Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
สาปรักอังกอร์ ๘ : คำสัญญาที่ต้องชดใช้ ติดต่อทีมงาน

ทักทายกันค่ะ

เหมือนเดิมนะคะ อ่านตรงไหนแล้วงง บอกกันได้เลยค่ะ ขอให้มีความสุขกับการอ่านค่ะ



...............



แสงแดดยามสายรอดกิ่งไม่ใหญ่ลงมาตกกระทบพื้นหญ้าสีเขียวขจี เกิดเป็นแสงเงาสวยแปลกตา จนคนที่นั่งจิบกาแฟร้อนควันฉุยทันได้เห็นพอดี จึงลุกขึ้นไปเก็บดอกลั่นทม หรือสรัลทม ในภาษาเขมรโบราณขึ้นดม ก่อนจะเอาขึ้นทัดหู หญิงสาวรู้สึกตัวเองว่าชอบดอกไม้ชนิดนี้มากเป็นพิเศษ คล้ายกับว่าเคยมีความผูกพันกับมันมาก่อน แต่ก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แต่ว่าเห็นทีไรต้องหยิบขึ้นมาดมทุกที ครั้งนี้ก็เช่นกัน เอกบุษยาก้มเก็บดอกสีขาวที่ร่วงพราวเกลื่อนพื้นหญ้าไปตามทางที่ปูลาดด้วยหินทรายจนเต็มสองมือ จึงได้มองหาที่วาง ทว่าในทันทีที่เงยหน้าขึ้นมา ร่างของใครบางคนที่ดูเหมือนว่าจะยืนมองอยู่ก่อนแล้วก็พูดขึ้น


“นึกว่าจะชอบดอกพุทธรักษาเสียอีก”เสียงคนถามคล้ายแปลกใจ ขณะหยิบดอกลั่นทมยื่นให้คนตรงหน้า

“ใครบอกคุณว่าฉันชอบดอกพุทธรักษา เอ๊ะ...” ด้วยความไม่รู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้ามีฐานันดรเป็นถึงเจ้าชายเขมร เอกบุษยาจึงตอบเสียงห้วน ยืนมองนิ่งคล้ายกำลังชั่งใจว่าเขาจะมาไม้ไหน ทำไมจู่ๆมาทำเป็นดีด้วย ก่อนจะยื่นมือออกไปรับดอกไม้นั้น แต่คนพูดกลับชักมือกลับ ทำท่าคล้ายจะทัดหูให้แทน หญิงสาวจึงชะงักเล็กน้อย

“กลัวผมเหรอ ถ้าเป็นนายนั่นคุณคงไม่กลัว”

“พูดอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร แล้วนายนั่นน่ะหมายถึงใคร”

“ไม่ได้หมายถึงใคร ก็แค่...” ชายหนุ่มหยุดพูดไป เอกบุษยาจึงชิงถามแทน

“แค่อะไร พูดดีๆนะคุณ”

“ก็แค่...”


หม่อมเจ้าเตศวรเกือบจะหลุดปากออกไปแล้วว่า...เขาก็แค่อยากทำความรู้จักกับเธอ แต่กลับพูดไม่ได้ดั่งใจ กลัวหญิงสาวจะเข้าใจผิดคิดว่าเขาสนใจเธอเป็นพิเศษ จึงตีหน้าเฉยยืนนิ่งไม่พูดไม่จา ทำให้หญิงสาวเข้าใจไปว่าเขาแกล้งยั่วเธอจึงสะบัดหน้าพรืดเดินเดินหน้างอกลับมาที่เต้นท์กลาง ก็พบว่าบุญสมยืนรออยู่ก่อนแล้ว เมื่อเธอมาถึงเขาก็ยื่นกระดาษแผ่นเล็กให้


“ศาสตราจารย์จะตามมาอาทิตย์หน้าหรือคะ ดีใจจังเลย แล้วนี่พี่ปราชญ์รู้หรือยัง”

“ยังครับ แต่ผมจะรีบแจ้งให้ทราบ เอ่อ...คุณบุษไปเดินเล่นมาหรือครับ แล้วได้เจอกับคุณเตศวรหรือเปล่า”

