ตอนที่ ๓
แอสตันมาร์ตินสีดำสนิทแล่นมาจอดตรงหน้าบันไดทางเข้าล็อบบี้โรงแรมและหยุดตัวอย่างรวดเร็วจนล้อรถบดกับพื้นเป็นเสียงเอี๊ยดดังสนั่น เจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบพนักงานสีขาวรีบปราดเข้าไปเข็นราวเหล็กที่กันช่องจอดรถไว้ให้ผู้บริหารเลื่อนออกทันใจ ซึ่งรถยุโรปคันหรูก็ถอยหวือรวดเดียวเข้าสู่ช่องจอดด้วยความชำนาญโดยไม่มีอาการลังเลสักนิด
ศิราลงจากรถแล้วสาวเท้ายาวๆ มาดมั่นขึ้นบันไดล็อบบี้ มุ่งหน้าไปยังห้องอาหารของโรงแรม โดยมีพนักงานรายรอบหยุดทุกกิจกรรมที่กำลังกระทำแล้วทำความเคารพเขาอย่างนอบน้อมไปตลอดทาง
ศิราเข้าไปห้องอาหารกวาดตาทั่วๆ เพื่อมองหาผู้ที่นัดเอาไว้ ก็พบชนวีร์นั่งอยู่ที่มุมด้านหนึ่งซึ่งค่อนข้างสงบ โดยมีสุภาพสตรีผู้หนึ่งนั่งหันหลังให้ประตูห้องอาหารร่วมโต๊ะอยู่ด้วย
ชายหนุ่มก้มลงสำรวจความเรียบร้อยของเสื้อเชิ้ตสีครีมเรียบๆ ซึ่งพับปลายแขนขึ้นมากองอยู่ที่ข้อศอกกับกางเกงสแลคสีเข้มของตัวเอง ก่อนหันไปเทียบกับสูทสีดำสนิทตัดเย็บประณีตที่สวมทับเชิ้ตผ้าไหมฝรั่งเศสสีม่วงจางของชนวีร์แล้วก็ต้องฝืนกลั้นยิ้มไว้สุดความสามารถ
ปกติมาดเขามันก็ไม่ได้เลวร้ายนักหรอก แต่เพราะนี่มีตัวเปรียบเทียบเป็นชนวีร์ ณัฐภัทร ผู้ชายที่เป็นถึงประธานกรรมการบริหารของธนาคารในเครือณัฐภัทรคอร์ปอเรชั่น กลุ่มการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ไม่แปลกหรอกที่ภาพลักษณ์ของเขาจะกลายเป็นดูซอมซ่อไปเลย!
สวัสดีฮะพี่วีร์ สวัสดีครับคุณหลิว ชายหนุ่มก้าวเข้ามาทักทายเพื่อนรุ่นพี่ แต่แล้วก็ต้องชะงักด้วยความแปลกใจ เมื่อหญิงสาวที่เห็นแต่เพียงเบื้องหลังเมื่อครู่ ไม่ยักใช่คนที่เขาคิด
เพียงสตรีผู้นั้นหันมาเห็นเขา ดวงตากลมโตก็เบิกกว้าง บอกได้ยากว่าเป็นไปเพราะความดีใจหรือตกใจ
อ้าว! ตี้เองหรือ โทษทีฮะ ผมนึกว่าเป็นคุณหลิวเสียอีก ศิราออกตัว เล็ก! ฝ่ายชายทำท่าโล่งอก อุ๊ย! พี่ศิรา มาได้ยังไงคะนี่ แหม...