Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
Ooo๐... เลี่ยมลายรัก...ตอนที่ 13 -14- 15 ๐ooO ติดต่อทีมงาน

บทนำ+ ตอนที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11533190/W11533190.html

ตอนที่2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11546089/W11546089.html

ตอนที่3http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11557827/W11557827.html

ตอนที่4 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11577082/W11577082.html

ตอนที่5 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11586009/W11586009.html

ตอนนี้6-7http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11628444/W11628444.html

ตอนที่ 8-9http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11635854/W11635854.html

ตอนที่ 11-12http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11653358/W11653358.html

ตอนที่13-14http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11697451/W11697451.html




Ooo๐... เลี่ยมลายรัก...๐ooO


ตอนที่ 14



ห้าปีต่อมา

หญิงสาวสวยเอื้อมมือไปหยิบกรอบรูปใบหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะในห้องรับแขกขึ้นมาดูอย่างช้าๆ   มันเป็นภาพที่ถูกถ่ายขึ้นมาในวันรับปริญญาที่เพิ่งผ่านมาไม่กี่วันนี้เอง  นี่คงเป็นใครสักคนในบ้าน ไม่คุณแม่ ก็คุณพ่อของเธอที่นำภาพนี้มาตั้งเอาไว้ในห้องรับแขก

ใบหน้างามมีอาการงอง้ำขึ้นมาเพียงนิด ยามที่ได้กวาดสายตามองดูคนที่อยู่ในภาพที่มีเธอที่อยู่ในชุดครุยถูกประกบซ้ายขวาด้วยคุณพ่อและคุณแม่  ห่างออกไปอีกเกือบช่วงตัว ปรากฏร่างของหญิงสาวอีกคนที่อยู่ในชุดครุยแบบเดียวกันกับของเธอ ใบหน้ามีรอยยิ้มเพียงเล็กน้อย  

ณิชนันท์นำรูปที่อยู่ในมือไปหย่อนทิ้งลงถังขยะที่อยู่ภายในห้องนั่งเล่นนั้นอย่างไม่ลังเล ก่อนจะนำรูปเดียวกัน ที่เธอได้ไปใส่กรอบให้สวยงามกว่าเดิม และที่สำคัญเธอได้ตัดภาพหญิงสาวที่ไม่พึงประสงค์นั้นออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  เธอนำรูปนั้นไปตั้งแทนกรอบรูปอันเก่าที่เพิ่งโยนมันถึงลงถังขยะอย่างสดๆ ร้อนๆ

นี่สิถึงจะเรียกว่า ‘ครอบครัว’ อย่างแท้จริง ครอบครัวที่ประกอบไปด้วย พ่อ แม่ และลูก ไม่ใช่มีใครคนอื่นที่ไม่มีความเกี่ยวข้องแม้แต่น้อยมาอยู่ด้วย

ณิชนันท์ใช้นิ้วเรียวเกลี่ยบนรูปนั้นเบาๆ พลางอมยิ้ม น่าเสียดายที่ภาพนี้ขาดคุณอาผู้แสนดี ที่บัดนี้เขาอยู่ไกลแสนไกล อีกซีกโลกหนึ่งอยู่  ไม่เป็นไร ถ้าอาทัชกลับมา ค่อยพากันไปถ่ายรูปอีกครั้งที่สตูดิโอก็ได้ และแน่นอนเสียเหลือเกินว่า ในรูปถ่ายใบนั้น จะต้องไม่มีผู้หญิงที่ชื่อ ‘มนัญชยา’ อีกด้วย!

หญิงสาวยืนกอดดูรูปนั้นโดยใช้เวลาต่อไม่นานนัก  เสียงมือถือดังขึ้นจากกระเป๋าสะพายที่ปลดมันเอาไว้บนโชฟา เธอเดินไปหยิบมือถือมากดรับ เป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งในกลุ่มก๊วนที่ได้โทร. มาเตือนว่าวันนี้ได้นัดเพื่อนทุกคนในกลุ่มไปดูหนังที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านกลางเมือง และหลังจากนั้นก็หาทานข้าวเย็นสักมื้อก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันไปทำตามสิ่งที่ตนเองต้องทำต่อหลังเรียนจบปริญญาตรี

ณิชนันท์คุยอะไรกับเพื่อนคนดังกล่าวสั้นๆ แล้ววางสายก่อนจะเดินออกจากห้องรับแขกมุ่งหน้าไปยังรถยนต์คันสวยที่บิดาได้ซื้อให้เมื่อเธอเรียนอยู่ปีสาม เพื่อจะไปยังจุดหมายปลายทางที่เธอได้นัดกับเพื่อนๆ เอาไว้

