Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กระบี่รันทด ภาคพิเศษ.....2 (ปุ้ยยี้ -ปอมมี่) ติดต่อทีมงาน

=========================
กระบี่รันทด ภาคพิเศษ.....2 (ปุ้ยยี้ -ปอมมี่)
PSYCHO MAN
=========================



บทที่แล้ว
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11873136/W11873136.html


ความเดิม
จู่ๆมีข่าวว่า ในโรงเตี๊ยมของโฉมสะคราญโรงเตี๊ยม มีสิ่งของวิเศษซ่อนอยู่ นั่นคือ ลูกแก้วสมปรารถนา ทำให้จอมยุทธทั้งหลายที่รู้ข้าวพากันมุ่งหน้ามาที่โรงเตี๊ยม รวมทั้งปุยยี้และปอมมี่ จอมยุทธผู้เพิ่งก้าวเข้ายุทธภพก็รู้ข่าวนี้ด้วย

เป็นเวลาเดียวกับที่โฉมสะคราญโรงเตี๋ยมเริ่มปรุงยาสูตรพิเศษของนางจำหน่าย


*********

กดื่น สายลมยามดึกเยือกเย็น  ลมกรรโชกป้ายแชวนหน้าโรงเตี๊ยมดังเอี๊ยดอ๊าดบาดเสียดประสาท  ผู้คนในโรงเตี๊ยมต่างพากันสนุกสนานเบิกบานสำราญใจ หารู้ไม่ว่าเรื่องราวอันแตกตื่นสะท้านขวัญกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้แล้ว
ในเสียงเอี๊ยดอ๊าดของป้ายร้านและบรรยากาศวังเวงเย็นยะเยือก มีเสียงเอี๊ยดอ๊าดบางอย่างแทรกเข้ามา ใกล้เข้ามาโคมไฟหน้าร้านคล้ายหม่นมัวสลัวลง

โรงเตี๊ยมของโฮมสะคราญโรงเตี๊ยมกำลังมีคนมาเยือนอีกผู้หนึ่งแล้ว



************


หน้าทางเข้าปรากฏรถควายคันหนึ่ง

ตามธรรมดาผู้คนมักพูดถึงเฉพาะรถม้า เนื่องเพราะรถม้าโดดเด่นเป็นสง่า สร้างภาพวีรบุรุษมากมายกับตำนานรถม้า ผู้คนมักคาดไม่ถึงว่ายังมีรถอีกชนิดหนึ่ง มาตรว่าเชื่องช้ากว่ากลับมั่นคงหนักแน่นกว่า แข็งแกร่งกว่า นั่นคือรถควาย

ควายพ่วงพีตัวใหญ่เทียมรถทำมาจากไม้ชั้นดีคืบคลานมาอย่างเชื่องช้า บนหลังควายมีคนขับใส่หมวกฟางปีกกว้างปิดหน้าตาในชุดชาวนา เสียงกงล้อรถควายส่งเสียงดังตลอดเวลาของการเคลื่อนที่กระทั่งมาจอดอยู่ริมถนนหน้าทางเข้า คนขับรถม้าเก็บแส้ไว้หลังอานควายก่อนกระโดดลงมาด้วยท่าทางคล่องแคล่วผิดกับควายอย่างลิบลับ


จากนั้นเริ่มก้าวเดินสู่โรงเตี๊ยม

ในโรงเตี๊ยมตอนนี้ กระบี่หรรษาถือวิสาสะเข้ามาร่วมโต๊ะกับกระบี่แสนหล่อและทวนค้ำฟ้า มันย่อมไม่พิสดารถึงขนาดหลงใหลในความหล่อของอีกฝ่าย หากเพราะต้องการเพื่อนคุย เนื่องเพราะมันหามิตรสหายสนทนาได้ลำบากยากยิ่ง ความหรรษาของมันคล้ายโรคระบาดใส่ผู้คนจนแทบวิปลาสฟั่นเฟือน