โลกกลมจังเลยนะคะ หญิงสาวคนเดียวในที่นั้นปรับสีหน้ารวดเร็ว ศิราเหลือบมองแก้วบรรจุเครื่องดื่มบนโต๊ะซึ่งพร่องไปจนเกือบหมดแก้วแล้ว ไล่มายังมือของฝ่ายหญิงที่เลื่อนไปกุมกันที่หน้าตักอย่างเก้อๆ สุดท้ายจึงยักไหล่ ผมทำงานที่นี่ ไม่แปลกอะไรหรอกที่ตี้จะเจอผมน่ะ เขาตอบเรียบๆ แล้วหันไปทางหนุ่มรุ่นพี่ ดูเหมือนพี่วีร์จะยังไม่ว่างนี่ฮะ งั้นเดี๋ยวผมค่อยมาใหม่ดีกว่า เฮ้ย! พูดจาน่าเกลียด ไม่ว่างไม่เวิ่งอะไรกันวะเล็ก นั่งเว้ยนั่ง เดี๋ยวหลิวก็มาแล้ว นี่คุณภรตีเธอบังเอิญผ่านมาเลยแวะมาคุยด้วยเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นเอง ผู้ที่เขาออกปากเรียก พี่วีร์ ปรามเสียงหลง ตี้บังเอิญพบคุณวีร์ก็เลยถือโอกาสเข้ามาขอคำแนะนำเรื่องกู้เงินซื้อคอนโด.น่ะค่ะ พี่ศิราอย่าเข้าใจตี้กับคุณวีร์ผิดนะคะ หญิงสาวฉะอ้อนเสียงหวาน มือพลางฉุดรั้งท่อนแขนชายหนุ่มให้นั่งเก้าอี้ว่างที่อยู่ข้างกาย ศิราบิดริมฝีปากนิดๆ อย่างรู้ทัน ชื่อเสียงของชนวีร์ ณัฐภัทร บุตรชายคนโตของตระกูลณัฐภัทร ครอบครัวนายธนาคารซึ่งมีสินทรัพย์มหาศาลประมาณค่าไม่ได้นั้นโด่งดังไปทั่ว จนแม้แต่คนไม่สนใจข่าวเศรฐกิจก็ยังต้องเคยได้ยินชื่อเขามาก่อน ไม่แปลก...ที่ผู้คนทั้งชายหญิงต่างก็ อยาก รู้จักผู้ชายคนนี้มากมาย ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะต้องเข้าใจผิดนี่ ตี้อย่ากังวลไปเลย ศิรายอมนั่งแต่โดยดี พร้อมกับแกะมือหญิงสาวออกจากท่อนแขนตนเอง แน้! พูดแบบนี้น่ะ เขาเรียกว่างอนชัดๆ เลย ใช่ไหมคะคุณวีร์ ดวงหน้าที่ตกแต่งไว้ด้วยเครื่องสำอางอย่างประณีต หันไปพยักพเยิดกับคู่สนทนาคนเดิม งอนนี่เขาไว้ใช้กับคนรักเท่านั้นนะครับตี้ ผมว่าคงเอามาใช้กับกรณีนี้ไม่ได้แน่นอน เขาปฏิเสธเสียงนุ่ม แต้มยิ้มไว้ที่ริมฝีปากนิดๆ ภรตีหัวเราะเสียงใส ทำไมจะไม่ได้คะ ในเมื่อเราน่ะเป็น... เราเป็นอะไรหรือครับ ศิราขัดขึ้นด้วยสีหน้าฉงน ทั้งที่เป็นถึงนักแสดงดาวรุ่งพุ่งแรงของวงการบันเทิงไทย แต่ในวินาทีนั้นภรตีกลับควบคุมสีหน้าไม่สำเร็จ ใบหน้างามซีดเผือดก่อนจะแปรไปเป็นแดงก่ำ จนด้วยคำโต้แย้ง เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่ว่าจะในระหว่างการไปไหนมาไหน รับประทานอาหาร หรือแม้แต่ใช้เวลาในหลายค่ำคืน สนุก ด้วยกัน ศิราไม่เคยบอกสักคำว่าเขาคบกับเธอในฐานะอะไร! ภรตีแค่คิดเอาเองว่าตราบเท่าที่ชายหนุ่มยังไม่คบหาใครออกนอกหน้า ตราบนั้นเธอก็ยังมีหวังที่จะได้เลื่อนระดับความสนิทสนมไปเรื่อยๆ จนก้าวขึ้นถึงตำแหน่งนายหญิงแห่งคีรีธารากรุ๊ปได้ในที่สุด ก็...