Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
~PSYCHO FEAR (ปี 2) ....๐ เรื่องที่ 4 : สื่อรักประดับทราย (ภาคพิเศษ)๐..... ติดต่อทีมงาน

ผิวเนียนบางแสบร้อนเจียนจะไหม้ เมื่อลมพายุบ้าคลั่งพัดพาเอาเม็ดทรายละเอียดที่ยังคงผ่าวระอุแม้ในยามพลบค่ำ เข้าปะทะร่างของมัลลิกาและบริวารอย่างไร้ปราณี

ก่อนที่มันจะจับพวกเขาแยกกระเด็นไปคนละทิศละทาง  แม้ว่าครั้งหนึ่งมัลลิกาได้เคยเรียนรู้วิธีการเอาตัวรอดจากภัยธรรมชาติของทะเลทรายก็ตาม
แต่แล้วเมื่อมาเจอเหตุการณ์ซึ่งหน้า หญิงสาวกลับทำได้เพียงพยุงร่างไว้ได้อย่างทุลักทุเล


บัดนี้ เอโทรเนียไม่ใข่เป็นเพียงแค่ดินแดนเเพ้อเจ้อ อีกต่อไปแล้ว

มันไม่ใช่เรื่องราวในตำนานของหนังสือพูดได้เล่มนั้น หนังสือของเทพราที่เธอพยายามผลักไสมันออกไปจากชีวิต

แต่โชคชะตาหรือควรจะเรียกว่าเวรกรรมกลับทำให้ต้องรับสภาพและเข้ามาอยู่ในห้วงเวลาอันประหลาดครั้งนี้

หากไม่ใช่เพราะวศินที่กำลังตกอยู่ในอันตรายเพราะอาถรรพ์ของหนังสือแล้วล่ะก็ เธอคงไม่ใจกล้ามาที่อียิปต์และดินแดนลี้ลับเช่นที่นี่

หญิงสาวยังคงก้มหน้าหมอบอยู่หลังม้าสีดำพ่วงพีเพื่อรอเวลาให้พายุสงบ แต่ในสมองกลับระลึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา...




ความอาถรรพ์ของมันได้สำแดงฤทธิ์ตั้งแต่วันที่วศินเดินทางกลับจากดูงานที่สวีเดน ในคืนวันก่อนออกเดินทางเขายังคงโทรมาหาเธอด้วยน้ำเสียงแจ่มใส ไม่มีลางบอกเหตุร้ายใดๆ
แต่แล้วมัลลิกาถึงกับมือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูกเมื่อตื่นมาในเช้าวันรุ่งขึ้นแล้วทราบข่าวว่าเครื่องบินโดยสารลำที่วศินใช้เดินทางได้สูญหายไป ซ้ำร้ายมันกลับไร้ร่องรอยให้ติดตาม  

เธอพยายามไม่เชื่อตามข่าวในตอนแรก และติดต่อไปยังทางการเพื่อให้ทราบแน่ชัดในหลายๆทาง แต่แล้วไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง วศินกลายเป็นบุคคลสูญหายไปแล้วจริงๆ


ทว่าร่องรอยของเขากลับมาปรากฏแก่มัลลิกาในความฝัน เมื่อวศินร้องเรียกและขอความช่วยเหลือจากเธอ

ในฝัน เขาไม่ได้บอกว่าอยู่ที่ไหน แต่มัลลิกากลับรับรู้ได้โดยความรู้สึกว่าที่นั่นคือ เอโทรเนีย ....



ฉะนั้นการมาเอโทรเนียครั้งนี้  ก็เพื่อตามหาวศิน เพราะเมื่อเธอขัดขืนไม่ยอมนำหนังสือมาคืนตามคำบอกของราซาอิน วศินจึงถูกดึงเข้ามาเป็นตัวล่อ เพื่อกดดันให้เธอมาที่นี่

มัลลิกาเฝ้าโทษตัวเองว่าเธอเป็นต้นเหตุให้เขามาเจอเรื่องร้ายๆเช่นนี้ แต่เหนือสิ่งอื่นใด เธอห่วงใยในตัววศินอย่างไม่อาจหักห้ามความรู้สึกที่มีต่อคนรักที่กำลังได้รับความลำบากอย่างสาหัส

เธอจึงไม่ลังเลแม้สักนาทีที่จะรั้งรอการตามหาเขา และพร้อมที่จะมาในที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายเช่นนี้

แม้จะไม่รู้ว่าเขาจะอยู่ที่นี่จริงหรือไม่ และ ถึงแม้ว่าอยู่ที่นี่จริง

เธอก็ไม่รู้ว่าทั้งเธอและเขาจะรอดพ้นไปจากดินแดนนี้ได้อย่างไร...

 .................