มันเขม้นมองหน้าของกระบี่แสนหล่อครูหนึ่งแล้วส่งเสียงหัวรอถามขึ้นว่า

“ฮา....ท่านเหตุใดสามารถหล่อขนาดนี้ หล่อจนขำ...ฮ่าๆๆ”

กระบี่แสนหล่อเขม้นมองอีกฝ่ายเช่นกัน มิว่าขบคิดจนศีรษะพองโตก็ไม่มีปัญญาตอบได้ว่าเหตุใดความหล่อจึงบันดาลให้ผู้อื่นขบขันได้ มันไม่ได้ตอบคำถามในทันที หยิบจอกสุราสมุนไพรขึ้นมาดื่มกินครึ่งจอกแล้วตามด้วยยะยมดองหนึ่งลูก ก่อนคว้าถ้วยใส่น้ำใบเตยมากรอกใส่ปาก

มะยมดองลูกเล็กแต่เปรี้ยวจัดจ้าน ครั้งแรกกัดเปรี้ยวแหลมแทบทะลุถึงสมอง พอนานไปแปรเปลี่ยนเป็นเปรี้ยวนุ่มนวลกลมกล่อมกับรสสุรา ให้ความรู้สึกเป็นมิตรและปลอบประโลมหัวใจ

น้ำใบเตยแช่หยกหิมะพันปีจนเย็นฉ่ำชื่นใจหอมหวนชวนดื่มกินเข้ากับสุราดองที่สุด ถ้าจะพูดถึงสุราดองต้องน้ำใบเตย ต่อให้เป็นน้ำชาเลิศรสปานใดก็ไม่อาจเทียบเคียง ในโลกนี้ย่อมมีของควรคู่กันเข้ากันได้เป็นลักษณะเฉพาะตัว

เฉกเช่นหอยนางรมกับยอดกระถินซึ่งสามารถบันดาลรสหวานมหัศจรรย์ยามกินเข้าด้วยกัน

ส้มตำกับไก่ย่างย่อมควรคู่กันที่สุดโดยมีข้าวเหนียวมาสมทบ ผสมผสานกลับกลายเป็นเลิศรสไร้เทียมทาน บางคนเพียงจินตนาการน้ำหูน้ำตาน้ำลายไหลเรี่ยราดด้วยความหิวโหยเจียนคลั่ง  

มะขามเปียกต้องคู่กับสุราขาวเมามายคลายทุกข์สู่สุขสันต์

ข้าวเหนียวดำน้ำกะทิต้องคู่กับเผือก จึงจะสามารถดึงเอารสชาติหวานมันขั้นสูงสุดออกมาได้

แคบสุกรต้องคู่กันกับธาราพริกบุรุษเบญจเพส (น้ำพริกหนุ่ม) จึงจะสร้างสรรค์สุนทรียรสเจิดจ้าออกมาได้

หรือถ้าเป็นน้ำพริกกะปิก็ต้องเป็นปลาทูทอดกินด้วยกันอร่อยไม่ลืมหูลืมตา

ถ้าเป็นน้ำพริกอ่องต้องคู่กับไข่ต้มจึงจะบันดาลรสฃาติแทบตาเหลือกตาค้าง

กระบี่แสนหล่อวางจอกสุราลงเป็นการผ่อนคลายท่วงท่า ไม่ได้ตอบคำถามนั้น  
ทุกท่วงท่าทุกอิริยาบถของมันเต็มเปี่ยมไปด้วยรังสีแห่งความหล่อแผ่ซ่านทุกทิศทาง

กระบี่หรรษาก็ไม่ได้ต้องการคำตอบในทันทีทันใด ยกจอกสุราสมุนไพรขึ้นดื่มเช่นกันดื่มหนึ่งอึกก็หัวร่อหนึ่งครั้ง ดื่มสองอึกก็หัวร่อสองครา ทวนค้ำฟ้าซึ่งนั่งอยู่ด้านข้างพลับตบโต๊ะโครมใหญ่ตวาดสะท้านสะเทือนว่า

“หัวร่อหาพระแสงอันใดกัน”

แทนที่กระบี่หรรษาจะตกใจมันกลับเบิ่งตากว้างจ้องมองคนตบโต๊ะราวกับไม่เคยเห็นแล้วหัวร่ออกมาพลางกล่าวพลางว่า

“พระแสงอะไร ยามนี้วิกาลมากแล้ว ไหนเลยมีพระชื่อแสงออกจากวัดมาฉันสุรายาดอง..โอย..ยาดองก็ขำ...”

