.
เสียงกุกกักที่ดังตั้งแต่เช้าตรู่ทำให้งามตาที่กำลังหลับด้วยความสบายอยู่ พลิกตัวมาด้วยความอารมณ์หงุดหงิดเล็กน้อยที่เธอถูกรบกวน แต่พอเห็นต้นตอที่มาของเสียงเธอก็ดุ ว่าไม่ได้ เพราะคนที่กำลังแต่งตัวอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งนั้นก็คือ
“กลิ่น นั่นแกจะไปไหนแต่เช้า” เสียงร้องที่ถามออกมานั้นดูงัวเงีย
“ไปไร่ผักบ้าบอนั่น” กลิ่นแก้วหันมาตอบพลาง พยายามใส่ต่างหูอีกข้าง
“หา! นี่แกยังๆๆ”
“ยังอะไร? ฉันก็แค่อยากรู้ว่าที่นั่นมีอะไรดีแค่นั้น” กลิ่นแก้ว ตอบด้วยรอยยิ้มแววตาเจ้าเล่ห์ หึ เธอตั้งใจแล้วว่าจะเอาคืนพ่อค้าผักคนนั้นได้อย่างไร เช้านี้เธอจะไปป่วนที่นั่นแต่เช้า และอย่าหวังเลยว่าวันนี้ ไร่ผักนั่นจะอยู่อย่างสงบสุขไม่รู้ล่ะ เธอจะต้องเอาที่ๆ ที่เป็นของเธอคืนมาให้ได้โดยไว
“แกจะนอนอีกนานมั้ยงาม รีบลุกมาแต่งตัวอาบน้ำสิ เพราะวันนี้มีอะไรสนุกๆ ให้แกช่วยฉันทำ อีกเยอะ”
งามตาย่นคิ้วมองเพื่อนสาวแววตาคู่หวานฉาบไปด้วยความซุกซนเจ้าเล่ห์ ที่ทำให้เธอไม่มั่นใจเอาเสียเลย แต่เพราะเสียงเร่งเร้าจากแม่คนเจ้าเล่ห์นั่นแหละที่ดังนั่นที่ทำให้งามตายอมตัดใจลุกจากที่นอนอันแสนสบายในที่สุด
“เร็วสิ”
“ก็ได้ๆ อะไรของแกนักนะ” งามตาบ่นอุบอิบก่อนจะเดินเข้าไปทำธุระในห้องน้ำ กลิ่นแก้วมองไปด้วยสายตาสมใจ คิดเอาไว้แล้วว่าวันนี้เธอจะไปก่อกวนรักษ์ไท ให้ถึงที่สุด หึ อย่าคิดนะพ่อ ว่าจะหยุดคนอย่างกลิ่นได้
คณะถ่ายทำรายการวาไรตี้รายการดังกำลังเตรียมตัวถ่ายทำรายการ อยู่ที่ไร่เพียงดิน เพื่อสัมภาษณ์ชีวิตการทำงานของ ดร.นิธิดล บริบูรรักษ์ บุตรชายคนโตของ คุณหญิงเก็จมณี บริบูรณ์รักษ์ นั่นเอง หรือถ้าตามฐานะ เขาก็นับได้ว่าเป็นพี่ชายคนโตของรักษ์ไทด้วยเหมือนกัน อายุรักษ์ไท ตอนนี้สามสิบสาม อีกฝ่ายก็ย่างสามสิบแปด มีหน้ามีตา เป็นที่รู้จักของคนเกือบทั้งประเทศมากขึ้นก็เพราะเคยทำงานอยู่ในตำแหน่ง เลขาฯ ของ อดีตท่านนายกรัฐมตรีคนที่แล้ว
วันนี้มาถ่ายทำรายการได้เน้นให้เห็นไลฟ์สไตล์อีกด้านหนึ่งของดร.นิธิดล ที่จะฉีกภาพความเคร่งขรึม จริงจังของ ดร.นิธิดล ให้ดูกลายเป็นชายหนุ่มในมาดชอฟท์ สบายๆ ยามที่ได้มาใช้ชีวิตอยู่ที่ไร่เพียงดิน นัยว่า ไร่เพียงดินนี้เกิดขึ้นได้เพราะไอเดียของ ดร. นิธิดล ที่เป็นผู้บริหารไร่นี้คนหนึ่ง หลังจากการว่างเว้นงานหลักที่ทำอยู่ ร่วมกับน้องชายที่ชื่อรักษ์ไทนั่นเอง แน่นอนว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันถูกกำหนดเอาไว้ให้เป็นไปอย่างที่คุณหญิงเก็จมณีต้องการ
