ปกติแล้วอันดามันไม่ชอบวันกลางสัปดาห์ เพราะธุรกิจใดๆ มักจะเงียบเหงากว่าปกติในวันนี้ แต่เช้าวันพุธนี้กลับได้รับการยกเว้น เพราะลูกค้าเพิ่งโทร.มาแจ้งให้ทราบว่าบริษัทฟิวเจอร์เทคโนโลยีชนะงานที่ห้างสรรพสินค้าขนาดยักษ์แห่งหนึ่ง หญิงสาวออกจากห้องทำงานด้วยอารมณ์ผาสุข ประกาศก้องเพื่อให้พนักงานทุกคนได้ร่วมฉลองไปพร้อมๆ กัน เสียงไชโยโห่ร้องของทีมขายและวิศวกรของบริษัทดังขรม ทุกคนรื่นเริงกันถ้วนหน้า ผู้อำนวยการสาวตวัดตาไปทางบุรัณซึ่งยืนกอดอกอยู่หน้าห้องทำงานตัวเอง และกำลังมองมาที่เธอด้วยสายตาภูมิใจ ยินดีด้วยนะเอ็ม อย่างนี้กลางวันนี้เราไปฉลองกันหน่อยดีกว่า ไปด้วยกันหมดทั้งแผนกนี่เลยล่ะ เสียงเฮฮาจากเหล่าพนักงานจึงดังขึ้นอีกคำรบ อันดามันเดาออกว่าเขากำลังง้อ ความที่เบื่อหน่ายกับเรื่องที่ทะเลาะกันซ้ำซากวนมาที่เดิม หญิงสาวจึงหายงอนแต่โดยดี ขอบคุณค่ะบอส เธอเรียกอีกฝ่ายด้วยสรรพนามยกย่อง แสดงเส้นแบ่งระหว่างกัน เหมือนที่ต้องเล่นบทนี้ต่อหน้าคนในบริษัทตลอดเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมา งั้นแบ่งหน้าที่กันตามนี้นะ เอ็มเลือกร้าน ทุกคนไปกิน ส่วนผมจ่ายเอง บุรัณสรุป พลางยกข้อมือขึ้นดูเวลา ทยอยกันออกเลยก็ได้ ใกล้พักเที่ยงแล้วนี่ ส่วนแผนกบัญชีกับเด็กๆ โอเปอเรเตอร์ที่ต้องเฝ้าบริษัท ผมฝากคุณนงพาไปเลี้ยงด้วยละกัน แล้วเอาบิลมาเบิกได้เลย อันดามันสบตากับคนรักข้ามฟากของสำนักงาน ขยับปากโดยไม่มีเสียงลอดออกมา ขอบคุณค่ะ อีกฝ่ายยิ้มกว้าง ก้มศีรษะน้อยๆ เอ่ยไร้เสียงเช่นกัน ด้วยความยินดี สวนอาหารแบบไทยที่อยู่ไม่ไกลจากสำนักงานถูกเลือกเป็นสถานที่เลี้ยงฉลอง สันติซึ่งรู้ตื้นลึกหนาบางของหุ้นส่วนบริษัททั้งคู่ จัดแจงให้ผู้อำนวยการสาวนั่งลงข้างบุรัณซึ่งประจำตำแหน่งอยู่ตรงหัวโต๊ะ โดยตัวเขาเองขนาบอยู่อีกฟากของโต๊ะเพื่อไม่ให้ดูน่าเกลียด เสียงหัวเราะเฮฮาหยอกล้อแซวกันดังขึ้นตลอด แม้จะชนะงานประมูลจนเป็นเรื่องประจำแล้ว แต่ทุกครั้งที่ได้โครงการขนาดใหญ่งบประมาณสูงกว่าห้าล้านบาทมันก็ทำให้ขวัญและกำลังใจของพนักงานดีขึ้น และเชื่อมั่นในความมั่นคงของบริษัทมากยิ่งขึ้นเสมอ ทว่าหลังสั่งอาหารเสร็จเรียบร้อย สุภาพสตรีสูงวัยผู้หนึ่งก็ก้าวมายืนข้างบุรัณ และทักทายคนที่หัวโต๊ะ ขอแม่ร่วมวงด้วยคนได้ไหม บุรัณหันไปมองมารดาตาค้าง แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายไม่ยี่หระ อธิบายต่อด้วยรอยยิ้ม