อันดามันหยีตามองแดดอ่อนจางทอประกายลอดหมู่เมฆลงมาเบื้องล่างอย่างเบื่อๆ เมื่อ
สัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีแดง เธอจึงแตะเบรค เปลี่ยนมาใส่เกียร์ว่างและเข้าเบรค
มือ แล้วเอนศีรษะพิงพนักเก้าอี้แทน หากเมื่อเหลือบตามองบนหน้าปัทม์ เห็นข้อความบนกระดาษสีขาว ดวง
หน้างามก็ฉายยิ้มพอใจ คุณมีหัวใจของคนชอบเอาชนะ ขอบคุณครับที่ทำให้การขับรถของผม
วันนี้...สนุกกว่าทุกวัน อยากรู้จังว่าถ้าเจอกันอีกครั้ง อีตาคุณแอสตันมาร์ตินจะจำเธอได้ไหมนะ
เอ...หรือว่าเธอควรจะลองไปเตร็ดเตร่หน้าร้านอาหารเจ้าของใบเสร็จใบนี้ดี มันอาจเป็น
ร้านประจำที่เขาชอบไปก็ได้ อันดามันคิดเลื่อนเปื้อนไปไกล เมื่อได้สติก็รีบสลัดศีรษะแรงๆ คิดไปไกลถึงไหนกันเนี่ยยายเอ็ม อย่าลืมสิว่าเธอไม่เคยต้องวิ่งตามผู้ชาย
คนไหน มีแต่ผู้ชายต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายพยายามเข้าหาเธอน่ะ! เกือบชั่วโมง กว่าหญิงสาวจะหักเลี้ยวรถเข้าอาคารเคลื่อนเข้าสู่ที่จอด
ประจำตำแหน่ง เธอดันแว่นกันแดดขึ้นไปคาดทับผมบ๊อบสั้นสีน้ำตาลโทนสว่างเอาไว้
อย่างเก๋ไก๋ ขณะก้าวเข้าสู่สำนักงาน อันดามันมองเงาสะท้อนจากกระจกบานประตูด้วย
ความพอใจ ปลีน่องเรียวเยื้องย่างมาดมั่น และเพียงแค่เธอปรากฎกาย ก็แทบจะหยุดการ
เคลื่อนไหวบริเวณนั้นได้ เมื่อสายตาทุกคู่จับจ้องมาที่เธอด้วยความชื่นชม ริมฝีปากบางโปรยยิ้มน้อยๆ เหมือนนางงามเรียกคะแนนบนเวทีประกวด
กระเป๋าสะพายหลุยส์วิตตองลายไม้สีดำสนิทเป็นเงาวาววามที่เธอกัดฟันเจียดเงินไปสอย
มาจากห้างหรูย่านสุขุมวิทยิ่งขับรัศมีความโดดเด่นให้หญิงสาวเป็นทวีคูณ ยิ่งมีคนมอง
อันดามันก็ยิ่งแต้มยิ้มโปรยเสน่ห์ไว้บนใบหน้าให้มากขึ้นด้วยความภาคภูมิ ทว่าเมื่อก้าวออกจากลิฟท์มาสู่ชั้น ๒๙ อันเป็นที่ตั้งของบริษัท ริมฝีปาก
เรียวก็อ้าค้าง ดวงหน้างามว่างเปล่าบรรยายความรู้สึกไม่ถูก เพราะกระจกใสและผนัง
ด้านหน้าสำนักงานซึ่งเคยตกแต่งเรียบง่าย แลหรูหราสบายตา บัดนี้มีสเปรย์สีแดงสดพ่น
ข้อความหยาบคายข่มขู่ต่างๆ นานาเป็นพรืดแทบไม่เหลือพื้นที่ว่าง พนักงานยืนมุง
พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์กันระงมสนุกปาก กะ กะ เกิดอะไรขึ้น ทั้งที่เคยควบคุมสติได้เป็นอย่างดี และเผื่อใจไว้
สำหรับเหตุร้ายที่อาจเป็นไปได้ไว้แล้ว กระนั้นสถานการณ์อันเกิดขึ้นรวดเร็วกว่าที่คาด
ก็ทำให้หญิงสาวหวาดผวาอย่างเห็นได้ชัด เก๋...เก๋อยู่ไหน อันดามันเหลียวมองรอบตัว ตะโกนหาผู้ช่วยส่วนตัว สาวน้อยร่างอวบท้วมหน้าตาตื่นตระหนกฝ่าฝูงคนออกมาหาเธอ ค่ะพี่เอ็ม
