แต่เลิฟซีนนานๆ มาทีนะคะ
คงจะไม่ได้มีบ่อยๆ ถ้ามีเยอะไปกลัวจะเลี่ยน แถมจะเด่นกว่า
เนื้อเรื่องเกินไป แนวเนื้อหามีฉากรักเป็นองค์ประกอบเท่านั้นค่ะ
ไม่ใช่ส่วนที่เด่นสุดของเรื่อง อย่างแนวรัก 
มานีโอลา : ขอบคุณสำหรับรูปประกอบเรื่องนะคะ
สายลมที่พริ้วไหว : เป็นสถานที่ท่องเที่ยวจะปล่อยให้มืดทึมเป็นปราสาทผีสิง
ก็คงไม่ไหวค่ะ
ระรินใจ : ยากเหมือนกันนะคะ แวมไพร์จะแสดงความเขินยังไง หน้าซีดก็คงไม่ไหว
เลยเขียนเป็นหน้าแดง งั้นเดี๋ยวจะลองเปลี่ยนเป็นแสดงความเขินในแววตาแทน
คิดว่าลงตัวกว่าไหมคะ?
ความเดิม ตอนที่ 9 ค่ะ
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11815449/W11815449.html
====================================
10
แมตต์ ไม่เคยเผชิญความกลัวตายใกล้ชิดถึงขนาดนี้มาก่อน เพียงพริบตาร่างนั้นก็มาอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนหายตัวได้ อุ้งมือที่เย็นเฉียบคว้าคอเขาขึ้น ตายแน่แล้ว คราวนี้!!!
อย่า....
สองมือที่อ่อนแรงกำชายเสื้อที่ยาวถึงหัวเข่าไว้ ลูน่าไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอะไร นอกจากอ้อนวอนสุดชีวิต แมตต์ จะเป็นแวมไพร์ไม่ได้ เขาคนเดียวเท่านั้นที่ยอมไม่ได้
ปล่อยเขา....ได้โปรด
เดมอนกำลังจะกัดอยู่แล้วแท้ๆ ถ้าไม่เห็นหน้าใบหน้าอ่อนเยาว์กับผมสีดำ ความทรงจำที่เลือนรางถูกกระตุ้นเตือนขึ้นมาฉับพลัน แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรออกมา อะไรบางอย่างก็พุ่งแหวกอากาศมาอย่างรวดเร็ว แล้วแทงเข้าที่หลังของเดมอน มันคือลูกธนูจากหน้าไม้ของแมตต์ ซึ่งตกไปอยู่ในมือของยูเลียสตั้งแต่เมื่อไรไม่มีใครทันได้รู้ ที่แน่ๆ มันสร้างความเจ็บปวดให้กับจอมอสูรได้
ไม่! ปล่อยนะ...แมตต์ ลูน่าถูกคว้าตัวออกห่างอย่างรวดเร็ว ทั้งเดมอน ทั้งแมตต์ ได้แต่มองตาค้าง สปอตไลท์ส่องแสงเข้าใส่เขาทั้งคู่เต็มที่
ฮึ่ม!! เดมอนสบถ แสงนั้นทำเอาตาพร่า เขาตัดสินใจกระโจนทะลุหน้าต่างออกไป ความมืดมิด*ภายนอกเป็นที่ซ่อนตัวได้ดี เขากระโดดหายไปในท้องฟ้าโดยมีแมตต์ติดมือไปด้วย เขาเพิ่งตื่นยังต้องสำรองอาหารให้เต็มที่ก่อน แล้วค่อยกลับมาบดขยี้ยูเลียสทีหลัง
ปราสาททูน ในส่วนของห้องแสดงรูปปั้น รูปสลักเละเทะไม่มีชิ้นดี ส่วนอื่นๆ ยังไม่บุบสลาย ยูเลียสมองนอกหน้าต่างใช้ประสาทสัมผัสหยั่งรู้สถานการณ์ภายนอก กลิ่นมันไกลออกไปแล้ว คงต้องหาที่ซ่อนและกินอาหารแน่ ใจเย็นไว้ เขายังเป็นต่ออยู่
ดูเหมือนต้องกลับไปเตรียมรับมือเสียแล้ว ยูเลียสกล่าวพลางหันมามองคนในวงแขน
แต่ไม่ต้องห่วง เรามีเวลาอีกเยอะเลย ใช่ไหม ลูน่าพูดไม่ออก รู้แต่ว่าเธอถึงคราวเคราะห์เสียแล้ว
