Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
สาวมาดเซอร์ หัวใจเจอรัก บทที่ 6 : ทอมจริงๆ หรือหญิงแท้ๆ ติดต่อทีมงาน

ตอนที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11668398/W11668398.html

ตอนที่ 2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11677401/W11677401.html

ตอนที่ 3
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11691103/W11691103.html

ตอนที่ 4 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11702461/W11702461.html

ตอนที่ 5 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11736995/W11736995.html





วันรุ่งขึ้น เพียงขวัญรีบโทรศัพท์หาชินดนัยแต่เช้า เพื่อขอบคุณเรื่องที่เขายอมรับแมนนี่เข้าทำงาน แถมยังออกตัวชมเพื่อนสาวเสียยกใหญ่ให้พี่ชายฟังอีกว่า

“เขานิสัยดีนะพี่ ขมเคยเรียนหนังสือโรงเรียนเดียวกับเขา ตอนนี้ก็อยู่ด้วยกัน”

อู๊ดที่แอบนั่งอยู่ถึงกับหูผึ่งทันทีที่ได้ยินคู่หูพูดถึงใครบางคน เพียงขวัญพักอยู่คนเดียวมาตลอด ไม่เห็นเคยรู้เลยว่าบัดดี้ของเขาซุกใครไว้ในห้องอีกคน อู๊ดเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ ถ้าเป็นเรื่องของคนอื่นเขาไม่สนใจ แต่เรื่องของเพื่อนสนิทไม่ควรปล่อยให้ผ่านเลยไปง่ายๆ

ธนัชที่นั่งคลิกเมาส์อยู่หน้าคอมพิวเตอร์ก็แกล้งทำเป็นเฉย เหมือนไม่ได้สนใจฟัง แต่จริงๆ หูผึ่งยิ่งกว่าอู๊ดซะอีก

‘งั้นที่แก๊งขนมหวานสันนิษฐานว่าเพียงขวัญมีคนรออยู่ที่บ้านก็เป็นเรื่องจริงน่ะสิ’

“แค่นี้นะพี่ชิน สวัสดีค่ะ” เพียงขวัญกดวางสาย เมื่อหมุนเก้าอี้กลับมาก็เจอเข้ากับสายตาของอู๊ดที่มองแบบจับผิด ส่วนคนนั่งตรงข้ามก็รีบหลบสายตาทันทีที่เธอหันไปมอง ไม่มีใครยอมพูดอะไร อู๊ดน่ะอยากรู้ใจจะขาด อยากถามนั่นแหละ แต่ขอสังเกตการณ์ไปเรื่อยๆ ก่อนดีกว่า

เพียงขวัญฮัมเพลงในลำคอ เพราะข่าวของแมนนี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เธออารมณ์ดี แต่อีกเหตุผลหนึ่งก็คืองานโฆษณาแป้งเด็กผ่านแล้ว ต่อไปนี้ก็ไม่ต้องไปผจญกับคุณเลขาฯ เสียงแปร๋นนั่นอีก หลังจากนี้ก็เริ่มถ่ายทำโฆษณาได้เลย

สามคนในฝ่ายครีเอทีฟนั่งทำงานกันไป แต่ต่างคนต่างคิดกันไปคนละเรื่อง คนหนึ่งอยากรู้แต่ไม่อยากถาม คนหนึ่งอยากถามแต่อยากลุ้นเอง ส่วนอีกคนไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาเลย

เพียงขวัญนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ต่อไปโดยไม่สนใจใคร วันนี้เธอรู้สึกอารมณ์ดีมาก มาก...เสียจนต่อให้แก๊งขนมหวานหรือนายเป้หัวฟูเข้ามาหาเรื่อง เธอก็พร้อมจะไม่ถือสา

“นี่! หน้าต่างน่ะ เขาไม่ได้มีไว้ให้นั่งชมวิวนะยะ”

แค่คิดไม่ทันไร เสียงแขวะลอยดังข้ามหัวของอู๊ดมาทันที แคนดี้ยืนกอดแฟ้มเดินเฉิดฉายผ่านมา หล่อนเห็นคู่อรินั่งยิ้มไม่ยอมหุบจนชักจะเหมือนกับคนบ้าอยู่เป็นนานสองนานแล้ว เลยอดไม่ได้ต้องขอส่งเสียงค่อนแคะสักหน่อย

อู๊ดกับธนัชหันไปมองว่าเธอจะตอบโต้อะไร แต่กลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เลยสักนิด