วันนี้แม่ออกมาทำธุระข้างนอก เลยว่าจะแวะไปรับรัณมาทานข้าวด้วยกัน แต่เด็กบอกว่ารัณพาพนักงานมาฉลองกันที่นี่ แม่เลยตามมาสมทบด้วย คงไม่ว่ากันนะจ๊ะ ทั้งโต๊ะเงียบกริบ บุรัณเองก็อึดอัด เพราะร้อยวันพันปีมารดาไม่เคยก้าวก่ายเข้ามาที่บริษัท จัดว่าโชคดีที่พนักงานซึ่งปกติทะเล้นทะโมน ต่างพากันเก็บกิริยาสำรวมให้เกียรติมารดาเขา ไม่ทำให้เขาลำบากใจเลย สีหน้าสนุกสนานของอันดามันเจื่อนไป เมื่อดวงตาคมของสุภาพสตรีท่านนั้นเต็มไปด้วยแววตาชิงชังพุ่งตรงมาอย่างเปิดเผย พร้อมทั้งออกคำสั่งวางอำนาจ เธอน่ะ...ขยับที่หน่อยสิ แม่ครับ เอ็มเขา... บุรัณขัดขึ้น แต่ก็ช้ากว่าสันติที่รีบขยับ ท่านนั่งที่กระผมก็ได้ครับ เดี๋ยวผม... ฉันพูดกับคุณเหรอ ปัณรสีหันไปเอ็ดวิศวกรหนุ่มใหญ่ด้วยสายตาตำหนิชัดเจน อันดามันกัดริมฝีปากแน่น ข่มความรู้สึกยากเย็น เพื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์อิหลักอิเหลื่อตรงหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อฟาดฟันกับสุภาพสตรีที่เกลียดและชังเธอเข้าไส้ ทั้งยังจงใจเหยียดเธอลงดุจเป็นเพียงแค่พนักงานคนหนึ่ง ทั้งที่ความจริงแล้วเธอเป็นเจ้าของหุ้นครึ่งหนึ่งของบริษัทด้วยซ้ำ! ฤทัยไปตรงนั้นสิลูก เดี๋ยวพอเขาลุกแล้ว ฤทัยจะได้นั่งเลย ถ้อยคำถัดมาของผู้มาใหม่ทำให้อันดามันรู้นัยจากคำพูดนั้นได้ทันที ว่าปัณรสีต้องการประกาศให้รู้ว่าเลือกใครมา แทนที่ ของเธอ! นั่นเองคนทั้งโต๊ะจึงได้เห็นว่าเบื้องหลังปัณรสีมีผู้หญิงร่างเล็กยืน อยู่อีกคนหนึ่ง สตรีผู้นั้นไว้ผมสีดำสนิทล้อมกรอบใบหน้าราวตุ๊กตาญี่ปุ่น ตาโต ปากนิด จมูกหน่อย รูปหน้านั้นคงจะสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว หากไม่มีปานสีน้ำตาลจางๆ บนโหนกแก้มซ้ายซึ่งพาดยาวไปถึงใต้ขมับ อันดามันรู้สึกถึงรอยร้อนๆ ที่แล่นจี๊ดไปตามหน้าตาและเนื้อตัว ดิฉันมาก่อน ต้องนั่งตรงนี้ก็ถูกต้องแล้วนี่คะ หญิงสาวอธิบายเสียงเรียบ ย้ำคำ มาก่อน บอกนัยชัดเจนว่ามิได้หมายถึงการนั่งที่โต๊ะนี้เพียงอย่างเดียว แต่รวมความว่าเธอ มาก่อน สตรีอีกผู้หนึ่งในทุกเรื่องด้วย! เอ็ม...ถือว่าผมขอได้ไหม บุรัณเอ่ยขึ้นด้วยความอึดอัด อันดามันตวัดตามองคนข้างๆ ก็เห็นสีหน้าเว้าวอนชัดเจน เธอเบ้ปากอย่างหงุดหงิด แม้จะยอมลุกขึ้น แต่ก็เป็นไปด้วยอาการกระแทกกระทั้นกระบึงกระบอน พี่นง...