.
“ใครมาหาเหรอลูกกลิ่น ...”
“อ้าว! พ่อมาก็ดีเลยค่ะ กลิ่นมีใครบางคนที่อยากจะแนะนำให้พ่อรู้จักอยู่พอดี “
ธาวินเหลียวกลับไป มองบุคคล ที่ได้ชื่อว่าเป็นบิดาของหญิงสาว และยามเขาเหลียวไป ตาเขาก็ต้องตาโตแล้วรีบหันกลับ ดอกไม้ช่อใหญ่ที่ตั้งใจจะมอบให้แก่หญิงสาวแสนสวยตรงหน้า ถูกนำใช้บดบังหน้าตาเองเสียมิด เมื่อจำขึ้นมาได้ว่า บุคคลที่กำลังเดินมานั้น
คือตาแก่ที่ตนเจอเมื่อคราวที่แล้ว !!
‘ตายห่า! ตาแก่นี้คือคนที่มาเจอตนกำลังเล่นเลิฟซีนกับซู่ซี่อยู่ในลิฟท์นี่หว่า ไหงถึงกลายมาเป็นพ่อของกลิ่นแก้วได้ล่ะวะ!”
ภายใต้ดอกไม้ช่อใหญ่ ธาวินกำลังทำหน้ายุ่งยาก ขณะที่คนที่เขากล่าวถึง ก็รีบสาวเท้าเข้ามาหาไวๆ เพราะเมื่อกี้ตนเห็นใบหน้าไอ้หนุ่มคนนี้แวบๆ หน้ามันคล้ายๆ คุ้นๆ เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อนก็ไม่รู้สิ
“เอะ หน้าตาคุ้นๆ”
“พี่วิน! พี่วินคะ!” กลิ่นแก้วส่งเสียงเรียก พร้อมมองชายหนุ่มตรงหน้า ด้วยสีหน้าสงสัย แปลกใจ
“ขะ ครับน้องกลิ่น” ธาวินค่อยๆ เลื่อนใบหน้าโพล่จากดอกไม้ช่อใหญ่ พลางยิ้มแหย ก่อนจะผลุบกลับไปหลบเหมือนเดิม
บิดากลิ่นแก้ว ได้ก้าวมาประจัญหน้าตน พร้อมทั้งพยายามชะโงกหน้ามองดูเขาผ่านดอกไม้ช่อใหญ่ และเมื่อพยายามมองเท่าไหร่ก็เห็นหน้าผู้ชายที่ตนบอกว่าหน้าคุ้นๆ ไม่ชัด
กำนันเพิ่มศักดิ์ก็เริ่มรู้สึกหงุดหงิด รำคาญใจ มือใหญ่หยาบกร้าน จึงยื่นไปหมายจะดึงดอกไม้ช่อใหญ่ติดมือออกมาอย่างใจคิด
แต่ทว่าไม่ว่าตนจะพยายามดึงช่อดอกไม้ช่อโตจากมือเจ้าหนุ่มนี่ออกเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนกลับว่า ผู้ชายคนนี้ก็ยิ่งฉุดมันกลับไปเท่านั้น
“พ่อหนุ่ม ไหนข้าขอดูหน้าหน่อยซิ”
ธาวินทำเสียงจิกจักขัดใจในลำคอ เมื่อนึกได้ว่า ไหนๆ ตนก็ไม่สามารถหลบเร้นได้ทันแล้วก็คิดที่จะเล่นบทดื้อแพ่งเสีย คือไม่ว่าตาแก่ตรงหน้าจะกล่าวหาตนมาเช่นไร ตนต้องทำท่าใจดีสู้เสีย พร้อมทั้งปฏิเสธอย่างเดียวเอาไว้ก่อน
ว่าแล้วธาวินก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นพลางยิ้มแหย ก่อนจะยกมือไหว้คนตรงหน้าทั้งๆ ที่ดอกไม้ช่อใหญ่ยังคาอยู่ในมือข้างนึงอยู่ “สวัสดีครับ คุณพ่อ”
