Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
...Dragon Delivery...#18 (3/5 ครึ่งแรก) ติดต่อทีมงาน

http://writer.dek-d.com/lawit/writer/view.php?id=738340

###

ทีละครึ่งก่อนเน้อ > <'

###

๓.

เรนากำลังหงุดหงิดใจ

"ซีมาร์ต" เธอเรียก

"ครับ" อีกฝ่ายรับอย่างหน้าชื่นตาบาน

"โซลโทเป็นใคร" หญิงสาวถามคำถามดังกล่าวเป็นครั้งที่ล้าน  นี่ยังไม่นับครั้งที่เธอหลอกถามด้วยวิธีอื่น ๆ เอาสีข้างเข้าถูต่าง ๆ  และไม่นับที่เธอพยายามถามฟริธ มาโค ดรินาเซีย รวมทั้งป้าร้านดอกไม้ตรงหัวมุมนั่นด้วย

ซีมาร์ตเพียงแต่ยิ้ม

"ข้าตอบไม่ได้"

"ตอบไม่ได้ข้าจะออกไปได้ยังไงเล่า!" เรนาระเบิดตูมเหมือนท่านตา "นี่ ตาซีมาร์ตใจร้าย  เจ้าอยากให้เมืองซีเลถูกดูดพลังจนกลายเป็นน้ำแข็งตลอดไปหรือไง!"

"ข้าตอบไม่ได้จริง ๆ  เจ้าต้องหาด้วยตัวเอง" พระรองตลอดกาลของเธอบอกอย่างสงบ "เรนา...สิ่งที่สูญหาย  จะต้องหาด้วยตัวเอง"

...

หลานสาวร้านเฮเบลมาถึงที่นี่เมื่อหลายวันก่อน   หรืออย่างน้อยก็น่าจะเป็นอย่างนั้น   เธอไม่แน่ใจ  จำได้เพียงว่าตอนฟื้นขึ้นมาอยู่ที่ไหนไม่ทราบ  เธอตกใจมาก  ยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ตอนมองรอบตัว  แล้วเริ่มจำสิ่งต่าง ๆ ได้ช้า ๆ แน่นอนว่าเรนาเป็นคนเขียนเอง  ต่อให้ตัวอักษรไม่อาจถ่ายทอดทั้งหมดได้   แต่สิ่งที่เธอจินตนาการไว้ในใจ เธอก็ต้องจำได้อยู่ดี

"ที่นี่..." เรนาตกใจจนออกปาก

"ที่นี่คือเอลิส" ใครบางคนปรากฏตัวขึ้นข้าง ๆ   หญิงสาวหันไปมอง...ยิ่งตกใจ  คนตัวเล็กหน้าตาเหมือนคนต่างชาติ  ชอบยิ้มลึกลับอย่างนั้น  จะเป็นใครไปได้

ซีมาร์ตแห่งเอลิสดึงแขนเธอออกวิ่งทันที

เขาวิ่งเร็วมาก  เรนารั้งแขนกลับไม่ทัน  ระหว่างที่วิ่งไปนั้น  เธอก็รู้สึกว่ามีเงามังกรผ่านศีรษะ  หนึ่งเงา...สองเงา หญิงสาวแปลกใจจึงหันกลับไป  ที่หางตาเธอเห็นมังกรสีทองแดงและสีฟ้า  เธอจำได้  มันคือมังกรของฟริธและดรินาเซีย

สองคนนั้นก็เป็นตัวละครของเธอเหมือนกัน  ฟริธเป็นบัณฑิต  ดรินาเซียเป็นนักรบ  เรนาชอบทั้งคู่มาก  เลยเขียนให้เป็นตัวเอกไปผจญภัยหลายครั้ง  ทั้งสองเป็นนักขี่มังกรมีความสามารถ  เคยรบใหญ่ ๆ มาแล้วมากมาย  ถึงอย่างนั้นสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคนทั้งสองกลับแปลกตาออกไป  เรนาก็ไม่แน่ใจว่าเป็นฉากใด ๆ จากเรื่องที่เธอเขียนเลย

"นั่น...นั่นอะไร"