นุชิตไม่พอใจที่คุณหญิงมาโมเมว่า ไร่เพียงดินนี่เกิดขึ้นมาได้เพราะลูกชายคนโตของท่านเป็นคนได้แนวคิดนี้มา แล้วมาชักชวนรักษ์ไททำ ถึงจะไม่พอใจ แต่ด้วยความต้อยต่ำในชาติกำเนิดก็ทำให้นุชิตทำอะไรไปไม่ได้มากกว่านี้ ในเมื่อคุณรักษ์เองซึ่งน่าจะเป็นบุคคลที่จะต้องรู้สึกแปลบๆ ในอกมากกว่า ก็ดูไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไรเลย
ดั้งนั้นชายหนุ่มจึงทำได้แค่ก้มหน้าก้มตาทำงานของตนไปพร้อมกับบ่นอะไรไปพลางๆ พอสายๆ มาสิ่งที่ตนต้องทำคือกุลีกุจอต้อนรับคุณหญิงและคณะการถ่ายทำรายการอะไรนั่นต่อ
นุชิตไม่อยากจะเจอหน้าคนพวกนี้นักแต่ก็เลี่ยงอะไรไม่ได้ …
“ไร่นี้ดูกว้างขวางเหมือนกันนะ นึกว่าจะเล็กๆ แล้วนึกว่าจะไม่มีอะไรมากกว่าไปกว่าผักซะอีก นี่ถ้าไม่เห็นในหนังสือฉบับนั้นแกก็คงปิดเงียบไม่บอกฉันสักคำสินะ”
คุณหญิงเอ่ยราบเรียบที่แฝงคำตำหนิเอาไว้ชัดเจน รักษ์ไทเองก็ทำเงียบๆ หนังสือฉบับนั้นที่ท่านหมายถึงก็คือหนังสือนิตยสารเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่มาขอถ่ายภาพและสัมภาษณ์หลักคิด การทำงานของตนไปลงในหนังสือเมื่อหลายๆ เดือนก่อน
“ตอนนั้นผมยุ่งน่ะครับ และไร่มันก็ยังไม่เป็นเหมือนทุกวันนี้อย่างคุณแม่เห็น อะไรก็ยังไม่พร้อมเลยไม่อยากจะเรียนให้คุณแม่ทราบ”
คุณหญิงเก็จมณีเองก็เงียบรับฟัง ใบหน้าที่เอาแต่เชิดมีสีหน้าว่าพึงพอใจขึ้นมานิดในคำอธิบายของรักษ์ไท แต่หางตาทั้งคู่ที่เชิดนั้นก็ยังไม่ทิ้งแววตำหนิ
“การทำงาน มีระบบ กว้างขวาง บรรยากาศของไร่ก็ร่มรื่นดีจริง ไม่อยากจะเชื่อว่าที่ของคุณพ่อที่มีแต่หญ้ารกครึ้ม กับกลายมาเป็นไร่ผักปลอดสารพิษที่มีชื่อเสียงอย่างทุกวันนี้”
ดร นิธิดล. เอ่ยแทรกขึ้น เขาเป็นชายร่างสูงผิวขาวสะอาด หลังจากที่ไม่ได้เจอรักษ์ไทเสียนาน ผิวขาวๆ ที่อีกฝ่ายเคยมีเหมือนตน วันนี้ออกเป็นสีน้ำผึ้งอ่อนๆ แต่มันก็ทำให้รักษ์ไท ดูดีไปอีกแบบ
“ครับ”
“ทุกวันคงมีคนเข้าออกไร่แห่งนี้เยอะน่ะสิ” “ครับ ส่วนหหนึ่งเป็นผู้ที่สนใจมาดูงานที่ไร่ อีกส่วนก็กึ่งท่องเที่ยงกับกึ่งดูงาน”
คุณหญิงเก็จมณีเหยียดสายตาอีกครั้งกับสิ่งที่ลูกนอกไส้ได้บอกเล่ามา ตนไม่เห็นจะสนใจไร่นี้ไปมากกว่าการที่มันจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ภาพของบุตรชายคนโตในฐานะเลขาฯ ของอดีตนายกรัฐมนตรีคนก่อนจะดูโดดเด่นและดูท่าทึ่ง น่าชื่นชมมากว่าเดิม