พอกำนันเพิ่มศักดิ์ได้เห็นผู้ชายตรงหน้าอย่างถนัดตาเท่านั้นแหละ ตนถึงเกิดอาการผงะไปในทันควัน จะว่าผงะ ตรงที่ไอ้หนุ่มที่เพิ่งเห็นหน้า บังอาจมาเรียกตนว่า ‘พ่อ’ ก็ใช่ และที่สำคัญ ตนผงะเมื่อจำได้แล้วว่า มันคือ…
ไอ้ผู้ชายคนนั้น! “เฮ๊ย นี่ๆๆๆ” “ครับ”
“นี่ พ่อหนุ่มคนนั้นใช่มั้ย คนที่ๆๆๆ” ‘คนที่’ จะบอกจะกล่าวอะไรแต่ทำไมคำพูดมันยังติดอยู่ตรงปลายลิ้น ตนจะว่าคุ้นก็คุ้น
“คนที่อะไรคะ พ่อ”
“คนที่”
“เอ่อ... กลิ่นครับพี่ว่า พี่ลากลับก่อนดีกว่า จำได้ว่ามีธุระต้องไปทำต่อ นี่จ้ะดอกไม้ของน้องกลิ่น” ชายหนุ่มพูดเร็วปรื้อพร้อมยื่นดอกไม้ใส่มือหญิงสาว ก่อนจะหันมากล่าวลา บิดากลิ่นแก้วที่กำลังจะพูดอะไรออกมา แต่มันติดตรงปลายลิ้น ได้ที ธาวินเลยฉวยโอกาสนี้จากไปเสียดื้อๆ
“งั้นผมลาก่อนนะครับ คุณพ่อ”
“เดี๋ยว!”
ธาวินจะหมุนตัวหนีแต่ไม้ตะพดสีดำมะเมื่อมตวัดขึ้นมาขวางหน้าเขาเฉยเลย ชายหนุ่มหลับตาลง
“ถ้าข้ายังไม่อนุญาตใครมามาเรียกข้าว่าพ่อ ก็อย่าเพิ่งมาเรียก เพราะข้ามีลูกสาวเพียงคนเดียว!”
“พ่อ!” เสียงกลิ่นแก้วโพล่งอุทานขึ้นด้วยความไม่ชอบใจ เธอหันไปมองทางธาวิน อีกฝ่ายค่อยๆ เบือนหน้ากลับมายิ้มจืดเจื่อนให้ผู้เป็นบิดาเธอ และนั่นแหละ ท่านถึงได้ยอมลดไม่ตะพดคู่มือลง
“ขะ ครับๆ คุณลุง ก็คุณลุง”
“ข้าว่าที่ข้าคุ้นหน้าคุ้นตา นึกออกแล้วว่าเคยเจอหน้าพ่อหนุ่มที่ไหน”
ธาวินกลืนน้ำลายลงคอโดยพลัน นึกว่าจะรอดแล้วเชียว แต่เมื่อเขาได้บอกกับตัวเองแล้วว่า จะอย่างไร เขาต้องเล่นบทดื้อแพ่งให้สำเร็จให้ได้
“คุ้นหน้า ? เอ่อผมว่าลุง คงจะจำคนผิดแล้วล่ะครับ ผมเพิ่งมาบ้านคุณลุงครั้งแรก”
กำนันเพิ่มศักดิ์นิ่วหน้าขึ้นทันควัน ไอ้หนุ่มนี้ ลื่นไหลไม่เบานี่หว่า “.. ข้าไม่ได้หมายถึงที่บ้านนี้” กำนันเพิ่มศักดิ์พูดเสียงหนัก พอๆ กับการใช้ไม่ตะพดของตนกระแทกลงหนักบนพื้นดินบ้านแกประกอบคำพูดนั้นสองสามที
“พ่อ ทำไมต้องใช้น้ำเสียงและกริยาแบบนี้กับ…” กลิ่นแก้วขยับเข้ามา หมายจะว่าบิดา แต่เธอจำต้องหุบปากและทำท่าขัดใจแทน เมื่อมือของบิดาอีกข้างตวัดมือห้ามให้เธอ พูดมากไปกว่านั้น