เก๋มาแล้วค่ะ แจ้งความหรือยัง โทร.ไปสถานีตำรวจใกล้ที่สุด เชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้า
มาตรวจสอบสถานที่หน่อย แล้วนี่คุณรั...เอ้อ...บอสน่ะ มาหรือยัง อ้อ...พี่สันด้วย พี่
อยากพบพี่สัน บอสยังไม่มาค่ะพี่เอ็ม แต่พี่สันมาแล้ว เก๋จะไปตามมาให้นะคะ อันดามันพยักหน้าน้อยๆ แล้วหันไปทางไทยมุง นี่แปดโมงครึ่งแล้วไม่ใช่
เหรอ พวกเธอยังยืนทำอะไรกันตรงนี้กันอยู่อีก แยกย้ายกันไปทำงานได้แล้ว เป็นผลให้
กลุ่มพนักงานที่จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่หน้าสำนักงานแตกฮือแยกย้ายกันไปคนละ
ทิศละทางราวกับมดแตกรัง ร่างโปร่งบางตวัดตามองตามผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างหงุดหงิด จากนั้นจึง
สะพายกระเป๋าฝืนก้าวเข้าห้องทำงานส่วนตัว แวบสุดท้ายเธอเหลียวกลับมา ตัวหนังสือสี
แดงละม้ายกระโดดกระดอนจากกระจกเข้ามาในสายตา ถ้อยคำข่มขู่นั้นทำให้แข้งขา
แทบไม่มีแรง แถมยังขนลุกซู่ด้วยความหวาดกลัว โดยเฉพาะกับประโยคที่พ่นด้วยสี
สเปรย์เป็นข้อความตัวโตเห็นได้ชัดที่สุดท่ามกลางลวดลายพร้อยพร่าง ไปซะ ถ้าไม่อยากให้หน้าสวยๆ ของเธอเละเป็นผี อันดามันวางกระเป๋าคอมพิวเตอร์ลงบนโต๊ะด้วยมือที่สั่นระริก สันติเข้ามา
พบทันใจ หญิงสาวหันขวับไปหา หวังพึ่งพาเต็มที่ พี่สันตรวจกล้องวงจรปิดหน้าบริษัท
หรือยังคะ ว่ากล้องของเราจับหน้าคนร้ายได้หรือเปล่า ฝ่ายนั้นส่ายหน้าสิ้นหวัง จับภาพได้หมด แต่คนลงมือใส่แว่นดำกับวิกหัวฟู
สวมแจ็คเก็ตเหมือนพวกคนขี่มอเตอร์ไซค์ มันขึ้นมาทางบันไดหนีไฟตอนราวตีสาม พี่จะบอกว่าคนร้ายเดินขึ้นบันไดมาเพื่อเลี่ยงไม่ให้ถูกกล้องในลิฟท์จับภาพ
ได้เหรอ? นี่ชั้น ๒๙ นะคะ พี่ดึงรูปจากกล้องของอาคารตรงประตูทางเข้ามาเทียบรูปร่างคนร้ายกับวีดี
โอที่เรามีแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นหน้ามันอยู่ดี มันหลบมุมกล้องเก่งชะมัด ไอ้หมอนี่มันเข้า
ตึกมาตอนใกล้ๆ เลิกงาน ขึ้นลิฟท์มาที่ชั้น ๒๖ ออกไปซุ่มตรงช่องบันไดหนีไฟ พอตี ๓
มันก็เปลี่ยนชุดออกมาที่ชั้นเราลงมือ พี่หาตัวมันจากกล้องอาคารตอนมันออกไปไม่เจอ
คาดว่ามันลงบันไดหนีไฟไปชั้นล่างแล้วออกทางด้านข้างอาคาร ซึ่งตรงจุดนั้นไม่มี
กล้องวงจรปิด อันดามันกุมขมับ ท่าทีคิดไม่ตก ไม่มีร่องรอยอะไรให้เราสาวถึงตัวมันได้
เลยเหรอ ว่าใครส่งมันมา เท่าที่ดู มันเป็นมืออาชีพนะเอ็ม เข้า-ออกอาคารได้โดยไม่ทำพิรุธเลย เสียงเคาะประตูดังขึ้น แล้วบุรัณกับนงลักษณ์ก็โผล่เข้ามาโดยไม่รอฟังคำ
