ย้อมใจด้วยไอรัก บทที่ 5/2
|
 |
...
ทว่าปราการแห่งความหวังต้องพังภินท์สิ้นดีด้วยตัวเลขที่พุ่งทะลุ 50 ลิ่วไปจน 60 ก่อนจะค่อย ๆ ชะลอความเร็วและหยุดนิ่งอยู่ที่เลข 69 อันหมายถึงปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดเกินระดับที่กฎหมายกำหนดมา 19 มิลลิกรัม อธิวัฒน์ถอนหายใจล้าเรี่ยวแรงแข้งขาอ่อน ก้มมองเท้าซึ่งกำลังจะก้าวไปแตะตะรางอย่างหดหู่...ครอบครัวศิระชลัทธรไม่เคยมีเหตุข้องแวะกับโรงพักคุกตะรางอย่างนี้มาก่อน หรือเขาจะเป็นผู้บุกเบิก เหล่าวงศาคณาญาติรู้เข้าคงอึ้งกิมกี่กันถ้วนหน้า!
ข้างถนนใหญ่ในกรุงเทพฯ ยามดึกสำหรับหมอหนุ่มมันไม่ได้น่าอภิรมย์สมชื่อเมืองอมรเลยสักนิด...
ลมร้อนหอบเอาฝุ่นละอองสกปรกและควันเหม็นจากท่อไอเสียรถมาโดนหน้าโดนตัวเหนียวเหนอะหนะ...เขาเกลียดมัน!
เสียงรถน้อยใหญ่สัญจรผ่านไปมาไม่ว่างเว้น เสียงนกหวีดจราจรแหลมปรี๊ด เสียงผู้คนแก้ตัวโหวกเหวกโวยวายโดยเฉพาะลูกชายนักการเมืองคนดังเจ้าของรถเฟอรารี่สีควันบุหรี่ที่ขุดคำหยาบคายสมัยพ่อขุนรามคำแหงมาสั่งสอนตำรวจไม่หยุดหย่อน มลพิษทางเสียงชัด ๆ ...แน่นอน เขาเกลียดมันแทบคลั่ง!
ถ้าคืนนี้ลุงไม่อยากนอนคุกก็ประกันตัวสิ... ชายหนุ่มร่างผอมซึ่งคะยั้นคะยอให้เขาเป่าแอลกอฮอล์ยิกเอ่ยขึ้นเสียงเรียบราวไม่อนาทรร้อนใจ
อธิวัฒน์เบือนหน้าหนี เดินห่างออกไปหลายก้าว จะให้นอนคุกเดียวกับไอ้หนูผีนั่นเรอะ ฝันไปเหอะ! เขาขบกรามแน่นล้วงเอากระเป๋าเงินออกมาจากเสื้อสูท เปิดกระเป๋าหนังจระเข้ออกจ้องดูธนบัตรในนั้นพลันใจหายวาบ...ดึงออกมานับดูหลายรอบเพื่อให้แน่ใจว่าเขามีเงินสดอยู่แค่สามพันบาทไม่ขาดไม่เกิน การมีเครดิตการ์ดวงเงินสูงหลายใบอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันครบถ้วนจนทำให้เขาไม่มีความจำเป็นต้องพกเงินสดติดตัวมากมายให้ยุ่งยาก
ตำรวจบอกใช้หลักทรัพย์สองหมื่นบาท ไม่งั้นก็ให้ญาติมาประกันคราวนี้น้ำเสียงคู่อริปนความสะใจ ติดจะสมเพชนิด ๆ เสียด้วยซ้ำ คนหน้าแหลมมองธนบัตรสีเทาสีม่วงสีแดงในมือคนสวมสูทด้วยหางตาแล้วยิ้มกวน หรือจะยืมผมสักหมื่นมั้ยล่ะลุง ดอกเบี้ยไม่แพงร้อกแค่ร้อยละร้อยเอง... เขาเปิดซิปกระเป๋าที่สะพายเฉียงอก ควักธนบัตรใบละหนึ่งพันบาทออกมาปึกหนึ่ง เอานิ้วโป้งแตะน้ำลายแล้วนับยั่ว
คนบ้าอะไรวะพกเงินเป็นปึกอย่างกับไปปล้นใครมา! อธิวัฒน์หายใจฟืดฟาดทั้งโมโหทั้งเสียหน้า
นี่ถามจริงเหอะ ลุงรวยจริงรึเปล่า...ไม่ใช่ว่าไอ้ที่ขับโก้อยู่นั่นบีเอ็มจีนแดงนะ คำถามจาบจ้วงเจ็บแสบยิ่งกว่าถูกกระชากสะเก็ดแผลที่กำลังรัดตัวหลุดติดมือออกมาทั้งแผ่น
หมอหนุ่มตาลุกวาว เกร็งหมัดแน่นจนสั่นระริก ก้ำกึ่งว่าจะควบคุมโทสะไม่อยู่...ไอ้หนูผีปากปีจอนี่! เขาเกลียด...อยากฆ่ามันนัก!!