ท้องฟ้าที่ฟริธกับดรินาเซียมุ่งไปเปิดเป็นช่องใหญ่  เป็นความไม่มีอะไรที่มืดมิดไร้ต้นไร้ปลาย  ช่องดังกล่าวคล้ายจะกว้างขึ้น  คล้ายกำลังกัดกินท้องฟ้าสีครามของเอลิสเข้าไป  แต่ยามฟริธร่ายคาถา  ก็คล้ายมันจะชะงักไว้  มีเสียงคำรามครั่นครื้นด้วยความโกรธแค้นตามมา

"ซีมาร์ต!" เธอเรียกคนที่ยังรั้งแขนตนไว้ "นั่นอะไร"

"อย่าหันไปมอง!"

พ่อมดแห่งเอลิสลากเธอผ่านเข้าประตูเมืองจนได้  เรนาวิ่งจนสิ้นแรง  แทบจะฟุบลงไป  แต่ว่าก่อนจะพูดอะไรต่อ  เธอก็ได้ยินเสียงปิดประตูเมืองดังปึง  และเสียงของยามที่เป็นภูตแผ่นดินร่ายคาถา  ไม่ช้าประตูใหญ่นั้นก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นดิน  และโดมลวงตาก็ครอบโค้งบังเอลิสไว้จากเบื้องบน

"ไม่เป็นไรแล้ว  เรนา"

หญิงสาวหันกลับไป  ครั้นแล้วเธอก็ตกใจ  เบื้องหลังซีมาร์ตมีคนยืนอยู่มากมาย  คนเหล่านั้น...เรนาจำได้  จำได้จนถึงคนสุดท้าย  ก็หลายต่อหลายปีที่ผ่านมา  ตั้งแต่เธออายุเก้าขวบ  ตั้งแต่ตอนที่พ่อกับแม่ตาย  ท่านตายุ่งมากเกินไป  และพี่เทย์มีปัญหาของตัวเอง  ทุกคนก็อยู่เป็นเพื่อนของเรนา   เธอเขียนถึงพวกเขาด้วยความรักมาหลายปี

"ทุกคน...เกิดอะไรขึ้น" หญิงสาวไม่มีความกลัว  เพียงแต่รู้สึกตกใจ...และดีใจ "ทำไมมาอยู่ที่นี่  ข้าฝันไปหรือ  ใช่ไหม"

เธอดีใจมากนัก  ก็อยากเข้าไปใกล้  อยากคุยกับพวกเขา  อยากรู้ว่าทุกคนรู้สึกอย่างไร  เธออยากเห็นเอลิส...เมืองที่อยู่ในใจ  ใครคนหนึ่งในนั้นท่าทางเขินอายพอ ๆ กับเรนา  ก็ส่งช่อดอกไม้ให้เธอ

"เรนา" ซีมาร์ตเป็นคนพูดก่อน  เสียงของเขาอ่อนโยน  ชายหนุ่มจับไหล่เธอไว้ "มีอันตรายอยู่ข้างนอก  มีคนพยายามควบคุมจิตของเจ้า  แต่หมอนั่นไม่อ่านเรื่องราว  ไม่ทราบจิตใจของผู้เล่าเรื่องกว้างใหญ่เพียงไร  แม้ตอนนี้พวกเราจะช่วยพาเจ้าออกไปไม่ได้  แต่จะปกป้องเจ้าไว้   เมืองเอลิสจะเป็นที่ปลอดภัย"

และหลังจากนั้น  เอลิสก็เป็นที่ปลอดภัย

เรนาออกไปไม่ได้  แต่ดูเหมือนพวกตัวละครอย่างฟริธ ดรินาเซีย ซีมาร์ต หรือมาโค จะไปมาได้  พวกเขาไม่ได้มีชีวิตจริง ๆ  ดังนั้นจึงไม่ได้ตาย  คนเหล่านั้นปกป้องเรนาไว้ในเมืองแห่งนี้   กดช่องมืดมิดบนท้องฟ้าไม่ให้ขยายออกไป พวกเขาค่อย ๆ อธิบายให้เธอฟัง  เรื่องไซธีน เอชานที่กลับมา  เรื่องเธอถูกยึดครองจิตใจเพราะเป็นทายาทของไอดา  และเรื่องที่เขากำลังพยายามสูบพลังจากเมืองไป