ตอบ สีหน้าเจ้าของบริษัทบอกถึงความกังวล เกิดอะไรขึ้นเอ็ม ยังไม่ทราบค่ะ แจ้งตำรวจแล้ว คงต้องรอให้มาถ่ายรูปเก็บหลักฐานก่อน
ถึงจะเริ่มทำความสะอาดได้ ระหว่างนี้คงต้องปล่อยไว้อย่างนี้ก่อนค่ะ อันดามันตอบแล้ว
หันไปส่งยิ้มแกนๆ ให้สาวรุ่นพี่ เอ็มไปมีศัตรูที่ไหนนักหนา มันถึงจงใจมาขู่เอ็มขนาดนี้ นงลักษณ์เดิน
อ้อมโต๊ะมาโอบผู้อำนวยการไว้ ซึ่งเธอก็รีบคว้าบั้นเอวอีกฝ่ายยึดไว้เป็นหลักทันควันเช่น
กัน เอ็มก็ไม่รู้เหมือนกันพี่นง ขู่ยังกับจะสาดน้ำกรดกันอย่างนั้นแหละ คน
พูดทำหน้าสยอง ขณะที่ในสมองหมุนจี๋ไตร่ตรองหาความเป็นไปได้ราวกับจักรผัน ใครที่น่าจะเป็นคนทำเรื่องแบบนี้ หรือว่า...เป็นไปได้ไหมว่าคีรีจะชิงลงมือ
เสียก่อนแล้ว! สันติมีท่าทีครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ คาดการณ์ด้วยหน้าตาไม่สบายใจนัก ถ้าให้พี่
เดา นี่อาจเกี่ยวกับเรื่องที่เอ็มเข้าไปพบท่านคีรีก็ได้นะ จำได้ใช่ไหมที่เอ็มเล่าให้พี่ฟังว่า
ขากลับเห็นคนมาด้อมๆ มองๆ แอบสะกดรอยตามเอ็มน่ะ นอกจากรายนี้แล้ว งานอื่นๆ
ของเราก็เป็นลูกค้าเก่าทั้งนั้น อาจจะเป็นเรื่องอื่นก็ได้นะคุณสัน นงลักษณ์ปรายตาไปทางบุรัณ ขัด
แย้งทางธุรกิจมันก็น่าคิด หรือไม่ก็อาจจะเป็นเรื่องชู้สาวก็ได้ เห็นๆ กันอยู่นี่ ว่าเมื่อวาน
เอ็มโดนถล่มซะยับขนาดนั้น คุณนง! พี่นง! สันติและอันดามันอุทานขึ้นพร้อมกัน ขณะบุรัณยืนเม้มปากแน่น ไม่พูด
อะไรสักคำ วิศวกรหนุ่มใหญ่รีบไปปิดประตูห้องทำงานของหญิงสาว แล้วเดินกลับมาที่
เดิมพลางตำหนิ จะพูดอะไรก็ระวังหน่อยคุณนง กำแพงมีหู ประตูมีช่องทั้งนั้น นงแค่สันนิษฐานเองนี่คะ ยังไม่ได้ระบุชื่อใครเลย นงลักษณ์ไม่ราข้อ ด้วย
ความที่ทั้งเธอและสันติต่างก็รู้จักกับบุรัณมาเกือบสิบปีนับตั้งแต่เขายังเป็นแค่ลูกจ้าง
บริษัทเอกชนอยู่ด้วยกัน ครั้นเมื่อบุรัณจะเปิดบริษัททำธุรกิจส่วนตัว เขาจึงชวนเธอมา
ดูแลเรื่องระบบบัญชีให้เพราะความไว้ใจ ถ้าไม่สนใจเรื่องฐานะเงินทอง แล้วนับแต่ความสนิทสนมคุ้นเคย นงลักษณ์
จึงจัดตัวเองเหมือนเป็นพี่สาวคนหนึ่งของบุรัณเลยก็ว่าได้ นงลักษณ์รู้เห็นทุกช่วงเวลาตั้งแต่ตอนที่บุรัณและอันดามันช่วยกันเริ่มต้น
สร้างบริษัทฟิวเจอร์เทคโนโลยีแห่งนี้ขึ้นมา ครั้นชายหนุ่มจำต้องแต่งงานตามคำขอร้อง
ของมารดา นงลักษณ์จึงเอนเอียงเข้าข้างคนใกล้ชิดในทุกกรณี ทั้งยังพลอยชิงชังมารดา
และภรรยาตามกฎหมายของบุรัณไปด้วย เรายังไม่มีหลักฐานอะไรค่ะพี่นง อันดามันตัดบทเสียงแข็ง เอาเป็นว่า
