โอ๊ย... ช่วงนี้ไม่รู้เป็นไร ครั่นเนื้อครั่นตัว อยากมีกิ๊กกกกกก
เรื่องมันเริ่มต้นที่วันนั้น เราไปเที่ยวกลางคืนกับเพื่อน แล้วเพื่อนก็พาหัวหน้ามาเที่ยวด้วย หัวหน้าเพื่อนเราเป็นฝรั่ง หน้าตาดี ท่าทางเรียบร้อย เป็นสุภาพบุรุษ ใหเกียตรผู้หญิง สมมุติว่าเขาชื่อวิลแล้วกันนะคะ....... วิลกับเราแทบจะไม่ได้คุยอะไรกันเลย เพราะเขานั่งอยู่หัวโต๊ะ ส่วนเรานั่งอยู่ท้ายโต๊ะ แต่ก่อนกลับบ้าน เขาก็เข้ามาถามเบอร์โทรของเรา...... คืนนั้นเราก็สวมบทกุลสตรี ทำหน้าตาเอียงอาย แล้วก็หาทางหลบขึ้นรถเพื่อนสาว กลับบ้านไปในที่สุด
วันต่อมา เพื่อนนิดก็กรี๊งกร๊างมาหาเรา ถามถึงเหตุการณ์ที่หัวหน้าชีเข้ามาขอเบอร์เรา.....
ทำไมไม่ให้เบอร์กับวิลไปล่ะแก
ชั้นก็อยากให้ใจจะขาดนะ........ แต่ชั้นกลัวสามีที่บ้านแตะเอานะสิแก
เมื่อก่อนเราเป็นผู้หญิงที่เจ้าชู้มากค่ะ แม้หน้าตาเราจะบ้านๆ แต่ก็มีดีที่เราเป็นคนหมวย ขาว ยิ้มง่าย ปากหวาน อ้อนเก่ง รู้จักบริหารเสน่ห์ เล่นหูเล่นตาบ้างเป็นบางครั้ง ตอนสมัยสาวๆ กิ๊กเราเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมดค่ะ (แต่คำว่ากิ๊กในสมัยเราก็แค่คุยโทรศัพท์ กินข้าว ดูหนัง มีจับมือกันบ้างเล็กน้อยนะคะ มากกว่านั้นไม่กล้า กลัวเสียราคาค่ะ)
เราเคยถามตัวเอง ว่าทำไมถึงชอบมีกิ๊ก...... คงเป็นเพราะเราเป็นเด็กขาดความอบอุ่นมั้งค่ะ ตอนเด็กๆ พ่อแม่ทำแต่งาน โตขึ้นเราก็เลยอยากให้คนมารัก คนมาเอาใจ อยากให้คนมาโอ๋ มาอ้อน ชอบถูกจีบก็ว่างั้นเถอะ....... ซึ่งผู้ชายส่วนใหญ่มักจะทุ่มทุนสร้างตอนช่วงโปรโมชั่น แต่ถ้าเป็นแฟนกันแล้ว ก็มักจะเห็นว่าเป็นของตาย ปล่อยเลยตามเลยไปซะอย่างนั้น......... ดีที่สามีเราเป็นคนช่างเอาใจ แม้ว่าจะแต่งงานกันมานานแล้ว เขาก็ยังเอาใจใส่เราสม่ำเสมอ ความที่เขารักเรามาก ทำให้เราไม่เคยรู้สึกขาดอะไร ตั้งแต่ที่เราเจอสามี เราก็ไม่เคยมองใครอีกเลยค่ะ
อีกสองวันต่อมา นิดก็โทรมาบอกเราว่า วิลชวนเราไปกินข้าว เราต้องไปให้ได้นะ......