11
ห้องสี่เหลี่ยมมืดทึบผนังบุด้วยเหล็กหนาสีเทา ช่องเหนือเพดานเปิดกว้างแค่คืบเดียว แสงสว่างส่องลอดมาได้น้อยนิด ท่อส่งน้ำเหนือห้องรั่วน้ำหยดเล็กๆ ร่วงหล่นลงห้องที่มืดมิดจนเปียกโชก ข้างใต้กลิ่นสนิมเหล็กผสมกับกลิ่นสาบสางอบอวลยิ่งกว่าห้องทิ้งขยะ
กระนั้นผู้คนที่เดินผ่านไปมาก็ไม่สะดุ้งสะเทือนกับกลิ่นอันร้ายกาจนี้ สถานที่นี่คือแหล่งชุมนุมแวมไพร์ที่ใหญ่ที่สุดในลอนดอน มาร์เลน่าไฮเด้นคลับ สโมสรชั้นสูงมีทั้งเชื้อพระวงศ์และซุปเปอร์สตาร์ที่มีชื่อเสียงใช้บริการมากที่สุด มีทั้งสปอร์ตคลับ สนามกอล์ฟ สระว่ายน้ำ ห้องบันเทิงสนองความต้องการทุกรูปแบบ ค่าสมาชิกก็แสนแพงถึงปีละแสนปอนด์ สโมสรในยามค่ำนั้นมีคนอีกจำพวกหนึ่งใช้เป็นสถานที่มั่น อันมีทั้งแวมไพร์ ทั้งข้ารับใช้ดูแลด้วยเทคโนโลยีทันสมัย คอยสอดส่องทุกคน ทุกห้อง ทุกอย่างที่เข้ามาในรัศมี กล้องอินฟาเรดตัวหนึ่งฉายภาพห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ ที่อยู่ต่ำสุด
น้ำหยดเล็กๆ ร่วงลงมากระทบปลายนิ้วเปาะแปะ ร่างที่นอนนิ่งไม่รู้สึก รู้สมกับสัมผัสอันแผ่วเบาของน้ำ ทั้งที่ร่างเปียกโชกชุ่มฉ่ำ แต่ข้างในเขาแห้งผาก มันร้อนรุ่มด้วยการเผาผลาญพลังงานจนแทบไม่เหลือ ลูน่าหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน เรี่ยวแรงน้อยลงเรื่อยๆ เธอไม่ได้กินอะไรเลยในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ความกระหายกำลังจะฆ่าเธออย่างช้าๆ โซ่ล่ามปลายเท้าดังกรุ๊งกริ๊งทุกครั้งที่ขยับตัว ดวงตาที่แห้งผากลืมตาขึ้นมองแสงสว่างอย่างยากเย็น เห็นร่างใครต่อใครเดินผ่านตะแกรงข้ามหัวเขาไปมาเป็นร้อยๆ ไม่มีใครสนใจ
พระเจ้า... เธอครางเสียงแหบแห้ง ให้...มันจบเร็วๆ ด้วยเถอะ....ให้มัน...จบเสีย
ลูน่าถวิลหาความตายอย่างที่สุด ก่อนที่เธอจะทรมานไปมากว่านี้ และก่อนที่อะไรๆ มันจะเลวร้ายไปอีก จู่ๆ เหมือนจะมีแสงจากสวรรค์ เธอรู้สึกถึงแสงสว่างจ้าที่สาดส่องลงมาจนลืมตาไม่ขึ้น ร่างทั้งร่างอุ่นสบายความรู้สึกล่องลอยในแสงก่อนจะทุกสิ่งทุกอย่างจะหายวับไป
หวา!!! แวมไพร์ตนหนึ่งที่เดินผ่านตะแกรงเหนือศีรษะของลูน่า สะดุดบางอย่างล้มคว่ำลงบนทางเดิน มีบางอย่างคว้าข้อเท้าเขาไว้
อ้ากกกกก!!!! แวมไพร์ตนนั้นยังไม่ทันหันไปมอง ร่างทั้งร่างสะดุ้งเกร็งด้วยความเจ็บปวด เส้นเลือดบนใบหน้าเกร็งปูดเปลี่ยนเป็นสีคล้ำ ผิวขาวซีดกลายเป็นสีผักเน่าแล้วหืดแห้งหาย สลายกลายเป็นฝุ่นในทันที
แวมไพร์ตนอื่นๆ ที่เห็นเหตุการณ์ถึงกับผงะ ไม่กล้าเข้าใกล้ด้วยความกลัว เมื่อพบว่าอสูรร้ายต้นเหตุที่ดูดชีพแวมไพร์ด้วยกันคือคนในกรงเบื้องล่างนี้ ในที่นี้ไม่มีใครสักคนที่สามารถ กิน พวกเดียวกันได้อย่างนายท่านได้สักตน
