พันตะวันสาดแสงรัก 1 : บทนำ
|
 |
บทนำ
อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
ม้าสีดำสูงสง่าตัวหนึ่งวิ่งกุบกับขึ้นเนินมาตามทางดินเล็กๆ คนบนหลังม้าเป็นชายหนุ่มร่างเพรียว ใบหน้าคมคาย ผมหยักศกสีดำสนิทตัดกับท้องฟ้าขาวนวลด้วยไอหมอกยามเช้าเวลาเจ็ดโมงกว่าสะบัดเล็กน้อยตามแรงวิ่งของม้าที่มุ่งตรงไปยังบ้านหลังหนึ่ง
เนินกว้างขวางกินเนื้อที่ประมาณไร่กว่าเป็นที่ตั้งของบ้านไม้ยกสูงมีสองชั้น ระเบียงด้านล่างที่ยื่นออกไปโดยรอบครึ้มด้วยต้นไม้ใหญ่ที่เจ้าของปลูกไว้นานหลายสิบปีจนแผ่เรือนยอดให้ความร่มรื่น ด้านหนึ่งต่อเป็นทางเดินไม้ไปยังศาลาเล็กๆ ที่ยื่นออกไปเป็นจุดชมทิวทัศน์ของภูเขาน้อยใหญ่ซึ่งบัดนี้กลายเป็นพื้นที่ทำการเกษตรเกือบหมดแล้ว หากเป็นเพราะภาพที่ปรากฏคือความเขียวขจีไล่ระดับสีเข้มอ่อนของพืชพรรณประกอบกับอากาศหนาวเย็นเกือบทั้งปีคนที่ได้มายืนชมตรงนี้จึงไม่เย็นตาและชมได้ไม่รู้เบื่อ
พาเจ้ายูคาไปไหนมาแต่เช้าเหรอไอ้โต
ชายชราวัยประมาณหกสิบตอนปลายผมขาวโพลนทั้งศีรษะสวมเสื้อกันหนาวไหมพรมสีเทาส่งเสียงมาจากบนระเบียงบ้านถามหลานชายที่มัดเจ้า ยูคา ม้าพันธุ์ดีไว้ใต้ต้นยูคาลิปตัสที่มีหญ้าสดกองอยู่ ทั้งที่มือยังถือถุงๆ หนึ่งอยู่ด้วย
ไปดูแปลงผักของตาครับ แล้วก็เลยเก็บยอดฟักแม้วไปฝากพ่อด้วย ชายหนุ่มตอบพลางเดินไปยังตัวบ้าน ในมือหิ้วถุงใส่ยอดฟักแม้วหรือที่คนทั่วไปเรียกว่าซาโยเต้หรือมะระหวานซึ่งตาของเขาปลูกขายส่งในตลาดใหญ่ๆ ในกรุงเทพฯ ก่อนที่จะถูกกระจายไปตามต่างจังหวัด
ชายชราพยักหน้ารับรู้เอียงตัวหันตามทิศทางที่หลานชายเดินมา เป็นยังไงบ้างล่ะพ่อศิลปินหมัดเมาของแก
วาจาค่อนแคะอย่างไม่จริงนักของคณิต พวงเพชร ผู้เป็นตาที่เอ่ยถึง มงคล รัตนเลิศ เรียกรอยยิ้มจางๆ บนริมฝีปากบางเหมือนอิสตรีของชายหนุ่มที่ทำงานเป็นข้าราชการป่าไม้แต่ยามนี้อยู่ในช่วงลาพักผ่อนหลังจากตรากตรำมานาน
พ่อสบายดีเหมือนเดิมครับ พันตะวันตอบผู้เป็นตาแล้ววางถุงผักลงบนโต๊ะไม้สีดำเก่าแก่ตามกาลเวลาเพราะโดนแดดฝน
