หลังอาหารกลางวันมื้อขื่นคอที่สุดเท่าที่จำความได้ ทันทีที่กลับมาถึงสำนักงาน อันดามันก็เก็บกระเป๋า ขับรถไปยังห้างสรรพสินค้าหรูกลางกรุง เพื่อปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น เธอเตร็ดเตร่ไร้จุดหมาย ค่อยรู้สึกดีขึ้นเมื่อได้เริ่มต้นช็อปปิ้งบำบัด! หญิงสาวเพลิดเพลินกับการซื้อเสื้อผ้า ไม่รู้ตัวเลยว่าถูกใครคนหนึ่งจับจ้องตามไปแทบไม่คลาด สวัสดีครับเอ็ม อันดามันเหลือบไปมองเจ้าของเสียง แล้วก็ยิ้มรับโดยอัตโนมัติ นาครเองเหรอ สวัสดีค่ะ ดีใจจังที่เจอคุณ เมื่อกี้ตอนเดินสวนกัน เอ็มเมินเหมือนไม่รู้จักกัน ผมยังนึกว่าจำคนผิดเสียอีก เหรอคะ ขอโทษจริงๆ ค่ะ เอ็มคงกำลังเมามันกับการช็อปปิ้งอยู่มังคะ อันดามันกวาดตาพิจารณาคนตรงหน้าด้วยความแปลกใจ ว่าผู้ชายคนนี้ไปทำอะไรมา จากมาดหนุ่มนักคอมพิวเตอร์ใส่แว่นตาหนาเตอะแต่งตัวเชยเฉิ่มราวกับหลุดมาจากยุคโบราณเมื่อครั้งหลังสุดที่พบกัน ไฉนจึงเปลี่ยนตัวเองจนแลคล้ายหนุ่มเกาหลีแต่งตัวทันสมัย ทั้งยังทำผมใส่เจลทรงสุดเท่ดุจว่าหลุดมาจากนิตยสารวัยรุ่นได้ถึงเพียงนี้ เหมือนจะอ่านความชื่นชมจากสายตาเธอออก นาครจึงอธิบาย จำได้ไหมว่าเอ็มเคยบอกให้ผมลองทำอะไรใหม่ๆ กับตัวเองบ้าง นี่แหละ...ผลลัพธ์ของมัน ผมทรงนี้ไปทำมาจากร้านที่เอ็มแนะนำยังไงล่ะ ส่วนเสื้อผ้านี่เอ็มก็คงจะเดาได้ใช่ไหมว่าผมกางนิตยสารแต่งตัวตามมาเป๊ะๆ เลย พอดูดีขึ้นบ้างไหม ใครว่าแค่ดูดีล่ะคะ เรียกว่าหล่อจนสะดุดตาเลยก็ว่าได้นะนี่ คำตอบของเขาทำให้อันดามันยิ้มปลื้ม เมื่อได้รู้ว่าผู้ชายคนหนึ่งพยายามพัฒนาตัวเองเพื่อให้คู่ควรทัดเทียมกับเธอ! เอ็มทานอะไรมาหรือยัง ไปทานข้าวด้วยกันสักมื้อดีไหม นี่ผมดีใจจริงๆ นะเนี่ยที่ได้พบคุณวันนี้ อันดามันไม่กล้านับด้วยซ้ำว่าชั่วเวลาไม่ถึงห้านาทีที่พูดคุยกัน ผู้ชายคนนี้เอ่ยคำว่า ดีใจ ไปกี่ครั้งแล้ว! ได้สิคะ เอ็มก็ชักหิวๆ อยู่เหมือนกัน ยังไม่ได้กินข้าวกลางวันเลย แหงล่ะ ไอ้การนั่งโต้คารมกันท่ามกลางสงครามประสาทร้อนระอุนั่น ไม่ควรนับเป็นมื้อกลางวันของเธอหรอก ยิ่งถ้าต้องโดนแล่เนื้อออกทีละองคุลี แล้วทาเกลือนาบเตารีดร้อนๆ ลงมาตามบาดแผลอย่างนั้นด้วย ใครกินข้าวลงก็บ้าแล้ว! ความชื่นชมของนาครไม่ได้มีให้แก่เธอแค่เฉพาะช่วงที่บังเอิญเจอกันเท่านั้น แต่อันดามันพบว่าเขามองเธอด้วยสายตาแบบเดียวกันนั้นตลอดมื้ออาหารเหมือนทุกครั้งที่เธอได้พบกับผู้ชายคนนี้เลยด้วย เหมือนฝันเลยนะ ได้มานั่งทานข้าวกับเอ็มตามลำพังอย่างนี้น่ะ สีหน้าเคลิบเคลิ้มเหมือนลอยอยู่ในความฝันของเขาทำให้อันดามันอยากจะถอนหายใจเป็นครั้งที่ห้าร้อย ถ้าพูดกันถึงคุณสมบัติทั่วไปของนาครนั้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาเป็นผู้ชายที่ พร้อม ทีเดียว ทั้งรูปร่าง หน้าตา หรือแม้กระทั่งความรู้ และฐานะ สิ่งเดียวที่ทำให้อันดามันตัดผู้ชายคนนี้ออกจากรายชื่อชายหนุ่มที่น่าสนใจก็เพราะนาครตามใจเธอมากเกินไป! ในช่วงแรกของการเป็นฝ่ายควบคุมคู่ควงและเลือกทุกอย่างตามใจตัวเองมันก็น่าสนุกดีอยู่หรอก แต่นานเข้ามันก็น่าเบื่อจนถึงขั้นระอาได้เลยทีเดียว เพราะเท่ากับว่าผู้ชายคนนี้ขาดภาวะผู้นำโดยสิ้นเชิง! ทว่าเพราะความที่เขาคือเจ้าของบริษัทเกมออนไลน์ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาจากเกาหลีซึ่งทำเงินได้มหาศาล อันดามันจึงไม่สามารถตัดบทหรือลุกจากโต๊ะอาหารทิ้งเขาไปดื้อๆ ได้ ใครจะรู้ในอนาคตข้างหน้าบริษัทของเขาและเธออาจมีผลประโยชน์ที่ต้องหมุนเวียนมาเกี่ยวพันกันก็เป็นได้ ด้วยฐานะที่อยู่ในแวดวงคอมพิวเตอร์ด้วยกัน หญิงสาวจึงทำได้แค่ปั้นยิ้มส่งคืนไป พยักหน้าเหมือนตั้งใจฟังเต็มที่ ทั้งยังต้องคอยรับคำ ชวนคุยเมื่ออีกฝ่ายเปิดประเด็นให้เธอถามกลับตามมารยาท การที่นาครยังคงกระวีกระวาดตามใจกันราวกับจะทำสถิติเอาใจเธอให้มากกว่าครั้งหลังสุดที่เจอกัน ช่วยให้หญิงสาวค่อยคลายความหงุดหงิดจากการถูกบุรัณขัดใจซ้ำๆ ได้เป็นอย่างดี! แถมเมื่อเธอขยับกาย รวบช้อน เขาก็รีบยิ้มบางๆ ถามด้วยน้ำเสียงอาทรดุจว่าจับจ้องทุกอิริยาบถของเธออยู่กระนั้น ท่าทางเอ็มเหมือนมีเรื่องไม่สบายใจนะ เล่าให้ผมฟังได้ไหม เอ็มจัดการความคิดของตัวเองได้ค่ะ ขอบคุณนาครที่ถามถึงนะคะ เห็นผมเป็นคนอื่นอีกแล้ว ผมรู้นะว่าคุณไม่ได้คิดอะไรกับผม แต่ไม่เห็นมีความจำเป็นที่เอ็มจะต้องเย็นชากับผมอย่างนี้เลย อันดามันใจอ่อนยวบกับถ้อยตัดพ้อของเขา ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ เอ็มเพียงแต่ไม่อยากเอาเปรียบความรู้สึกของนาครก็เท่านั้นเอง แต่ผมไม่ถือว่าเป็นการเอาเปรียบนี่ครับ เอ็มห้ามผมแล้ว แต่ใจผมมันไม่เชื่อเองต่างหาก ทำไมล่ะ ให้ผมรักเอ็มอย่างนี้ มันทำให้เอ็มอึดอัด ลำบากใจนักหรือ ผมไม่เคยเรียกร้องให้คุณต้องรักผมกลับมาเลยสักนิดนะ น้ำเสียงเว้าวอน และดวงตาใสแจ๋วละม้ายลูกแมวขี้อ้อนทำให้อันดามันทำใจร้ายตัดรอนเด็ดขาดไม่ลง หญิงสาวกลอกตาชั่งใจ แวบหนึ่งที่เผลอคิดไปว่าคงจะดีไม่น้อยถ้าเธอรักผู้ชายคนนี้ รัก...