Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ล่าพระจันทร์ Luna in the darkness 11 ติดต่อทีมงาน

สวัสดีค่ะ

ตอนนี้ยูเลียสยิ่งเร่งการตามล่าลูน่าเข้าไปใหญ่ ลูน่าจะหนีพ้นไหม
เชิญติดตามต่อได้เลยค่ะ

 

ขอบคุณที่มอบกิฟให้นะคะ  Travel to the moon, กาแฟเย็นเพิ่มช็อต, สามปอยหลวง

 

ความเดิม ตอนที่ 10 ค่ะ

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11861456/W11861456.html

 

===============================================

 

11

 

ห้องสี่เหลี่ยมมืดทึบผนังบุด้วยเหล็กหนาสีเทา ช่องเหนือเพดานเปิดกว้างแค่คืบเดียว แสงสว่างส่องลอดมาได้น้อยนิด ท่อส่งน้ำเหนือห้องรั่วน้ำหยดเล็กๆ ร่วงหล่นลงห้องที่มืดมิดจนเปียกโชก  ข้างใต้กลิ่นสนิมเหล็กผสมกับกลิ่นสาบสางอบอวลยิ่งกว่าห้องทิ้งขยะ

 

 

กระนั้นผู้คนที่เดินผ่านไปมาก็ไม่สะดุ้งสะเทือนกับกลิ่นอันร้ายกาจนี้ สถานที่นี่คือแหล่งชุมนุมแวมไพร์ที่ใหญ่ที่สุดในลอนดอน มาร์เลน่าไฮเด้นคลับ สโมสรชั้นสูงมีทั้งเชื้อพระวงศ์และซุปเปอร์สตาร์ที่มีชื่อเสียงใช้บริการมากที่สุด มีทั้งสปอร์ตคลับ สนามกอล์ฟ สระว่ายน้ำ ห้องบันเทิงสนองความต้องการทุกรูปแบบ ค่าสมาชิกก็แสนแพงถึงปีละแสนปอนด์ สโมสรในยามค่ำนั้นมีคนอีกจำพวกหนึ่งใช้เป็นสถานที่มั่น อันมีทั้งแวมไพร์ ทั้งข้ารับใช้ดูแลด้วยเทคโนโลยีทันสมัย คอยสอดส่องทุกคน ทุกห้อง ทุกอย่างที่เข้ามาในรัศมี กล้องอินฟาเรดตัวหนึ่งฉายภาพห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ ที่อยู่ต่ำสุด

 

 

น้ำหยดเล็กๆ ร่วงลงมากระทบปลายนิ้วเปาะแปะ ร่างที่นอนนิ่งไม่รู้สึก รู้สมกับสัมผัสอันแผ่วเบาของน้ำ ทั้งที่ร่างเปียกโชกชุ่มฉ่ำ แต่ข้างในเขาแห้งผาก มันร้อนรุ่มด้วยการเผาผลาญพลังงานจนแทบไม่เหลือ ลูน่าหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน เรี่ยวแรงน้อยลงเรื่อยๆ  เธอไม่ได้กินอะไรเลยในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ความกระหายกำลังจะฆ่าเธออย่างช้าๆ  โซ่ล่ามปลายเท้าดังกรุ๊งกริ๊งทุกครั้งที่ขยับตัว ดวงตาที่แห้งผากลืมตาขึ้นมองแสงสว่างอย่างยากเย็น เห็นร่างใครต่อใครเดินผ่านตะแกรงข้ามหัวเขาไปมาเป็นร้อยๆ  ไม่มีใครสนใจ

 

 

“พระเจ้า...” เธอครางเสียงแหบแห้ง “ให้...มันจบเร็วๆ ด้วยเถอะ....ให้มัน...จบเสีย”

 

 

ลูน่าถวิลหาความตายอย่างที่สุด ก่อนที่เธอจะทรมานไปมากว่านี้ และก่อนที่อะไรๆ มันจะเลวร้ายไปอีก จู่ๆ เหมือนจะมีแสงจากสวรรค์ เธอรู้สึกถึงแสงสว่างจ้าที่สาดส่องลงมาจนลืมตาไม่ขึ้น ร่างทั้งร่างอุ่นสบายความรู้สึกล่องลอยในแสงก่อนจะทุกสิ่งทุกอย่างจะหายวับไป

 

 

“หวา!!!” แวมไพร์ตนหนึ่งที่เดินผ่านตะแกรงเหนือศีรษะของลูน่า    สะดุดบางอย่างล้มคว่ำลงบนทางเดิน มีบางอย่างคว้าข้อเท้าเขาไว้ 

 

 

“อ้ากกกกก!!!!” แวมไพร์ตนนั้นยังไม่ทันหันไปมอง ร่างทั้งร่างสะดุ้งเกร็งด้วยความเจ็บปวด เส้นเลือดบนใบหน้าเกร็งปูดเปลี่ยนเป็นสีคล้ำ ผิวขาวซีดกลายเป็นสีผักเน่าแล้วหืดแห้งหาย สลายกลายเป็นฝุ่นในทันที 

 

 