“บังอาจ..”

ทวนค้ำฟ้ามีสีหน้าบิดเบี้ยวด้วยโทสะปะทุ ไม่เคยพบเห็นคนผู้ใดกวนโทสะขนาดมาก่อน ฉวยทวนคู่มือซึ่งพิงไว้พนักเก้าอี้ด้านหลังลุกขึ้นยืนทันที

“หยุดมือ”

เสียงตวาดดังมาจากซุ้มสุราดอง นั่นย่อมเป็นเสียงของเจ้าของโรงเตี๊ยม

“ที่นี่เป็นร้านค้าขาย ท่านพอใจกิน กิน พอใจดื่ม ดื่ม ไม่ว่ากินหรือดื่มต่างต้องจ่ายราคาค่าดื่มกิน ดื่มมากจ่ายมาก ดื่มน้อยจ่ายน้อย ไม่ดื่มไม่กินยังต้องจ่ายค่าที่ คิดต่อยตีออกไปข้างนอก คิดต่อยตีข้างในนี้ย่อมต้องคิดค่าต่อยตีและค่าเสียหายอุปกรณ์หักพังสิบเท่าของราคาปกติ”

วาจาของโฉมสะคราญโรงเตี๊ยมทรงประสิทธิภาพยิ่ง ทุกคนในที่นี้ล้วนเคยเห็นฝีมือของนางมาแล้ว ไหนเลยกล้างัดข้อโต้แย้ง ทวนค้ำฟ้าคลายถุงหนังอัดลมถูกปล่อยลมออกมาในพริบตา  กระแทกร่างนั่งลงอย่างขุ่นเคือง กระบี่หรรษาเห็นแล้วย่อมขำทันทีเช่นกัน

“นั่งแล้วก็ยืน..ยืนแล้วก็นั่ง โอย...นั่งแบบขำๆ ทนไม่ไหวแล้ว โอย....นั่งๆยืนๆ ฮาจะบ้าตาย..ราคาสิบเท่าก็ยังขำ..ขำแบบสิบเท่า โอย..ขำจนทนไม่ไหวแล้ว”

ทวนค้ำฟ้าแค่นเสียงเบาๆพอได้ยินว่า

“มารดาท่านตาย ท่านยังสามารถขำหรือไม่”

คู่กรณีส่งเสียงขำแบบเบาๆพอได้ยินตอบมาแบบทำให้คนฟังอับจนปัญญาเช่นกันว่า

“โอย...มารดาตายก็ขำ..ฮา..ขำแบบตายๆ...ฮาๆๆๆๆๆพูดเบาๆแบบนี้ก็ขำ ชำแบบเบาๆ โอย..ขำจนปวดท้อง”

คนที่สงบนิ่งที่สุดยังคงเป็นกระบี่แสนหล่อ มันไม่มีท่าทีจะลงมือต่อผู้ใด เพียงยกจอกสุราขึ้นจิบอย่างเชื่องช้า อึดใจต่อมาจึงกล่าวขึ้นลอยๆว่า

“บางทีข้าคงผิดพลาดเองที่เกิดมาหล่อผิดมนุษย์เช่นนี้..เกรงใจจริงๆ”

เกิดมาหล่อนับเป็นความผิดใดกัน

บางทีนอกจากตัวของกระบี่แสนหล่อแล้ว คนอื่นอาจไม่เข้าใจกระจ่างลึกซึ้งอะไรที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติเกินไป บางครั้งบางครากลับกลายเป็นสิ่งแปลกแยก จนผู้คนไม่กล้าแตะต้อง หล่อผิดปกติมากเกินไปไหนเลยจะมีสตรีกล้าคิดเด็ดดมชมเชย เนื่องเพราะรู้สึกห่างไกลราวเหนือฟากฟ้ากับใต้บาดาล