“เอาล่ะ อย่าพูดมากเลย เดี๋ยวรายการที่ฉันตระเตรียมเอาไว้จะมาถ่ายทำ ยังไงก็ขอพูดไปตามสคริปท์ที่คนของรายการได้เตรียมไว้ให้ก็แล้วกัน” ว่าแล้วก็หันไปขานเรียกลูกชายคนโตของตนเบาๆ
“ตาใหญ่”
“ครับคุณแม่”
“หลบขึ้นรถเรากันเถอะลูก แดดก็ร้อน เรือนก็หลังเล็ก แม่อยู่ไม่ได้หรอกมันอึดอัดคับแคบไปหมด ดูสิ”
ดร.นิธิดลหันไปสบสายตากับเจ้าของเรือนแวบหนึ่งด้วยความเห็นใจ ที่คำพูดของมารดาตนนั้นดูจะไปสร้างความเสียใจให้ ซึ่งรักษ์ไทเองก็มองตาพี่ชายเงียบๆ ด้วยความเข้าใจและไม่ถือสาอะไรเพราะตนรู้อยู่แล้วว่า คนอย่างคุณหญิงเก็จมณี จะมีท่าทีเช่นนี้ให้กับตนมาเสมอๆ
คล้อยหลังคุณหญิงและลูกชายคนโตที่เดินลงจากบ้านดินของรักษ์ไทหายลับเข้าไปอยู่ในรถยนต์ส่วนตัวคันหรูแล้ว นุชิตที่อยู่แถวๆ นั้นไม่ได้อยู่ห่างไปไหน และบังเอิญได้ยินคำพูดของคุณหญิงก่อนหน้านั้น ก็ก้าวออกมาแสดงความไม่พอใจขึ้นมาทันที จนรักษ์ไทเองต้องเอ่ยปรามต่อ
“มีอย่างที่ไหน นี่บ้านดินนะครับ ไม่เห็นต้องมีเครื่องปรับอากาศ ไม่เห็นจะร้อนเลย อีกอย่างที่ไร่ของเราก็ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกไว้รอบๆ คุณหญิงนี่หาเรื่องว่าคุณรักษ์ได้ทุกเรื่องจริงๆ ผมล่ะเชื่อเล..”
“ชิต!”
“ครับๆ”
รักษ์ไทดุ จนนุชิตลนลานแล้วรีบเดินออกไปทำงานอย่างอื่นของตัวเอง แล้วชายหนุ่มก็หันมาถอนหายใจด้วยเพราะคำพูดบางคำของนุชิตที่สะกิดใจ นี่มันก็แค่ผิวเผินนะ วันนี้ทั้งวันตนต้องโดนคำพูดทำนองนี้ของคุณหญิงมากกว่านี้อีกแน่ๆ ทั้งๆ ที่ทำใจตั้งรับแล้ว แต่ทว่า ลึกๆ รักษ์ไทก็รู้สึกเสียดแทงอยู่ในหัวใจอยู่ดี
เมื่อถึงเวลาการถ่ายทำรายการ พิธีกรสาวที่เป็นดาราทั้งสองก็ออกมาจ้อตามสริปท์ที่คุณหญิงเก็จมณีลงทุนบัญชาเองมาตั้งแต่ต้น ตอนนี้พิธีกรสาวสองคนกำลังเดินขนาบกับชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ภายใต้การแต่งกายด้วยเชิ้ตหมวกที่ทั้งสามกำลังเดินพูดคุยไปตามที่ต่างๆ ของไร่ ที่มีภาพของการทำงานของคนงานอย่างขะมักเขม้น
สำหรับรักษ์ไทนั้นเองก็กำลังรอให้ถึงคิวตนเอง ซึ่งใครก็ไม่คาดคิดว่า จะอยู่สุดท้ายของการถ่ายทำนั่นแหละ รักษ์ไทถึงจะได้ออกกล้องนั่งพูดคุยให้สัมภาษณ์ร่วมกับดร.นิธิดล
ซึ่งนุชิตเห็นแล้วรู้สึกคับแค้นใจแทนเหลือเกิน ทั้งๆ ที่ไร่นี่ความคิดมาจากคุณรักษ์หมดแต่คุณหญิงมาตู่เอาว่าเกิดจากไอเดียของคุณนิธิดลที่อยากคิดทำขึ้น โธ่เอ๊ย นี่ถ้าไม่เห็นแก่คุณรักษ์ ตนคงเข้าไปป่าวประกาศให้รู้แล้วล่ะว่า คนต้นคิดของที่นี่ และเป็นเจ้าของไร่ตัวจริงๆ ก็คือ คุณรักษ์คนเดียวเท่านั้น!