ก่อนที่ความผิดของผู้บริหารหนุ่มจะเพิ่มขึ้นอีกกระทงนายตำรวจที่เห็นเหตุการณ์ส่อเค้าวางมวยเกิดขึ้นก็ปราดเข้ามาห้ามปราม
ใจเย็นคุณ ข้อหาที่มีอยู่ยังไม่พอรึไงครับ คิดถึงครอบครัวคิดถึงคนอยู่ข้างหลังบ้าง...
คำว่าครอบครัวและคนอยู่ข้างหลังสะกิดใจ โทสะที่ลุกโชนแรงกล้าเริ่มอ่อนลง...จริงสิ ยังมีรอความช่วยเหลือจากเขาอยู่ จะมัวเสียเวลาไร้สาระอยู่กับอริหนูผีนี่ไม่ได้ ร่างสูงล่ำสันเป็นฝ่ายผละห่างจากคู่กรณีอีกหน ทว่าด่านตรวจแอลกอฮอล์ไม่มีที่ให้ไปมากนักคุณชายอนามัยจัดจำต้องทรุดกายลงนั่งริมบาทวิถีไม่ไกลจากถังขยะใบคร่ำเขรอะ สุนัขจรจัดผอมโกรกเห็นซี่โครงเป็นริ้วเดินกระย่องกระแย่งเข้ามาคุ้ยหาเศษอาหาร อธิวัฒน์ไล่ลั่นอย่างรังกียจ มันกลับตอบสนองเสียงไล่ด้วยการละจากแหล่งอาหารแล้วเดินมานั่งแหมะตรงหน้าชายหนุ่ม แถมยกเท้าหลังเกาขี้เรื้อนแกรก ๆ อย่างเมามัน
หากอยู่ในสถานการณ์ปกติเขาอาจจะนึกขันในความเจ้าหน้าของมัน แต่เวลานี้เขาทำได้แค่ถอนหายใจระอิดระอา บอกกับสัตว์จรจัดที่กำลังส่งสายตาวิงวอนสุดชีวิตมาที่เขา
แกไม่ต้องมามองฉันตาหวานเลย! ขนาดตัวฉันยังเอาตัวเองไม่รอด... นึกแล้วก็ให้หดหู่ใจไม่รู้ว่าคำรบที่เท่าไรแล้วในคืนนี้ การรอคอยรถที่จะพาไปสถานีตำรวจทำไมช่างเหมือนยาวนานเสียเหลือเกิน อธิวัฒน์ยังมืดแปดด้านว่าพอรถมาเขาจะทำอย่างไรต่อ...เขาจะหาตู้เอทีเอ็มเพื่อกดเงินประกันตัวได้อย่างไรหนอ ที่จะโทรเรียกให้ใครมาช่วยประกันตัวยิ่งแล้วใหญ่ เรื่องน่าอับอายอย่างนี้ทำให้เขาไม่กล้าโวยวายอ้างพ่อแม่ ยัดเงินใต้โต๊ะ หรือแม้แต่ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนฝูงคนไหนทั้งสิ้น สุนัขขี้เรื้อนตัวนั้นยังไม่ยอมขยับหนีไปไหน มันนั่งปักหลักทำตาอ้อยสร้อย
อธิวัฒน์ยกหลังมือลูบใบหน้าที่เริ่มมันแผล็บของตนเอง รองเท้าหนังสีดำและขากางเกงเปื้อนฝุ่นเป็นคราบ เนื้อตัวเขาคงเริ่มเหม็นกลิ่นเหงื่อและฝุ่นควันแล้ว ให้ตายเถอะ...ตอนนี้สภาพเขากับสุนัขขี้เรื้อนน่าจะทุเรศทุรังพอกัน เรื่องเฮงซวยทั้งหมดมันเกิดเพราะเหล้าแท้ ๆ ชีวิตขี้เมามันช่างมีสีสันอย่างนี้เองสินะคนถึงได้ชอบกินเหล้ากันนัก! ประชดระงมในใจแล้วพานนึกถึงเรื่องที่พี่ชายเข้ามาหารือด้วยเมื่อตอนค่ำ...เรื่องที่เขาปฏิเสธเสียงแข็งว่ามันไกลตัว...เรียลลิตี้ตามติดชีวิตขี้เหล้า!