เหมือนเดิมในความคิดของเขาคือ ทำสวนห้าไร่ที่เป็นมรดกตกทอดมานานแล้ว พ่อเขาไม่ได้รวยแต่ก็ไม่ได้ยากจน ตั้งแต่เลิกกับแม่ของเขาเพราะเหตุผลที่แม่อ้างว่าพ่อกินเหล้าแล้วไปมีอะไรกับผู้หญิงในหมู่บ้านพ่อก็ไม่ได้แต่งงานใหม่กับผู้หญิงคนนั้นเพียงแต่ไปมาหาสู่กันสักระยะฝ่ายหญิงก็ไปทำงานในผับในบาร์ จากนั้นมาพ่อเขาก็มีความสุขกับการทำสวนผักและดื่มเหล้า เนื่องจากลูกชายคนเดียวคือเขาก็มีตายายดูแลเลี้ยงดูส่งเสียอยู่แล้วจึงไม่ต้องห่วงอะไร
เขาผูกพันกับพ่อมากกว่าแม่ เพราะถึงแม่จะมาเยี่ยมบ้านเป็นบางครั้ง แต่การปล่อยให้เขาอยู่กับตาและยายมาตั้งแต่เด็กทำให้รู้สึกห่างเหินจนกลายเป็นเฉยชา ไม่ใช่ว่าไม่โหยหาความรักจากแม่เหมือนเมื่อครั้งยังเด็ก แต่เขาทดแทนด้วยรักแบบหนุ่มสาวที่วิ่งเข้ามาหาจนกลายเป็นสิ่งธรรมดาหาได้ง่ายดายเสียเหลือเกิน
ยิ่งโตเป็นหนุ่มหน้าตาคมสันสะดุดตาจนผู้หญิงแวะเวียนมาเกี่ยวข้องด้วยอย่างไม่ขาดเท่าใดเขากลับยิ่งรู้สึกว่ามันยังไม่พอ... บางทีเขาก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังเรียกร้องความอ่อนหวานจากคนเพศเดียวกับแม่ นี่กระมัง เพื่อนๆ ถึงได้ว่า ไอ้โตมันเจ้าชู้เพราะขาดแม่ แต่เขารู้ดีว่าผู้หญิงที่คบไปเหล่านั้นไม่ได้มีอะไรพิเศษนอกจากเป็นความพอใจทั้งสองฝ่ายและไม่มีอะไรผูกมัดกัน
ผู้หญิงน่าเบื่อ เรื่องมาก ขี้บ่น ชอบดิ้นรนและแสวงหาสิ่งดีๆ กว่า สู้เหล้าก็ไม่ได้ มันจริงใจ ไม่เคยค่อนขอด ค่อนแคะให้รำคาญหู ยากดีมีจนลำบากสบายยังไงก็ไม่เดือดร้อน
ประโยคนี้ของพ่อที่เคยค่อนขอดไปถึงแม่ประกอบกับผู้หญิงที่มาเกี่ยวข้องกับเขาส่วนใหญ่เป็นอย่างนั้นทำให้เห็นด้วยเต็มๆ แต่ที่ไม่เห็นด้วยคือเรื่องเหล้า เพราะพ่อของเขาดูเหมือนจะปล่อยให้เหล้ากินจนสุขภาพทรุดโทรมในขณะที่เขาไม่เคยปล่อยให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีอำนาจเหนือได้
กลับมาแล้วเหรอโต
มีเสียงร้องถามออกมาจากในตัวบ้านพร้อมกับเสียงกุกกัก พันตะวันจึงหยุดความคิดไว้เพียงเท่านั้นแล้วตะโกนออกไป
ครับยาย ผมเก็บฟักแม้วมาให้ยายผัดให้กินด้วยนะ
กินตั้งแต่เล็กจนโตยังไม่เบื่อหรือไงไอ้โต ไปอยู่เชียงใหม่ยิ่งมีเยอะ คนเป็นตาพูดยิ้มๆ กับหลานชาย แต่หญิงชราร่างผอมเล็กในชุดผ้าถุงกับเสื้อแขนยาวเดินมาได้ยินพอดี
ทีตาล่ะ อยู่กับยายมาตั้งสามสิบกว่าปีไม่เบื่อบ้างเหรอ