คล้อยหลังณิชนันท์ ร่างบอบบางที่ลอบยืนมองณิชนันท์ตั้งแต่ต้นที่อีกฝ่ายเดินมายังห้องรับแขก ได้ก้าวออกจากที่ลับ มุ่งไปยังถังขยะใบเดิมที่อยู่ภายในห้องรับแขก เธอค่อยๆ โน้มตัวลงไปหยิบสิ่งของที่ณิชนันท์เพิ่งทิ้งมันลงถังขยะอย่างไม่ใยดี ด้วยสีหน้าราบเรียบ แววตากระด้าง และมือบางที่หยิบกรอบรูปใบนั้นขึ้นมา ก็ค่อยๆ สั่นเทาด้วยความโกรธกรุ่นสุดระงับ

ครั้งนี้ ก็เป็นอีกครั้งที่ณิชนันท์ได้ทำอะไรโดยไม่นึกถึงความรู้สึกของเธออีกแล้ว! หญิงสาวปราดไปยังกรอบรูปอีกอันที่อีกฝ่ายเอามาเปลี่ยน  ระงับความโกรธเอาไว้สุดกำลังที่จะไม่ใช้มืออีกข้างปัดมันทิ้งลงพื้น สุดท้ายจำต้องกำมือข้างนั้นแน่น แล้วสะบัดลงข้างตัว

เธอรู้ รู้ว่าที่ผ่านมา อีกฝ่ายนั้นแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาไม่ว่าต่อหน้าหรือลับลุงคุณลุงธีและป้ามน  ว่าเกลียดเธอปานใด  และความเกลียดที่มีนั้นก็นำมาซึ่งกริยาที่แสดงออกอย่างไม่นึกถึงความรู้สึกของเธอเลยและ เธอเองก็เป็นฝ่ายที่เพียรระงับความโกรธนั้นเอาไว้  หากแต่นานๆ ครั้งที่ระงับไม่อยู่ เธอยอมรับว่าก็หาทางเอาคืนณิชนันท์เหมือนกันเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายได้ใจจนต้องมาข่มเหงจิตใจกันบ่อยนัก

แต่ณิชนันท์ถือว่าเป็นลูกสาวบ้านนี้ มองเธอเป็นแค่คนอาศัย จึงทะนงตัวไม่ได้สนใจ มีแต่ความถือดีที่มนัญชยาทั้งเกลียด และรู้สึกอิจฉาริษยาอยู่ในคราวเดียวกัน!

หลังจากยืนเพื่อระงับอารมณ์ชั่วครู่  มนัญชยาตัดสินใจหยิบกรอบรูปอันที่ณิชนันท์ทิ้งลงถังขยะ ติดมือแล้วเดินกลับไปที่ห้องนอนของเธอ ด้วยอาการนึกตรึกตรองบางเรื่องอยู่ในใจเงียบๆ


และ พอคล้อยหลังมนัญชยาไปไม่เท่าไหร่  ชุติมน เห็นแต่ต้นว่าลูกสาวของตัวเองกำลังทำอะไร ทีแรกจะออกมาห้ามไม่ให้ณิชนันท์นำรูปนั้นไปทิ้ง เพราะเป็นธีริทธิ์นั่นเองที่เป็นผู้บอกตัวเธอให้นำรูปนั้นไปใส่กรอบแล้วนำมาวางไว้ที่ห้องรับแขก  แต่พอเห็นมนัญชยาเดินออกมาก่อน เลยสังเกตท่าทีของมัญชยาดูบ้าง  เป็นอย่างที่ตนเองนึก เพราะมนัญชยามีอาการไม่พอใจ แต่ก็ไม่ทำอะไรมากไปกว่ากริยาฮึดฮัดนั่น ชุติมนเหลียวไปมองต้นเหตุของเรื่องที่เป็นเพียงแค่กรอบรูปใบหนึ่งที่ณิชนันท์นำมาเปลี่ยนอันเดิมออกไป พลางถอนหายใจด้วยความรู้สึกลำบากใจเหลือคณานับ  

นับจากวันนั้น วันที่หญิงสาวคนหนึ่งได้ก้าวเข้ามาอยู่ในบ้านนี้ในฐานะสมาชิกคนใหม่ของบ้าน จนวันนี้ เกือบๆ สิบปี  ซึ่งเป็นสิบปีที่บอกว่ามีอะไรหลายๆ อย่างที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมายเหลือเกิน เช่น ธุรกิจของเธอและสามีที่เมื่อก่อนเป็นเพียงบริษัทธุรกิจอัญมณีที่รับผลิตตามออเดอร์ของลูกค้า ขนาดเล็ก  จากขนาดเล็กก็เริ่มขยายตัวออกมาเป็นขนาดกลาง ดังนั้นภายในช่วงเวลาดังกล่าวถือว่าเป็นช่วงที่บริษัทมีงานยุ่ง ยุ่งจนชนิดที่ว่า