******************
ว้ากกก..ก!! แมตต์ร้องดังลั่นด้วยตกใจตอนถูกปล่อยลงจากที่สูงลงไปคลุกฝุ่นที่พื้นแข็งๆ เบื้องล่าง ฝุ่นตลบอบอวลในที่โล่งแจ้งที่ไหนสักแห่ง ฝุ่นเข้าตาไม่ขึ้น แต่มือสัมผัสถูกต้นหญ้าเล็กๆ กับก้อนกรวดรอบตัว ริมถนนรึเปล่านะ เขารีบเช็ดหน้าเช็ดตาให้หายระคายเคือง เขาอยู่ในที่ว่างหญ้าขึ้นรก ห่างจากตัวเมืองไม่เท่าไร ไม่น่าเชื่อว่าจะกระโดดทีเดียวได้ไกลถึงขนาดนี้ ร่างสูงในอาภรณ์โบราณเก่ารุ่ย ผมดำยาวจรดกลางหลัง ใบหน้าขาวไร้ความรู้สึก ที่น่ากลัวคือดวงตาสีเลือดส่องประกายวาววับ เขาดึงธนูออกจากหลังตัวเอง ก่อนจะหันมามองหน้า
คุณเป็นใครกันแน่....เดมอน เซเฟอร์ คริสโตนอฟ หรือ เดมอน ซี. คริสตอฟ หรือว่าไม่ใช่ทั้งคู่ แมตต์ ถามคำถาม เขาได้ยินชัดว่าแวมไพร์พ่อลูกสลับกันตื่นมาตลอด17ศตวรรษ แสดงว่าเก่าแก่เกินกว่าจะมีใครบันทึกได้
คิ้วเข้มของเดมอนเลิกขึ้นช้าๆ น้อยคนนักที่ยังมีสติซักถามเขาได้อีก ส่วนมากหวาดกลัวเจียนตาย แต่จะเจ้าหนุ่มนี้จะบ้าดีเดือดหรืออย่างไรก็ตามนั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เลือดของมันต่างหากที่เขาต้องการ แวมไพร์ที่เก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์สาวเท้าก้าวใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
อย่าดีกว่า... แมตต์ ยกมือห้าม เขาเหลือบดูนาฬิกาข้อมือ ไม่ถึง 10 นาที พระอาทิตย์จะขึ้นแล้ว คุณมีเวลาไม่มากพอหรอก จะกินให้อิ่มท้องหรืออยากจะกลายเป็นขี้เถ้ากัน เดมอนเหลือบมองไปนอกหน้าต่าง แสงอำไพจับที่ขอบฟ้าแล้ว จริงอย่างที่พูด เขามีเวลากินไม่มาก ถ้ามัวแต่กินอาจหาที่ซ่อนไม่ทันจะกลายเป็นเหยื่อของรุ่งอรุณเสียเปล่าๆ
ถ้าคุณจะใจเย็น ทนหิวสักนิด ผมคิดว่าเราน่าจะคุยกันรู้เรื่องนะ แมตต์ทำใจดีสู้เสือ ในมือเขากำของบางอย่างในกระเป๋าเสื้อนอกไว้แน่น ถ้าจำเป็นเขาก็สู้ตายล่ะ เรื่องอะไรจะยอมเป็นอาหารของอมนุษย์กัน
เจ้าคิดเจรจากับข้ารึ....น่าขำ
ผมมีที่นอนหลบแสงอาทิตย์อย่างดีกับอาหารสำรอง และ.....เรื่องของเคานท์ยูเลียสในส่วนที่คุณไม่รู้ ถ้าคิดจะสู้กับเขา คุณต้องพึ่งผม
ไว้กินเจ้าเสร็จแล้ว ข้าค่อยถามเจ้าก็ได้ ถ้าเจ้าไม่ยอมตอบดีๆ ข้าจะดูดเลือดเอาความทรงจำที่มากับเลือดเสียเลย
แน่ใจหรือ? ว่ามันความจำมันจะมาทั้งหมด มันมีอะไรมากำหนดความชัวร์ได้ว่าคุณจะได้ความจำจริงๆ แบบถูกต้อง มันเป็นเกมจิตวิทยาที่ต้องวัดใจกันระหว่างเขาและมฤตยูตรงหน้า
เสียงเสียงขึงขังและความมั่นใจที่แสดงออกมั่นคงชัดเจน ทำให้เดมอนฟังต้องทบทวนอีกครั้ง เขาไม่เชื่อว่าแม็ตต์ไม่กลัวเขา แต่สิ่งที่มันพูดออกมาก็น่าคิด ความจำตลอดทั้งชีวิตของคนๆ หนึ่งมันมากมายมหาศาลนัก ความสามารถหรือความจำที่ถ่ายทอดมากับเลือดก็ใช่ว่าจะได้รับเต็มทั้ง 100% อีกทั้งยังไม่สามารถคัดเลือกเอาแต่สิ่งที่ต้องการด้วย
ราชาแห่งรัตติกาลกำลังหิวจนไม่อยากอดทนอีกต่อไป แล้วยังมั่นใจสีหน้าท่าทางโอหังของเจ้ามนุษย์น่ารำคาญนี่นะ อยากฆ่าเสียให้รู้แล้วรู้รอด เป็นแค่มดปลวกบังอาจมาต่อรองที่สำคัญกว่านั้นดูท่ามันจะต่อรองสำเร็จเสียด้วย เอาเถอะเกียรติศักดิ์ศรีและความแค้นสำคัญกว่า รออีกสักนิดก็แล้วกัน จากนั้นจะไม่ปล่อยให้ยูเลียสกำแหงเป็นครั้งที่สองแน่
เจ้ามันโชคดี
(มีต่อ)