ดังนั้นมันจึงมิอาจมีคนรัก  มิใช่ไม่อยากมี แต่มิอาจมีไม่วาสตรีนางใดก็ไม่อาจคิดรักมันได้

มันจึงหันว่าฝึกวิชากระบี่อย่างบ้าคลั่งเพื่อให้บรรลุถึงสุดยอดวิขา “หล่อหลบใน” ให้ได้ แต่ทุกวันนี้ยังไม่ประสบผล ดังนั้นมีนจึงหวังว่าจะได้ลูกแก้ว แห่งความสมปรารถนา เพื่อจะให้บรรลุ “หล่อหลบใน” หรือ “หล่อนอกสายตา” ประการใดประการหนึ่ง

กระบี่หรรษาหันไปทางเจ้าของโรงเตี๊ยม ตบโต๊ะฉาดใหญ่พลางร้องถามว่า

“โฉมสะคราญโรงเตี๊ยม ฮ่าๆๆ เตี๊ยมก็ขำ.. ท่านเป็นคนมีความรู้เรื่องโอสถสภาอย่างดียิ่ง ไฉนท่านไม่คิดสูตรยาดองลดความหล่อมาขายจ่ายแจกบ้าง ฮา”
โฉมสะคราญโรงเตี๊ยมหันมากอดอกยิ้มมุมปากแค่นเสียงดุ ตอบว่า

“ยาแบบนั้นไม่มี แต่เรามีวิธีรักษาโรคหรรษาของท่าน”

“เช่นไร”

“ตบใส่หน้าท่านร้อยครั้ง เตะใส่ท่านร้อยครา กระทุ้งศอกใส่ท่านร้อยที ดูสิว่ายังมีหน้าหรรษาได้หรือไม่”

“ฮา..โดนเตะต่อยตีนับร้อยครั้งร้อยครา ข้ายังคงทานทน เพราะว่าข้าหน้าด้านหน้ามึน....ฮา..หน้ามึนก็ขำ ท่านไม่เคยได้ยินหรือว่า หน้าด้านเท่านั้นที่ครองโลก. โอย..ครองโลกจนขำอีกแล้ว ฮา”

“เราเตะต่อยท่าน ไม่ต้องถึงร้อยครั้ง เพียงครั้งเดียวอาการหน้าด้านหน้ามึนของท่านต้องหายขาด”

คนที่พูดไม่ใช่เจ้าของโรงเตี๊ยม หากเป็นแขกผู้มาเยือน เสียงของมันกังวานได้ยินชัดเจนถ้วนทั่ว ต่างพากันหันไปมองทางเข้าแล้ว


“จอมมารคอหอย!!”

ใช่แล้ว บุรุษหน้าผอมซูบซีดตากลอกกลิ้งชั่วร้ายผู้นี้ถึงจะอยู่ในชุดชาวนายังคงดูออกว่าเป็นจอมมารอันตรายแห่งยุค หลังจากสร้างความปั่นป่วนจนเฒ่าซกมกและเฒ่าซกเล็กล้างมือในอ่างสุราถอนตัวจากสำนักคุ้มกันภัยจนทางสำนักต้องเปลี่ยนเป็นสำนักขายประกันชีวิตเพื่อความอยู่รอดไปแล้ว เหตุใดยังกล้าเสนอหน้ามาสถานที่แห่งนี้อีก

ทุกคนย่อมพากันแตกตื่นวุ่นวายหากพอเห็นว่าเจ้าของสุราดองยังคงสงบนิ่งต่างพากันสงบลงได้ในไม่ช้า เพราะเรื่องราวในโรงเตี๊ยมแห่งนี้ก็ย่อมให้เจ้าของเป็นคนจัดการ

โฉมสะคราญโรงเตี๊ยมจ้องมองผู้มาใหม่ด้วยสายตาเยือกเย็นเอ่ยถามขึ้นมา
“ท่านคิดมาเป็นมารคอหอยผู้ใด”