ชุติมนต้องกลับไปช่วยธีริทธ์ดูแลบริษัท โดยละทิ้งความตั้งใจเดิมที่อยากจะเป็นเพียงแม่บ้านที่ดีให้เขา และเมื่อเธอกลับไปช่วยธีริทธิ์ดูแลบริษัท งานในบ้านทั้งหมดจึงตกเป็นของมนัญชยาที่หญิงสาวก็เคยช่วย เธอดูแลมาตลอดอยู่แล้ว และเพื่อไม่ให้หญิงสาวเหนื่อยเกินไป เธอกับธีริทธ์จึงตัดสินใจรับคนรับใช้เพิ่มอีกคนจากที่มีอยู่แล้วหนึ่งคนก่อนหน้านั้น  ชุติมนยอมรับว่าเมื่อมีมนัญชยาที่ไว้ใจได้ในเรื่องงานภายในบ้าน ช่วยแบ่งเบาภาระทำให้ตนเองเบาแรงได้อีกมาก มนัญชยาก็ช่วยดูแลงานบ้านได้ดีทีเดียว

สิ่งที่เปลี่ยนต่อมา คือ   เด็กสาวสองคนเมื่อก่อนหน้านั้นยังเป็นเด็กสาวน่ารักสดใสตามวัย แต่เวลานี้ ทั้งสองก็เติบโตหน้าตาสะสวยใครหลายคนต่างก็ชมเมื่อพบเห็น   ใช่หลายๆ ปีที่ผ่านมา มีอะไรหลายๆ อย่างเปลี่ยนไปมาก   แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนและดูเหมือนว่า นับวันก็ยิ่งดูจะเลวร้ายลงไปนั่นคือ ความสัมพันธ์ของลูกสาวและบิดา ที่ชุติมันรู้สึกรู้สึกว่าหนักใจ เสียยิ่งกว่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างลูกสาวเธอและหญิงสาวอีกคนมากกว่า

วกกลับมานึกถึงเรื่องลูกสาว นับวันณิชนันท์จะห่างเหินกับผู้เป็นพ่อ มีเรื่องให้ทะเลาะกันอยู่บ่อย มีครั้งหนึ่งที่รุนแรง จนณิชนันท์ต้องหนีไปนอนที่บ้านของคุณป้าที่เป็นพี่สาวแท้ๆ ของธีริทธิ์ จนเธอต้องตามไปง้องอนแทนสามีและขอให้ลูกสาวกลับมาที่บ้าน

อีกเรื่องที่สำคัญ เป็นเรื่องที่มีเพียงเธอและธีริทธิ์เท่านั้นที่ทราบถึงเรื่องนี้ดี  สายตาคนภายนอกแม้แต่ณิชนันท์ลูกสาวแท้ๆ เองก็คงไม่ทราบ เรื่องนี้ ก็คือ ความสัมพันธ์ของเธอและธีริทธิ์ที่เริ่มห่างเหินจืดจางกันไปไม่เหมือนคู่สามีภรรยาที่ตกลงใช้ชีวิตด้วยกันใหม่ๆ  

ข้อนี้เธอทราบ   ตัวเธอเองก็พอเข้าใจว่าเกิดจากสาเหตุหลายอย่างเช่น ต่างคนต่างต้องทำงานที่ยุ่งยาก และที่สำคัญก็เป็นไป ตามประสาของคู่สามีและภรรยาที่อยู่กินกันเป็นเวลานานๆ ความสัมพันธ์จึงลดลงไปเหลือแค่ ”เพื่อนคู่คิด” เท่านั้นเอง

ชุติมนเข้าใจและไม่ได้เดือดร้อนกับความสัมพันธ์ที่ห่างหายไปของสามี  เธอนึกขอแค่เขายังไม่นอกใจ เธอไปมีคนอื่น ถึงแม้จะเย็นชาห่างหายไปบ้างก็ยังไม่สร้างความหนักใจให้กับเธอเองมากเท่าไหร่

ชุติมนถอนหายใจแรงๆ ยามนึกถึงความเปลี่ยนแปลงต่างๆ เหล่านั้น  ที่คงมีเพียงเธอคนเดียวกระมังที่คำนึงถึง  และคิดตรึกตรองอยู่เพียงแค่คนเดียว ไม่มีใครคนอื่นสนใจอีกแล้ว ชุติมนให้กำลังใจตัวเองว่า ไม่เป็นไร อีกหน่อยเธอคงจะรู้สึกดีขึ้น ที่มีน้องสามีเช่นนนทัช  คนที่พอเข้าอกเข้าใจเธอดี คงพอจะพูดคุยกันได้  

และเป็นเรื่องที่น่าที่ยินดีเมื่ออีกฝ่ายเพิ่งส่งข่าวคราวมาว่า คงจะได้กลับมาในเร็ววัน ซึ่งวันนั้นมาถึงเธอเองก็คงไม่ต้องมารู้สึกอึดอัดลำบากใจกับหลายๆ เรื่องอย่างนี้ เพราะอย่างน้อยนนทัชก็พอจะให้เธอปรับทุกข์หรือช่วยเธอคิดในบางเรื่องได้บ้างอยู่ดี


.
(มีต่อ)


.

แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 55 17:50:00

แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 55 17:31:23

จากคุณ : พิณพลอย
เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 17:27:13




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com