เมื่อคนถูกแขวะไม่หันมามอง แคนดี้ก็ได้แต่เดินฉึบฉับกลับไปแบบเก้อๆ

“ไม่น่าเชื่อ มันไม่ตอบโต้” อู๊ดขยี้ตาตัวเองพูดออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ

ธนัชก็ยังงงเหมือนกันว่าทำไมเธอถึงไม่ต่อปากต่อคำด้วย ขณะที่เจ๋งเพิ่งกลับมานั่งประจำที่และได้ยินตอนที่แคนดี้พูดแขวะพอดีก็ยังสงสัยเหมือนกัน

เพียงขวัญขยับกายเปลี่ยนท่า พลางยกมือขึ้นเท้าคางอย่างสบายอุรา ในใจก็คิดอะไรต่อมิอะไรไปเรื่อยๆ เสียงซุบซิบของเพื่อนร่วมฝ่ายไม่ได้ทำให้เธอหันไปสนใจเลยสักนิด แม้แต่เสียงของแคนดี้ก็ยังไม่ทะลุโสตประสาทเธอเลยแม้แต่น้อย ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เธอเอนจอยนั้นน่ะเหรอ...เรื่องมันก็มีอยู่ว่า

เมื่อคืนนี้หลังจากบอกข่าวดีแมนนี่แล้ว เธอก็ตัดสินใจชวนกระเทยสาวอยู่ด้วยกันแบบถาวรไปเลย ไม่ใช่แค่ให้ที่พักพิงด้วยความสงสารในตอนแรก ซึ่งแมนนี่เองก็รีบตอบตกลงในทันทีแบบแทบไม่ต้องคิด แถมยังให้เหตุผลที่ทำให้เธอเป็นปลื้มอีกว่า

“เพราะเธอคือเพื่อนที่ดีของฉัน”

นี่ถ้าแมนนี่ยังเป็นพี่แมน เพียงขวัญคิดว่าเธอคงดีใจหน้าแดงและอาจกระโดดหอมเขาสักฟอดที่พูดจาน่าประทับใจอย่างนี้ แต่เพราะนั่นคือแมนนี่ แมนนี่ที่เป็นผู้หญิง แม้จะเทียมแต่ก็เป็นผู้หญิงไปแล้ว เพียงขวัญจึงได้แค่ยิ้มและรู้สึกดีใจที่อย่างน้อยก็มีใครคนหนึ่งเห็นเธอเป็นเพื่อนที่ดี

เพียงขวัญคิดว่าตัวเองมีสติดีตอนที่เอ่ยปากชวน และคิดว่าตัวเองก็ยินดีที่จะมีเพื่อนอยู่ด้วย แต่เธอไม่ได้มีจิตพิศวาสแมนนี่แบบแต่ก่อนแล้ว เพราะหัวใจที่เคยเต้นตึกตักตื่นเต้นแบบสาวรักหนุ่มมันไม่มีหลงเหลืออยู่เลย และภาพพี่แมนในวันเก่าก่อนก็แทบเลือนลางเต็มที เธอคงอยู่คนเดียวนานเกินไป และเบื่อชีวิตที่กลับมาต้องนั่งเงียบไม่มีคนคุยด้วย เมื่อมีใครสักคนมาอยู่ด้วย เธอถึงอยากให้เขาอยู่ด้วยนานๆ

มันคงเป็นความผูกพันอะไรสักอย่าง แล้วความรู้สึกที่ว่านั่นแหละ ที่ทำให้เธอตัดสินใจทำสิ่งดีๆ ลงไป

เก้าอี้ถูกหมุนกลับมาเมื่อสรุปกับตัวเองได้เช่นนั้น ก่อนที่อาร์ตไดเร็คเตอร์สาวจะหันกลับมาก้มหน้าก้มตาดูเอกสารเกี่ยวกับโฆษณาชิ้นใหม่ งานนี้ไม่ง่ายเลย เพราะเป็นโฆษณาบ้านที่ไม่ได้อยู่ใจกลางเมือง ไม่ได้ใกล้ความเจริญใดๆ ไม่มีจุดเด่นอะไรที่จะสามารถใช้ดึงดูดใจผู้ซื้อได้ บ้านแบบนี้เป็นบ้านที่ผู้อยู่อาศัยคงต้องการความเงียบสงบสันโดษ แบบอยู่แล้วอยู่นานๆ ไม่ต้องย้ายไปไหนอีก

“...ฉันไม่อยากย้ายไปไหนบ่อยๆ อยู่ที่ไหนถ้ามีความสุขก็อยากอยู่ที่นั่นนานๆ...”

คำพูดของแมนนี่เด้งกลับเข้ามาในหูเพียงขวัญ แล้วเธอก็ปิ๊งไอเดียขึ้นมา

“อู๊ด!”

