อนาวินเปิดประตูห้องนอนด้วยสีหน้ายุ่งเหยิง สูทตัวนอกถูกเหวี่ยงทิ้งอย่างไม่ใยดี ก่อนร่างสูงจะทิ้งตัวลงนอนแผ่ขวางกลางเตียงอย่างคนหมดเรี่ยวแรง สาเหตุเป็นเพราะวันนี้ทั้งวัน เหมือนว่าเขายืนอยู่ท่ามกลางเฮอร์ริเคนที่ซัดกระหน่ำมาจากคณะกรรมการบริหารและบรรดาผู้ถือหุ้นที่แสดงท่าทีกระด้างกระเดื่องต่อเขาในการรับช่วงคุมอำนาจสูงสุดต่อจากบิดา และพิมพ์ศิริรับภาระหน้าที่ของศรามาทำแทนทั้งหมด..บรรดาผู้เข้าประชุมแบ่งเป็นสองฝ่ายชัดเจน ผู้สนับสนุนเขามีจตุพล ที่เป็นทั้งกรรมการบริหารและผู้ถือหุ้นลำดับสาม ขณะที่อีกฝ่ายมีดนุพงษ์ ผู้ถือหุ้นลำดับสี่และเป็นกรรมการบริหารเช่นกันเป็นหัวเรือใหญ่ในการปะทะ จนทั้งห้องประชุมกลายเป็นสมรภูมิสงครามน้ำลายให้เขาต้องปวดขมับ และกว่าจะไกล่เกลี่ยกันได้เส้นเลือดฝอยเขาก็แทบแตก
ชายหนุ่มขยับตัวพลิกคว่ำ ดวงตาปิดปรือ พลางเอ่ยเสียงยานคาง โอย..อยากได้อีหนูมาอาบน้ำให้สักคน..
เพียงแค่พึมพำออกมาลอยๆเท่านั้น แต่สมองเจ้ากรรมดันส่งภาพของราโมน่าในชุดบิกินีโผล่พรวดขึ้นในทันใด ส่งผลให้ร่างกายเกิดปฏิกิริยาตอบสนองรุ่มร้อน จนต้องขยับลุกขึ้นนั่ง งุ่นง่านหัวใจ
โธ่เว้ย! เป็นเอามากนะ ไอ้จิล
ไม่นานก็ถอนใจเฮือก ยอมรับว่าบ่อยครั้งที่เขามักจะคิดถึงรุ่นน้องแสนเซ็กซี่คนนั้น ซึ่งมันก็ไม่ผิดอะไรที่ผู้ชายคนหนึ่งจะหลงใหลในเสน่ห์เย้ายวนของผู้หญิงอีกคนหนึ่ง แต่ที่มันจะผิดมหันต์ก็ตรงที่ว่า เลือดของเขาเป็นพาณิชย์ไพศาล ส่วนของเธอเป็น รัตนากร ที่มันไม่มีทางจะไหลเวียนผสมผสานกันได้เท่านั้นเอง!
แต่ถึงแม้จะไม่ได้เชยชมตัวจริง เขาก็ยังมีรูปให้ชื่นชมแก้ขัด..นึกได้ดังนั้นก็เลื่อนตัวยื่นมือมาเปิดตู้ใต้ลิ้นชักข้างหัวเตียง เห็นถึงแป้นรหัสเซฟที่ต้องแสกนลายนิ้วมือก่อนถึงจะกดรหัสได้..ไม่กี่อึดใจ ประตูเซฟก็เปิดกว้างให้เขาหยิบนิตยสารที่วางปะปนกับกล่องสมบัติส่วนหนึ่งของเขาออกมา ซึ่งเป็นภาพปกของราโมน่าในชุดว่ายน้ำ และเขายังแอบซื้อนิตยสารที่มีหญิงสาวขึ้นปกอยู่อีกหลายเล่ม แต่มันได้ถูกย้ายไปซุกซ่อนอยู่ที่ห้องชุดของเขาแทน
ชายหนุ่มนั่งพิงหัวเตียงดูภาพในนิตยสารได้ไม่กี่อึดใจ เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น..จากเตชิต จึงกดรับ
มีอะไรเรอะ ถึงโทรมาซะดึกเชียว
และเมื่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับราโมน่าถูกถ่ายทอดให้ได้รู้ อนาวินถึงกับเบิกตาค้างลุกพรวดด้วยความห่วงใยที่ไม่รู้ว่ามันหลั่งไหลมาจากที่ใด แต่มันกำลังทำให้เขากระวนกระวายใจจนนั่งไม่ติด
ราโมน่าไม่เป็นอะไรใช่ไหม
เตชิตเหลือบมองซีกแก้มข้างซ้ายที่เห่อบวมของหญิง ก่อนตอบเสียงขรึม โดนตบ..นิดหน่อย
แต่คำว่า นิดหน่อย ของเตชิต มันทำให้คนฟังเดือดพล่าน โดนตบเนี่ยนะ!..พาเขากลับมา
หือ!? พาไปบ้านคุณเรอะ
เออ เร็วๆด้วย..ฉันอยากเห็นกับตาว่าเขาเจ็บมากน้อยแค่ไหน สั่งจบก็ตัดสัญญาณเดินหงุดหงิดงุ่นง่าน พลางคิดว่า หากเขาอยู่ตรงนั้นล่ะก็ จะยิงไอ้เลวพวกนั้นทิ้งให้หมด!
