(ต่อ)
กลิ่นหอมของอาหารหลากชนิดลอยเข้าจมูกของแสงตะวันทันทีเมื่อเจ้าตัวเปิดประตูของห้องครัวเข้าไป ป้าจันกำลังตักซุปที่เพิ่งเดือดลงถ้วย ป้าอุ่นกำลังผัดผักบุ้งไฟแดงด้วยไฟที่ท่วมกระทะ ส่วนแม่ครัวอีกหนึ่งคนกำลังอ่านออเดอร์อาหารที่เพิ่งได้รับมาเมื่อครู่
“มีอะไรให้ผมช่วยมั้ยครับ” ชายหนุ่มถามรวมๆ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มช่วยเหลือ
“ดีเลยจ้ะพ่อแสง ช่วยยกซุปถ้วยนี้ไปวางในช่องหน่อยจ้ะ ระวังร้อนด้วยนะ” ป้าจันบอกและเตือนเขาก่อนยื่นถ้วยซุปใบใหญ่ให้ ชายหนุ่มรับไปอย่างไม่เกี่ยงงอน
“ผักบุ้งจานนี้ด้วยนะจ๊ะ” ป้าอุ่นหันหน้ามาบอก ชายหนุ่มก็เดินกลับมายกจานผัดผักไปวางในช่องส่งอาหารอย่างว่าง่าย
หลายต่อหลายครั้งที่แสงตะวันมักเข้ามาช่วยงานในครัว เพียงเพื่อต้องการจะคุยกับเจ้าของร้านสาว แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือการเป็นคนโปรดของแม่ครัวรุ่นใหญ่แทน ซึ่งเขาก็พอใจและยินดี เพราะนั่นหมายถึงการเข้าออกห้องครัวได้อย่างสะดวกและสนิทใจมากขึ้น
“น้องพิมมีอะไรให้พี่ช่วยมั้ยครับ” แสงตะวันหันไปถามแม่ครัวสาวของร้าน หลังจากยกอาหารทั้งสองจานไปวางในช่องเรียบร้อยแล้ว
หญิงสาวส่ายหน้าเป็นคำตอบ ก่อนหันไปเตรียมอุปกรณ์เพื่อทำอาหารตามรายการ
“มีอะไรบ้างครับ ให้พี่ช่วยจัดให้มั้ย” เขายังขันอาสาก่อนเดินเข้าไปใกล้ เพื่อดูรายการอาหารต่างๆ
เลขบนกระดาษออเดอร์นั้นคือหมายเลขโต๊ะของแขกพิเศษหน้าเวที รายการอาหารหกอย่างสำหรับคนแปดคนประกอบด้วย ปลากะพงนึ่งบ๊วย โป๊ะแตกทะเล ผัดฉ่าทะเล แกงส้มชะอมทอด ผัดผักสามสหาย และต้มจืดเต้าหู้สาหร่าย
“ให้พี่ช่วยเตรียมเครื่องมั้ยครับ” เขาถามหลังจากไล่อ่านรายการอาหารนั่นแล้ว
หญิงสาวส่ายหน้าอีกครั้ง อาหารหกอย่างดูเยอะก็จริง แต่สำหรับเวลาในการทำนั้นไม่นานอย่างที่คิด เพราะเครื่องปรุงทุกอย่างได้ถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว
“มาช่วยป้าก็ได้จ้ะ ยกนี่ไปวางหน่อย” ป้าอุ่นกวักมือเรียกพร้อมวางปลาเก๋านึ่งมะนาวลงบนโต๊ะกลาง
หลังจากหมดปลาเก๋าตัวนั้นแล้ว ป้าอุ่นก็เดินไปนั่งบนเก้าอี้ด้วยความเหนื่อย ตามด้วยป้าจันซึ่งทำอาหารอย่างสุดท้ายเสร็จพอดี
“ที่นี้ก็เหลือแต่น้องพิม มีอะไรให้ป้าช่วยไหมจ๊ะ” ป้าอุ่นถาม หญิงสาวหันมาส่งยิ้มหวานให้ก่อนตอบ