"ข้าต้องกลับ" เรนาบอกทันทีที่เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร

"เจ้ากลับไปไม่ได้" คนเหล่านั้นอธิบาย "เจ้าถูกทำให้ลืม"

"หือ ลืมอะไร" หญิงสาวไม่เข้าใจ

พวกเขามองหน้ากัน  ก่อนจะพูดชื่อขึ้นมา  ตั้งแต่ตอนนั้นเรนาจึงทราบว่าเธอลืม "โซลโท" ไป  แต่หลานสาวร้านเฮเบลไม่เข้าใจว่าโซลโทเป็นอะไร  คน ภูต สถานที่ สัตว์ พืชผัก หรือแร่ธาตุ  ที่จริงเธอถึงกับจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยได้ยินชื่ออะไรอย่างนั้นมาก่อนเลย

"สรุปว่าโซลโทอะไรนั่นคืออะไรหรือ  แล้วทำไมข้าต้องจำให้ได้"

"เพราะตราบใดที่เจ้าจำไม่ได้  ไซธีนที่ควบคุมจิตใจของเจ้าอยู่จะยังมีอำนาจ" ซีมาร์ตอธิบาย "เขาเองเป็นคนจงใจทำให้เจ้าลืม  แต่เมื่อถูกทำให้ลืมเช่นนี้  ไม่ว่าใครก็บอกให้เจ้าฟังไม่ได้  ทันทีที่คนอื่นบอก  เจ้าจะลืมไป  มีแต่ต้องหาให้เจอ  ต้องนึกให้ออกด้วยตัวเอง"

"งั้นหรือ  แล้วโซลโทอยู่ที่ไหนเล่า" เรนาจัดแจงเตรียมเนื้อเตรียมตัว

"ไม่มีใครรู้  แต่ในโลกของหัวใจ  ความทรงจำไม่เคยสูญหาย" พ่อมดแห่งเอลิสบอกเธอ "มันจะอยู่ที่ใดสักแห่งเสมอ  แต่เจ้าเองต้องหาให้เจอ"

ตั้งแต่ตอนนั้น เรนาจึงค้นหา "โซลโท"

แน่นอนว่าด้วยนิสัยของเธอ  หลานสาวร้านเฮเบลก็ถามหาก่อนว่าห้องสมุดอยู่ที่ไหน  แต่คนอื่น ๆ เพียงบอกว่าที่นี่ไม่มีห้องสมุดที่จะมีโซลโทหรอก  และหอสูงคล้ายหอไอดานั้นก็ไม่ใช่หอสมุดแห่งอย่างใด  ซีมาร์ตบอกว่าหอดังกล่าว ซึ่งเดี๋ยวก็มาเดี๋ยวก็หายคือหัวใจของเธอ  เขาบอกว่าน้อยคนเต็มทีที่จะเข้าไปดูหัวใจของตนตามลำพังได้  เพราะอย่างนั้นเรนาจึงไม่ควรรีบเข้าไป  เธอควรจะหาให้เจอ

เรนาหงุดหงิด  เธอไม่ชอบความรู้สึกว่าทำอะไรไม่ได้   ความรู้สึกกังวลใจถ่วงลึก  แม้หญิงสาวจะรู้สึกสนุกที่ได้เดินในเมืองซึ่งเธอเองเป็นผู้เขียนขึ้นมา เอลิสเป็นเมืองเล็ก...ซึ่งที่จริงก็ไม่ค่อยเล็กเท่าไร เพราะมันจะกว้างใหญ่และเล็กลงเท่าที่จินตนาการของเรนาไปได้เสมอ  บางทีมันเหมือนหมู่บ้าน  เดินไปเดินมาชั่วไม่กี่หลังคาเรือนก็ทั่ว  บางทีมันก็เป็นมหานครใหญ่โตโอฬาร  บางทีนอกกำแพงก็มีเสียงหวี่หวู่คล้ายพายุทราย  บางทีเดิน ๆ ไปก็เจองานสังสรรค์เฮฮา