“ค่ะบุษไปเดินเล่นด้านโน้นมา ไม่ทราบสิคะ ไม่ได้สนใจ” ต้นประโยคหญิงสาวตอบเสียงใส แต่พอท้ายประโยคเสียงกลับขุ่นขึ้นมาเฉยๆ เมื่อนึกถึงคนที่ทำให้หัวเสียตั้งแต่เช้า ทว่าคนฟังกลับยืนอมยิ้มชอบใจ ยังไม่ทันที่เอกบุษยาจะได้ถามว่าขำเธอเรื่องอะไร คนที่ถูกโกรธโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่ก็เดินเข้ามา ทันเห็นสายตาเขียวปั๊ดที่ค้อนให้เข้าพอดี


“เดินสำรวจทั่วหรือยังครับ ด้านโน้นยังไม่ได้เปิดหน้างานเท่าไหร่ คงต้องอีกสักพักเพราะคนเราน้อย ช่วงนี้เราเร่งบูรณะแต่พวกซากพระปรางค์ก่อน รับกาแฟไหมครับคุณเตศวร คุณหญิง” บุญสมพูดยาวเหยียด คล้ายรายงานมากกว่าจะแค่ทักทายธรรมดา สร้างความแปลกใจให้หญิงสาวเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้ทักอะไรออกมา แค่แอบสงสัยเท่านั้นเอง

“ก็ดีนะ”

“ไม่ค่ะขอบคุณ บุษทานแล้ว” ชายหนุ่มตอบสั้นๆ ขณะที่เอกบุษยากลับตอบตรงกันข้าม ก่อนจะเดินออกจากกระโจมทำงานไปอย่างขุ่นใจ บุญสมมองตามร่างหญิงสาวไป พลางส่ายหัวไปมา

“อย่าถือเลยนะครับ ปกติเธอน่ารักมาก แต่ไม่รู้ทำไมกับท่าน...ถึงเป็นแบบนี้ เหมือนกับไม่ถูกชะตากันเสียอย่างนั้น”

“ฉันไม่ถือสาเด็กวานซืนอย่างนั้นหรอก ไม่ต้องกลัว ว่าแต่เมื่อไหร่นายเธอจะกลับมา”

“อีกสองวันครับ ท่านมีเรื่องด่วนหรือเปล่าครับ ผมจะได้ให้คนไปตาม”

“ไม่มี”

“ถ้าอย่างนั้นผมให้คนไปเอากระเป๋ามาเก็บที่กระโจมเลยนะครับ อ้อ...ท่านครับ ศาสตราจารย์แจ้งมาว่าจะตามมาสัปดาห์หน้า”

“อย่างนั้นหรือ ก็ดีเหมือนกัน เราจะได้เริ่มทำงานกันจริงๆจังๆเสียที”

“ครับ” บุญสมรับคำ พลางกระวีกระวาดเดินไปสั่งให้ลูกน้องไปรับกระเป๋าของหม่อมเจ้าเตศวรจากนายจันทร์ทันทีที่พูดจบ เอกบุษยาจึงรู้ว่านับแต่นี้ต่อไปเธอจะต้องเจอคนที่ไม่ถูกชะตาไปอีกนาน แค่คิดก็หัวเสียขึ้นมาทันที จึงเดินไปที่หน้างานแทนที่จะเดินกลับไปที่กระโจมทำงานอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ เพราะไม่อยากจะเห็นหน้าใครบางคน

“ไม่รู้ว่าจะต้องเจอหน้านายนั่นไปจนถึงเมื่อไหร่ เฮ้ย...”  หญิงสาวพึมพำกับตัวเอง ขณะเริ่มลงมือทำงาน ไม่ทันสังเกตว่ามีสายตาของใครบางคนกำลังมองมาอยู่เช่นกัน สายตาของคนที่เต็มไปด้วยคำถามและความสับสนที่ยังไม่สามารถหาคำตอบได้


เย็นนั้นบุญสมสั่งให้ป้าไจลงมือทำอาหารพิเศษหลายอย่าง นัยว่าต้อนรับแขกของศาสตราจารย์มาแลงนั่นเอง เอกบุษยามองกับข้าวท่าทางน่ากินบนโต๊ะด้วยความแปลกใจ ใจหนึ่งคิดว่าทำไมบุญสมถึงต้องเอาอกเอาใจผู้ชายคนนี้มากถึงขนาดนี้ แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่าดีเหมือนกัน ถือเป็นลาภปากของทุกคน หญิงสาวนั่งอาหารใส่ปากด้วยความเอ็ดอร่อยเหมือนกับทุกคนที่อยู่ร่วมโต๊ะ มีแต่บุญสมเท่านั้นที่นั่งตัวเกร็ง ก้มหน้าก้มตาเคี้ยวข้าว คล้ายกับว่าเกรงใจใครอยู่ คิ้วโก่งขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย เมื่อเห็นอาการพินอบพิเทาสำรวมจนเกินเหตุของผู้ช่วยคนสนิท จนอดที่จะถามไม่ได้


