|
ขอเอาความรู้สึกส่วนตัวเป็นที่ตั้งในการวิจารณ์นะครับ
โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าเสน่ห์ของเรื่องสั้นคือการหักมุมแบบ"คาดไม่ถึง" อ่านแล้วตอนจบกลับพลิกผันไปในทิศทางที่คิดไม่ถึง แต่อ่านเรื่องนี้พอเริ่มเห็นนิมิตเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ผมก็พอจะเดาได้บ้างแล้ว เด็กคนนั้นก็คือ "ฉัน" ซึ่งเป็นคนเล่าเรื่อง อ่านไปก็พอจะคาดเดาต่อได้อีกว่า ตอนจบน่าจะประมาณว่า "ฉัน" จำได้แล้วว่าเด็กผู้หญิงที่เห็นในนิมิตตั้งแต่เด็กจนโตก็คือ "ฉัน" นั่นเอง แล้วเมื่อถึงตอนจบก็ไม่ได้พลิกความคาดหมายแต่อย่างใด ถ้าตอนจบพลิกผันจนคาดไม่ถึงก็น่าจะทำให้เรื่องสั้นเรื่องนี้น่าสนใจขึ้นสำหรับผม
ในส่วนของข้อคิดหรือสัจธรรมที่ต้องการสื่อให้เห็นคุณค่าของการใช้ชีวิตในปัจจุบันให้คุ้มค่า หันกลับมาทำดีต่อคนที่อยู่ข้างๆและดีต่อเรามาตลอดอย่างแม่,เพื่อน ผมก็ไม่รู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปกับความลำบาก ความรัก ความเสียใจของแม่และเพื่อนในเรื่องเท่าไร อ่านแล้วรู้สึกเฉยๆนะ เหมือนอ่านแล้วได้รับรู้ว่าแม่และเพื่อนก็เสียใจนะ น่าจะชี้หรือเน้นให้เห็นถึงความรัก ความเสียสละ ยากลำบากของแม่และเพื่อนมากกว่านี้ดึงให้คนอ่าน(อย่างผม)มีอารมณ์คล้อยตามได้ก็น่าจะทำให้ซาบซึ้งประทับใจได้มองเห็นสัจธรรมที่ต้องการสื่ออย่างแจ่มแจ้ง
วิธีการในการเล่าเรื่องที่เล่าเป็นเรื่องนิมิตสลับเหตุการณ์จริง ก็ถือเป็นวิธีการที่ดีแล้ว การบรรยายทำใ้ห้มองเห็นภาพตามได้ ถ้าเป็นเรื่องสั้นเรื่องแรกแต่งได้ขนาดนี้ก็ถือว่าเก่งแล้วครับ เรื่องแรกผมยังบรรยายได้ไม่ดีขนาดนี้เลย วิธีการเล่าเรื่องของผมก็ธรรมดา
ที่เขียนไปทั้งหมดนี้เป็นเพียงความรู้สึกและความคิดเห็นจากชายคนหนึ่งที่ก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรมากมายบนถนนสายน้ำหมึกนี้เหมือนกัน สิ่งใดที่อาจสร้างความขุ่นข้องไม่สบายใจให้ ผมก็ขออภัยด้วยนะครับ ยังไงก็ขอให้อย่าเพิ่งท้อถอยนะครับ อย่าหยุดเขียน
แก้ไขเมื่อ 12 มี.ค. 55 11:40:08
จากคุณ |
:
ไม่ใช่เจ้าชาย (Shaolin boy)
|
เขียนเมื่อ |
:
12 มี.ค. 55 11:12:11
|
|
|
|
|