ทางด้านกลิ่นแก้วพอมาถึงที่ไร่เพียงดิน เห็นว่าบันนี้บรรยากาศดูแปลกๆ คนดูหนาตาขึ้นโดยเฉพาะพวกไทยมุง เธอจึงไปสอบถามจึงรู้ว่า ที่นี่มารายการวาไรตี้รายการหนึ่งมาถ่ายทำรายการที่ไร่เพียงดิน ของรักษ์ไท เธอเลยชวนงามตาเข้าไปยืนปะปนมองดูการถ่ายทำรายการตรงนั้นกับชาวบ้านคนอื่นด้วยความอยากรู้ว่า ที่นี่มีดีอะไรถึงทำให้รายการวาไรตี้รายการดังต้องมาถ่ายทำรายการถึงที่นี่
หญิงสาวตัวร่างเล็กบางเดินเข้าไปเบียดเสียดกับไทยมุงคนอื่นๆ และเธอก็แอบหวังว่าเสื้อแขนกุดสีไข่กับแว่นตากันแดดอันโตจะช่วยปกปิดเธอไม่ให้ผู้ชายคนนั้นผิดสังเกตว่ามีเธอมาแอบยืนมองเขาด้วยเถอะนะ แต่แล้วสิ่งที่เธอคาดหวังเอาไว้ก็เปล่าประโยชน์ คงด้วยการแต่งตัวของเธอที่ดูแปลกกับชาวบ้านคนอื่นๆ เลยทำให้เขาเห็นเธอได้ไม่ยาก กลิ่นแก้วก็แกล้งยืนสังเกตเงียบๆ และ ลอบเบือนหน้าหนีบ่อยครั้ง ยามที่เขาปรายสายตามาทางเธอ
“นั่น คุณ ดร.นิธิดล คนที่เป็นเลขาฯ ของท่านนายกรัฐมนตรีคนที่แล้วใช่มั้ย” กลิ่นแก้วยื่นหน้าไปถามเพื่อนข้างกายเบาๆ ยามเห็นผู้ชายอีกคนที่นั่งให้สัมภาษณ์พิธีกรสาวคู่กับเขา บรรยากาศพูดคุยเป็นกันเองด้วยลักษณะรายการและบุคลิกขี้เล่นอันเป็นบุคลิกเฉพาะของพิธีกรดาราสาวคนหนึ่งที่ยิงมุขให้ชายหนุ่มที่นั่งคู่กันทั้งสอง ผู้ชายคนนั้นก็ไม่ได้ตื่นกล้อง อย่างคนที่ไม่ค่อยได้ออกกล่องทีวีบ่อยๆ เลย เขาควบคุมอาการ และรอยยิ้มได้เป็นธรรมชาติทีเดียว
แหวะ แล้วเธอจะมองรอยยิ้มของเขานานทำไมเนี่ย
“แกรู้จักเหรอกลิ่น” งามตาถามกลับเบาๆ กลิ่นแก้วก็พยักหน้าขึ้นลง แล้วอธิบายเพิ่ม
“จะบ้าหรืองาม ถึงฉันจะอยู่เมืองนอก แต่ข่าวในประเทศไทยช่วงสามสี่ปีก่อน ฉันก็เกาะติดตลอดเชียวนะ โดยเฉพาะข่าวการบ้านการเมืองในประเทศเรา ฉันเลยได้เห็นหน้าผู้ชายคนนี้ออกจ้ออยู่หน้าเจอบ่อยๆ”