อนาวินอดทนยืนรอใต้มุขหน้าบ้านเสมือนว่าผ่านไปแล้วหนึ่งชาติ..รถยนต์สีดำของตฤนที่เตชิตนำมาใช้ก็แล่นเข้ามาจอดเทียบเชิงบันได
ชายหนุ่มก้าวลงบันไดในจังหวะที่เตชิตเปิดประตูลงจากรถเดินมาเปิดประตูฝั่งผู้โดยสารตอนหลัง ให้อนาวินเห็นร่างของราโมน่านอนนิ่งบนเบาะ ชายหนุ่มโน้มตัวเลื่อนเข้าไปภายในตัวรถเหนือร่างอวบอิ่มสำรวจหาร่องรอยบอบช้ำตามที่เตชิตบอก แล้วก็พึมพำอย่างเจ็บแค้น
บ้าเอ้ย! เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นได้ไง
จากนั้น ก็ประคองร่างหญิงสาวออกมา และโอบอุ้มอย่างถนอมก้าวเข้าบ้านตรงดิ่งขึ้นห้องนอนของตน ทิ้งให้อีกคนมองตามด้วยความกังขา เพราะจากสีหน้าและการกระทำเมื่อครู่ของอนาวิน มันแสดงความรู้สึกที่มีต่อหญิงสาวออกมามากกว่าแค่คนรู้จักกันเพียงผิวเผิน..เขากอดอกยืนพิงตัวรถไม่กี่อึดใจ ไมค์ก็ขับรถของราโมน่าเข้ามาตามคำขอทางโทรศัพท์ของเตชิต
และเปิดประตูรถลงมาหาชายหนุ่ม คุณจิลล่ะ
อุ้มผู้หญิงคนนั้นขึ้นห้องไปแล้ว
หา!?..อุ้มขึ้นห้อง..ไม่ใช่แค่โซฟาในห้องโถงเรอะ
ตรงดิ่งขึ้นห้องนอนของเขาเลย ชายหนุ่มย้ำอีกครั้ง ก่อนเดินนำเข้าบ้านตรงขึ้นบันไดไปหาอนาวิน โดยมีไมค์เดินตามมาอย่างไม่เข้าใจการกระทำของเจ้านายหนุ่ม..แค่ที่พาคนของฝ่ายตรงข้ามเข้าบ้านก็แปลกมากแล้ว แต่นี่ยังพาขึ้นห้องนอนให้เขาตื่นตะลึงอีก..ขืนนายใหญ่รู้เข้า เป็นเรื่องแน่!