“อาหารไม่อร่อยหรือคะพี่บุญสม ถึงได้ทำหน้าอย่างนั้น”

“อร่อยครับ ทำไมหรือครับ หน้าผมเป็นอย่างไร”

“ไม่รู้สิคะ เห็นทำหน้าเหมือนกำลังเกรงใจใครอยู่หรือเปล่า แหม...คนกันเองทั้งนั้นไม่ใช่หรือคะ”

“ครับ ครับ คนกันเองทั้งนั้น คุณหญิงทานเยอะๆนะครับ ไอ้นี่อร่อยมาก มาผมตักให้”

“ขอบคุณค่ะ”


บุญสมรีบตักสับประรดในผัดเปรี้ยวหวานให้หญิงสาวอย่างเอาใจ ก่อนจะหันมายิ้มแหยๆให้ พลางเหลือบตามองเจ้าเตศวรเมื่อเห็นว่าไม่ได้แสดงทีท่าอะไรออกมา จึงก้มตาก้มตาทานต่อ ชั่วครู่จึงได้ขอตัวเข้าครัวไปยกของหวานออกมา ขณะที่เพื่อนร่วมงานเริ่มทยอยกันอิ่ม แยกย้ายกันไปพักผ่อนตามปกติเหมือนกับทุกๆวัน ในโต๊ะอาหารจึงเหลือแต่ชายหนุ่มหญิงสาวที่ยังคงต่างคนต่างทานโดยไม่ยอมพูดอะไรกันสักคำ ท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่แอบมองคู่ไม้เบื่อไม้เมาด้วยความสงสัยปนแปลกใจ จนกระทั่งเอกบุษยาวางช้อนลง และกำลังจะยกจานไปเก็บ เสียงทุ้มนุ่มหูจึงพูดขึ้นเบาๆพอให้ได้ยินกันสองคน


“ทานข้าวไม่หมด ไม่สงสารชาวนาบ้างหรือ”


สิ้นเสียงพูดของคนตรงหน้า เอกบุษยาจึงเห็นว่ามีข้าวสุกติดปลายช้อนของเธอเล็กน้อย อาจเป็นเพราะเธอคงรีบร้อน ไม่อยากจะนั่งประจันหน้ากับคนชอบพูดกวนโมโห จึงไม่ทันได้สังเกต กลายเป็นว่าให้เขาเอามาค่อนว่าเอาได้ ความจริงเธอพยายามแล้วที่จะไม่ใส่ใจกับพฤติกรรมยียวนกวนกระสาทของเขา ตั้งแต่เข้ามานั่งที่โต๊ะอาหาร แต่โชคร้ายที่เธอมาช้าจึงเหลือเพียงที่ว่างตรงหน้าของชายหนุ่มเท่านั้น ตอนแรกต่างคนก็ต่างกินดีอยู่หรอก แต่พอเธอหันมาเห็นสายตาวาววับเป็นประกาย และรอยยิ้มที่มุมปากที่ดูเหมือนตั้งใจจะยั่วโมโหเท่านั้นแหล่ะ ความหมั่นไส้ก็พุ่งเป็นริ้วๆขึ้นมา รอเวลาระเบิดทันทีทันใด แต่ก็ยังสู้ข่มใจเอาไว้  จนกระทั่งเมื่อเขาหาเรื่องทักขึ้นมา


“ขอบคุณนะคะที่เตือน คุณเตศวร” ใจจริงเธออยากจะตอบเข้าไปแรงๆว่า แล้วมันเรื่องอะไรของเขาด้วย แต่ด้วยมารยาทและเห็นกับความอาวุโสกว่า  เอกบุษยาจึงได้แต่ใช้หางตาตวัดค้อน ก่อนจะเน้นคำหนักๆตอบกลับไปพอให้ได้ยินกันแค่สองคนเหมือนกัน