“ไม่เป็นไรค่ะป้า โต๊ะนี้พิมขอทำเองค่ะ”
“แขกพิเศษ คนพิเศษ” ป้าอุ่นพูดลอยๆ ด้วยน้ำเสียงยิ้มๆ
“แสดงฝีมือได้เต็มที่เลยนะจ๊ะ ป้าขอตัวไปห้องน้ำหน่อย” ป้าจันพูดก่อนลุกจากเก้าอี้และเดินออกจากห้องครัว
“งั้นป้าขอไปบ้างดีกว่า รู้สึกว่าหมดของน้องพิมโต๊ะนี้ก็ไม่มีรายการอาหารแล้วใช่ไหม”
“คิดว่าคงไม่มีแล้วค่ะ ต่อไปคงจะหนักที่ขนมหวานกับผลไม้” หญิงสาวตอบ ป้าอุ่นพยักหน้าก่อนเดินออกจากห้องครัวตามเพื่อนไป
“ให้พี่ยกโปะแตกกับแกงส้มไปเลยมั้ยครับ” เขาขันอาสาอีกครั้งเมื่อเธอวางถ้วยโปะแตกลงบนโต๊ะคู่กับแกงส้มชะอมทอดที่เพิ่งตักออกมาก่อนหน้านั้น หญิงสาวหันรีหันขวางอยู่ครู่ ก่อนพยักหน้าให้เขาอย่างจนใจเพราะในครัวนี้ไม่มีใครอื่นอีกเลย และเธอก็ต้องไปเตรียมอุปกรณ์สำหรับรายการอาหารถัดไปด้วย
“ใกล้เวลาแสดงแล้ว พี่แสงไปเตรียมตัวเถอะค่ะ เดี๋ยวเสื้อจะมีแต่กลิ่นอาหาร” แม่ครัวสาวแสดงความหวังดี
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ออกไปโดนลมหน่อยนึง เดี๋ยวกลิ่นก็หายไปหมดแล้ว”
พริมาทำหน้างอใส่บล็อกโคลี่ หน่อไม้ฝรั่ง และกุ้งในจานเมื่อไม่สามารถทำให้เขาออกจากห้องครัวไปได้ ก่อนยิ้มอย่างนึกอะไรขึ้นได้ เธอวางจานผักรวมลง เปลี่ยนเป็นหยิบจานเปลและเดินไปเปิดตู้ใส่ของสดเพื่อเลือก กุ้ง หอย ปู ปลาหมึกออกมา ความตั้งใจแรกเธอจะผัดผักสามสหายก่อน แต่ตอนนี้เธอเปลี่ยนใจแล้ว..ผัดฉ่าทะเลน่าทำกว่าเป็นไหนๆ
หลายต่อหลายครั้งที่แสงตะวันเข้ามาช่วยในครัว ทำให้เธอได้รู้ว่าเขาไม่ชอบทานอาหารเผ็ดและจะขอตัวออกไปทุกครั้งเมื่อรู้ว่าแม่ครัวจะผัดเผ็ดหรือผัดพริก
“น้องพิมไม่ผัดผักก่อนหรือครับ” เขาถามด้วยความแปลกใจ เพราะทุกครั้งถ้ามีรายการผัดผักและผัดเครื่องแกง หญิงสาวจะเลือกทำรายการผัดผักก่อนแล้วถึงจะไปทำอาหารเผ็ด แต่นี้ เธอกำลังทำสวนทางกันอยู่
“พิมขอทำผัดฉ่าก่อนค่ะ เมื่อกี้วดีบอกว่าให้ทำผัดฉ่าออกไปก่อน เขาชอบทานค่ะ” หญิงสาวบอกก่อนลงมือตั้งกระทะเพื่อเตรียมทำผัดฉ่าทะเลสูตรเด็ด
ความเผ็ดร้อนของเครื่องเทศไม่ว่าจะเป็นโหระพา พริกไทยอ่อน กระชาย ตะไคร้ ข่า ขิง พริกสด เรียกได้ว่ายกขบวนสมุนไพรมาทั้งกองทัพเลยทีเดียว ทำเอาแสงตะวันถึงกับถอยร่นไปยืนตั้งหลักยังมุมสุดของห้อง
