ฺBody Talk (Boys Love ) บทที่ 14 จบตอน
|
 |
เมษาเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถ เขานิ้วโป้งแตะมุมปาก ทำหน้าเหยเกเมื่อรู้สึกเจ็บแปลบ ชะโงกหน้ามองตัวเองในกระจกส่องหลัง “จะเจ็บตัวฟรีหรือเปล่าวะ ช่างเถอะไม่มีรอยชัดเจนให้ผู้จัดการเห็นก็ดีแล้ว” เมษารูดไทลง ปลดกระดุมเสื้อนอกออกแล้วสตาร์ทรถถอยออกจากที่จอด โทรศัพท์สั่นพร้อมด้วยเสียงครางเบาหวิว เมษาเห็นเบอร์ที่โชว์ก็อมยิ้มขณะหยิบมากดรับก็พบว่าเป็นวีดีโอคอลล์ ภาพบนหน้าจอทำให้เขาแทบขับรถเกยเกาะกลางถนน เมษาต้องพยายามตั้งสติกดไฟฉุกเฉินพารถเข้าข้างทาง เขาก้มหน้าหอบหายใจ หัวใจเต้นโครมคราม หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีกครั้งพร้อมตะโกนใส่ “เรื่องซ้ำซากพวกนี้ผมต้องทำอย่างไร ต้องทำอย่างไร ช่วยบอกหน่อยเถอะครับ !!!” กดปิดสายแล้วปามือถือทิ้ง ซบหน้ากับท่อนแขนที่วางบนพวงมาลัยครู่ใหญ่ก่อนจะเงยหน้ากระชากเกียร์ออกรถแรง ล้อเบียดบดถนนจนดังเอี๊ยดอ๊าด เสียงโทรศัพท์ครางหวิวพร้อมสั่นสะท้านอีกครั้งเมษามองเบอร์ก็ถอนใจรับด้วยน้ำเสียงเนือยเหนื่อย
“ครับ” “เมษา ขอโทษนะมันกะทันหันไปหน่อย แต่ช่วยกลับบ้านแล้วแพ็คกระเป๋าเลยทันทีได้ไหม นายต้องเดินทางเที่ยงคืนนี้เลยนะ ฉันโทรเลื่อนไฟล์ให้แล้ว คนที่นายจะไปติดต่อที่เชคน่ะเขาจะต้องเดินทางไปติดต่อธุรกิจด่วนที่กรุงปราก เขาเลยอีเมล์มาบอกให้นายรีบเดินทางไปพบเขาหากพวกเราอยากได้ภาพ แล้วนี่รุจน์ก็หายหัวไปไหนไม่รู้ตั้งแต่เช้ายุ่งคนเดียวเลย” เมษากัดกรามจนแก้มเป็นสันนูนเมื่อได้ยิน “ได้ครับ งั้นผมตรงกลับบ้านเลยก็แล้วกันนะครับ” เมษาตัดสายแล้วเปิดไฟเลี้ยว
ทศวรรษยักไหล่วางโทรศัพท์ของรุจน์ที่เดิมแล้วรีบล้มตัวลงนอนเมื่อเห็นรุจน์ขยับตัวใกล้ตื่น ทศวรรษหรี่ตามองรุจน์ที่ยังไม่ลืมตาตื่นเต็มที่พลางหวังอย่างเต็มเปี่ยมที่จะปิดเกมส์นี้เสียที แม้เขาจะไม่รู้ไม่เห็นกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแต่เขาก็ไม่ใช่สุภาพบุรุษอย่างที่ใครคาดหวังหากเขาเล็งเห็นแล้วว่าสิ่งที่เขามีจะหลุดหายทั้งที่มันอยู่ในมือเขาแท้ๆ ทศวรรษขยับเข้าไปกอดรุจน์แล้วค่อยหลับตาอย่างโล่งใจและเริ่มหายใจสม่ำเสมอ ลืมตาตื่นอีกครั้งรุจน์ก็ไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว ความว่างเปล่าเย็นเยียบในอ้อมแขนทำให้ทศวรรษเหลียวหน้าเหลียวหลังไม่เป็นสุข เสียงน้ำจากฝักบัวในห้องน้ำทำให้ทศวรรษถอนใจยิ้มก่อนจะล้มตัวลงนอนจับตาที่ประตูห้องน้ำ ไม่นานรุจน์ในเสื้อคลุมก็เปิดประตูออกมา เขาชะงักมือที่กำลังใช้ผ้าเช็ดผมเปียกเมื่อเห็นสายตาของทศวรรษ