เบื่อสิ แต่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันเพราะแก่แล้วจะไปหาสาวๆ มาดูแลเขาก็ไม่เอา คณิตเอ่ยยั่วเย้าจนดวงพรในวัยหกสิบห้าค้อนใส่ เป็นภาพที่พันตะวันเห็นบ่อยๆ และเป็นต้องหัวเราะทุกครั้งร่ำไป
อดคิดไม่ได้ว่าตายายรักกันขนาดนี้ แต่ทำไมครอบครัวรุ่นลูกถึงไม่เป็นอย่างนี้บ้าง
อ้าว นั่นซองอะไรน่ะ ชายชราเอ่ยเมื่อเห็นเขาลุกขึ้นยืนเตรียมจะเดินเข้าบ้านเพื่อทำธุระส่วนตัว
พันตะวันก้มหน้าลงมองกระเป๋าเสื้อ นึกขึ้นได้ว่าพ่อเขาเอาจดหมายนี้ให้เขาเก็บไว้ก่อนหน้าที่จะจากมา
เก็บเอาไว้หน่อย เอาไว้กับพ่อเดี๋ยวก็หาย พ่อบอกเขาอย่างนั้น ซึ่งโอกาสเป็นไปได้สูงทีเดียวในเมื่อพ่อดื่มจัดและมีอาการหลงๆ ลืมๆ บ่อยครั้ง
ชายหนุ่มดึงเอาซองจดหมายสีขาวที่พับไว้ออกมาออกเปิดอีกครั้งหลังจากที่เปิดอ่านคร่าวๆ ตอนที่ได้รับมา ตัวอักษรเขียนด้วยหมึกน้ำเงินไม่ค่อยมั่นคงนักมีร่องรอยจืดจางไปตามความเก่าของกระดาษ
รู้จักคนชื่อพัทธมนหรือเปล่าครับ เขาเอ่ยถามลอยๆ โดยไม่เจาะจง และไม่ได้คิดจริงจังอะไรคาดหวังในคำตอบนักเพราะที่พ่อเขาบอกไว้คือ ให้เก็บไว้แล้วช่วยตามหาคนในจดหมายด้วย
เฮ้ย ใครจะไปรู้จัก คนชื่อพัทธมนทั่วประเทศไทยมีตั้งหลายคน ชายชราเอ่ยขึ้นก่อน
พัทธมน ใครเหรอโต ชื่อเหมือนผู้หญิง
ถึงทีที่คนอ่อนวัยสุดจะต้องเกาหัวแกรกๆ โธ่...ยายครับ ถ้าผมรู้จะถามทำไมเล่า มา...เดี๋ยวผมจะอ่านจดหมายให้ฟังดีกว่า ว่าแล้วก็คลี่จดหมายออกอ่านเสียงดังฟังชัด
17 พฤศจิกายน 2541
ถึง พัทธมน เอื้ออรุณ
ผึ้ง ลูกรัก วันนี้เป็นครบรอบ 10 ขวบแล้ว สุขสันต์วันเกิดนะลูกสาวของพ่อ พ่อมีของขวัญจากฝีมือของพ่อให้ลูกด้วย เป็นภาพวาดต้นนางพญาเสือโคร่งกลางหุบเขา ลูกต้องชอบแน่ๆ เลยเพราะลูกชอบวาดรูปนี่นา พ่อรู้ พ่อขอโทษด้วยที่ไม่ได้ไปอวยพรวันเกิดด้วยตัวเองเพราะแม่ของลูกคงไม่อยากเจอหน้าพ่อเท่าไหร่นัก แต่พ่อยังจำวันนี้ได้และนึกถึงลูกอยู่เสมอ ขอให้มีความสุขในชีวิตตลอดไปและเติบโตเป็นคนดีของสังคม รักในเกียรติและศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิงนะลูก
รักลูกเสมอ
กิตติ เอื้ออรุณ
พันตะวันอ่านจบก็เงยหน้าขึ้น ประกายคำถามฉายชัดในดวงตาสองคู่ที่จับจ้องอยู่ก่อนแล้ว