ไมค์เคาะเรียกไม่กี่อึดใจ อนาวินก็เปิดประตูก้าวออกมาจากห้องก่อนปิดประตูตามหลัง และผู้ที่มีอายุมากที่สุดเอ่ยออกมาคล้ายติติง คุณจิลไม่ควรทำอย่างนี้นะครับ มันอาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้
ผมรู้น่ะ..ไว้ให้เขาฟื้นขึ้นมาก่อน แล้วค่อยว่ากัน
ขณะทั้งสามกำลังยืนพูดคุย..ราโมน่าขยับตัวฟื้นขึ้นมา พลัน นิ่วหน้ากับอาการร้าวระบมบริเวณหน้าท้อง ใบหน้าและเคล็ดขัดยอกแปลบปลาบทั่วเนื้อตัว ก่อนกวาดมองห้องนอนกว้าง สะอาด ที่ไม่คุ้นตาด้วยความรู้สึกหวาดกลัว และแม้ว่าจะจับต้นชนปลายไม่ถูก เธอก็ขอไปจากสถานที่แห่งนี้ให้เร็วที่สุด
หญิงสาวลนลานลงจากเตียงเดินตัวงองุ้มเปิดประตูผัวะออกไป เจอเข้ากับร่างสูงใหญ่ของผู้ชายสามคนซึ่งบัดนี้จิตใจของเธอเต็มไปด้วยอาการหวาดผวา และทันทีที่เห็นไมค์ซึ่งยืนอยู่ในมุมโฟกัสชัดเจนของสายตา เส้นเสียงแห่งความตื่นกลัวก็กรี๊ดลั่นพร้อมปิดบานประตูอีกครั้ง แต่อนาวินรีบยันไว้พร้อมเรียกสติของเธอ
ราโมน่า! นี่พี่เอง..พี่จิลไง
โดยไม่รู้เลยว่า ประโยคนั้น มันยิ่งเพิ่มความหวาดกลัวกระหน่ำลงไปในใจของคนฟัง..ก็ไอ้สามคนนั่นไม่ใช่เรอะที่เป็นคนของเขา..ขนาดเป็นแค่ลูกน้องของอชิรยังแค้นเธอจนไม่ฟังอะไรกันเลย แล้วเขาเป็นถึงลูกชาย มิยิ่งแค้นเธอหนักกว่าอีกเรอะ..ทั้งๆที่เธอมีใจให้เขามากมาย แต่หากเขาคิดจะใช้เธอเป็นเครื่องมือระบายแค้นแล้วล่ะก็ เธอขอยอมตายเสียดีกว่า!
อนาวินออกแรงผลักอีกไม่เท่าไหร่ ก็สามารถก้าวเข้าไปยืนอยู่ภายในห้องนอนของตนเอง แต่หญิงสาวกลับถอยกรูดใบหน้าเผือดซีด หันรีหันขวางหาทางออก สุดท้ายก็กระโจนตรงไปยังหน้าต่างให้อนาวินอุทานเสียงหลง ผวาตามไปรวบร่างอวบอิ่มที่ทำท่าจะกระโดดลงไปไว้ในวงแขนแน่น
ราโมน่า! หยุดดิ้นก่อนซิ
เขาบอกเสียงเครียดพร้อมยื้อยุดร่างของคนในอ้อมแขนให้ห่างออกมาจากหน้าต่าง แต่ราโมน่ากลับกรีดร้องโหยหวนอย่างสิ้นหวัง เมื่อสองมือสั่นเทาพยายามเกาะขอบหน้าต่างได้ไม่เท่าไหร่ก็เลื่อนหลุด ได้แต่สะอึกสะอื้นจนตัวโยน ร่างกายไร้เรี่ยวแรงทรุดยวบ ร่างแกร่งกำยำที่กอดซ้อนอยู่ด้านหลังยอบตัวลงนั่งตามโดยมีเธอนั่งกลางหว่างขา พร่ำพูดวอนขอ
พี่จิลอย่าทำอะไรโม้นาเลยนะ..ลุงชัชไม่ได้ทำร้ายพ่อของพี่อย่างที่ทุกคนเข้าใจหรอก..พี่จิลอย่าแก้แค้นโม้นาแบบนี้เลย..โม้นาไม่เกี่ยวอะไรด้วย..ปล่อยโม้นาไปเถอะนะ..ได้โปรด