คำพูดประกอบท่าทางเข็ดเขี้ยวเคี้ยวฟันเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะหึ หึ ในลำคอจากหม่อมเจ้าเตศวรได้เป็นอย่างดี ขณะส่งยิ้มยียวนให้ราวกับเป็นผู้ชนะ ทำให้เอกบุษยาหัวเสียยิ่งขึ้น ชายหนุ่มมองตามร่างระหงที่รีบเดินออกไป คล้ายพยายามอย่างมากที่จะสะกดอารมณ์โกรธของตัวเองเอาไว้ ด้วยความพอใจจนลับสายตา


ความจริงเขาไม่ได้มีเจตนาที่จะทำไม่ดีกับเธอแบบนั้น แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร ทำไมกับผู้หญิงคนนี้เขาจึงอยากจะแกล้งให้กลัวยั่วให้โกรธ รู้สึกคล้ายกับว่าเคยทำแบบนี้กับเธอมาก่อน ทั้งที่ใจหนึ่งบอกกับตนเองว่าเธอเป็นคนไม่ดี ไม่คู่ควรที่เขาจะสนใจ แต่อีกใจหนึ่งกลับค้านว่าไม่ใช่ รู้สึกขัดแย้งสับสนจนบอกไม่ถูก


คืนนั้นหลังอาหารเย็น หลังจากจัดการกับธุระส่วนตัวแล้ว เอกบุษยาเดินออกมารับลมเย็นด้วยชุดลำลองสบายๆ จนมาหยุดตรงบริเวณหน้าบาราย ที่มีลักษณะเป็นบ่อขุดสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ห่างจากปรางค์องค์ประธานมาไม่ไกล ปกติบริเวณนี้ในเวลากลางวันจะมองเห็นต้นไม้ใหญ่ของอีกฟากหนึ่งที่ยืนต้นโดดเดี่ยวสะท้อนลงในน้ำ ดูร่มรื่นเย็นตาได้อย่างชัดเจน แต่พอความืดโรยตัวลงมา จึงมองเห็นแค่เงาของน้ำในบ่อที่สะท้อนแสงไฟเท่านั้น แม้จะไม่ได้สวยเหมือนเมื่อตอนกลางวัน แต่ก็ยังทำให้คนที่ยืนมองมีความสุขอยู่ดี เพราะนอกจากเงาของต้นไม้ใหญ่ที่สะท้อนแสงจันทร์แล้ว ยังเห็นพระจันทร์ดวงโตอีกด้วย


ก่อนเสียง“ต๋อม”จะดังขึ้น พร้อมกับรอยกระเพื่อมไหวของน้ำเป็นริ้วคลื่นกระจายออกไป หญิงสาวจึงเงยหน้าขึ้นและได้พบว่ามีใครคนหนึ่งยืนอยู่ แม้ว่าเขาจะยืนขนานมองเงาสะท้อนในน้ำเช่นเดียวกับเธอ แต่เป็นเพราะแสงสลัวของสปอตท์ไลทบนเสาไฟส่องมาไม่ถึง ทำให้หญิงสาวไม่สามารถเห็นหน้าได้ถนัด แต่ถึงอย่างนั้นเอกบุษยาก็มั่นใจว่า ต้องเป็นคนๆนี้แน่ๆที่จงใจโยนก้อนหินหรืออะไรสักอย่างลงไป


อารามโมโหคิดแต่จะต่อว่าอย่างเดียว จึงไม่ทันได้สังเกตอะไร จนกระทั่งคนที่ยืนด้านข้างห่างออกไปไม่ถึงเมตรดีหันมา เอกบุษยาจึงเห็นว่าดวงตาคมกล้าที่จ้องตรงมานั้นเต็มไปด้วยความกร้าวกระด้างดุดัน ต่างไปจากแววตายียวนกวนประสาท เมื่อตอนเย็นอย่างสิ้นเชิง ถึงกับผงะถอยหลังจนสะดุดขาตัวเองลงไปนั่ง หน้าซีดถอดสี กรีดร้องออกมาด้วยความตกใจกลัว เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเดินตรงเข้ามาและทำท่าเหมือนจะบีบคอ ท่ามกลางเสียงหวีดหวิวของสายลมและใบไม้ที่ส่ายไหวไปตามแรงลมหนาวที่พัด หอบเอากลิ่นสาปของสัตว์ป่าบางอย่างเข้ามาปะทะจมูก ก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเงาตะคุ่มๆของใครบางคนเดินใกล้เข้ามา





มีต่อค่ะ

แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 55 08:20:59

แก้ไขเมื่อ 29 ก.พ. 55 13:13:40

จากคุณ : Setakan
เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 13:08:43




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com