จดหมายนี่เขียนตั้งแต่เมื่อสิบสี่ปีที่แล้ว พ่อของแกไปได้จดหมายนี้มาจากไหน คณิตถาม
เพื่อนของพ่อที่เป็นพ่อของคนในจดหมายนี้เขียนขึ้นแล้วให้เพื่อนอีกคนจัดการเอาของขวัญไปให้ลูกสาวเขา แต่เพื่อนคนนั้นให้พ่อมาจัดการต่อ แต่พอผมถามถึงภาพวาดที่เป็นของขวัญวันเกิด พ่อกลับบอกว่าไม่ได้อยู่กับพ่อเสียนี่ ชายหนุ่มอธิบายช้าๆ เพราะพยายามเรียบเรียงความจากผู้ส่งมอบจดหมาย
อ้าว อย่างนี้ถึงหาแม่หนูผึ้งเจอแล้วจะเอาอะไรให้ล่ะ อีกอย่างพ่อของหนูผึ้งเขียนจดหมายมากี่ปีแล้ว พ่อแกคงจะลืมสิเนี่ย นี่แหละน้า...กินเหล้ามากจนป้ำเป๋อหลงลืมไปหมดแล้วมั้ง ในจดหมายนั่นบอกว่าหนูผึ้งครบรอบวันเกิดสิบขวบ ป่านนี้ก็คงอายุยี่สิบสี่ปีเข้าไปแล้ว เอาของขวัญไปให้ตอนนี้เจ้าตัวคงได้โวยตายเลยว่ามัวไปอยู่ไหนมา พ่อแกนี่ช่างพึ่งพาอะไรไม่ได้เล๊ย ดูซิบทจะนึกได้ก็เอามาโยนแหมะให้ ช่างไม่มีความรับผิดชอบจริงๆ
ดวงพรค่อนขอดไปถึงมงคลที่ไม่อยู่ตรงนี้ด้วยผิดกับสรรพนามเรียกขาน แม่หนูผึ้ง คนในจดหมายอย่างอ่อนโยนราวกับเป็นลูกหลานของตัวเอง
เป็นที่รู้กันว่าดวงพรไม่ชอบอดีตลูกเขยคนนี้เท่าไหร่นักเพราะดื่มเหล้าจัดประกอบกับคิดว่าเป็นเพราะสาเหตุนี้ทำให้อยู่กับลูกสาวตัวเองไม่ยืด แต่จะว่าเกลียดก็ไม่ถึงขั้นนั้น เนื่องจากยังมีความห่วงใยเรื่องสุขภาพและการอยู่การกินอยู่บ้าง
แล้วคนเขียนไปไหนล่ะไอ้โต ทำไมเขาไม่จัดการเอง
เห็นพ่อบอกคร่าวๆ ว่าก่อนหน้าที่จะเขียนจดหมายฉบับนี้เขาเกิดอุบัติเหตุจนอาการหนัก พอเขียนแล้วรักษาตัวไม่นานก็ตายครับตา
คณิตทำสีหน้าปลงตก เวรกรรม งั้นเขาก็คงลืมไปกันหมดแล้วล่ะ อย่าไปสนใจเลย
พูดอย่างนี้ก็ไม่ถูกนะตาตุ่น คนเป็นพ่อก็อยากให้ลูกสาวได้รับของที่ตัวเองตั้งใจให้ บางทีภาพนั้นมันอาจมีมูลค่าราคาแพงก็ได้ใครจะไปรู้
คณิตพยักหน้าล้อเลียนคู่ชีวิตที่ทำหน้าจริงจังประกอบคำพูด ยามจะเอาจริงล่ะก็จะเรียกเขาด้วยชื่อเล่น ตุ่น แถมมาด้วย
จริงของยายนะ เชื่อเขาหน่อยก็แล้วกันไอ้โตเอ๊ย
ไม่ต้องทำเป็นแหย่ฉันนะตาตุ่น หรือไม่จริงล่ะ โตน่ะไม่เคยมีลูกก็เลยไม่ค่อยรู้สึกถึงความสำคัญ ลองมีลูกขึ้นมาสิ รับรองว่าต้องคิดเหมือนยาย อย่างนี้ต้องรีบมีลูกเร็วๆ นะ อายุอานามก็สามสิบสองแล้ว จะรอให้ตากับยายตายก่อนหรือไง