พลางขยับตัวจะลุกหนี แต่วงแขนแกร่งเพิ่มแรงกระชับโอบกอด เสียงทุ้มนุ่มนวลกระซิบเหนือศีรษะ พี่รู้ว่าโม้นาไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วพี่ก็ไม่เคยคิดแค้นอะไรเลย..พี่ไม่มีทางทำร้ายโม้นาหรอก ไม่ต้องกลัวนะ คนดี
พลางเอนซบใบหน้ากับกลุ่มผมยาวยุ่งเหยิง โยกตัวเบาๆหวังปลอบประโลมให้เธอคลายจากอาการขวัญกระเจิง..ช่วงนาทีแห่งการครุ่นคิดผ่านไปไม่นาน ร่างนุ่มละมุนสั่นสะท้านของคนในอ้อมกอดลดการเกร็งแข็งขืน แต่ยังไม่คลายสะอื้นถามเสียงเครือ
แต่สามคนนั่นเป็นลูกน้องของพี่นี่คะ..เขาไม่ได้ทำตามคำสั่งของพี่เหรอ พลางขยับตัวนั่งพับเพียบหันมามองใบหน้าคมเข้ม สบกับประกายตาอ่อนแสงนุ่มนวล ที่กำลังมองสบ สองแขนยังคงโอบประคองไม่ปล่อย
พี่ไม่เคยสั่งใครให้ทำเรื่องเลวร้ายแบบนั้น..และที่โม้นามาอยู่ที่นี่ ก็เป็นเพราะคนของพี่ช่วยโม้นามาจากสามคนนั่น..นี่คือความสัตย์จริง ที่พี่อยากให้โม้นารู้
ราโมน่ามองลึกเข้าไปในดวงตาคู่คมด้วยความสับสน แต่เมื่อพบกับความมั่นคง หนักแน่นในสิ่งที่พูด ..พี่ไม่ได้สั่งจริงๆนะคะ.. เธอขอคำยืนยันเสียงสั่นเครือ
และเขาก็ย้ำชัดอีกครั้ง พี่ไม่มีวันทำอย่างนั้นเด็ดขาด
ความหวาดหวั่น หวาดระแวงและสิ้นหวังที่รัดรึงเมื่อครู่ค่อยจางหาย เมื่อมั่นใจแล้วว่าเขาไม่ใช่ซาตานร้ายที่หมายทำลายเธอ ใบหน้าเจิ่งนองด้วยหยาดน้ำตาเอนซบแผ่นอกกว้างอย่างโล่งใจ ซุกตัวแสวงหาที่พึ่งพิงที่เชื่อว่าปลอดภัย ปลดปล่อยน้ำตาแห่งความหวาดกลัวทะลักทลายให้เขาได้รับรู้และช่วยปัดเป่าพาเธอผ่านพ้นค่ำคืนอันแสนเลวร้าย เพื่อจะกลับมาเข้มแข็งดังเดิม
ไมค์กับเตชิตยืนมองสองหนุ่มสาวที่ไม่มีทีท่าว่าจะยอมผละห่างจากกันในนาทีนี้ ทั้งสองจึงพร้อมใจกันหันเดินลงบันไดสีหน้าครุ่นคิด และเตชิตเป็นคนเอ่ยออกมาก่อน ลุงว่า คนของเรากล้าทำเรื่องนี้จริงๆเรอะ
ไม่มีทาง ทั้งพวกที่บ่อนหรือพวกที่ไซต์ ต่างก็รู้ว่าเสี่ยเกลียดการกระทำแบบนี้ที่สุด ขืนขัดคำสั่งเสี่ยเล่นงานหนักแน่
แต่หนึ่งในสามนั่น รู้สึกว่าผมจะเคยเห็นหน้านะ
ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องสืบหาตัวให้เจอ ดูเหมือนงานนี้จะมีคนอื่นเข้ามาเอี่ยวซะแล้วสิ..แล้วแบบนี้ คุณจิลจะรับมือไหวเรอะ
