คุณเดินชนโต๊ะ แล้วทำนาฬิกาผมตก เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยเรียบๆ ช้าชัด พลางส่งสายตามองลงไปยังนาฬิกาที่พื้น ไม่ห่างนักมีบริกรหนุ่มยืนนิ่ง เป็นพยานรู้เห็นเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ
ฉันขอโทษคุณแล้วไงคะ กำลังจะก้มเก็บนาฬิกามาคืนคุณ แต่คุณบอก เองว่าไม่ต้อง ฉันก็จะเดินกลับไปที่โต๊ะ คุณก็ห้ามอีก ตกลงจะเอายังไง กันแน่
วรมณเถียงกลับ หันไปส่งสายตาบอกกับกันยาวีร์และมณิภาว่า ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย หากผู้มาให้กำลังใจคนหนึ่ง ไม่ได้สนเลย สักนิดว่าอะไรจะดำเนินต่อไป เพราะคนที่อยู่ตรงหน้าคือนักแสดงหนุ่มซึ่ง กำลังมีชื่อเสียงอยู่ในปัจจุบัน เขาเป็นเจ้าของนาฬิกาที่เพื่อนสนิทเธอ ทำตก และเขากำลังหัวเสียอย่างหนักทีเดียว แต่กันยาวีร์ก็ยังเห็น ความหล่อเหลาปานเทพบุตรที่ฉายออกมาดึงดูดหัวใจเธอให้เต้นกระหน่ำ อยู่ในอก
เมื่อวานเธอก็พบเขา วันนี้ก็ยังมาเจอกันอีก...อย่างนี้จะไม่ให้เรียก พรหมลิขิตอย่างไรได้!
บรรดาผู้ที่มารับประทานอาหารเริ่มให้ความสนใจกรณีพิพาทที่เกิดขึ้น บ้างจำได้ว่าชายหนุ่มที่นั่งเงยหน้ามองหญิงสาวตัวเล็กแบบบางซึ่ง ยืนค้ำหัวเขาอยู่นั้น คือนักแสดงที่เพิ่งมีผลงานภาพยนตร์ไปหมาดๆ บางคนใคร่รู้เพียงเพราะอยากทราบมูลค่าของนาฬิกาที่เพิ่งหล่นกระทบ พื้นเมื่อครู่
คนนี้น่ะหรือจ๊ะน้องโยโย่ มณิภากระซิบถามกันยาวีร์ เมื่ออีกฝ่าย พยักหน้า เธอจึงใจจดใจจ่อ รอคำตอบจากเขา
คุณกับผมต้องเอามันไปซ่อม เขาก้มลงหยิบนาฬิกาขึ้นมา หน้าปัดแตกระแหงจากแรงกระแทก จึงทำให้มองไม่เห็นว่าด้านใน มีสภาพเป็นเช่นใด
นาฬิกาอะไรของคุณ ตกแค่นี้ก็แตก ถึงรู้แก่ใจว่าไม่ควรพูด หากวรมณกลับพลั้งปากไปแล้วเรียบร้อย และได้รับรอยยิ้มเย็นเยียบ จากชายหนุ่มกลับมาทันควัน
คุณเป็นคนทำมันตก คุณมีความผิด ถ้าผมเป็นคุณ ผมจะอยู่เงียบๆ คำพูดของเขาทำให้วรมณหน้าตึง หลายคนที่คอยฟังอยู่เริ่ม ส่งเสียงวิพากวิจารณ์ไปต่างๆ นานา
เอานามบัตรคุณมาก็แล้วกันค่ะ ฉันจะเอาไปซ่อมให้ แล้วคุณค่อยมา เอาคืนหลังจากซ่อมเสร็จแล้ว
ไม่ได้หรอกครับ เขากำลังจะเอ่ยต่อ หากมีอีกเสียงหนึ่งขัดขึ้นเสียก่อน เอาอย่างงี้ดีมั้ยคะ โยเป็นคนกลางให้ เดี๋ยวโยเอาไปซ่อมให้เอง แล้วโยจะเรียกเก็บเงินที่เหมียว แล้วจะเอาไปคืนคุณให้เอง ขอนาฬิกา นามบัตร แล้วก็เบอร์มือถือด้วยค่ะ
