละทิศละทาง ไข่พวกนั้นแทนที่จะมีโอกาสเกิดเป็นลูกปลาตัวน้อยน่ารักน่าเอ็นดูล่องลอยว่ายวนคลอเคลียแม่ปลาในสายน้ำเย็นฉ่ำ กลับต้องมากลายเป็นต้มยำเพื่อหนึ่งคำอร่อยของมนุษย์แต่หลายชีวิตเหลือเกินในคำนั้น

แถมยังขึ้นป้ายใหญ่โตอย่างภาคภูมิใจ “กุ้งเผาเป็นๆ...หอยอบเป็นๆ ปลาเผาเป็นๆ.....”

ปลาตัวนั้นหันมามองผมด้วยสายตาอ้อนวอนขอร้อง พลางส่งเสียงแหบโหย

“ช่วยหนูด้วย....”

ผมโดดชกพ่อครัวคนนั้นสุดแรง


******


เห็นไหมครับว่าผมบ้าแค่ไหน แต่ยังไงผมก็ไม่สามารถทนทานเสียงพวกนั้นได้ ถึงยอมอยู่ที่นี่อย่างยินยอมพร้อมใจ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะให้คุณหมอเชื่อเรื่องที่ผมเล่าให้ฟังนะครับ ถึงอย่างไรผมก็เป็นคนบ้าไม่น่าเชื่อถืออะไรได้อยู่แล้ว ผมก็เพียงเล่าระบายอะไรให้ฟังเท่านั้นครับ


*********

คุณหมอหนุ่มปิดบันทึกของคนไข้ โครงการแจกสมุดบันทึกให้คนไข้ระดับไม่เป็นอันตรายเป็นไปด้วยดี บางเล่มก็อ่านสนุก บางเล่มก็อ่านไม่รู้เรื่องไปตามประสาบ้า บางทีข้อมูลพวกนี้อาจเป็นประโยชน์ในงานวิจัยเพื่อพัฒนาความดีความชอบในโอกาสต่อไป

มองนาฬิกา บ่ายโมงกว่าๆแล้ว คุณหมอหนุ่มเริ่มหิวข้าว แต่เขานัดพยาบาลสาวไว้เวลาบ่ายสองโมงที่ร้านอาหารจีน คงไม่ได้ยินเสียงหอยปูปลามาคร่ำครวญหวนไห้  เขาคิดแบบติดตลกในใจ..ถึงจะร้องคงเป็นภาษาจีน ฟังไม่ออก

สัตว์พวกนั้นจะมีความรู้สึกนึกคิดแบบนั้นได้อย่างไร มันเป็นไปไม่ได้ ก็แค่เกิดมาเป็นอาหารของคนเราตามหลักลูกโซ่อาหารเท่านั้น คนไม่กินพวกมันก็โดนสัตว์อื่นกินอยู่ดี เรื่องธรรมดามากเหลือเกิน

คุณหมอมองนาฬิกาอีกครั้ง ขยับตัวลุกขึ้น แต่แล้วก็ชะงัก

เงาอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่มุมห้อง ตอนแรกเขาไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร แต่พอหยุดนิ่งจ้องมองสักครู่ก็เริ่มมองชัดว่าร่างโปร่งใสราวหมอกควันนั้นรูปร่างคล้ายปลาหมึก

คุณหมอตั้งสติ พยายามรักษาอาการสงบนิ่งเหมือนตอนอยู่ต่อหน้าคนไข้ ทั้งที่ไม่รู้ว่าตอนนี้อะไรอยู่ตรงหน้า เงาประหลาดนั้นลอยใกล้เข้ามาจนได้กลิ่นแของการมุ่งร้ายอันน่าขนลุก แล้วหูก็ได้ยินเสียงเยือกเย็นบาดความรู้สึก

“เอาร่างของฉันคืนมา......เอาร่างของฉันคืนมา....”

“อะไร.....”

คุณหมอผงะอย่างตกใจและงุนงง นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน....ร่างอะไร...เอาอะไรคืนไป.....

แต่แล้วเขาก็นึกได้ เมื่อเช้าภรรยาทำยำสดๆปลาหมึกไข่ให้กิน เห็นบอกว่าสดๆจากคลาด สดขนาดนำมาวางโต๊ะหนวดของมันยังขยับไหวไปมา ใช่แล้ว.....อะไรบางอย่างในจิตสำนึกบอกแบบนั้น..นี่มันต้องเป็นภาพหลอน คุณหมอคำราม ภาพหลอนที่เกิดจากจิตใต้สำนึกเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องจริงเด็ดขาด มันก็แค่.....

ร่างโปร่งใสขยายจนเต็มห้อง หนวดยั้วเยี้ยเคลื่อนไหวไปมาอย่างคุกคามก่อนพุ่งปราดเข้ามารัดลำคอราวเป็นเชือกมรณะ จนเสียงร้องของคุณหมอขาดหาย ไม่...ไม่ใช่เรื่องจริง...มันเป็นแค่......แค่................แค่



ปากโปร่งเงาหลอนร้ายอ้าสุดล้า......................







The end

แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 55 04:48:18

แก้ไขเมื่อ 21 ก.พ. 55 23:01:28

จากคุณ : Psycho man
เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 55 22:50:01




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com