ไมค์พึมพำออกมาด้วยความหนักใจ แม้ว่าอนาวินจะเป็นลูกชายของนายใหญ่ แต่นิสัยและประสบการณ์นั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง หากมีศราคอยแนะนำอยู่เคียงข้างเขาก็ยังไม่เป็นกังวลใดๆ แต่การลอบโจมตีครั้งนี้ นำพาศราให้เจ็บหนักไปด้วย อนาวินจึงเหลือเพียงแค่พิมพ์ศิริเท่านั้น และหญิงสาวที่ถึงแม้จะถูกเคี่ยวเข็ญจนแกร่งกร้าว แต่ด้วยความที่เป็นผู้หญิงและยังด้อยประสบการณ์ คงสามารถช่วยเหลืออนาวินได้ไม่เท่าไหร่
เดี๋ยวผมจะเสก็ตภาพเจ้าคนที่ผมเคยเห็นหน้าส่งไปให้คนของเราที่บ่อนกับที่ไซต์ดูก็แล้วกัน ถ้าเป็นคนของเราจริง เดี๋ยวก็คงรู้แล้ว
อืมม์ ก็ดี..งั้นตอนนี้กลับกันก่อนดีกว่า เพราะขณะนี้ ดูทีท่าว่าเจ้านายหนุ่มคงไม่เหลือจิตใจคิดถึงเรื่องอื่นแล้ว
เดี๋ยวผมไปส่ง
มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว ไอ้หลานชาย
เมื่อแรงสะอื้นคลายลง พร้อมๆกับสติเริ่มกลับเข้าที่เข้าทาง ราโมน่าค่อยๆผละเนื้อตัวออกห่างจากอ้อมอกแกร่งที่ซุกซบ จมูกที่สูดสะอื้นสัมผัสกับกลิ่นกายของผู้ชายที่เจือด้วยน้ำหอมชั้นดีแปรเปลี่ยนหัวใจเปี่ยมด้วยความตื่นกลัวในคราวแรกเป็นเต้นรัวด้วยความรู้สึกอย่างอื่นแทรกขึ้นมาแทนที่ จนไม่กล้าสบประกายตาคมวาวที่กำลังจับจ้องไม่วางตา
..คือ..โม้นาว่า โม้นากลับดีกว่า..ขอบคุณที่ช่วยเหลือค่ะ..
อนาวินปล่อยร่างนุ่มละมุนอ้อยอิ่ง ซ่อนความเสียดายไว้ภายใต้รอยยิ้มแกนๆ พลางขยับตัวลุกขึ้นพร้อมช่วยประคองหญิงสาวขึ้นยืน
ราโมน่ารู้สึกว่าสองขาของตนนั้นกำลังสั่นเทา เรี่ยวแรงไม่รู้ไปอยู่ไหนหมดสองมือยังคงสั่นระริก เนื้อตัวยังคงรวดร้าวกับอาการบอบช้ำ แต่เธอยังฝืนยิ้มให้อนาวินก่อนก้าวเดินเพียงเท่านั้นก็ทรุดฮวบให้ชายหนุ่มที่เฝ้าจับตามองแทบทุกเสี้ยวนาทีรีบยื่นสองแขนไปประคองร่างนั้นอีกครั้ง
คืนนี้โม้นานอนที่นี่ก่อนเถอะนะ แล้วพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน
ไม่เป็นไรค่ะ โม้นาว่า..
แต่พี่เป็นห่วงนะ
ประโยคที่อนาวินโพล่งออกมาสะดุดใจคนฟังให้นิ่งขึง หัวใจเต้นกระโจนโครมครามหวั่นไหวกับถ้อยคำที่ได้ยินชัดเจน ในขณะที่ตัวคนพูดเองก็อึ้งไปชั่วอึดใจเช่นกัน..แต่เมื่อพูดออกไปแล้ว ก็ต่อให้จบด้วยน้ำเสียงเข้มเล็กน้อย
ตอนนี้โม้นาอยู่คนเดียวไม่ใช่เหรอ ถ้าเกิดเป็นอะไรไปใครจะช่วยได้ล่ะ อยู่ที่นี่ก่อนแล้วพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน..หรือไม่ไว้ใจพี่
เปล่าค่ะ..เพียงแต่โม้นาคิดว่า มันคงไม่สมควรที่โม้นาจะอยู่ที่นี่เท่านั้นเอง..