จอมมารผู้ยิ่งใหญ่ทำท่าทีราวกับไม่ได้เดินเข้ามาในอาณาเขตของฝ่ายที่เคยต้องกันข้ามกันมาก่อน มาหยุดอยู่หน้าโหลยาดอง ใช้สายตาหลุกหลิกกวาดมองไปมาหลายรอบแล้วตอบว่า

“ไม่ได้คิดมาเป็นมารคอหอยผู้ใด เพียงคิดมาดื่มสุราดอง”

“ร้านเราเป็นร้านขายสุราอาหารและแหล่งพำนักพักพัง ท่านคิดมาดื่มสุราอาหารเพียงมีเงินจ่ายย่อมได้ ท่านคิดดื่มสุราอะไร”

“ขอตั้งตรงมิอาจล้ม ห้าจอก  นารีผลักอกห้าจอก”

มันถึงกับสั่งรวดเดียวสิบจอกรวด คนผู้นี้นับว่าคอทองแดงไม่เลว เจ้าของร้านยิ้มเล็กน้อยกรีดมือวูบหนึ่ง จอกสุราสิบจอกลอยลงมาวางเรียงรายแผ่นไม้ด้านหน้า มือซ้ายเปิดฝาขวดโหลใหญ่ มือขวาตักสุรา ท่วงท่าท่วงทีสอคคล้องผสมผสานราวการกรีดกรายร่ายรำชวนมองคนทุกคนตาค้าง

สิบจอกสุรามีน้ำสุราสมุนไพรปริ่มจอกเท่าเทียมกันทุกจอก แสดงถึงวิชาการตักสุราระดับเซียนเหนือเซียน

บางคนไม่ชอบรสสุราเพียงชอบบรรยากาศของการร่ำสุรา แต่บางคนชอบทั้งรสสุราและบรรยากาศการร่ำสุรา ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม คนทั้งสองประเภทนี้นิยมชมชอบการออกจากบ้านมาดื่มสุราในที่สาธารณะเพื่อการพบปะผู้คน อาจมีบางประเภทที่ เพียงชมชอบรสสุราแต่ไม่ขอบบรรยากาศการร่ำสุรา คนพวกนี้จะซื้อสุรากลับบ้านไปดื่มกินตามลำพัง ลางเนื้อชอบลางยาผิดแผกแตกต่างกัน


แต่หลายคนไม่เพียงชื่นชมรสสุราและบรรยากาศการร่ำสุราเท่านั้น ทั้งยังชื่นชอบคนขายสุราด้วย คนขายสุราย่อมมิอิทธิพลต่อบรรยากาศและรสชาติของสุรา ถ้าเป็นสตรีมาขายย่อมมีลูกค้าฝ่ายชายมาอุดหนุน ต่อให้เป็นน้ำเปล่ายังเมามายได้ บางคนก็ชมชอบการพูดคุยกับเจ้าของร้านชราเนื่องเพราะได้ความรู้เรื่องราวเก่าแก่มากมาย

แต่คาดว่าในโรงเตี๊ยมแห่งนี้หลายคนยังคงมีจุดประสงค์อื่นนอกเหนือกว่านี้
จอมมารคอหอยส่งเงินจำนวนหนึ่งให้คนขาย แล้วจอกสุราทยอยดื่มติดต่อกันห้าจอกรวดนับว่าเชี่ยวชาญการดื่มสุราสมุนไพรระดับสูง ก่อนใช้มือขวาตบแผ่นไม้กระดานโครม จอกสุราที่เหลือลอยวูบขึ้น มันยกแขนซ้ายใช้ท่อนแขนรับจอกสุราวางเรียงรายบนท่อนแขน สายตากวาดส่ายไปมาหาโต๊ะว่าง ซึ่งความจริงยังมี แต่มันพาลเดินมาที่โต๊ะของกระบี่แสนหล่อ


“ข้าจะนั่งที่นี่”