ทุกครั้งที่ผู้คนว่างจากบทบาทของตน  เขาจะร้องเรียกชวนเรนา  เชิญมาพูดคุยและบางทีก็บ่นใส่บ้าง  ตอนแรกหญิงสาวคิดว่าบางคนที่ถูกเธอ "แกล้ง" จะโกรธเอา  แต่นอกจากคำบ่นว่าอะไรจะโหดร้ายกับพวกข้านัก  กลับไม่มีใครว่าอะไร  ที่นี่คือดินแดนซึ่งดำรงอยู่ท่ามกลางความจริงและไม่จริง  ไม่เคยมีใครเป็นอะไร  ไม่เคยมีใครที่ต้องตายอย่างแท้จริง

"ถ้าหากคนเขียนมีอำนาจมากพอ  ถ้าหากเขียนเรื่องได้ดีพอ" คนพวกนั้นบอกเธอ "พวกเราจะยังคงอยู่  แม้คนที่สร้างเรื่องจะไม่อยู่แล้ว  ก็เหมือนไอดาใช่ไหมเล่า  เธอสร้างเมืองซีเล  จนถึงเดี๋ยวนี้ซีเลก็ยังอยู่   ผู้คนก็ยังคงจดจำไอดาได้  ว่าไป  พวกเราก็เป็นส่วนหนึ่งของเจ้า  เจ้ามองเห็นโลกอย่างไร  มันก็สะท้อนอยู่ในพวกเรา"

เรนาฟังคำเหล่านั้นด้วยความรู้สึกหลายอย่าง  แต่ส่วนใหญ่แล้ว  นอกจากความรุ่มร้อนว่าซีเลจะมีปัญหา  หญิงสาวกลับคล้ายสัมผัสได้ถึงความสงบใจ  เธอรักเรื่องราวเหล่านี้หรือไม่ใช่  เพราะอย่างนั้นจึงเล่าถึงมันออกมา  บางทีสมาคมกวีจะนำไปเล่าหรือไม่  จะพิมพ์ออกมาหรือเปล่า  ก็อาจไม่สำคัญอะไร   ขอให้มีคนอ่าน  มีคนฟัง  มีคนรับทราบว่าเมืองเอลิสของเธองดงามอย่างไร  เท่านั้นก็น่าจะพอ

ชั่วขณะที่นึกถึงการร่วมรับรู้นั้นเอง  เรนาก็ชะงักไป

เธอเหลียวหลัง   รู้สึกคล้ายมีคนเดินผ่านตน   ทว่ากลับไม่เห็นใคร

แต่เงาร่างของคนดังกล่าว  เรนาเหมือนจะจำได้   ในความคิดเลือนรางราวหมอกควัน   เธอจดจำว่าเขาร่างใหญ่...ใหญ่ยิ่งนักราวกับหมี   สูงกว่าเธอตั้งคืบได้   แต่เขาไม่ใช่ท่านตา  เขายังเยาว์วัย

...ใคร...ใคร...

เรนาออกเดินตาม ครั้นแล้วก็กลายเป็นวิ่งโดยไม่รู้ตัว ผมสีแดงยาวสะบัดปลิวไปด้านหลัง ผ่านตรอกหินแคบ ๆ ที่มีขั้นบันได  ผ่านลานกว้างที่เด็กเล่นกัน   ผ่านร้านขายของ  มีคนร้องทักทาย   แต่เรนาไม่ได้ยินถ้อยคำเหล่านั้น  ใจเธอเหมือนจะหาย   เธอจำได้...คนที่รับเรื่องราวไปจากเธอ

ตอนเธอหยุดอีกครั้ง  แว่นตาตกไปอยู่ตรงปลายจมูก   ผมที่อุตส่าห์มัดไว้หลุดลุ่ย   เรนาเสยผมงง ๆ จะหายใจไม่ทัน  สารรูปของเธอดูไม่ได้เพราะวิ่งตามเอาเป็นเอาตาย   สถานที่ที่เธอหยุดอยู่เป็นปากตรอกที่ทอดเข้าไปยังอนธกาล   หญิงสาวจำได้ราง ๆ  ซีมาร์ตเคยบอกว่าเอลิสก็มีส่วนที่ยังไม่ได้สร้าง   ไม่รู้ว่าจะกลายเป็นอะไร  มันก็คือเรื่องราวที่เรนายังตัดสินใจไม่ได้   ยังไม่ได้เล่าหรือเขียนออกมา