ร่างเล็กที่เกาะตะแกรงเหล็กอยู่นั่นกลืนกินพลังชีวิตผู้อื่นด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะอิ่มเธอกระโจนลงพื้นคล่องแคล่วราวกับสัตว์ป่า ดวงตาสีแดงเลือดเปล่งประกายในความมืดจ้องมองขึ้นราวกับอสูรร้าย สัญชาติดิบครอบงำความรู้สึกนึกคิดทั้งหมด ผลักดันให้คำรามออกมาอย่างดุดันผนังห้องถึงกับสั่นสะเทือนรู้สึกไปทั่วทั้งสโมสร ตะแกรงเหล็กด้านบนปลิวหลุดไปตามพลังนั้น
แก้วไวน์เลือดสะท้อนเป็นวง ให้เจ้าของแก้วเหลือบมองจอมอนิเตอร์ฉายภาพห้องใต้ดิน เห็นการเคลื่อนไหวทุกอย่าง พลังสัญชาติญาณดิบของแวมไพร์นี่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นได้กับทุกตน แต่กับลูน่าแล้ว...เหมือนทุกอย่างจะเกิดขึ้นได้เสมอ ยูเลียสหมุนแก้วไวน์ในมือไปมา ระหว่างนั่งรอผลวิเคราะห์เลือดจากห้องแล็บขนาดใหญ่ วิทยาศาสตร์หาคำตอบให้ได้ทุกเรื่อง เขาชักเชื่อแล้วสิ
ร่างสูงลุกจากเก้าอี้ เมื่อคนในห้องทดลองฆ่าเชื้อพยักหน้าให้เข้าไปได้ ดร.เกรทกับทีมงานรออยู่ บนจอมอนิเตอร์มีภาพจากกล้องจุลทรรศน์ฉายให้เห็นความแตกต่างของเม็ดเลือด และอื่นอีกมากมายที่ยูเลียสดูยังไงก็ไม่เข้าใจ
ว่าไป
ขอรับ ดร. เกรท ชี้ไปที่จอภาพสองจอ เปรียบเทียบเลือดแวมไพร์กับเลือดของลูน่าให้เห็นชัดเจน เม็ดกลมเหมือนเม็ดถั่วในจอของลูน่ามีมากกว่าและสีเข้มกว่า
โดยปกติแล้ว แวมไพร์อย่างพวกเราจะมีในปริมาณฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงต่ำกว่ามนุษย์ถึง 1,000 เท่า ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่น้อย ทำให้เราต้องหาเลือดจากมนุษย์มาทดแทน แต่เมื่อเทียบกับลูน่าแล้ว เขามีฮีโมโกบินเท่ามนุษย์ปกติ ซึ่งสาเหตุนั้นเชื่อว่าน่าจะมาจากสารที่เราไม่รู้จักในร่างกายของเธอ
สารอะไร??
เชิญดูทางนี้เลยครับ ดร.เกรทชี้ให้ดู ภาพสแกนอวัยวะภายใน
"เลือดในร่างกายของคนเราถูกสร้างออกมาจากแกนกลางของกระดูก เรียกว่าง่ายๆไขกระดูกนั่นเอง แล้วไปถูกส่งไปพัฒนาให้ทำงานได้เต็มที่ยังม้าม ส่วนสารประหลาดที่ว่านั้นพบมากที่บริเวณม้ามเช่นกัน มันทำให้เลือดของลูน่ามีลักษณะพิเศษกว่าแวมไพร์อื่นตรงที่ ปริมาณฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดที่ติดเชื้อแวมไพร์ไม่ลดลง ยังผลให้ร่างกายเขามีความสามารถเยี่ยงแวมไพร์ แต่สามารถทนต่อรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงอาทิตย์ได้เกือบเท่ามนุษย์ปกติ เป็นไปได้ว่าสารที่ว่านั้นทำปฏิกิริยากับเชื้อแวมไพร์ในร่างกาย"
ด.ร เกรทอธิบายต่อไป
"เมื่อแวมไพร์พบกับแสงแดด จะเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ในระบบเซลล์สร้างพลังเกินขีดจำกัดที่ร่างกายจะควบคุมไว้ได้ ทำให้ร่างกายเกิดการลุกไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว ทว่าลูน่าไม่มีปฏิกิริยานี้ขึ้นเลย ร่างกายเธอแทบจะเหมือนมนุษย์ปกติ ซึ่งตรงนั้นน่าจะเป็นเพราะว่าเขาได้รับสารปริศนานั่นมาเป็นเวลานาน และสารนั้นไปปรับเปลี่ยนเชื้อแวมไพร์ให้เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย"
เจ้ากำลังจะบอกข้าว่า...?