สมควรรึไม่ พี่เป็นคนตัดสินเอง..เข้าใจไหม
หญิงสาวช้อนสายตาขึ้นมองสบสายตาเรืองวาวเพียงครู่ ก็ก้มหน้าพร้อมพยักหงึกหงัก.. ดุแบบนี้ ใครจะกล้าบอกว่าไม่เข้าใจกันล่ะ
ถ้าเข้าใจก็ดีแล้ว งั้นนั่งลงก่อน อนาวินประคองเธอให้นั่งลงบนเก้าอี้ยาวปลายเตียง และเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำในห้องน้ำเดินกลับมายอบตัวลงนั่งเคียงข้าง พี่เช็ดตัวให้ เดี๋ยวจะได้ทายา
ราโมน่าอึกอัก แต่เมื่อปลายนิ้วเรียวยาวยื่นมาเกลี่ยปอยผมพร้อมสายตาคมเข้มสะกดตรึง ถ่ายทอดความห่วงใยส่งผ่านถึงกลางใจเธอ ร่างกายและคำพูดที่คิดจะทัดทานเป็นอันเงียบงัน ปล่อยให้เป็นไปสุดแท้แต่ความต้องการของเขา.. หัวใจที่เต้นแรงของเธอกำลังซึมซับทุกวินาทีของการเคลื่อนไหวนุ่มนวล เริ่มตั้งแต่ผืนผ้าเปียกชื้นน้ำอุ่นเช็ดคราบสกปรกจากฝุ่นดินและคราบน้ำตาอย่างแผ่วเบาทั่วผิวหน้า ไล่ลงตามลำคอให้เธอรู้สึกถึงความร้อนผ่าวของเลือดที่สูบฉีดแรง ก่อนที่สองแขนของเธอถูกเขาบรรจงเช็ดอย่างถนอม และแทบกลั้นใจในเวลาต่อมา เมื่อร่างเขาเลื่อนลงไปยอบตัวลงนั่งบนส้นเท้าตนเองเพื่อเช็ดเรียวขาทั้งสองข้างของเธอ
ดวงตาสีน้ำทะเลคู่สวยวาววับหวามไหวยามเผลอจับจ้องเสี้ยวหน้าคมสะอาดที่ก้มต่ำ ทุกเครื่องหน้าสลักเสลางดงามเฉกเช่นบุรุษอย่างหาที่ติไม่ได้เลย..และเป็นเพราะใบหน้านี้อีกเช่นกันที่ตราตรึงอยู่เต็มสี่ห้องหัวใจของเธอมานานนับสิบปี จนไม่เหลือที่ว่างให้ผู้ชายคนไหนได้กล้ำกลาย
และขณะที่กำลังมองเพลินๆ ใบหน้าที่เธอหลงใหลเงยขึ้นมาและหยัดยิ้มประกายพราวระยับส่งถึงดวงตาคู่คม ดั่งรู้ตัวว่ากำลังถูกแอบมองด้วยความชื่นชม ราโมน่าอึกอักรีบหยิบยกบทสนทนาขึ้นมาแก้เขิน
..คือ..โม้นากำลังนึกถึงตอนที่เจอกับพี่ครั้งแรกน่ะค่ะ..มันเหมือนกับตอนนี้เลย ที่พี่ต้องมาเช็ดเนื้อตัวให้น่ะค่ะ
นั่นสิ..ครั้งแรก เป็นเด็กหญิงตัวยาวเก้งก้าง หน้าตาบ้องแบ้ว..แต่ครั้งที่สอง กลับกลายเป็นสาวสวยเจ้าเสน่ห์ที่ทำให้ผู้ชายทั้งเมืองต้องใจสั่น เพียงแค่ได้สบดวงตาสวยๆคู่นี้ และเขา ก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน
ราโมน่านิ่งขึง ใบหน้าร้อนผ่าว ไม่รู้จะวางมือวางไม้ไว้ตรงไหนกับถ้อยคำเอ่ยชมที่เขาคงพูดออกมาโดยไม่ได้คิดอะไร เธอได้แต่ก้มหน้างุดฟังในประโยคต่อมาของเขา
และแต่ละครั้ง โม้นาต้องเจ็บตัวก่อนทุกที โดยเฉพาะครั้งนี้..พี่ไม่อยากให้โม้นาต้องเจ็บเนื้อเจ็บตัวเลยสักนิด
ความอุ่นวาบบังเกิดขึ้นในใจอีกครั้ง และไม่อยากทึกทักเอาเองเลยว่า กระแสเสียงและสายตาที่แสนอ่อนโยนนั้น มันมีความหมายพิเศษอะไรแฝงอยู่ ในเมื่อระหว่างเธอกับเขาต่างยืนอยู่บนเส้นทางคู่ขนานที่ไม่มีวันมาบรรจบกันได้