ขณะใจนั้นเหมือนเขาได้กลิ่นควันบุหรี่กลิ่นที่คุ้นเคยลอยมาตามลม...บุหรี่กลิ่นวานิลลา หมอหนุ่มหันมองรอบตัวเพื่อเสาะหาตัวการด้วยใจระทึก
...ครั้นนึกถึงหมีหมีก็มา...ร่างเจ้าเนื้อใบหน้ารกเรื้อด้วยหนวดคราของพี่ชายร่วมนามสกุลยืนจังก้าห่างออกไปไม่ถึงห้าเมตร ในมืออวบอ้วนมีกล้องวิดีโอขนาดพกพาอยู่ด้วย ที่สำคัญเลนส์กำลังส่องจับภาพมาทางเขาพอดิบพอดี พี่ชายได้ภาพช็อตเด็ดในชีวิตของเขาอีกแล้ว!
มิตร! น้ำเสียงเขาช่างแฝงด้วยอารมณ์หลากหลายอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งตกใจ แปลกใจ และหมายจะปรามให้พี่ชายลดหน้ากล้องที่กำลังจับจ้องทุกอิริยาบถอนาถของเขาอยู่โดยเร็ว
จ๋าจ้ะ หมีใหญ่รับคำอู้อี้เพราะบุหรี่คาปาก
มาทำอะไรที่นี่? น้องชายส่งเสียงถาม ค่อยวางใจที่มิตรลดกล้องลง มือข้างหนึ่งคีบบุหรี่ออกจากปากแล้วตอบคำถาม...ด้วยคำถาม
ฉันก็สงสัยเหมือนกันว่าแกมาทำอะไรที่นี่ มีนัดไม่ใช่เรอะ? คนเลี้ยงเคราทิ้งน้ำเสียงเยาะแบบเป็นต่อหลายขุม
อธิวัฒน์อ้ำอึ้ง ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรจึงได้แต่เรียกชื่อพี่ชายเสียงอ่อนอ้อนวอน...หวังว่าอย่างไรเสียมิตรคงไม่ใจจืดใจดำกับเขานัก
พี่มิตร... เขาส่งสายตาละห้อยให้พี่ชาย ชั่วแล่นสำนึกตัวว่าทำกิริยาชวนสงสารละม้ายหมาขี้เรื้อนที่นั่งอ้อร้ออยู่ใกล้ ๆ เข้าไปทุกที พี่ชายอัดควันบุหรี่เข้าปอดเฮือกใหญ่ราวกับเป็นช่วงชั่งใจ เผยอปากพ่นควันสีขาวกลิ่นวานิลลาออกมาอ้อยอิ่งก่อนถาม อือ ไงล่ะ...มีอะไรให้ช่วย?
ท่ามกลางเสียงเอะอะโวยวายของขี้เมาซึ่งเป็นถึงลูกนักการเมืองชื่อกระฉ่อนและเสียงรถราคำรามกระหึ่ม ยังมีเสียงหนึ่งดังทุ้มเพียงแผ่วทว่าไพเราะซาบซึ้งเป็นที่สุด ผู้บริหารหนุ่มรู้สึกผิดติดหมัดที่บอกปัดตัดเยื่อขาดใยเรื่องโครงการรายการเรียลลิตี้ไปเมื่อช่วงค่ำ
ว่าง ๆ ก็ลองคิด เรื่องนั้น ดูใหม่แล้วกันนะไอ้จงอาง
...สุดท้ายพี่ชายก็เผยธาตุแท้จนได้ ไม่มีอะไรที่อยู่ในหัวเขาแล้วมิตรจับไม่ได้ไล่ไม่ทันจริง ๆ สิ! ร่างผึ่งผายทะลึ่งพรวดขึ้นจากบาทวิถีด้วยพื้นเสียกับความเจ้าเล่ห์ของมิตร แต่แล้วชั่วเสี้ยวนาทีอธิวัฒน์ก็ต้องร้องโอ๊ยลั่นเจ็บแปลบที่หน้าผาก วัตถุลึกลับลอยมากระแทกแสกหน้าดังปั้กเล่นเอาเกือบนับดาว หมอหนุ่มรีบยกมือแตะหน้าผาก โชคดีที่ไม่ถึงกับเลือดตกยางออก วัตถุปริศนาอันเขื่องนั่นสิ้นฤทธิ์กองอยู่ที่พื้น เขาใช้เท้าเขี่ยดูก็พบว่ามันคือเครื่องตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์นั่นเอง...แต่ว่ามันลอยละลิ่วมาจากทางไหนกันล่ะ!?