“เอะ แล้วคนพวกนี้เกี่ยวข้องอะไรกับคุณรักษ์” งามตาโพล่งออกมาเบาๆ ด้วยความแปลกใจ พลางหันมาสบตากับกลิ่นแก้วที่คงรู้สึกสนเท่ห์ไม่ต่างจากเธอ
“นี่กลิ่นเข้าไปดูใกล้ๆ อีกนิด เถอะๆ อาจจะได้ยินเวลาเค้าคุยกันถนัดขึ้น อยากรู้ว่าเค้าจะคุยอะไร”
กลิ่นแก้ว ลังเลก่อนจะพยักหน้า อย่างเห็นด้วยในที่สุด “นั่นน่ะสิลองเข้าไปดูไปใกล้ๆ หน่อยดีกว่า”
ว่าแล้วสองสาวก็พยายามเบียดเสียดเข้าไปใกล้การถ่ายทำรายการอีกนิด ตั้งใจว่าจะขอฟังบทสนทนาเหล่านั้น แต่ด้วยความที่กลิ่นแก้วเริ่มจะทนเห็นรักษ์ไท ยิ้ม และในรอยยิ้มนั้นบางทีเธอก็รู้สึกว่าเขายิ้มพลางปรายสายตามาทางเธอเป็นระยะๆ ทำให้กลิ่นแก้ว ต้องตัดสินใจชวนงามตาปลีกตัวออกมาจากบรรดาไทยมุง ออกมาในที่สุดโดยอ้างว่าเธอทนยืนตากแดดนานไม่ได้มัน ‘ร้อน’
งามตายอมปลีกตัวออกมา และพอเดินห่างคนพวกนั้นมาได้ระยะหหนึ่งที่หยุดพักร้อนได้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ งามตาที่เหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ ก็รีบหยิบมือถือเครื่องบางขึ้นมากดโทร.ไปหาใครคนหนึ่ง พลางบอกกลิ่นแก้วให้รออย่างใจเย็น จากนั้นไม่นาน งามตาก็เดินกลับมาด้วยรอยยิ้ม กว้าง
“ได้เรื่องแล้วกลิ่น”
“เรื่องอะไร?”
“อ้าว ก็เรื่องที่เราอยากรู้ว่า ดร.นิธิดล ที่ว่านี่มันเกี่ยวของอะไรกับคุณรักษ์ อีกอย่าง ทำไมทั้งสองต้องมานั่งให้สัมภาษณ์ออกรายการวาไรตี้ชื่อดังของเมืองไทยอีกรายการหนึ่งคู่กันด้วยไง”
“อื่มๆ แกรีบเล่ามาสิงาม” กลิ่นแก้วยื่นหน้าไปถาม ตั้งอกตั้งใจรอฟังคำตอบจากงามตาอย่างดิบดีทีเดียว
“คุณหญิงเก็จมณีที่เป็นมารดาของ ดร. นิธิดล มีบุตรชายอยู่ด้วยกัน สามคน คนโตก็คือ ดร.นิธิดล คนที่สองคือ คุณนิธิภูมิ และคุณสุดท้าย แกพอจะเดาได้มั้ยงาม ว่าเป็นใคร”
“รักษ์ไท!”