ร่างสูงลุกขึ้นเดินนำผ้าขนหนูไปไว้ในห้องน้ำ และหยิบตลับยามานั่งเคียงข้างเธออีกครั้ง บรรจงแตะแต้มเนื้อยาแผ่วเบาบนรอยเขียวช้ำและรอยขีดข่วนตามใบหน้า แขน-ขา เท่าที่สายตาเขาจะมองเห็น
โม้นาพักผ่อนนะ แล้วค่อยเจอกันพรุ่งนี้ บอกพร้อมประคองให้เธอลุกขึ้นมานั่งบนเตียงแทน ซึ่งหญิงสาวมองไปรอบๆอย่างพินิจอีกครั้งจนแน่ใจว่าห้องนี้เป็นห้องนอนของเขา
..แต่นี่..มันห้องของพี่ไม่ใช่เหรอคะ
ครับ แต่เดี๋ยวพี่ไปนอนห้องอื่นแทน โม้นานอนห้องนี้ล่ะ มันสะดวกกว่าด้วย ราโมน่าฟังคำตอบพร้อมๆกับร่างถูกจับเอนลงนอน และเขาตลบผ้าห่มขึ้นคลุมร่างให้เสร็จสรรพ
กู๊ดไนท์ครับ
เอ่อ..ค่ะ
ใบหน้าคมเข้มหยัดยิ้มพึงใจ ก่อนหันเดินเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบชุดทำงานที่จะสวมพรุ่งนี้เช้าติดมือเดินออกจากห้องนอนของตนไปยังห้องนอนของน้องสาวที่อยู่ถัดไปหมายอาศัยนอนชั่วข้ามคืน..ความจริงแล้วเขาจะให้ใครขับรถไปส่งราโมน่าที่คอนโดก็ได้ เพียงแต่เขาหาเหตุยืดเวลาให้เธอได้ใกล้ชิดเขาอีกหน่อยเท่านั้นเอง
ชายหนุ่มเปิดประตูก้าวเข้าไปภายในห้อง ซึ่งเครื่องใช้เครื่องนอนส่วนใหญ่เป็นโทนสีแดงเลือดหมูตามสไตล์ที่เจ้าของห้องโปรดปราน และยอบตัวลงนั่งบนเตียงหนานุ่ม ไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงที่เขาเพิ่งได้ชื่นชมบนแผ่นกระดาษจะปรากฏกายมาอยู่ตรงหน้าให้เขาได้สัมผัสตัวจริงที่ผิวกายแสนจะนุ่มละมุนละไม และขณะนี้ เธอก็กำลังอยู่บนเตียงนอนของเขา!
แต่ไม่กี่อึดใจ พลัน สะดุ้งผุดขึ้นยืน เมื่อนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้เก็บนิตยสารที่ราโมน่าขึ้นปกในชุดว่ายน้ำ และมันก็ยังวางอยู่บนเตียงใต้ผ้าห่มผืนนั้น จึงรีบก้าวออกจากห้องตรงไปเคาะประตูไม่กี่ครั้งก็เปิดเข้าไป ให้หญิงสาวที่ยังทอดร่างนอนท่าเดิมกะพริบตามองเขาหน้าตื่น
คือ..พี่ลืมของสำคัญน่ะ
หญิงสาวขยับหมายจะลงจากเตียง แต่เขารีบห้าม เพราะเกรงว่าเธอจะเหลือบไปเห็นมัน โม้นานอนเถอะ พี่หยิบแป๊บเดียวเท่านั้น แล้วก็รีบเดินไปอีกฝั่งเตียง เหลียวหาหนังสือเล่มอื่นมาถือก่อนเปิดชายผ้าห่มด้านหลังราโมน่าวางหนังสือที่คว้าเมื่อครู่ปิดทับนิตยสารเจ้าปัญหารวบมาถือด้วยกันอย่างเร็ว
เรียบร้อยจ้ะ..พี่ไปแล้ว
ล่ำลาอีกครั้ง ก่อนเดินตัวปลิวออกจากห้องปิดประตูตามหลัง พร้อมเป่าปากใจอย่างโล่งอกกับหนังสือในมือ
เฮ้อ! เกือบไปแล้วไหมล่ะ..สงสัยต้องรีบเอาไปเก็บที่คอนโดซะแล้ว
...................................................................................
จบตอนค่า โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ
จากคุณ |
:
ระรินใจ
|
เขียนเมื่อ |
:
26 ก.พ. 55 20:49:38
|
|
|
|