“เอ่อ นั่นแหละครับ ผมว่า.. ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม ผมยืนยันได้ว่า ผมเจอลุงกำนันก็ครั้งแรกนะครับ”
“แน่ใจ๋ ?” กำนันเพิ่มศักดิ์ทวนความมั่นใจของเจ้าหนุ่มตรงหน้าเสียงสูง พร้อมหรี่นัยน์ข้างหนึ่งประกอบ
“ครับ แน่ใจ” ทางธาวินเองก็พยักหน้าหงึกๆ ยืนยันกลับมาอย่างเต็มที่
“ นั่นน่ะสิคะพ่อพี่วินเค้าก็เพิ่งมาบ้านเราเป็นครั้งแรก ชีวิตที่ผ่านมาพี่วินเค้าก็อยู่แต่เมืองนอก จะกลับประเทศไทยก็เพิ่งไม่นาน แล้วพ่อจะเคยเจอพี่วินได้ยัง อีกอย่างการที่เคยเจอ หรือไม่เคยเจอมาก่อนนั้น มันจะแย่ตรงไหน ถึงขนาดทำให้พ่อ ทำท่าเค้นพี่วิน อย่างกับพี่วินเป็นนักโทษของพ่อแบบนี้” กลิ่นแก้วออกหน้าแทนชายหนุ่มเต็มที่
ซึ่งนั่นก็ทำให้ธาวินโล่งใจขึ้น และจะยิ่งโล่งใจมากกว่าเดิม เมื่อเธอ พยายามตัดบทกันให้เขารีบออกห่างจากบิดาเธอไปโดยไว
“พี่วิน รีบไปธุระเถอะค่ะ พ่อกลิ่นท่านอาจจะจำผิดคน ไปเถอะค่ะ จะได้ไม่เสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่องนาน”
“ครับน้องกลิ่น” ธาวินรีบรับคำพร้อมรอยยิ้มที่บอกว่าตนเองแสนจะโล่งใจ ก่อนจะหุบยิ้มยามหันมายกมือไหว้กำนันเพิ่มศักดิ์อีกครั้ง ที่อีกฝ่ายเอาแต่จ้องหน้าตนด้วยสายตาอ่านลำบาก “เอ่อ งั้นผมลากลับก่อน นะครับ ลุงกำนัน”
แล้วธาวินก็รีบออกไปจากที่ตรงนี้โดยพลัน
“พ่อไปทำเหมือนพี่วินเป็นนักโทษของพ่อแบบนั้นได้ยังไงคะ?” กลิ่นแก้วเริ่มถามบิดาด้วยน้ำเสียงขุ่น หลังจากรถคันแพงลิ่วของธาวินขับออกนอกบริเวณบ้านหลังนี้ไปแล้ว
“ตอบพ่อมาก่อนนะกลิ่น ว่ากลิ่นกับเจ้าหมอนี่ คบหากันในฐานะไหน”
แทนที่ท่านจะตอบคำถามเธอก่อน ท่านกลับมาถามเธอในอีกเรื่องนึง กลิ่นแก้วรีบตวัดมือกอดอก พิเคราะห์เอาเองว่า อาการที่บิดาเธอเป็นแบบนี้ คืออาการหวงลูกสาวนั่นเอง ท่านหวงเธอมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว และที่ทำท่าทางกับธาวินเมื่อครู่ มันก็คือลูกไม้ตื้นๆ ที่ท่านจะใช้กันพี่วินออกห่างเธอ เหมือนอย่างที่ท่านทำตลอดมา
หึ! นึกอยากจะมาทำกิริยาไม่ดีกับพี่ธาวิน เธอจะแกล้งท่านเสียให้เข็ด
“กลิ่นไม่ตอบคำถามพ่อนะคะ …อาจจะเป็นคนรัก หรือถ้ายังไม่ใช่คนรักกันในตอนนี้ ก็ใกล้จะเป็นคนรักกันแล้วล่ะ”
“กลิ่น!