“ใช่”
“ไม่อยากจะเชื่อเลย ว่านายคนนี้จะเป็นลูกชายคุณหญิง คุณนายเชียว ฉันนึกว่าเป็นชาวบ้าน ชาวนาธรรมดาๆ นะเนี่ย”
“นั่นไง ที่แกคาดไม่ถึงและฉันเองก็คาดไม่ถึง สาเหตุที่เขาเป็นที่รู้จักน้อยมากในวงสังคมเมื่อเทียบกับลูกชายสองคนของคุณหญิง อันนี้ข่าวเมาส์ในวงสังคมนะ ไม่รู้เท็จจริงประการใด เค้าว่าเพราะเขาเป็นลูกของคนใช้ในบ้านบริบูรณ์รักษ์ ที่ว่าเกิดก่อนคุณนิธิภูมิน้องชายคุณ ดร.เสียอีก แต่คุณหญิงแกเลยต้องหน้าชื่นอกตรมรับว่าเป็นบุตรชายในสายเลือดให้โพล่มาอยู่ในฐานะลูกคนเล็ก และไม่ค่อยจะเอาไปพูดอวด เพื่อนฝูงหรือพาออกงามสังคมเหมือนคนโตและคนรอง พอมีคนตอบทีว่าทำไม ลูกชายอีกคนถึงไม่ยอมออกงาน แกก็อ้างว่า เป็นคนขี้อาย หรือไม่สบาย ติดสอบอะไรของแกไปเรื่อยเปื่อยล่ะ” “เหรอนี่” กลิ่นแก้วครางรับแผ่วด้วยสีหน้าแววตาที่ใช้ความคิด
“ใช่ อันนี้ฉันสอบถามมาจากปากเพื่อนของฉันอีกคนที่เป็นนักข่าวสายข่าวบันเทิงเชียวนะ ถึงแม้ว่าเรื่องของคนในตระกูลของคุณหญิงน่าจะแวดล้อมอยู่ในข่าวของสังคมมากกว่า แต่แกอย่าลืมว่าตอนนี้ไฮโซกะบรรดาดารามันกลายเป็นของคู่กันเสียแล้ว ไม่ดาราสาว ดาราชายที่ควงกับไฮโซคนดัง หรือทั้งสองอย่างก็นิยมสร้างกระแสที่มันมันเกี่ยวกันพัน โดยเฉพาะลูกชายคนรอง ที่กำลังเป็นข่าวว่าคั่วอยู่กับนางเอกดังในขณะนี้ไง”
“แล้วอีกเรื่องหนึ่งทีแกก็สงสัยไม่ต่างจากฉันว่าทำไม วันนี้ ถึงมีรายการดังๆ มาทำรายการที่ไร่เพียงดิน อันนี้เพื่อนนักข่าวคนนี้ก็วิเคราะห์ว่า รายการนี้อยู่ในสังกัดบริษัทหนึ่งที่มีคุณหญิงเป็นหุ้นส่วน ฉันว่า ที่นี่จะเป็นที่เป็นการถ่ายทำรายการในวันนี้ มันก็คือการสร้างกระแสให้กับ ดร. และ คนในตระกูล ให้ดูมีภาพลักษณ์ที่ดีอีกด้วย เรียกว่า ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเชียวนะ”
“สร้างภาพ สร้างกระแสเพื่ออะไร?”
“ไหนบอกว่าแกติดตามข่าวการเมืองไง ก็เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองก็ได้ให้ลูกชายคนโตก็ได้ แถมได้หน้าตาในสังคม หรือธุรกิจของตระกูลนี้ในเรื่องของการอนุรักษ์ธรรมชาติ ดูสิไฮโซ แต่กลับมาทำไร่ผักปลอดสารพิษ โอ๊ย แค่นี่ก็ได้ใจคนดูไปเต็มๆ แล้ว แกเข้าใจใช่มั้ย คนดังกับการสร้างภาพถือว่าเป็นของคู่กันมากๆ และเป็นเรื่องธรรมดาเหลือเกิน ที่สมัยนี้จะมีบริษัทที่รับสร้างภาพให้คนดังๆ เกิดขึ้น แกอย่าไปคิดว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่เลยกลิ่น”
กลิ่นแก้วพยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับคำพูดของงามตา แล้วสาวสวยก็เหยียดริมฝีปากคู่สวยอย่างดูแคลนยามเอ่ยขึ้นมา
“โธ่ นึกว่าจะทำไร่ผักปลอดสารพิษนี่ด้วยอุดมการณ์อันสูงส่ง ที่แท้ก็ทำขึ้นมาเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่คนในตระกูลของตนเองทั้งนั้น นี่พ่อกำนันก็ใสซื่อเชียว ถ้าได้รู้ว่า ชายหนุ่มที่พ่อกำนันยกย่องเช้า เย็น คนนี้ ทำไร่ขึ้นมาอย่างเป็นระบบเพื่อเอาไว้สร้างภาพให้พี่ชายคนโตและคุณหญิงแม่เลี้ยงนี่ พ่อกำนันจะรู้สึกเช่นไรนะ”
(มีต่อ)
จากคุณ |
:
พิณพลอย
|
เขียนเมื่อ |
:
29 ก.พ. 55 08:57:20
|
|
|
|