ผมอยากให้คนที่ทำผิด รับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไป ไม่ใช่ให้ คนอื่นมาออกรับแทน ในฐานะคนกลาง เพื่อน หรืออะไรก็ช่าง
กันยาวีร์ซึมซาบกับคำว่า คนอื่น เป็นพิเศษ หากหญิงสาวไม่ได้ ยอมแพ้ ยื่นข้อเสนอถัดไปในทันที งั้นคุณฮาร์ท โย แล้วก็เหมียว เอานาฬิกานี่ไปซ่อมพร้อมกัน ไปเลยค่ะ ไปเดี๋ยวนี้เลย
คุณเรียกผมว่าอะไรนะครับ เขานิ่วหน้า พยายามนึกว่าเคยพบ กันยาวีร์ที่ไหนมาก่อนหรือไม่ หากอึดใจเดียวจึงนึกขึ้นได้ ภาพยนตร์คงเข้าฉายอย่างเป็นทางการตั้งแต่ก่อนที่เขาจะกลับมา ถึงประเทศไทย หลายวันที่ผ่านมา ไม่ว่าจะไปที่ใด คนถึงได้ขยัน มองมาที่เขากันนัก!
ตกลงว่ายังไงคะ เราจะเอานาฬิกาไปซ่อมกันเลยรึเปล่า กันยาวีร์ เร่งยิกๆ ส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจชนิดหวานหยดมาให้อย่างออกนอกหน้า วรมณเม้มปากแน่น จ้องผู้เสียหายอย่างไม่เกรงใจ ฉันว่าเอาไปส่ง ที่ร้านซ่อมแป๊บเดียวก็หมดเรื่องแล้ว เร็วเข้าเถอะค่ะ คุณจะเอายังไง ก็ว่ามา ฉันหิวข้าว
ชายหนุ่มระบายยิ้มตอบกันยาวีร์ ก่อนจะสบตาวรมณนิ่งนาน เอ่ยสรุป ในที่สุด เชิญคุณไปทานข้าวตามสบายเถอะครับ เสร็จแล้วมาที่โต๊ะนี้ ผมจะนั่งรอ แล้วเราค่อยไปร้านซ่อมนาฬิกาพร้อมกัน
แน่นอนว่าวรมณหันหลังกลับโต๊ะไปคนแรก ทิ้งให้กันยาวีร์เอ่ยขอโทษ ขอโพยแทนเพื่อนที่ทำนาฬิกาเขาตก โดยมีมณิภายืนยิ้มอยู่ข้างๆ กว่าจะเดินกลับกันมา วรมณแทบจะอิ่มข้าวไปเสียก่อน อาหารเลิศรส ผ่านลิ้นลงไปราวกับกลืนข้าวเปล่า แทบไม่รู้ถึงความกลมกล่อมหรือแม้ กระทั่งเผ็ดร้อนเท่าไหร่เลย ในใจอบอวลไปด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่านหงุดหงิด ซวยจริงๆ เจอกันเข้าไปได้สองวันติด มารชีวิตชัดๆ
ทำไมไปว่าเขาแบบนั้นล่ะจ๊ะน้องเหมียว
จริงมั้ยล่ะคะพี่วิปปิ้ง วันแรกที่เจอคือเมื่อวาน เหมียวก็โดนเพื่อนทิ้ง ชิ่งไม่เรียนต่อด้วยกันซะงั้น
กันยาวีร์หลบสายตาพิฆาตของวรมณ พยายามเมินไปทางอื่นเมื่อได้ ยินเสียงใสๆ เอ่ยต่อ วันนี้ก็เจออีก เหมียวดันเดินไปชนโต๊ะเขาพอดี แล้วคนบ้าอะไร ถอดนาฬิกาวางไว้บนโต๊ะตอนกินข้าว ไม่เรียกซวยแล้ว เรียกอะไรดีคะพี่
แล้วทำไมไม่เดินให้ระวังๆ ล่ะ เขาก็อยู่ของเขาดีๆ แกไปชนเองแท้ๆเลย ฉันว่าแบบนี้น่ะ คนที่ซวยน่าจะเป็นพี่ฮาร์ทมากกว่า นาฬิกาเขาดูท่าทาง แพงด้วย เสร็จแน่แกเอ๊ย!