ที่แท้ก็อยากอุ้มหลานนี่เอง วกมาเข้าเรื่องจนด๊าย คณิตทำเสียงสูงพยักพเยิดกับหลานชาย
หรือว่าตาไม่อยากอุ้ม ยายยังเคยได้ยินตาบ่นนะว่าบ้านมันเงียบๆ เวลาพ่อโตไม่อยู่ บ้านเรามีแค่สองเฒ่า ต้องมีเด็กๆ มาวิ่งเล่นให้ดุบ้างปลอบบ้างจะได้หายเหงา ว่ายังไงล่ะ มีคนที่ดูๆ ไว้บ้างหรือยัง ถ้ามีก็พามาไหว้ตากับยายเร็วๆ นะ แต่ประเภทวิ่งแร่แทดแถ๋มาตามหาที่บ้านเหมือนอย่างพวกแม่ค้าหน้าไม่อายตรงปากทางไม่เอานะ ยายไม่ชอบ ดวงพรร่ายยาวและประกาศกร้าวในตอนท้าย ยังไม่ทันที่พันตะวันจะตอบก็รีบชิงพูดขึ้นอีกว่า
เอ๊ะ หรือว่าแอบซ่อนแม่พวกนี้ไว้ เรามันยิ่งชอบเล่นหูเล่นตาให้สาวๆ อยู่ด้วย
โธ่...ยายครับ ผมเป็นผู้ชายนะครับ แถมยังโสดซิงๆ เสนอให้ก็รับสิ เรื่องอะไรจะให้เสียศรัท...
พูดยังไม่ทันขาดคำ มือเหี่ยวย่นของหญิงชราก็ยกง้างขึ้น หน้าตาขึงขัง พันตะวันกระโดดหนีหลบไปอีกทาง หัวเราะร่วนอย่างชอบใจ
เดี๋ยวตบปากเลย ถึงผู้หญิงเขาจะทำตัวยังนั้นก็รู้จักหักห้ามใจบ้างสิ เกิดปัญหาขึ้นมาจะว่าไง
ยายพรเอ๊ย ไอ้โตมันอายุสามสิบสองขวบแล้วนะ ไม่ใช่สิบแปดจะได้มาตียังกับเด็กๆ ผู้ชายมันก็ต้องมีบ้างเป็นของธรรมดา หลานเรามันพูดถูกแล้ว
คราวนี้คนหนีกลายเป็น ตาตุ่น เมื่อดวงพรหันไปจะเล่นงานเอาบ้าง
ให้ท้ายกันอย่างนี้ระวังเถอะอีกหน่อยจะได้พาผู้หญิงอย่างว่ามานอนค้างอ้างแรมที่บ้าน
ผมหิวข้าวแล้วครับยาย พันตะวันแกล้งออดเบี่ยงเบนความสนใจ
ไปทำกินเองสิ เรื่องอะไรยายจะทำให้ผู้ชายเจ้าชู้ไม่เลือกหน้ากิน
โหย...งอนซะแล้วยายเรา
แล้วก็เก็บจดหมายนั่นดีๆ ล่ะ ว่างๆ ก็ไปตามหาเขาให้เจอ ยายดวงพรพูดเสียงสะบัด
คร้าบ ครับคุณยายดวงพร ถ้าเจอเขาผมจะพาเขามาหายายก่อนใครเลย แต่เอ...ตอนนี้อายุยี่สิบสี่ วัยกำลังน่ากินทีเดียว ถ้าหน้าตาสวยเด็ดล่ะก็... พันตะวันแกล้งลากเสียงยานคาง ทำตาเจ้าเล่ห์
นายโต!
ชายหนุ่มหนีฝ่ามือเพชฌฆาตมาได้อย่างหวุดหวิด ก่อนจะเดินผิวปากหายเข้าห้องนอนเพื่อเอาจดหมายนั้นไปเก็บไว้ในลิ้นชัก พร้อมกับชื่อพัทธมน เอื้ออรุณ หรือผึ้ง ติดอยู่ในความทรงจำตั้งแต่นั้น
****************
จากคุณ |
:
สายธาร/กนกนารี
|
เขียนเมื่อ |
:
9 มี.ค. 55 11:25:50
|
|
|
|