กูบอกแล้วว่ากูไม่ตรวจ! พวกมิงอย่ามายุ่งกับกู! เสียงกร่างน่ารังเกียจแผดลั่น คนนามสกุลดังเจ้าของเฟอรารี่ประกาศกร้าวแถมผลักอกตำรวจสาวจากกองร้อยน้ำหวานเต็มแรงจนเธอแทบล้มก้นจ้ำเบ้า
เฮ้ย! มิงอ่ะมองหน้ากูทำไม! เจ้าของรถสปอร์ตหรูชี้หน้าด่าคนหัวโนที่เขม้นมองมาที่เขาอย่างเดือดดาล ทั่วทั้งด่านนี้ ทั้งจังหวัดนี้ หรือต่อให้ทั้งประเทศนี้ ไม่เคยมีใครกล้าดีจ้องหน้าเขาเป๋งอย่างนี้สักคน!
ไอ้หน้าขาวมิงรู้มั้ยพ่อกูเป็นใคร!!
นายตำรวจหลายนายเห็นเหตุการณ์เดือดปะทุแล้วกรูเข้าไปควบคุมสถานการณ์ ทว่าไม่รวดเร็วว่องไวไปกว่าชายหนุ่มอดีตพิทเชอร์มือพระกาฬสมัยไฮสกูล เครื่องตรวจแอลกอฮอล์สีเงินลอยหวือแหวกอากาศไปกระแทกครึ่งปากครึ่งจมูกคนกิริยาวาจาหยาบหนำซ้ำลืมกระทั่งบุพการีเต็มรัก พร้อมคำตอบที่หลายคนอยากกดไลค์รัว ๆ
กูรู้ว่าพ่อมิงเป็นใคร! กูขอแช่งให้เทอมหน้าพ่อมิงสอบตก!!
ลูกลืมพ่อยืนตาเหลือกอ้าปากพะงาบ ๆ โดยไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวไปได้ง่ายดาย ทั้งด่านพลันเข้าสู่ความสงบเรียบร้อยยิ่งกว่าครั้งไหน ผู้ขับขี่ยวดยานขณะมึนเมาซึ่งโดนโบกเข้าด่านมาใหม่ เห็นภาพกีฬามันส์ ๆ นี้เข้า ความคิดที่จะอิดออดหาข้ออ้างโน่นนี่พลันมลายหายไปสิ้น ยอมอ้าปากเป่าหลอดที่เครื่องตรวจดี ๆ สบายกว่าโดนเครื่องตรวจทั้งอันลอยกระแทกปากเยอะ!
แหม่...เขวี้ยงแม่นโดนปุ่ม Mute พอดิบพอดี วันนี้สนุกจริง ๆ สิพับผ่า! เสียดายเก็บภาพไม่ทัน! ผู้กำกับเคราครึ้มชมเปาะระคนเสียดายจับจิต ตำรวจนายหนึ่งขับรถ BMW สีดำหน้าถลอกมาเทียบด่าน ได้เวลาไปจัดการเรื่องราววุ่นวายในคืนนี้ ผู้ต้องหาในชุดสูทมองหาเจ้าของรถกระบะบุโรทั่งที่เขาขับเสยท้าย ยื่นนามบัตรไว้ให้เพื่อติดต่อพร้อมทั้งยืนยันว่าจะจ่ายค่าซ่อมแซมรถให้ เสร็จแล้วจึงขึ้นรถยุโรปไปพร้อมกับพี่ชายเคราดก มุ่งหน้าสู่สถานีต่อไป...สถานีตำรวจ!
...
แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 55 09:53:08
จากคุณ |
:
ปลากินเมฆ
|
เขียนเมื่อ |
:
6 มี.ค. 55 10:54:05
|
|
|
|