แวมไพร์ตนอื่นๆ  ที่เห็นเหตุการณ์ถึงกับผงะ ไม่กล้าเข้าใกล้ด้วยความกลัว  เมื่อพบว่าอสูรร้ายต้นเหตุที่ดูดชีพแวมไพร์ด้วยกันคือคนในกรงเบื้องล่างนี้    ในที่นี้ไม่มีใครสักคนที่สามารถ ’กิน’   พวกเดียวกันได้อย่างนายท่านได้สักตน

 

 

ร่างเล็กที่เกาะตะแกรงเหล็กอยู่นั่นกลืนกินพลังชีวิตผู้อื่นด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะอิ่มเธอกระโจนลงพื้นคล่องแคล่วราวกับสัตว์ป่า ดวงตาสีแดงเลือดเปล่งประกายในความมืดจ้องมองขึ้นราวกับอสูรร้าย  สัญชาติดิบครอบงำความรู้สึกนึกคิดทั้งหมด ผลักดันให้คำรามออกมาอย่างดุดันผนังห้องถึงกับสั่นสะเทือนรู้สึกไปทั่วทั้งสโมสร  ตะแกรงเหล็กด้านบนปลิวหลุดไปตามพลังนั้น

 

 

แก้วไวน์เลือดสะท้อนเป็นวง ให้เจ้าของแก้วเหลือบมองจอมอนิเตอร์ฉายภาพห้องใต้ดิน เห็นการเคลื่อนไหวทุกอย่าง พลังสัญชาติญาณดิบของแวมไพร์นี่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นได้กับทุกตน แต่กับลูน่าแล้ว...เหมือนทุกอย่างจะเกิดขึ้นได้เสมอ  ยูเลียสหมุนแก้วไวน์ในมือไปมา ระหว่างนั่งรอผลวิเคราะห์เลือดจากห้องแล็บขนาดใหญ่ วิทยาศาสตร์หาคำตอบให้ได้ทุกเรื่อง เขาชักเชื่อแล้วสิ

 

 

ร่างสูงลุกจากเก้าอี้ เมื่อคนในห้องทดลองฆ่าเชื้อพยักหน้าให้เข้าไปได้  ดร.เกรทกับทีมงานรออยู่ บนจอมอนิเตอร์มีภาพจากกล้องจุลทรรศน์ฉายให้เห็นความแตกต่างของเม็ดเลือด และอื่นอีกมากมายที่ยูเลียสดูยังไงก็ไม่เข้าใจ

 

 

“ว่าไป”

 

 

“ขอรับ” ดร. เกรท ชี้ไปที่จอภาพสองจอ เปรียบเทียบเลือดแวมไพร์กับเลือดของลูน่าให้เห็นชัดเจน เม็ดกลมเหมือนเม็ดถั่วในจอของลูน่ามีมากกว่าและสีเข้มกว่า

 

 

 

 

“โดยปกติแล้ว แวมไพร์อย่างพวกเราจะมีในปริมาณฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงต่ำกว่ามนุษย์ถึง 1,000 เท่า ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่น้อย ทำให้เราต้องหาเลือดจากมนุษย์มาทดแทน แต่เมื่อเทียบกับลูน่าแล้ว เขามีฮีโมโกบินเท่ามนุษย์ปกติ   ซึ่งสาเหตุนั้นเชื่อว่าน่าจะมาจากสารที่เราไม่รู้จักในร่างกายของเธอ”

 

 

“สารอะไร??”

 

 

“เชิญดูทางนี้เลยครับ” ดร.เกรทชี้ให้ดู ภาพสแกนอวัยวะภายใน

 

 

"เลือดในร่างกายของคนเราถูกสร้างออกมาจากแกนกลางของกระดูก  เรียกว่าง่ายๆไขกระดูกนั่นเอง  แล้วไปถูกส่งไปพัฒนาให้ทำงานได้เต็มที่ยังม้าม  ส่วนสารประหลาดที่ว่านั้นพบมากที่บริเวณม้ามเช่นกัน มันทำให้เลือดของลูน่ามีลักษณะพิเศษกว่าแวมไพร์อื่นตรงที่  ปริมาณฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดที่ติดเชื้อแวมไพร์ไม่ลดลง  ยังผลให้ร่างกายเขามีความสามารถเยี่ยงแวมไพร์  แต่สามารถทนต่อรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงอาทิตย์ได้เกือบเท่ามนุษย์ปกติ  เป็นไปได้ว่าสารที่ว่านั้นทำปฏิกิริยากับเชื้อแวมไพร์ในร่างกาย"

 

 

        ด.ร เกรทอธิบายต่อไป

 

 

"เมื่อแวมไพร์พบกับแสงแดด  จะเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ในระบบเซลล์สร้างพลังเกินขีดจำกัดที่ร่างกายจะควบคุมไว้ได้  ทำให้ร่างกายเกิดการลุกไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว   ทว่าลูน่าไม่มีปฏิกิริยานี้ขึ้นเลย  ร่างกายเธอแทบจะเหมือนมนุษย์ปกติ   ซึ่งตรงนั้นน่าจะเป็นเพราะว่าเขาได้รับสารปริศนานั่นมาเป็นเวลานาน  และสารนั้นไปปรับเปลี่ยนเชื้อแวมไพร์ให้เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย"

 

 

“เจ้ากำลังจะบอกข้าว่า...

 

 

 

จากคุณ : นวลน้ำผึ้ง
เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 15:58:48




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com