ดารารุ่นพี่ทำสำเร็จให้เห็นกันอยู่เต็มวงการนี่นา ดาราสาวสวยกับหนุ่มไฮโซน่ะ เกิดมาเป็นของคู่กันชัดๆ! ทว่า ณ วินาทีนี้ หญิงสาวเริ่มไม่แน่ใจนักว่าความคาดหวังของเธออาจเป็นการหวังที่สูงเกินตัวไปก็ได้ เพราะสีหน้าของศิราเรียบเฉย ไม่มีวี่แววสนิทเสน่หาอย่างที่หวังเลยสักนิด ใช่สินะ! ขนาดเห็นเธออยู่กับชนวีร์ตามลำพัง เขาก็ไม่ได้ออกอาการหึงหวงเช่นกัน บางที...เขาอาจยังไม่พร้อมที่จะประกาศฐานะของเธอต่อหน้าผู้ชายอีกคนก็เป็นได้ คิดดังนั้นหญิงสาวจึงรีบกลบเกลื่อนความผิดพลาดของตนเอง... นั่นสิเนอะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย ตี้นี่แย่จัง พูดเล่นไม่ทันคิด ขอโทษพี่ศิราด้วยนะคะ ภรตีอธิบาย ฝืนยิ้มทั้งที่แววตาสลดชัดเจน แทนที่จะปลอบโยน ศิรากลับพยักหน้านิดๆ แล้วถามตรงประเด็นไม่อ้อมค้อม
ว่าแต่ตี้คุยธุระกับพี่วีร์เสร็จหรือยัง เพราะผมเองก็มีเรื่องต้องคุยกับพี่วีร์ต่อเหมือนกัน เอ้อ...เรียบร้อยแล้วพอดีเลยค่ะ ถ้าอย่างนั้นตี้ขอตัวก่อนนะคะ เธอตอบเอาใจ หยิบกระเป๋าสะพายบนตักเป็นการเตรียมพร้อมว่าจะจากไป หากยังไม่วายทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน ถ้าพี่ศิราพอจะมีเวลาว่าง โทร.หาตี้บ้างนะคะ เผื่อเราจะได้ไปทานข้าวด้วยกัน ตี้จะคอย ริมฝีปากจิ้มลิ้มขยับจ๋อยๆ ร่างเพรียวเอนท่าวมาแนบกับโต๊ะพลางทำท่าจะเอื้อมมาแตะท่อนแขนคู่สนทนา ดีว่าศิราขยับตัวออกห่างนั่งหลังตรงทันควันเสียก่อน อย่าคอยเลยครับ เพราะช่วงนี้ผมเองก็ยุ่งๆ ยังไม่รู้เลยว่าจะว่างเมื่อไหร่ นักแสดงสาวหน้าถอดสี รอยยิ้มเลือนลบจนไม่เหลือกิริยารื่นเริง ท่าทีที่เธอขยับตัวอย่างเงอะงะ ทำอะไรไม่ถูก และรีบสะพายกระเป๋าบอกชัดว่าต้องการปิดบังความผิดหวัง แต่แทบไม่สำเร็จเอาเสียเลย ชนวีร์เหลือบมองสีหน้านิ่งๆ ของชายหนุ่มรุ่นน้องด้วยความทึ่งระคนแปลกใจ ก่อนที่ศิราจะปรากฎตัว ภรตีพยายามทำตัวสนิทสนมกับเขาอย่างโจ่งแจ้ง แม้เรื่องที่เจ้าหล่อนอ้างว่าอยากได้คำแนะนำเรื่องการกู้เงินผ่อนคอนโด.