อู๊ดที่นั่งก้มหน้าเขียนหนังสืออยู่ถึงกับสะดุ้ง ที่จู่ๆ เสียงของเพียงขวัญก็ดังขึ้น เขาเลิกคิ้วมองเพื่อนคู่หู เธอกวักมือเรียกให้เข้ามานั่งใกล้ๆ อู๊ดขี้เกียจเดินเลยไถลเก้าอี้ติดล้อเลื่อนของตัวเองไปนั่งตรงข้าม

“โฆษณาบ้านน่ะ ถ้ามันไม่มีจุดเด่นอะไร ฉันจะเน้นเรื่องความสุขที่ได้จากการอยู่บ้านที่ห่างไกลจากความวุ่นวายในเมือง แล้วก็อยากให้คำที่ใช้ในเรื่องเนี่ยเป็นประมาณว่า บ้านที่อยู่แล้วอยากจะอยู่นานๆ ไม่อยากย้ายไปไหนอีก อย่างนี้ได้หรือเปล่า”

“ได้อยู่ แจ่มเลย” อู๊ดตอบรับทันที ดึงกระดาษโน้ตบนโต๊ะเพียงขวัญขึ้นมาและจดความคิดของเธอลงกระดาษ

เมื่อความคิดได้ถูกจุดประกายขึ้นมา อาร์ตไดเร็คเตอร์กับก๊อบปี้ไรท์เตอร์ก็พูดคุยออกความเห็นกันอย่างสนุก หลังจากตกลงว่าจะเอาแบบนี้แล้ว อู๊ดก็ไถลเก้าอี้กลับไปนั่งที่ตัวเอง ความคิดใหม่ๆ ไหลมาเทมาจากสมองของคนทั้งสอง

เพียงขวัญฮัมเพลงในลำคออีกครั้งอย่างมีความสุข เมื่อมีแมนนี่มาอยู่ด้วย อะไรๆ ก็ดีขึ้นจริงๆ นั่นแหละ



ช่วงเวลาเที่ยงผ่านไปแล้ว แต่เพียงขวัญยังไม่ได้ลุกไปกินข้าวเที่ยงเลย บนโต๊ะมีห่อขนมปังกินไปได้ครึ่งเดียววางอยู่กับกาแฟที่เย็นชืดอีกครึ่งถ้วย เวลาสมองแล่นเธอมักจะเป็นอย่างนี้เสมอ หาอะไรกินแก้หิวไปก่อนแล้วนั่งทำงานโดยไม่สนใจใคร

เพื่อนๆ ร่วมออฟฟิคเริ่มทยอยกันกลับมา สำนักงานที่เคยเงียบสงบในช่วงเที่ยงเริ่มมีเสียงพูดคุยจอแจอีกครั้ง แต่เพียงขวัญก็ยังไม่สนใจใคร

“ไม่ไปกินข้าวเหรอขม” เจ๋งที่เดินกลับมาพร้อมอู๊ดและธนัชเอ่ยถาม

“ไม่ล่ะพี่ ขมกินขนมปังแล้ว ไม่หิวเท่าไหร่”

“แกจะลดความอ้วนหรือไง” อู๊ดทิ้งตัวนั่งลงหลังโต๊ะทำงาน

“บ้าสิแก จะลดไปทำไม”

“นั่นสิ จะลดไปทำไม ผอมอย่างกับไม้เสียบลูกชิ้นแล้ว” ธนัชเสริมขึ้นมาลอยๆ แต่ฟังแล้วไม่เข้ารูหูเพียงขวัญเลยสักนิด เธอจึงปรายลูกกะตามองเขาอย่างไม่ชอบใจ มาว่าเธอผอมเหมือนไม้เสียบลูกชิ้น ตัวเองหุ่นดีตายแล้วนี่ เดี๋ยวก็เอาดินสอเสียบพุงให้ไส้ทะลักซะเลยนี่

เสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะดังขึ้น เพียงขวัญละสายตาพิฆาตจากธนัชมากดรับสาย

“สวัสดีค่ะ…อ้าว!” เพียงขวัญตาโตทันทีที่ได้ยินเสียงแมนนี่ดังในหู “กุญแจเหรอ เออ จริงด้วย...ฉันลืมจริงๆ ด้วยแหละ แต่ไม่เป็นไรหรอก ฉันกลับห้องช้ากว่าอยู่แล้ว...เฮ้ย! จริงสิ”