ช่วยขยับหน่อยได้ไหมคะ หญิงสาวเลือกที่นั่งใหม่ซึ่งอยู่ถัดจากเก้าอี้ตัวเดิม เรื่องอะไรจะถอยไปนั่งห่างๆ เธอจะอยู่เกะกะตาปัณรสีมันตรงนี้นี่แหละ! นงลักษณ์เลื่อนที่นั่งอย่างว่าง่าย แสดงชัดว่าไม่ปลื้มผู้มาใหม่ทั้งคู่เช่นกัน ขอโทษนะคะที่ทำให้วุ่นวายกันไปหมด น้ำเสียงอ่อนๆ กอปรกับสีหน้าลุแก่โทษของสตรีที่มาพร้อมกับปัณรสีแสดงความเกรงใจ และใบหน้านั้นก็เผือดไปเมื่อไม่มีเสียงตอบรับใดๆ จากในโต๊ะ เอ้อ...ไม่เป็นไรหรอกฤทัย บุรัณตะกุกตะกัก กลืนไม่เข้าคายไม่ออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสายตาทุกคู่มองมาที่เขาเป็นตาเดียว สันติขยับเลื่อนมาอีกตำแหน่ง เพื่อให้ปัณรสียึดครองที่นั่งอีกฝั่งของบุรัณไว้ กลายเป็นว่าชายหนุ่มถูกตัดขาดจากพนักงานในบริษัทฯ และถูกผู้มาใหม่ผูกขาดยึดตัวไว้สนทนากันตามลำพังโดยสิ้นเชิง บรรยากาศสนุกสนานของพนักงานทั้งโต๊ะหายไปราวกับปิดสวิตช์ เหลือไว้เพียงความเงียบอึมครึมอึดอัด และเสียงแจ้วของปัณรสี ที่ชวนบุตรชายคุยโดยไม่สนใจผู้คนแวดล้อมใดทั้งปวง อันดามันซ่อนมือที่กำแหน่นไว้ใต้โต๊ะ เมื่อตวัดตาไปทางคนที่หัวโต๊ะก็เห็นเขามองมาโดยมีแววอ้อนวอนส่งมาด้วย หญิงสาวลอบค้อนผู้หญิงซึ่งแย่งที่นั่งของเธอ แล้วเม้มปากแน่น ข่มความไม่พอใจไว้ให้ลึกที่สุด เห็นว่าวันนี้มาฉลองที่ชนะงาน ผลงานของเธอหรือ? ปัณรสีชวนคุย คอยจนเธอพยักหน้าแล้วจึงแต้มยิ้ม เก่งนะ คำชมนั้นฟังอย่างไรก็เหมือนประชดมากกว่า เห็นลูกชายฉันชมให้ฟังว่าเธอน่ะเก่งกว่าผู้ชายหลายๆ คนซะอีก ยังไงก็ต้องระวังไว้หน่อยนะจ๊ะ เพราะผู้หญิงที่เก่งเกินไปน่ะ มันจะทำให้หาที่คู่ควรสามียาก ปัณรสีเปรยปนหัวเราะ หลอกคนอื่นโดยรอบให้เข้าใจว่าหยอกเอิน ทว่ารอยยิ้มนั้นให้อย่างไรก็ไม่มีความเอ็นดูเลยสักนิด แม่! บุรัณอุทานทันควัน อันดามันยิ้มเกรียม เมื่ออีกฝ่ายจงใจประกาศศึกพา คนโปรด มาหยามกันถึงที่ แถมยังตั้งหน้าตั้งตาเหน็บแนมกันอย่างนี้ เธอก็ไม่จำเป็นต้องยอมให้อีกแล้ว ให้มันรู้เสียบ้างว่าที่นี่น่ะ ถิ่นใคร! หญิงสาวจงใจยกมือขึ้นวางบนโต๊ะ กรีดนิ้วเพื่อให้คนที่นั่งฝั่งตรงข้ามเห็นมือซ้ายของเธอชัดๆ ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ ว่าคนที่หาได้เนี่ย เรียกว่าคู่ควรหรือยัง แต่เอ็มหมั้นแล้วนะคะ เกือบปีแล้วล่ะ คาดว่าพอ คนรัก ของเอ็มสะสางเรื่องรกตารำคาญใจเรียบร้อย เราคงจะแต่งงานกันเร็ว ๆ นี้แหละค่ะ
จากคุณ |
:
สิริณ (แม่มณี)
|
เขียนเมื่อ |
:
20 มี.ค. 55 19:13:23
|
|
|
|