จะแนบเนียนเพียงใดก็ตาม แต่ในฐานะอดีตเสือผู้หญิงตัวฉกาจมีหรือเขาจะอ่านเกมสาวน้อยผู้นี้ไม่ออก ทว่ากิริยาของภรตีเปลี่ยนไปแทบจะทันทีที่ศิราเข้ามาแทรกกลาง เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวกังวลและห่วงใยความรู้สึกของผู้บริหารหนุ่มแห่งคีรีธารากรุ๊ปอย่างยิ่ง คำพูดอึกอักที่เอ่ยอ้างถึงความสัมพันธ์ระหว่างกันได้ไม่เต็มปากทำให้พอเดาได้ว่าสองคนนี้คบหากันไปถึงขั้นไหน ผู้ชายเต็มเนื้อเต็มตัวอย่างศิรา คงไม่คบผู้หญิงที่สวยจัด หุ่นเซ็กซี่อย่างนี้เอาไว้เป็นแค่เพื่อนคุยหรอกน่า! นายธนาคารใหญ่รับไหว้อีกฝ่าย และเหลียวมองภรตีนวยนาดจากร้านอาหารไปจนลับตา เมื่ออยู่กันตามลำพังชนวีร์ ณัฐภัทรจึงหัวเราะหึๆ ทำไมถึงเย็นชานักวะเล็ก สาวสวยเขาหน้าซีดจนแทบไม่มีสีเลือดอยู่แล้ว ผมก็ทำตัวตามปกติของผม ไม่เห็นจะเย็นชาตรงไหนเลย ยายตี้คนนี้ก็น่ารักดีนี่ นายจะไม่เปลี่ยนใจเอ็นดูเขาเป็นพิเศษสักหน่อยเหรอ
ศิรายิ้มหยัน ขยับจะพูด แต่ก็เปลี่ยนใจ เอาเป็นว่าเราต่างก็รู้กันดีนะครับว่าอะไรเป็นอะไร แล้วผมก็ไม่ชอบนินทาผู้หญิงด้วย ต่อให้เป็นผู้หญิงที่น่านินทาแค่ไหนก็ตาม เพราะฉะนั้นพี่วีร์อย่ามางัดปากผมเสียให้ยาก พูดอย่างนี้แปลว่ายายตี้คนนี้ไม่ผ่านงั้นสิ ศิรายักไหล่ ตี้เป็นผู้หญิงที่น่ารักครับ เป็นอะไรได้หลายๆ อย่าง แต่ผมว่าเขาไม่เหมาะที่จะเป็นแม่ของลูก ที่พูดนี่ไม่ได้หมายความว่าผมอยากจะมีลูกในเร็วๆ นี้หรอกนะ ผมเพียงแต่คิดว่าถ้าตอบแบบนี้พี่วีร์คงเข้าใจ ชนวีร์หัวเราะลั่น ไหนบอกฉันเอาบุญหน่อยเหอะ ว่าต้องผู้หญิงแบบไหนวะ ถึงจะเหมาะเป็นแม่ของลูกนายน่ะ ไม่รู้สิฮะ ก็คงต้องเป็นผู้หญิงที่ชอบอะไรคล้ายๆ กับผม ฉลาด เก่ง แล้วก็คุยกันเข้าใจล่ะมั้ง อย่างน้อยนั่นก็น่าจะช่วยให้ผมอยากอยู่กับเขาไปจนแก่ ลูกผมจะได้ไม่ต้องเป็นเด็กบ้านแตก พ่อไปทางแม่ไปทาง น่าแปลก...ที่แวบหนึ่งเขาเผลอนึกถึงผู้หญิงที่เพิ่งประลองความเร็วกันบนทางด่วนระหว่างเดินทางมาที่โรงแรมนี่! เพียงแค่ระลึกถึงเรื่องสนุกนั้น รอยยิ้มบางๆ ก็แต้มบนริมฝีปากของเขาโดยไม่รู้ตัว ยิ่งคิดก็ยิ่งน่าเสียดาย เกิดเป็นศิรา ศิวกรณ์นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โดยเฉพาะหากคิดจะเข้าหาผู้หญิงสักคน โดยไม่ให้เป็นการดูถูกอีกฝ่าย ก็ช่างเป็นเรื่องยากเย็นนัก แรกทีเดียวเขาอยากแนบหมายเลขโทรศัพท์ หรือไม่ก็นามบัตรไว้ให้เธอบนหน้ากระจกรถด้วยซ้ำ แต่ศิราก็รู้ดี ไม่ว่าสตรีผู้นั้นจะโทร.หาเขาหรือไม่ เขาก็ต้องหาเรื่องตำหนิเธอได้อยู่ดี ไม่ติดต่อมา เธอก็จะได้ฉายาแม่สาวจอมหยิ่ง หรือถ้าหากว่าเจ้าหล่อนเกิดโทร.