ช่างเป็นไร! พ่อแม่ฉันรวย กะอีแค่ค่าซ่อมนาฬิกาแค่เนี้ย มันจะซัก เท่าไหร่กันเชียว อย่างมากก็คงไม่เกินหกหลักหรอก ยังไงก็ยังมีปัญญา จ่ายแล้วกัน แกเงียบไปเลยนะโยโย่ ตอนนี้ปรอทฉันจะแตกอยู่แล้ว ขอร้องว่าอย่ามายั่วโมโห
ไม่ได้ยั่วโมโหย่ะ! แต่คราวนี้แกผิดจริงๆ ถามใครก็ได้ ทำของเขาหล่น ยังไงก็ผิดเห็นๆ
เดือดร้อนมณิภาต้องขัดจังหวะอีกคำรบ เพราะเห็นท่าว่าคงจะเถียงกันไป แบบไม่มีวันจบสิ้นแน่นอน
หลังเรียกบริกรมาเก็บเงิน ทุกคนจึงเดินมาที่โต๊ะของชายหนุ่ม ร่างสูงหยัดกายขึ้นช้าๆ เอ่ยถามพลางเดินนำไปที่ประตูกระจกใส มองออกไปเห็นแดดจ้าในยามใกล้บ่าย จะเอารถไปคนละคัน หรือว่าจะนั่งรถผมไป
กันยาวีร์กำลังจะอ้าปากตอบ หากวรมณไวกว่ามาก ฉันจะขับตามคุณไป คุณขับนำไปก็แล้วกันค่ะ
งั้นพี่ขอตัวก่อนเลยนะคะ ถ้ามีอะไรคืบหน้า พี่จะติดต่อไปนะจ๊ะโยโย่ มณิภารับไหว้รุ่นน้องสาว แล้วจึงยิ้มให้กับชายหนุ่มเป็นเชิงบอกลา ก่อนจะเปิดประตูร้านและเดินตรงไปที่รถ หันมาโบกมือไหวๆ ทีหนึ่ง ในใจนึกภาวนาให้วันนี้ผ่านไปด้วยดีสำหรับวรมณ เพราะนาฬิกาเรือนที่ตกพื้นไปนั้น...
ผมซ่อมไม่ได้ครับ ชายสูงวัยซึ่งอายุน่าจะไล่เลี่ยกับบิดาของวรมณและ กันยาวีร์เอ่ยอย่างถ่อมตน ขนาดว่าร้านซ่อมนาฬิกาแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลาง กรุงเทพมหานคร บนถนนสายธุรกิจ เป็นร้านใหญ่ที่มีลูกค้าแวะเวียนไป มาไม่ขาด ยังไม่รับซ่อม!
หลังจากที่นำมาพินิจอยู่นานหลายนาที มือคร้ามแดดซึ่งดูบอบบางจึงส่ง นาฬิกาที่ถืออยู่คืนให้แก่เจ้าของ ส่ายหน้าอีกครั้งเป็นเชิงสำทับ จนปัญญาจริงๆ ครับ ถ้าจะซ่อมก็ต้องส่งไปที่บริษัทที่นำเข้ามา หรือส่งไปซ่อมที่สวิสเซอร์แลนด์เลยจะดีกว่า แต่ผมแนะนำอย่างหลังครับ นาฬิกาอะไรกันคะ ทำไมคุณลุงซ่อมไม่ได้ วรมณขมวดคิ้วจนมัน แทบจะมาผูกเป็นปมอยู่รอมร่อ ปวดหัวจี๊ดขึ้นมาอย่างสุดจะฝืน ก็แค่มันตกแตก
จากคุณ |
:
zjoyz
|
เขียนเมื่อ |
:
18 มี.ค. 55 13:43:17
|
|
|
|