เธอลุกพรวดก้มมองลงไปข้างล่าง เห็นคนผมยาวๆ ยืนอยู่ข้างล่างหน้าตึก

“โอเค.ๆ เดี๋ยวฉันลงไป” เธอกดวางโทรศัพท์แล้วเดินพรวดพราดออกจากโต๊ะทำงานไป ท่ามกลางความสงสัยของอู๊ดและความ (แอบ) สงสัยของธนัช พลอยทำให้เจ๋งอยากรู้ไปด้วยอีกคน

ต่อมอยากรู้อยากเห็นกำเริบขึ้นมากะทันหัน อู๊ดกระโดดไปที่หน้าต่างมองลงไปข้างล่าง เขาเห็นผู้หญิงผมยาวในชุดทำงานยืนอยู่ข้างล่าง รออยู่ครู่เดียวก็เห็นเพียงขวัญเดินออกจากตึกตรงไปหา

“มีผู้หญิงมาหาไอ้ขมเว้ย ผมยาวๆ ท่าทางสวยดี” อู๊ดพูดไปตามที่เห็น ก่อนจะหันมากวักมือเรียกธนัชกับเจ๋งให้มาดูด้วยกัน เจ๋งลุกตามไปดู แต่ธนัชนั่งเฉยทำเป็นไม่สนใจ

“นั่นเพื่อนขมเหรอ” เจ๋งถามบ้าง มองจากตรงนี้เห็นหน้าไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ แต่รู้ว่าเป็นผู้หญิง

ร้อยวันพันปีไม่เคยมีใครมาหาเพียงขวัญเลยสักคน เมื่อเห็นคนมาหายื่นอะไรบางอย่างให้ บทสนทนาของเพียงขวัญเมื่อครู่ก็ทำให้อู๊ดนึกออก

‘ไอ้ขมลืมกุญแจห้อง แล้วเธอคนนั้นก็เอามาให้ แสดงว่าทั้งคู่ต้องอยู่ห้องเดียวกัน!’

“นั่นต้องเป็นคนที่อยู่กับขมตอนนี้แน่ๆ” อู๊ดสันนิษฐาน

“อ้าว ขมไม่ได้อยู่คนเดียวเหรอ” เจ๋งถามอย่างที่เขารู้ ใครๆ ก็รู้ทั้งนั้นว่าเพียงขวัญเช่าคอนโดฯ อยู่คนเดียว ชีวิตเธอเป็นอิสระสุดๆ จะกลับที่พักกี่โมงก็ได้ ไม่มีอะไรต้องห่วง

“นั่นมันเมื่อก่อนแล้วพี่ ได้ยินแว่วๆ ว่าเพิ่งมีคนมาอยู่ด้วย สงสัยผู้หญิงคนนี้แน่ๆ เงยหน้ามาหน่อยสิจ๊ะ อยากเห็นจ้าอยากเห็น” อู๊ดตวัดมือพยายามลุ้นให้คนที่มาหาเพียงขวัญเงยหน้าขึ้นมา

ธนัชนั่งกอดอกมองปฏิกิริยาของอู๊ด แล้วส่ายหน้าระอา

“นี่มันชั้นห้านะเว้ย เขาคงได้ยินหรอก”

ยังไม่ทันจะขาดคำของธนัช แมนนี่ก็แหงนหน้าขึ้นมามอง พร้อมๆ กับเพียงขวัญที่แหงนหน้าและชี้ให้ดูว่าเธออยู่ชั้นไหน อู๊ดกับเจ๋งผงะออกจากหน้าต่างทันทีตามสัญชาตญาณของคนแอบดู

“พี่เห็นเปล่า? หน้าตาเป็นยังไง?” อู๊ดหันมาถามเจ๋ง เขารีบหลบเลยไม่ทันดู

เจ๋งเองก็ไม่เห็นเหมือนกัน พอเอาหน้าแปะที่กระจกดูอีกที ทั้งสองคนก็หายไปแล้ว อู๊ดกับเจ๋งรีบย้ายตัวเองกลับที่นั่ง เดี๋ยวเพียงขวัญขึ้นมาเห็นเสียก่อน

“อยู่กับผู้หญิงเสียด้วย อะเจ้ย! หรือว่าไอ้ขมจะเป็นทอมจริงๆ วะเนี่ย” อู๊ดคิดไปคนเดียว พูดไปคนเดียว ไม่รู้ว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร

แต่คำพูดของเขาทำให้ธนัชนั่งนิ่ง สีหน้าก็ดูจะเคร่งขรึมขึ้นมานิดๆ

‘หรือสาวเซอร์ที่นั่งทำงานตรงข้ามเขาจะเป็นทอมจริงๆ’

จากคุณ : inmost
เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 22:34:43




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com