หาเขาจริง เขาคงคิดไปว่าหญิงสาวตาโตกับยี่ห้อรถ หรือไม่ก็ตำแหน่งที่ระบุอยู่ในนามบัตรของเขา สรุปว่าการแนบเบอร์ไว้ให้เธอดูจะส่งผลเสียทั้งขึ้นทั้งล่อง สุดท้ายเขาจึงทำได้เพียงเขียนข้อความที่ตรงกับความรู้สึกบอกให้เธอรู้เท่านั้น! ชายหนุ่มหลุดจากภวังค์ความคิดเมื่อหญิงสาวร่างสูงระหงผู้หนึ่งก้าวเข้ามายืนข้างโต๊ะที่เขาจับจองอยู่ เรือนผมเธอเป็นสีน้ำตาลสว่างซอยสั้นทันสมัย เสื้อแจ็คเก็ตสูทสีดำที่สวมทับเชิ้ตชีฟองผ้าโปร่งสีม่วงจางเข้ารูปคู่กับกางเกงผ้ามันวาวยาวแค่หัวเข่า และรองเท้าส้นสูงแบบเรียบแลทะมัดทะแมงแปลกตา สวัสดีครับคุณหลิว ศิราลุกขึ้นยืนทักทายภรรยาของรุ่นพี่ สวัสดีค่ะคุณเล็ก วันนี้หลิวมารบกวนฝากท้องสักมื้อ คงไม่ว่ากันนะคะ รินรดา ณัฐภัทรหย่อนกายนั่งลงบนเก้าอี้ข้างสามี หากแล้วสีหน้าสดใสก็แปรไป คิ้วเรียวขมวดนิดๆ เมื่อสังเกตเห็นว่าบนโต๊ะมีแก้วน้ำสองใบ ใบแรกอยู่หน้าชนวีร์ แสดงว่าเป็นแก้วของเขา และแก้วอีกใบก็ดันวางอยู่ตรงกับเก้าอี้ที่ว่างเสียด้วย! หญิงสาวหยิบมันขึ้นมาในระดับสายตา ก่อนตวัดตาไปทางสามี หมุนแก้วจนอีกฝ่ายสามารถเห็นรอยลิปสติกได้ชัดๆ แล้วหันมาเลิกคิ้วโดยไม่มีคำพูดใดสักคำ ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะจ๊ะ ใบหน้าขาวจัดอย่างคนอยู่ในห้องติดเครื่องปรับอากาศมาโดยตลอดของอดีตเพลย์บอยชื่อดังที่เคยเป็นข่าวคู่กับดาราไม่ซ้ำหน้าแทบไม่เว้นแต่ละวันส่ายหน้าน้อยๆ ไม่มีพิรุธหรือสิ่งผิดปกติสักนิด ดวงตาสีน้ำตาลเข้มสบสานสายตากับภรรยาเขม็ง ศิรานั้นแม้จะรู้ตื้นลึกหนาบางดีว่าเจ้าของรอยลิปสติกนั้นคือใคร และการที่ภรตีร่วมโต๊ะกับชนวีร์ภายในรั้ว โรงแรม นั้นมิได้มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เขาก็ยังอดหวั่นใจไม่ได้ว่ารูปการณ์ตรงหน้าช่างชวนให้เข้าใจผิดเหลือเกิน ดูก็พอเดาได้ว่าผู้หญิงร้อยละร้อยคงจะต้องระเบิดลงอย่างแน่นอน ชายหนุ่มคอยฟังเสียงกรี๊ดอย่างเมียขี้หึง หรือไม่ก็กิริยาปึงปังโกรธเกรี้ยวจากสุภาพสตรีคนเดียวในที่นั้น แต่เขาก็ต้องแปลกใจ เมื่อรินรดาซึ่งวินาทีเมื่อครู่กำมือข้างที่ว่างอยู่แน่น กลับสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วคลายอุ้งมือออก อีกมือวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะเงียบกริบแทบไม่ได้ยินกระทั่งเสียงแก้วกระทบกับโต๊ะด้วยซ้ำ พยานในเหตุการณ์ถอนใจโล่งอก และต้องประหลาดใจยิ่งขึ้นเมื่อรินรดาเอื้อมไปกุมมือสามีไว้แทน พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน หลิวขอโทษค่ะ ศิราเลิกคิ้วหน้าตื่นตา เมื่อชนวีร์บีบมือภรรยาเบาๆ เอ่ยล้อเลียน ให้อภัยจ้ะ ยกฟ้องเนอะ ชายหนุ่มเอนกายพิงพนักเก้าอี้แล้วส่ายหน้าขันๆ นี่มันอะไรกันครับเนี่ย สักนาทีที่แล้วผมนึกว่าคุณหลิวจะ... เขาไม่กล้าเติมคำในช่องว่างให้ตัวเอง เพราะเกรงว่าหากใช้ถ้อยคำรุนแรงหรือตรงประเด็นเกินไปอาจกลายเป็นการหมิ่นน้ำใจภรรยาของคนที่เขาเคารพดุจดังพี่ชายแท้ๆ ของตนก็เป็นได้ รินรดาหันมาทางคนนอกครอบครัวแล้วยิ้มบางๆ คุณเล็กคิดว่าหลิวจะอาละวาดใช่ไหมคะ ศิราพยักหน้ารับคำโดยดุษฎี จะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ แต่แล้ว...อีกไม่ถึงนาที ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปอย่างกับเป็นคนละอารมณ์เลย หลิวสติแตกไปนิดหน่อยเท่านั้นเองค่ะ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมากดข้อความเลื่อนให้เจ้าของสถานที่ดู ศิราจึงเห็นว่ามันเป็นข่าวจากหน้าสังคมที่แซวทำนองว่าหม่อมราชวงศ์นฤลินดา สาวสวยชื่อดังของวงสังคมมีเหตุให้ต้องเข้าพบชนวีร์ ณัฐภัทรถึงที่ทำงานแทบไม่เว้นแต่ละวัน ท่าทางจะไม่ใช่แค่เรื่องงานอย่างเดียวแล้วกระมัง พอดีว่าเมื่อเช้าหลิวเห็นข่าวนี้เข้า แถมตกบ่ายยังเจอเข้าจังๆ อีกว่าคุณวีร์มีสาวมานั่งร่วมโต๊ะด้วย วูบแรกเลยเผลอตัวปล่อยให้ความโกรธมันครอบงำอารมณ์ไปหน่อยน่ะค่ะ ทั้งที่สัญญากับตัวเองแล้วแท้ๆ ว่าจะมั่นคงเข้าไว้ แต่แหม...การมีสามีเป็นผู้ชายสมบูรณ์แบบอย่างนี้นี่ มันทำใจให้มั่นคงจริงๆ ได้ยากเหลือเกินนะคะ ชนวีร์ชี้แก้วเจ้าปัญหาแล้วอธิบายแค่ ผมรับประกันแทนใครไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนั้นคิดอะไรหรือเปล่า แต่ผมมั่นใจว่าผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับผู้หญิงไม่ว่าคนไหนๆ อีกอย่างแน่นอน หลิวเชื่อใจผมไหม รินรดานิ่งไปชั่วครู่ก่อนพยักหน้าด้วยรอยยิ้มบางๆ มือที่กุมกันไว้บีบเบาๆ ค่ะ หลิวเชื่อใจคุณวีร์
จากคุณ |
:
แม่มณี
|
เขียนเมื่อ |
:
18 มี.ค. 55 03:40:36
|
|
|
|