“ตื่นแล้วเหรอครับ” รุจน์ยิ้มให้ขณะหยิบเสื้อผ้าขึ้นสะบัด แล้วจัดแจงสวมใส่ทีละชิ้น ทศวรรษก้าวลงจากเตียงเข้าสวมกอดจากด้านหลัง รุจน์จับแขนของทศวรรษแล้วหันมายิ้ม “ฉันรักนาย” ทศวรรษกระซิบ รุจน์หันไปหาเขายื่นหน้ามาจูบปากกับเขา “อวยพรให้ผมหน่อยซิครับ พรุ่งนี้ผมจะพบหมอแล้ว ผมอยากคุยกับหมออย่างจริงๆจังๆเสียทีเกี่ยวกับ SEX ADDICT ผมต้องการรู้ว่าตัวเองนั้นจริงๆแล้ว SEX คืออะไร” รุจน์ยิ้มอ่อนโยน ดวงตาเป็นประกาย “ฉันพานายไปเอง” ทศวรรษจับไหล่รุจน์
“จริงด้วยซิ คุณหมอบอกว่าผมควรไปกับคนรัก รุจน์หลุบมองพื้นรอยยิ้มสวยงามยังผุดผาดบนใบหน้า” “นัดหมอกี่โมงหรือ”
“เมษาจะไปกับผม” “อะไรนะ” “เขาเป็นคนรักของผม เขารักผม แล้ว...” รุจน์จับมือทศวรรษทั้งสองไว้มั่นคง ดวงหน้างดงามไม่หยุดรอยยิ้ม “ตอนเด็กๆเชื่อหรือเปล่าครับผมน่ะมักเป็นคนสุดท้ายที่แก้ปัญหาวิชาต่างๆได้เป็นคนสุดท้ายของชั้น ผมเป็นคนหัวช้า บางทีก็โง่เง่า เรื่องบางเรื่องคนอื่นเข้าใจหมดแล้วผมยังสับสนอยู่เลยกว่าจะรู้กว่าจะเข้าใจก็ปล่อยให้เวลาเล่นเสี่ยงทายกับชีวิตตัวเองเสียจนต้องทำคนอื่นย่ำแย่ไปด้วย แต่ไม่มีใครย่ำแย่เจ็บตัวเจ็บปวดเท่าเมษาอีกแล้ว ความลังเลของผมมันทุเรศที่สุดก็จริง แต่มันทำให้ผมเข้าใจอย่างแน่แท้ในที่สุดว่า ผมขาดเมษาไม่ได้เขาไม่ใช่แค่ความรักเขากลายเป็นชีวิต เป็นลมหายใจ เป็นทุกสิ่งของผม เป็นจักรวาลของผม ผมยังรักคุณทศเสมอ แต่คุณทศไม่ใช่ทุกอย่างของผม ผมสามารถเดินจากความรักของเราได้อย่างสงบสุขทิ้งไว้แค่ความทรงจำที่แสนดี ผมจะไม่มีวันลืมเซ็กส์เมื่อครู่ เราสองคนเต็มที่ในทุกท่วงท่า ในทุกลีลาและอารมณ์และมันจะเป็นภาพที่ผมคิดถึงเมื่อไรผมจะมีความสุขเหมือนที่มีในช่วงเวลานั้น
“หมายความว่ายังไง?”ทศวรรษร้อนรนเขาดึงรุจน์มากอด “นายเลือกที่อยู่กับเด็กนั่นแทนที่จะเป็นฉันหรือ นี่แสดงว่านายยังไม่หายโกรธที่ฉันทำไม่ดี” รุจน์ส่ายหน้า ผละออกจากอ้อมแขนของทศวรรษ “เมษารักษาความเจ็บปวด ความบอบช้ำของทุกบาดแผลให้ผม จนผมลืมทุกอย่างไม่ว่าเราจะเคยเป็นอย่างไรกันมาในช่วงเวลาที่ผมกับเมษาดำเนินชีวิตอยู่ด้วยกัน ที่จริงแล้วสัมพันธ์ของเราสองคนเป็นเสียยิ่งกว่ารักและเซ็กส์ แต่ผมมันหัวขี้เลื่อย