กลิ่นแก้วนิ่วหน้า ทำไมบิดาเธอถึงดุและจริงจังกว่าทุกครั้ง “ก็พ่อไม่มีเหตุผลกับกลิ่นนี่คะ อะไรกันจะมาตั้งท่า สอบสวนแขกของกลิ่นแบบนี้”
“แต่ไอ้หมอนี่ไม่ใช้ผู้ชายที่ดีเด่อะไร พ่อรู้มาแล้ว”
“พ่อจะรู้จักพี่วินได้ยังไง ในเมือกลิ่นก็บอกไปแล้วนี่นาว่า... อ้อ! กลิ่นว่าพ่ออาจจะเคยเห็นหน้าพี่เค้าตามหนังสือพิมพ์หรือตามทีวีล่ะซี่ แน่ล่ะพี่วินออกทีวีอบ๊อย บ่อย ลงหนังสือพิมพ์ อ้อ เคยเล่นโฆษณารถยนต์ยี่ห้อนึงด้วยนินา”
“ไม่ใช่! พ่อเจอมัน กับผู้หญิงอีกคนที่กำลังทำบัดสีบัดเถลิงในลิฟท์ ต่อหน้าพ่อนี่เลย!”
กลิ่นแก้วหัวเราะร่วนขึ้นมาแทนที่จะทำท่าตกอกตกใจอย่างที่กำนันเพิ่มศักดิ์คาดเอาไว้ก่อนหน้า “ถ้าอย่างนั้นกลิ่นมั่นใจแล้วค่ะ ว่าพ่อจำผิดคนแน่ๆ พี่วินน่ะเค้าเป็นผู้ชายที่นิสัยดีมากๆๆๆ เป็นสุภาพบุรุษเกินพอ ไม่มีทางทำอะไรที่รุ่มร่ามแบบนั้นกับผู้หญิงหรอก กลิ่นรู้จักพี่วินดี”
กำนันเพิ่มศักดิ์พูดไม่ออก กลิ่นแก้วตวัดมือกอดอกอีกครั้งพร้อมเบือนหน้าหนี เธอกำลังดื้อแพ่งไปตามความคิดของตนเองแต่ฝ่ายเดียว
“จะยังไงก็ตาม พ่อบอกไว้ก่อนเลยนะ ว่ากลิ่นคบกับผู้ชายคนนี้ในฐานะคนรู้จักกันได้ แต่ห้ามคบกันมันที่ในฐานะที่เกินกว่านั้น!”
“พ่อ !”
กำนันเพิ่มศักดิ์บอกเสียงแข็งแล้วรีบหันหลังเดินกลับเข้าไปในบ้าน โดยมีจุกเดินตามต้อยๆ ไม่ได้สนใจกับท่าทีตกใจของลูกสาวตนที่ยังยืนอึ้งอยู่ด้านหลัง
“ไปกันใหญ่แล้วกลิ่น ทำไมพ่อกำนันของกลิ่นถึง…”
งามตายื่นหน้าเข้ามาถามด้วยความอยากรู้ แต่กลิ่นแก้วก็ชิงหันมาตอบเสียก่อน ด้วยอารมณ์ฮึดฮัด ที่เธอกำลังพยายามเก็บเอาความไม่พอใจที่เกิดขึ้นเอาไว้ในอก
“พ่อก็เป็นแบบนี้แหละงาม หวงลูกสาวไม่ใช่เล่น ไม่มีอะไรหรอก นี่คงกุเรื่องมาหลอกกลิ่นเหมือนกับที่ผ่านๆ มาแน่ๆ”
“แต่ ฉันว่า ท่าทางสีหน้าและแววตาของพ่อกำนันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยนะ”
กลิ่นแก้วนิ่งคิด มันก็จริงอย่างงามตาพูด แต่เธอก็ปัดความคิดนั้นไปเสีย “เชื่อฉันเถอะงาม พ่อแค่หวงฉันนะ ไม่มีอะไรหรอกน่า อย่าสนใจเลย”
จากคุณ |
:
พิณพลอย
|
เขียนเมื่อ |
:
26 ก.พ. 55 16:53:37
|
|
|
|