คนที่เขารักเรา ในที่สุดอันดามันก็ยกสองมือขึ้นยอมแพ้ โอเคค่ะ เอ็มผิดเอง เอาเป็นว่าเราจะไม่พูดเรื่องนี้กันอีก ตกลงไหมคะ ผมจะตกลงก็ต่อเมื่อเอ็มยอมบอกผมเท่านั้นแหละว่าทำไมถึงทำหน้าบึ้ง ใครทำอะไรให้ไม่พอใจหรือ ผู้หญิงใจแข็งบิดริมฝีปากนิดๆ จะบอกเขาได้อย่างไรว่าที่เธอหงุดหงิดใส่โลกทั้งใบ สาเหตุเป็นเพราะถูก ว่าที่แม่สามี พาลูกสะใภ้คนโปรดมาหยามกันถึงถิ่น ทั้งยังเหยียดเยาะเธอต่อหน้าพนักงานทั้งบริษัทอีกด้วย หรือว่าเอ็มไม่สบายใจ กลัวว่าผมจะคิดอะไรเข้าข้างตัวเองที่คุณยอมมาทานข้าวด้วยอย่างนี้? ถ้าเป็นอย่างนั้นละก็บอกได้เลยว่าไม่จำเป็นต้องคิดมาก ผมไม่เอาเรื่องแค่นี้มาตีความเข้าข้างตัวเองเด็ดขาด ถ้าคุณจะรักผม เอ็มก็คงจะรักไปตั้งนานแล้ว ไม่คอยให้มันเนิ่นนานมาขนาดนี้หรอก นาคร! คุณอย่าดีกับเอ็มนักได้ไหม ปล่อยให้เขาเข้าใจอย่างนั้นก็ดีเหมือนกัน ชายหนุ่มหัวเราะขบขันเต็มที พูดอะไรอย่างนั้นล่ะเอ็ม ขนาดผมดีกับคุณอย่างนี้คุณยังไม่รักผมเลย ขืนผมไม่ทำดี คุณคงเกลียดขี้หน้าผมไปเลยล่ะมั้ง แล้วผมก็ยอมให้มันเป็นแบบนั้นไม่ได้หรอกนะ คุณรู้ไหมเวลาที่เรารักใครคนหนึ่งสุดหัวใจ แค่เห็นเขายิ้ม เห็นเขามีความสุข เราก็มีความสุขไปด้วยแล้ว ผมแค่อยากได้โอกาสที่จะเห็นคุณยิ้มและหัวเราะเท่านั้นเอง เท่านี้ผมก็สุขใจแล้ว คนพูดเกาศีรษะนิดๆ เอ...พูดๆ ไปนี่ผมชักจะเข้าเค้าพวกพระเอกนิยายน้ำเน่าแล้วนะ เอ็มว่าไหม หญิงสาวอดใจไม่ได้ต้องยิ้มออกมา เอ็มต้องขอบคุณคุณยังไงดีนะ นาคร! ไม่ต้องขอบคุณหรอก ไม่ต้องรักกลับมาด้วย ผมบอกแล้วไง ผมยังไงก็ได้ ขอแค่อย่าบังคับผมให้เลิกรักคุณเลย แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว นาครส่งยิ้มปลอบใจให้อีกคำรบ อันดามันอยากกรีดร้องเป็นภาษาอิหร่านนัก! เธอสิต้องเป็นฝ่ายปลอบเขา นี่โลกมันเป็นอะไรกันไปหมดแล้ว คนถูกปฏิเสธกลับเป็นฝ่ายมาปลอบโยนไม่ให้ผู้หญิงใจร้ายที่ไม่รับรักเขารู้สึกผิดเนี่ย! แล้วนี่เธอจะปล่อยให้เรื่องราวเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนกัน มีผู้ชายดีๆ ตัวเปล่าเล่าเปลือยมาหลงรัก มาเข้าแถวรอให้เลือก เธอก็ไม่สนใจ ดันมัวแต่ไปรอคอย...อยากได้ผู้ชายที่มีเจ้าของแล้ว! เป็นครั้งแรกที่กล้าตั้งคำถามกับตัวเองว่าเธอรักบุรัณมากขนาดนั้นจริงหรือ? รักมาก...จนยอมป่ายปัดทุกอุปสรรคเพื่อให้ได้เขามาครอบครอง! หญิงสาวถอนใจ ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าหลายปีก่อนเมื่อเริ่มคบหากัน บุรัณคือผู้ชายที่ดีที่สุด เหมาะสมกับเธอที่สุดในเวลานั้น ทั้งความรู้ รูปร่างหน้าตา ทัศนคติและความชอบต่างๆ ก็คล้ายกันอย่างยิ่ง แต่หลังจากเขาแต่งงานไปแล้ว เธอกลับไม่กล้าถามตัวเองอย่างจริงจังเลยสักครั้ง ว่าความรู้สึกที่เคยมีให้ชายคนรัก มันจะยังคงมีปริมาตรมากมายเท่าเดิมหรือเปล่า แม้แต่อันดามันก็ไม่รู้เช่นกัน ว่าที่เธอไม่กล้าทำเช่นนั้น เป็นเพราะกลัวคำตอบที่จะได้รับ หรือกลัวจะหาคำตอบนั้นไม่พบเลยกันแน่!
จากคุณ |
:
สิริณ (แม่มณี)
|
เขียนเมื่อ |
:
21 มี.ค. 55 15:35:50
|
|
|
|