ปล่อยให้คุณทศเข้ามามีบทบาทกับตัวเองอีกครั้งด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง เพราะรันทดที่ไม่สามารถมีความรักของคุณทศในมือทำให้ผมไม่เป็นตัวเอง ผมจะบอกเมษาถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเราทั้งหมด และไม่ว่าเขาจะตัดสินใจอย่างไรผมจะยอมรับมัน หากเพราะความสะเพร่าของผมทำเมษาหมดใจกับผม ผมก็จะไม่กลับมาหาคุณ ผมจะรอเขาที่บ้าน จะเฝ้าภาวนากับความรัก ขอให้ความรักเมตาเรียกหาจนเขาหันกลับมา” รุจน์น้ำตาไหลไม่รู้ตัว เขาป้ายน้ำตาด้วยมือป้อยๆ
“อย่าโกรธผมเลยนะครับ อย่าทำให้ความรักครั้งที่ดีที่สุดของผมต้องกระทบกระเทือนเลยนะครับ” รุจน์ยิ้มทั้งน้ำตา ทศวรรษหลับตาด้วยความเจ็บที่สุดในชีวิต เขาไม่ได้เจ็บเพราะรุจน์เลือกทางเดินที่ปราศจากเขา หากแต่เป็นเพราะที่เขาทำกับเมษาเมื่อครู่ใหญ่ก่อนหน้านั้น “รุจน์” ทศวรรษกัดปากแน่น ความเจ็บแผ่กระจายจนถึงก้นบึ้งของหัวใจ ปวดร้าวในแบบที่สามารถพูดได้ว่าลืมซี่โครงที่ร้าวไปได้เลย เขาจับไหล่รุจน์แน่น ปลายนิ้วสั่นระริก “ฟังนะ ฉันไม่ได้จ้างคนไปทำกับนายแบบนั้น”
“จริงหรือฮะ” รุจน์ยิ้มกว้าง ทศวรรษเปลี่ยนไปแตะมือที่หน้าผากของเขาแล้วไล้ลูบ เปลือกตา จมูก ปลายจมูก และริมฝีปากสุดท้าย “จริงสิ ฉันไม่ได้ทำ แต่ฉันส่งภาพที่นายนอนเปลือยบนเตียงเมื่อครู่ไปให้เด็กนั่น ฉันบอกเขาว่า เราร่วมรักกันด้วยอารมณ์สุดโต่งในแบบที่เขาไม่มีวันรู้สึกได้ นายเร่าร้อน ฉันก็ดุเดือด เราทั้งคู่บ้าคลั่งใส่กันไม่ได้หยุด...” ทศวรรษไม่สามารถหยุดปากตัวเองได้แม้ รอยยิ้มของรุจน์จะจางเลือนลงจนกลายเป็นซีดเผือด ริมฝีปากที่ปลายนิ้วทศวรรษจับอยู่สั่น ดวงตาคู่งามหมดสภาพเมื่อมันแห้งผากและขอบตาเริ่มแดงกล่ำ “คุณทำอะไรลงไปน่ะ” รุจน์ถามด้วยน้ำเสียงอันแหบพร่า
เมษาปิดกระเป๋าเดินทางแล้วทิ้งตัวลงนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาแนบอกนิ้วมือกำแน่นจนข้อซีด หรือควรเป็นเขาที่ต้องเป็นฝ่ายตัดสินใจเอง....ให้เด็ดขาด เมษาถอนใจปล่อยมือจากมือถือ แต่มันกลับดังเรียกเขาไว้เสียเอง เบอร์ที่โชว์ทำให้เมษาเผลอเม้มปากแน่นโดยไม่ตั้งใจ ที่จริงอยากเดินไปเสียที่นี่เดี๋ยวนี้ ทว่าสิ่งที่ต้องเผชิญหน้าไม่ว่าวันไหนก็ต้องสักวัน เมษากดรับอย่างใจเย็น “นายอยู่ที่ไหน” น้ำเสียงของรุจน์สงบนิ่งเบาแผ่ว “ผมอยู่ที่บ้าน” “นายคอยฉันอยู่หรือ?” “ผมก็อยากทำแบบนั้นครับ แต่งานมีการเปลี่ยนแปลงผมต้องเดินทางในไม่อีกกี่ชั่วโมงแล้วครับ เสียดายนัดของเรานะครับ” เมษาตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงสดใส
“อืม เมื่อครู่ฉันเพิ่งรู้จากคุณน้ำฟ้า” รุจน์หลับตาพิงศีรษะกับกระจกรถ เขาต้องพูดออกไป สารภาพถึงความไม่เอาไหนของเขา “พูดเสียเดี๋ยวนี้นะ! รุจน์” ชายหนุ่มกัดปากจนรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ภายใน “เมษา นายได้รับคลิปของคุณทศแล้วซินะ” รุจน์รู้สึกลำคอแห้งผาก แต่หน่วยตากลับชุ่มฉ่ำด้วยน้ำใสที่คลอรื้นมากขึ้น “ฮะ มีอะไรจะเพิ่มเติมหรือเปล่าฮะ” ไม่มีความรู้สึกเจ็บปร่าอยู่ในน้ำเสียงที่สดใสนั้นเลย รุจน์สูดน้ำมูก “ฉันอยากพูดกับนาย อยากที่สุด นายจะฟังฉันไหม” รุจน์ภาวนาขอให้เมษาฟังเขาสักนิด พระเจ้า รุจน์กุมมือที่อกแน่น ได้โปรด พระเจ้าเขาไม่ต้องการสิ่งใดในชีวิตเท่าโอกาสจากเมษา ขอเพียงครั้งนี้เท่านั้น เขาพลาดผิดไปหลายครั้งจนไม่อาจแน่ใจว่า คำพูดต่อไปนี้จะกลายเป็นคำแก้ตัวมักง่ายสำหรับผู้ชายแสนดีคนที่เขาอยากจะมอบหัวใจและร่างกายให้นับจากนี้จนสิ้นใจหรือเปล่า ไม่อาจรู้ได้เลยว่าเมษาจะสิ้นสุดการอดทนหรือไม่ ทศวรรษรุกรานเด็กหนุ่มผู้อ่อนโยนคนนี้จนเรียกได้ว่าเกินไปแล้วจริงๆ แต่ใครล่ะที่ทำให้ทศวรรษได้ใจเยี่ยงนี้ รุจน์สะอึกความรู้สึกหนักหน่วงอันนี้จนเกือบจะสะอื้นออกมา “นายช่วยฟังฉันหน่อยได้ไหม เราสองคนอย่าทำเหมือนมันไม่มีอะไรอีกต่อไปเลย เราต้องยอมรับมันแล้วล่ะ เรื่องของฉัน ของนาย และคุณทศ” เมษาเงยหน้าพ่นหายใจออกมาพร้อมน้ำตา...เขาจะทำอย่างไร จะเห็นแก่ตัวต่อไป หรือเอาความสุขของรุจน์เป็นที่ตั้ง เมษายกมือปิดปากไม่ให้สะอื้นฮั่ก ความทรงจำกลับมาให้ได้ทรมานหัวใจอีกครั้ง ทศวรรษโทรมานัดเขาหลังส่งภาพให้ไม่นาน เขาไปพบทศวรรษที่บ้านหลังใหญ่โตหลังหนึ่งนอกเมือง ที่นั่นทศวรรษอยู่กับผู้ชายที่เป็นเพื่อนกัน “ฉันขอรุจน์คืน รุจน์อาจไม่เคลียร์กับความรู้สึกเกรงใจกับความรัก นายเลยได้ผลประโยชน์จากความรู้สึกนี้ไปเต็มๆ มันถึงเวลาที่จะพอได้แล้วนะ เซ็กส์เมื่อคืนมันทำให้ฉันแน่ใจและคิดว่าควรพูดให้นายเข้าใจกระจ่างแทนเขา ฉันกับรุจน์ยังไม่ขาดจากกัน อย่างที่นายรู้เรายังเจอกันยังมีอะไรกันลับหลังนายเสมอ” ทศวรรษไขว้ขานั่งที่โซฟาหรูหรากลางบ้าน เพื่อนของเขายืนกอดอกมองเมษาที่ข้างหน้าต่าง
จากคุณ |
:
vannessia
|
เขียนเมื่อ |
:
22 ก.พ. 55 15:30:26
|
|
|
|