หญิงสาวได้แต่ปักใจว่าเหตุการณ์ร้ายๆที่เกิดขึ้นกับวศิน น่าจะเป็นฝีมือของวิเซียร์ราซาอิน ที่ต้องการรอดพ้นการจองจำในวิหารคาซัค  

จึงใช้วิธีนี้บีบคั้นให้เธอนำหนังสือมาคืน ถึงแม้เขาจะเคยอธิบายให้เธอฟังถึงความเลวร้ายของภูตแม่น้ำไนล์ ที่คิดตั้งตนเป็นใหญ่เหนือองค์ฟาโรห์

จึงวางอุบายนี้ทั้งหมดเพื่อที่จะกำจัดเธอเป็นด่านแรก เพราะตราบใดที่เธอยังอยู่ ก็จะมีผู้ดูแลบทสรรเสริฐเทพรา และภูตแม่น้ำไนล์ก็จะไม่สามารถกำจัดบทสรรเสริญนั้นลงได้



ทว่าหญิงสาวกลับรู้สึกว่าตั้งแต่ที่เธอได้รับรู้เรื่องราวนี้ ราซาอินเป็นคนเดียวที่ต้องการให้เธอนำหนังสือมาคืน โดยขู่ต่างๆนาๆว่าจอมปีศาจจะทำร้ายเธอถ้าไม่นำหนังสือนั้นมาคืนโดยเร็ว

แท้จริงเธอกลับไม่พบปีศาจซักตน ที่จะมาทำร้ายหรือขู่เข็ญเธอเหมือนวิเวียร์หน้าซื่อใจคดเช่นราซาอินเลย


ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้เท่าใด หญิงสาวก็ยิ่งเกลียดชังราซาอินมากขึ้นทุกที แต่แล้วอะไรบางอย่างกลับทำให้เธอเชื่อในคำพูดของเขาในทุกครั้งที่เขาพยายามอธิบายเรื่องนี้ให้เธอฟัง

แม้เธอจะแสดงท่าทีเฉยชาต่อคำให้การของเขาและนึกกล่าวโทษเขาทุกครั้งที่รู้สึกโมโหอย่างเช่นในเวลานี้ ทว่าเมื่ออยู่ใกล้ชิดเขา

เธอไม่อาจปฏิเสธ ความซื่อสัตย์มั่นคงในน้ำเสียงและแววตาของวิเซียร์ผู้นี้ได้เลย แต่ท้ายที่สุดหญิงสาวก็มักจะจบความคิดของตนเองลงที่คำว่า ‘หน้าซื่อใจคด’

โดยไม่คิดถามหาเหตุผลใดๆ กับความรู้สึกเชื่อมั่นในตัวเขาอย่างไร้เหตุผลเช่นนี้


เวลาผ่านไปราวชั่วโมงเศษกว่าพายุทรายจะสงบลงหญิงสาวเห็นสัญญาณมือของทหารผู้ติดตามกวักเรียกเป็นสัญญาณให้ออกจากที่กำบังได้

เธอจึงค่อยขยับกายภายใต้อาภรเปื้อนฝุ่นกระโดดขึ้นหลังม้า ตอนนี้ฐานะของเธอคือ ขนิษฐา ขององค์ฟาโรห์อาเมซิส ผู้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ‘เจ้าหญิงฟาเฮเทป’

เนื่องจากการช่วยชีวิตองค์ฟาโรห์ไว้จากคมกริชสังหารของพวกกบฏ มัลลิการู้ดีว่าเหตุการณ์วันนั้นเกิดขึ้นจากความบังเอิญ ทว่าสำหรับชาวฮิคุปตาห์ เธอได้รับการยกย่องประหนึ่งเทพธิดา

เธอกลายเป็นขนิษฐาคนโปรดขององค์ฟาโรห์ และได้รับการฝึกหัดศาสตร์การต่อสู้และการใช้พาหนะแบบโบราณ เช่นการขี่ม้า จนวันนี้ เธอควบคุมม้าได้อย่างคล่องแคล่ว



“ฟาเฮเทป พ้นเนินข้างหน้าเราก็จะพ้นจากชายแดนของเอโทรเนียแล้ว ข้าเกรงว่า ...”เนเซน ทหารคนสนิทไสม้าเข้ามาเตือนเธอ


“เกรง วิเซียร์ราซาอิน น่ะหรือ”หญิงสาวเสียงเรียบอย่างไม่อนาทรใดๆ


“ใช่แล้ว เจ้าหญิง พวกเราเข้ามายังเอโทรเนียโดยไม่ได้แจ้งอย่างเป็นทางการ ซ้ำยังจะไปยังชายแดนซึ่งเป็นเขตหวงห้ามทางการทหาร พวกข้าเกรงว่า จะได้รับอาญา”
ยูซุบ นายทหารมากประสบการณ์กล่าวเสริม คำทักท้วงของเนเซน


“ดีล่ะ เช่นนั้นพวกท่านจงดูที่มือของข้า พวกท่านเห็นอะไรไหม”หญิงยื่นมือข้างขวา ที่มีพระธำมรงค์สีน้ำเงินสุกปลั่งทอประกาย


“แหวนงดโทษ”เนเซนกล่าวเน้นเสียง


“ใช่ แหวนงดโทษ องค์ฟาโรห์ประทานให้ข้า นั่นหมายถึง ใครจะลงโทษข้าไม่ได้เว้นแต่พระองค์เท่านั้น เพราะงั้นท่านราซาอินก็ไม่อาจลงโทษใดๆข้าได้หรอก”หญิงสาวเชิดหน้าเล็กน้อย ด้วยความมั่นใจ


“ไปต่อเถอะ หากใครจะลงโทษพวกท่าน ข้าจะใช้แหวนวงนี้ปกป้องพวกท่านเอง”หญิงสาวกระตุ้นม้าให้ทะยานไปข้างหน้าเป็นคนแรก โดยไม่รอฟังคำตอบของผู้ติดตาม

'
'
'
'

จากคุณ : Kiwi_brown
เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 10:13:59




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com