แม้เพื่อนนิดจะรู้ว่าเราแต่งงานแล้ว แต่เธอก็ยังสนับสนุนให้เราไปเที่ยวกับหัวหน้าเธอ เพราะตอนนี้การมีกิ๊กก็เหมือนจะเป็นแฟชั่นของคนกรุงไปแล้ว กิ๊กก็อยู่ส่วนกิ๊ก แฟนก็อยู่ส่วนแฟน ยิ่งเราไม่มีแฟน(มีแต่สามี 55) การจะมีกิ๊กซักคน ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่อะไร(ใช่ไหมค่ะ).......... สามีคนเดิม มักจะทำแต่อะไรเดิมๆ พาไปกินข้าวก็ร้านเดิม กลับบ้าน ก็กลับเวลาเดิม ไม่มีอะไรแปลกใหม่ แต่วิลสดกว่า เร้าใจกว่า น่าค้นหากว่า......... เรายอมรับเลยว่าวินาทีนั้น หัวใจเราเต้นไม่เป็นจังหวะ สารอดินาลีนถูกปล่อยออกมาทำให้เรามีความสุขอย่างบอกไม่ถูก เสือ ยังไงก็ยังไม่ทิ้งลาย แม้สามีเราจะดีทุกอย่าง แต่ในใจเราก็อยากลองของใหม่ โดยเฉพาะของใหม่ที่ตรงเสป็คทุกอย่างแบบนี้ โอ้ยยยย ทำไงดีฟระ ชั้นอยากเล่นกับไฟใจจะขาดแล้ว
ตอนนั้น เราคิดอยู่นานมาก ว่าเราจะไปดีหรือเปล่า........ ถ้าไป ก็ถือว่าไปกินข้าวกับเพื่อนเท่านั้น ไม่ได้นอกใจซะหน่อย เอาไงดี เอาไงดี......... หลังจากคิดอย่างดี เราก็เกือบจะโทรไปบอกนิดแล้ว ว่าให้เบอร์ชั้นไปเลยเธอว์...... แต่วันนั้นเหมือนจะมีพราย หรืออะไรซักอย่างมากระซิบบอกสามี เพราะเขาเอาใจเราเป็นพิเศษ เข้ามากอด เข้ามาหอม เข้ามาบอกรัก เขาบอกว่าเขาโชคดีแค่ไหนที่มีเราเป็นภรรยา เราเป็นที่พึ่งทางใจของเขาจริงๆ ถ้าไม่มีเรา ชีวิตเขาคงไม่มีความสุขอย่างนี้......... ตอนนั้น คำพูดทุกคำของเขา เหมือนเป็นน้ำเย็นๆมาราดบนกองไฟจนมอดสนิทไปเลยทีเดียวค่ะ
การไปกินข้าวกับกิ๊ก ถือว่าไม่มีอะไรก็จริงค่ะ แต่มันก็คือจุดเริ่มต้นของจุดจบ..... มีครั้งแรก ก็ต้องมีครั้งที่สอง ครั้งที่สาม และถ้าสามีรู้เข้า...... ความรู้สึกไว้เนื้อเชื่อใจที่เขามีให้เรามันจะยังเหมือนเดิมไหม เวลาที่เขาเหนื่อย แล้วคิดถึงเรา เขาจะหายเหนื่อยไหม เขาจะมีความสุขเวลาที่คิดถึงเราอยู่รึเปล่า........ และที่ร้ายที่สุด เรายังจะเหลือความภูมิใจในตัวของตัวเองในฐานะภรรยาที่ดีอีกหรือเปล่า
ตอนนี้ เราไม่คิดถึงวิลอีกแล้วค่ะ เราชนะใจตัวเองแล้ว........ เสือ ยังไงๆก็ยังเป็นเสืออยู่วันยังค่ำ แต่เสืออย่างเราก็ยังมีสติ รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ ถ้าเห็นว่าข้างหน้าเป็นไฟ ก็ไม่ควรจะกระโจนลงไปให้เจ็บตัว ความสัมพันธ์ที่มันดีอยู่แล้ว ก็อย่าเอาความสนุกชั่ววูบ มาทำให้คนที่เรารักเสียใจเลยค่ะ
จากคุณ |
:
i love tofu
|
เขียนเมื่อ |
:
10 มี.ค. 55 13:30:53
|
|
|
|