ว่าพลางสะบัดแขนซ้าย จอกสุราทั้งห้าร่อนลงวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะอย่างสวยงาม แล้วพาลนั่งลงตรงกันข้ามกับกระบี่แสนหล่อและทวนค้ำฟ้า ข้างซ้ายมือของมันเป็นกระบี่หรรษาซึ่งยังคงหัวร่อในลำคอไม่ยอมหยุด

“ใครเชิญท่านนั่ง” ทวนค้ำฟ้าส่งเสียงเย็นชา

“ไม่มีใครเชิญ ข้าเชิญตัวเอง”

“นี่โต๊ะเรา พวกเรานั่งก่อนท่าน”

จอมมารคอหอยเบ่งตากว้าง ร้องเสียงดังอย่างไม่ยอมยอมว่า

“นั่งก่อนนั่งหลังมีความหมายใดกัน ความจริงเราท่านต่างเป็นแขกของที่นี่ โต๊ะเหล่านี้เจ้าของที่แท้จริงคือเจ้าของร้าน หาใช่พวกท่านเป็นเจ้าของไม่ ท่านนั่งก่อนสามารถเป็นเจ้าของโต๊ะได้หรืออย่างไรกัน ไม่เช่นนั้นผู้คนสร้างบ้าน เราเข้าไปนอนก่อนไยมีใช่กลับกลายเป็นเจ้าของบ้านไปแล้ว”

ทวนค้ำฟ้าได้แต่อึ้งพูดจาไม่ออก จอมมารผู้นี้นับว่าร้ายกาจจริงๆ ตอนนี้พาลมาเป็นมารคอหอยในการดื่มสุราดองของโต๊ะนี้ไปแล้ว

เด็กดูแลโต๊ะนำจานและตะเกียบมาวางให้ จอมมารกลับไม่สั่งอะไรเพิ่มเติม นั่นแสดงว่ามันเริ่มจะใช้วิชามารคอหอย

ความน่ากลัวของจอมมารผู้นี้ไม่ใช่อยู่ที่ฝีมือในการเข่นฆ่าล้างผลาญ แต่อยู่ที่การมีพรสวรรค์ในการขัดขวางความสุขของผู้คนไปทุกๆเรื่อง  ท่านคิดจะดื่มสุรา มันฉกฉวยสุราของท่านไปต่อหน้าต่อตา

ท่านปวดท้องคิดเข้าห้องน้ำ มันจะไปนั่งยิ้มรับหน้าท่านอยู่ในห้องน้ำก่อนท่าน คนเฉกเช่นนี้ยังสามารถมีในโลกได้

ในจานของกระบี่หรรษามีลูกชิ้นเหลืออยู่สี่ลูก ในจานของทวนค้ำฟ้ามีน่องไก่อยู่หนึ่งน่อง ในจานของกระบี่แสนหล่อมีแมงจินูนคั่วอยู่สามตัวนอนเรียงราย กลางโต๊ะมีส้มตำรสเผ็ดดุเดือดจานหนึ่ง พวกมันคิดเสียใจว่าไม่น่าปล่อยให้เหลือรอดจนบัดนี้

คนทั้งสี่ได้แต่จับตะเกียบไว้มั่น บรรยากาศตึงเครียดแทบปะทุ มีแต่กระบี่หรรษาซึ่งจ้องมองลูกชิ้นในจานของตนเองแล้วหัวร่อคิกคักเพราะมันรู้สึกว่าลูกชิ้นในจานน่าขบขันน่าหัวร่อเป็นอย่างยิ่ง ทำไมลูกชิ้นมันกลมๆป้อมๆแบบนี้ เอาตะเกียบเขี่ยไปมาก็พากันกลิ้งไปมาวิ่งเล่นอยู่ในจาน ทั้งที่ไม่มีแขนขา ยิ่งคิดยิ่งขำ


โต๊ะนั้นจึงตกอยู่ในสภาพประหลาดพิสดารจนน่าขนลุก




*******

จากคุณ : Psycho man
เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 11:04:26




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com