เอ็มขอนะคะ ถ้าตำรวจมาสอบปากคำ เราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้กัน นงลักษณ์เบ้ปาก ไม่อยากบอกตำรวจเรื่องคุณปัณรสีก็ตามใจเอ็มเถอะ ใน
เมื่อไอ้คนร้ายมันขู่เอ็มนี่ ถ้าให้ข้อมูลตำรวจไม่หมด เกิดหาตัวคนร้ายไม่เจอ คนที่ต้อง
หวาดผวาอยู่กับเรื่องนี้ก็มีแต่เอ็มคนเดียวเท่านั้นแหละ ไปถอนตัวจากงานของท่านคีรีซะ ผมไม่อยากฟิวเจอร์เทคฯ มีปัญหาเพียง
เพราะความดื้อของคุณคนเดียว บุรัณสั่งเรียบๆ โดยเว้นการออกความเห็นในเรื่องอื่นเสีย เอ็มไม่ถอนตัวค่ะ อันดามันขยับออกจากอ้อมแขนของสาวรุ่นพี่ แล้ว
เหยียดตัวหลังตรงด้วยมาดยโส ย้ำกับตนเองให้มั่นคง ไม่ว่าคนที่บงการเรื่องนี้จะเป็นบุญธรรม หรือปัณรสี
ก็ตาม บอกได้เลยว่ามันเปลี่ยนใจเธอไม่ได้เด็ดขาด ถึงอย่างไรเธอก็จะต้องทำ เรื่องนั้น
ให้สำเร็จให้ได้ คอยดู! ยิ่งถ้าไอ้สเปรย์ข่มขู่นี่มันมาจากมาเฟียประจำกระทรวงป้องกันสาธารณภัย
ที่หวังจะเขี่ยเอ็มออกมาให้พ้นเส้นทางของพวกมัน ก็บอกได้เลยว่าพวกมันคิดผิด ยิ่งมัน
ทำอย่างนี้ เอ็มก็ยิ่งอยากเอาชนะ! อันดามันประกาศกร้าว สบสายตากับหุ้นส่วน
บริษัทอย่างท้าทาย เอกสารทีโออาร์ถูกส่งไปให้ที่ปรึกษาของท่านรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว
อาทิตย์หน้ากระทรวงฯ จะประกาศขายซองอย่างเป็นทางการ เรามาไกลเกินกว่าจะถอน
ตัวได้แล้วล่ะค่ะ สันติมองสงครามเย็นตรงหน้าด้วยความหนักใจ ก่อนเอ่ยอย่างระมัดระวัง
แต่เราอยู่ในที่แจ้ง พี่ว่ามันอันตรายเกินไปนะ ถ้าจะเอาตัวเองไปเสี่ยงขนาดนี้ งั้นเราก็อย่าแจ้งความเงียบๆ สิคะ แต่เปลี่ยนไปทำให้มันเอิกเกริกกันไปเลย
ประกาศให้โลกรู้ไปเลยว่ามีคนปองร้ายเอ็มเพราะไปเหยียบเท้าเจ้าที่ในกระทรวงป้องกัน
สาธารณภัย ดูสิ...ว่าใครยังจะกล้าแตะเอ็มอีกไหม ถ้าเอ็มเป็นอะไรไปแม้แต่นิดเดียว
ไอ้มาเฟียเวรนั่นงานเข้าแน่ คราวนี้ล่ะมันอาจต้องตาลีตาเหลือกรีบส่งคนมาคุ้มกันเอ็ม
เสียด้วยซ้ำ ไม่งั้นมันจะซวยโดยไม่รู้ตัว อันดามันเปิดประตูห้องทำงาน แยกย้ายกันไปทำงานเถอะค่ะ พนักงาน
เห็นเราประชุมกันอย่างนี้จะพาลประสาทกินเสียเปล่าๆ เอาเป็นว่าเดี๋ยวตำรวจมาเมื่อไร
เอ็มจะให้เก๋ไปเชิญทุกคนมาให้ปากคำก็ละกัน เธอหันไปทางนงลักษณ์ ถือว่าเอ็มขอนะ
คะพี่นง เราจะไม่พูดถึง เรื่องนั้น กับตำรวจ โอเคไหมคะ นงลักษณ์ยู่หน้าใส่สาวรุ่นน้องไม่รับคำอะไร แล้วเดินตามสันติออกจาก
ห้องทำงานไปแต่โดยดี
จากคุณ |
:
สิริณ (แม่มณี)
|
เขียนเมื่อ |
:
22 มี.ค. 55 23:40:26
|
|
|
|