“ฮัดเช่ย!!” ชายหนุ่มรีบยกแขนขึ้นปิดปากและจมูกเมื่อกลิ่นสารพัดสมุนไพรอันร้อนแรงปะทะเข้าจมูก
“แค่กๆๆๆ...ฮัดเช่ย!!” เสียงไอและจามของแสงตะวันยังดังมาอย่างต่อเนื่อง
พริมากะพริบตาถี่ๆ เพื่อไม่ให้กลิ่นของเครื่องปรุงนานาชนิดเข้าตาและโบกมือเร็วๆ ไล่ควันที่ฟุ้งกระจายอยู่ตรงหน้า
“ฮัดเช่ย!!” เสียงจามดังมาอีก พร้อมน้ำที่เริ่มคลอเบ้าตาอยู่หน่อยๆ เพราะกลิ่นอันเผ็ดร้อนนั้นเริ่มสำแดงเดช เขาขยี้ตาด้วยความคันและแสบ
ผัดฉ่าทะเลหน้าตาน่าทานลงไปนอนอวดอยู่บนจานเรียบร้อยแล้ว แต่คนที่ยังไม่เรียบร้อยเห็นจะเป็นชายหนุ่มที่อยู่ในห้องครัว เพราะเขายังไม่หยุดจาม แขนข้างหนึ่งพาดขึ้นปิดปากและจมูกไว้
“ท่าทางจะเผ็ดมากนะครับ” เขาถามเสียงอู้อี้ก่อนค่อยๆ ลดแขนลง
“ผัดฉ่าเป็นเมนูเด็ดของร้านค่ะ ขึ้นชื่อด้วยความเผ็ดและร้อน” หญิงสาวบอกด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ
ไม่รู้ว่าเพราะได้นำเสนอรายการเด็ดของร้านหรือเพราะเห็นเขาจามจนน้ำหูน้ำตาไหลแบบนี้
หญิงสาวเดินถือจานไปวางในช่องส่งอาหารก่อนเดินกลับมาจัดการกับเมนูต่อไป แต่เสียงฟึดๆ ที่ดังมาจากด้านหลังทำให้เธอต้องหันไปมอง
ภาพที่เห็นทำเอาหญิงสาวอดขำระคนสมน้ำหน้าไม่ได้ เพราะแสงตะวันกำลังใช้แขนเสื้อเช็ดขอบตาตัวเองอยู่ ผลจากการไอและจามเมื่อครู่ทำให้เกิดอาการฟึดฟัดขึ้น ก่อนอาการขำของเธอจะหายไปเมื่อเห็นใบหน้าของเขาชัดๆ
หญิงสาวเบิกตาด้วยความตกใจ ดวงตาคมเข้มของเขาแดงก่ำและทั่วทั้งใบหน้าคมสันก็แดงเรื่อโดยเฉพาะตรงจมูก ชายหนุ่มใช้นิ้วขยี้ตาตัวเองแรงๆ ซ้ำอีกครั้งเพราะทั้งคันและแสบ
“พี่แสงเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” หญิงสาวถามน้ำเสียงออกจะตกใจ เธอรู้ว่าเขาไม่ชอบกลิ่นเผ็ด แต่ไม่คิดว่าเขาจะแพ้กลิ่นเผ็ดถึงขนาดนี้
“สงสัยกลิ่นมันคงเข้าตาพี่น่ะครับ พี่รู้สึกแสบจังเลย” เขาบอกก่อนค่อยๆ คลำทางไปยังเก้าอี้ตัวที่วางอยู่ใกล้ๆ
แต่มือที่กำลังขยี้ดวงตาอยู่นั้นทำให้เขามองไม่เห็นทางเท่าไหร่นัก ชายหนุ่มอาศัยความเคยชินและความรู้สึกที่ว่า เก้าอี้น่าจะอยู่ตรงนั้น ทำให้เขาค่อยๆ ก้าวไปทีละก้าวก่อนจะสะดุดขาเก้าอี้จนหน้าเกือบคะมำ
“ระวังค่ะ” พริมาส่งเสียงเตือนอย่างตกใจเมื่อเห็นเขาสะดุดขาเก้าอี้พลาสติก หญิงสาวรีบก้าวยาวๆ ตรงเข้าช่วยพยุงทันที