หญิงสาวสูดลมหายใจครั้งหนึ่ง  ก่อนจะเดินเข้าไป

ยามข้ามเข้าสู่ตรอก  สิ่งรอบตัวก็สูญหาย  ถนนหินของตรอกทอดไปก่อนจะกลายเป็นพื้นไม้  ถัดจากพื้นไม้กลายเป็นตู้และชั้นหนังสือ เรียงรายเข้าไป ในจักรวาลเวิ้งว้างที่ไม่มีเบื้องบน  ไม่มีต้นและปลาย เรนาจำได้ว่าที่นี่คือชั้นยี่สิบเก้าของหอไอดา

ซีมาร์ตบอกว่าที่นี่ไม่มีห้องสมุด  แต่เรนาคิดว่าที่นี่ต้องเป็นห้องสมุด  ไม่มีทางผิดอะไร  มันคล้ายกัน  แม้จะเป็นเพียงส่วนเดียวเท่านั้น   มีเพียงชั้นที่เธอจำได้  กับซอกแคบ ๆ ด้านหลัง  ยามอ้อมชั้นเข้าไปก็เห็นภูเขาหมอนอิงในซอกดังกล่าว  ที่แห่งนั้นซึ่งเธอซ่อนเรื่องราวไว้มากมาย  จุดกำเนิดของทุกสิ่งทุกอย่าง  ถ้าหากไม่นับตอนมันเกิดขึ้นในใจของเธอ

เธอคุกเข่าลงตรงหน้า "รัง" ของตน  ก่อนจะรู้สึกขึ้นมา...อีกครั้ง

ความรู้สึกนั้น  ร่างใหญ่  ผมเกรียน ๆ และความรู้สึกว่าหน้าตาของเขาไม่ได้หล่อเหลาอะไร   ทว่าบรรยากาศรอบตัวกลับเต็มไปด้วยบางอย่างที่ทำให้สบายใจ  ทำให้วางใจ

"โซลโทหรือเปล่า" หญิงสาวร้องเรียก "โซลโทใช่ไหม..."

ร่างหนึ่งปรากฏขึ้นตรงนั้น  ร่างใหญ่  ผมสีทรายสั้น ๆ  ผิวคล้ำ  ใบหน้าแสนธรรมดาสามัญ

"อา...ใช่  เจ้าหาข้าพบจนได้" ร่างดังกล่าวบอก  ยิ้มให้เธอ "จำข้าได้แล้วใช่ไหม  หือ เรนา"

เรนาลุกขึ้นยืน  เธอไม่แน่ใจ  ร่างตรงหน้าเหมือนในเศษเสี้ยวความทรงจำอย่างยิ่ง   ทว่าอีกที...ไม่ทราบทำไม  ก็มีบางอย่างคล้ายจะแปลกผิดไป  

แต่บางทีเธออาจจะจำผิดก็ได้  ก็เธอจำอะไรเกี่ยวกับ "โซลโท" ไม่ได้สักอย่าง  เธอจะจำได้จริง ๆ หรือว่าเขาเป็นอย่างไร

เธอก็ตามหาอยู่ไม่ใช่หรือ...โซลโทคนนั้น  ถ้าเจอแล้วจะได้ออกไปได้  เขาจะเป็นอะไรก็ช่าง  เธอจะออกไปช่วยท่านตา  ช่วยพี่เทย์  ช่วยซีเล

"ข้าลำบากแทบแย่กว่าจะมาที่นี่ได้  รู้ไหม" โซลโทคนนั้นเอ่ยเสียงละมุน "มาหาข้าสิ  ข้าจะพาเจ้าออกไป  ในที่สุดเราก็ได้เจอเสียกัน"

ดวงตาสีฟ้าของเขาเรืองเป็นประกาย

................................................................................................

จากคุณ : ลวิตร์
เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 02:19:27




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com