เธอเข้าถึงตัวเขาทันเวลา แต่ไม่สามารถช่วยพยุงให้เขายืนอยู่ได้ เพราะร่างสูงใหญ่ของแสงตะวันโถมไปข้างหน้าพอสมควรแล้วตอนที่เธอก้าวเข้ามาช่วย ผลก็คือร่างบอบบางของเธอถูกผลักให้ลงไปนอนกับพื้นโดยมีชายหนุ่มใบหน้าคมสันคร่อมอยู่ด้านบน
แสงตะวันเบิกดวงตาแดงก่ำของเขาอย่างตกใจเมื่อพริมาเข้ามาขวาง ชายหนุ่มโอบเอวประคองเธอ ก่อนจะเลื่อนฝ่ามือหนาใหญ่ไปรองรับศีรษะเพื่อไม่ให้สัมผัสกับพื้นห้องครัวตรงๆ
แต่สิ่งที่เธอสัมผัสตรงๆ ก็คือจมูกโด่งของเขาที่กดลงบนแก้มเนียนของเธออย่างถนัดถนี่ที่สุด โดยที่เจ้าของจมูกนั้นไม่ได้ตั้งใจสักนิดเดียว
“น้องพิม!!” แสงตะวันอุทานอย่างตกใจเป็นคำรบสองก่อนขยับตัวออกจากร่างของเธอ ใบหน้าของพริมาแดงระเรื่อ ดวงตาสวยหวานทั้งสองยังเบิกกว้างด้วยความตกใจ
ตกใจที่ต้องล้มไปกองกับพื้นและตกใจเมื่อตัวเองถูกหอมแก้มโดยไม่รู้ตัว
“คือ...พี่ขอโทษ คือ...พี่ไม่ได้ตั้งใจ” ชายหนุ่มละล่ำละลักพูด
“พิมซุ่มซ่ามเองค่ะ” หญิงสาวกล่าวโทษตัวเอง ใบหน้าร้อนผ่าวด้วยความอายและความตกใจผสานกัน
“น้องพิมไม่น่ามาช่วยพี่เลย น่าจะให้พี่ล้มไปเองคนเดียวจะดีกว่า เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ”
“ไม่ค่ะ พิมไม่เป็นอะไร”
เสียงเปิดประตูห้องครัวดังขึ้นพร้อมป้าจันกับป้าอุ่นก้าวเข้ามา ทั้งสองมองหน้าชายหญิงที่อยู่ในห้องด้วยความแปลกใจ เพราะใบหน้าของพริมามีแววกระอักกระอ่วนใจอยู่ไม่น้อย ส่วนชายหนุ่มใบหน้าคมก็มีแววตื่นๆ และทุกข์ร้อน
“คือ...พิมขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะคะ เหลือผัดผัก ปลานึ่งกับต้มจืดยังไม่เสร็จ ฝากป้าอุ่นกับป้าจันด้วยนะคะ” หญิงสาวรีบพูดและรีบเดินออกจากครัวก่อนที่แม่ครัวรุ่นใหญ่จะอ้าปากถาม
“ใกล้จะได้เวลาแสดงแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ” แสงตะวันรีบลาบ้างและเดินออกจากครัวไปอย่างรวดเร็ว
“เราพลาดอะไรไปหรือเปล่า” ป้าอุ่นหันไปถามเพื่อนด้วยน้ำเสียงสงสัย ป้าจันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนตอบ
“พลาดผัดฉ่าทะเลสูตรเด็ดยังไงล่ะ ดูสิ กลิ่นยังอยู่อยู่เลย”
จากคุณ |
:
latics1
|
เขียนเมื่อ |
:
11 มี.ค. 55 18:00:59
|
|
|
|