Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
* * * PSYCHO FEAR (ปี 2)...เรื่องที่ 7...เงาปริศนา * * * ติดต่อทีมงาน

อพาร์ทเม้นต์สามชั้นที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตก…บนชั้นสองห้องริมสุด บรรดาหนุ่มๆสาวๆกำลังมีปาร์ตี้กันอย่างสนุกสนาน  เพราะเป็นคืนวันเสาร์สุดท้ายของเดือน….เสียงเพลงแผ่วเบา ผสมผสานไปกับเสียงพูดคุยหยอกเย้าของแต่ละคนทำให้บรรยากาศครื้นเครงไม่น้อย…จวบจนเวลาผ่านล่วงเลยไปนานแค่ไหนหามีใครสนใจไม่…


“ พี่แนน  เราออกไปเดินเล่นหาของกินที่เซเว่นกันเถอะ”หมวยหญิงสาวเจ้าของห้องเอ่ยปากชวนคนที่นั่งข้างๆ


“ บ้าน่า…ไม่ตีสองไปแล้วเหรอ  พี่ชักจะง่วงแล้วอ่ะ” แนนหญิงสาวรุ่นพี่คนที่นั่งข้างๆปิดปากหาวก่อนจะยกข้อมือตัวเองขึ้นมาดู



“ตีสองครึ่งอ่ะ…  ไปเถอะพี่แนน  หนูเริ่มมึนแล้ว อยากออกไปเดินยืดแข้งยืดขา  นะพี่แนนนะ” คนชวนเอามือไปเขย่าแขนอีกฝ่ายเบาๆเชิงอ้อน


“ตีสองครึ่งมันดึกแล้วนะ จะเดินออกไปกันยังไงสองคน ”


“ พี่แนนอ่ะ  ทุกครั้งเราก็ไปกันสองคนอยู่แล้ว ”


“แต่ทุกครั้งมันไม่ดึกเหมือนวันนี้นะหมวย  นี่มันดึกแล้ว  เซเว่นอยู่ตั้งหน้าปากซอยแน่ะ  แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง”


“มันไม่มีอะไรหรอกน่า…หนูอยู่แถวนี้มากี่ปีแล้ว  ไปเถอะป่ะ…พี่แนนลุกอย่าพูดมากเดี๋ยวจะดึกมากไปกว่านี้ หนูเริ่มหิวแล้ว”คนชวนยังคงไม่ลดละความพยายาม ลุกขึ้นยืนและคว้าข้อมือของอีกฝ่ายพยายามดึงให้ลุกตาม


“ตกลงจะไปให้ได้ว่างั้น….พี่ล่ะเบื่อแกจริงๆเลย  อะไรๆก็จะเอาให้ได้ดั่งใจ”อีกฝ่ายบ่นกระปอดกระแปดแต่ก็ไม่วายลุกขึ้นไปตามแรงดึงอยู่ดี




สองสาวเดินตามระเบียงซึ่งเป็นทางเดิน  ลงมาถึงชั้นล่างก่อนที่จะออกประตูใหญ่หน้าอพาร์ทเม้นต์ใช้เวลาไม่ถึงสามนาที…ตรงข้ามกับหน้าประตูเป็นที่ดินว่างเปล่า ที่เจ้าของใช้เป็นลานจอดรถของอพาร์ทเม้นต์ที่อยู่ใกล้ๆกัน….เป็น พื้นที่โล่งมีรถจอดเรียงรายอยู่เกือบๆสิบคัน  ริมขวาสุด มีต้นจามจุรีต้นใหญ่ตระหง่านอยู่เพียงต้นเดียว…ส่วนริมซ้ายมีต้นมะขามอยู่ริมสุด  บรรยากาศเงียบสงัด สายลมพัดแผ่วเบา …ลมโชยแผ่วมาถึงกับสะท้าน


“ดึกๆแบบนี้หนาวเหมือนกันนะเนี่ย”


“อือ”


“พี่แนน!….พี่แนน!มีคนเดินอยู่ตรงนั้น….ดูสิ! “ หญิงสาวรุ่นน้องกระซิบบอกเบาๆ เอามือไปกอดไว้ที่แขนอีกฝ่าย… พลางชี้มือไปที่รถปิคอัพสีขาวคันที่จอดอยู่ริมซ้ายสุดห่างจากต้นมะขามไม่ถึงสองวา…ในขณะที่ทั้งคู่กำลังจะก้าวพ้นประตูออกไป


“ไหน” อีกฝ่ายหงุดชะงัก  เริ่มหายจากอาการงัวเงีย


“นั่นไง…เดินเข้าไปตรงนั้นแล้ว”


“เออ! ใช่ๆ มีคนจริงๆด้วย…ดึกขนาดนี้ใครยังจะมาเดินอยู่อีก  คิดว่ามีแค่เราสองคน”


“พี่แนน!เรากลับขึ้นข้างบนเถอะ หนูไม่ไปแล้วนะ” หญิงสาวบอกเสียงสั่น ก่อนจะลนลานปล่อยแขนอีกฝ่ายแล้วหันหลังกลับในทันที


“อ่าว…ไหนแกบอกว่าหิว แล้วทำไมไม่ไป…ไอ้นี่บทจะมาจะไปพี่ล่ะตามไม่ทัน”อีกฝ่ายยังไม่วายบ่นตามหลังอีกเช่นเคย โดยหารู้ไม่ว่าหญิงสาวรุ่นน้องกำลังขวัญผวาในสิ่งที่พบเจอ…



****************************************


หลายวันต่อมา….


“ป้าคะ หนูขอถามอะไรหน่อยสิ…คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ประมาณตีสองกว่าอ่ะ  ลุงประดิษฐ์แกนอนรึยัง” ลุงประดิษฐ์ที่หญิงสาวกล่าวถึงก็คือสามีของป้าพรเจ้าของรถปิคอัพคันสีขาว   ซึ่งมีอายุเกือบๆหกสิบปี


“ทำไม…มีอะไรเหรอหมวย” หญิงวัยกลางคนย้อนถามด้วยความสงสัย


“ คืนนั้น…ประมาณตีสองกว่าๆ หนูเห็นมีคนเดินข้างๆรถของลุง…เป็นผู้ชาย สูง ผอม ใส่กางเกงขาสี่ส่วนสีขาว  แต่มองไม่เห็นส่วนบน  เพราะเงาของกิ่งมะขามมันบัง…หลังจากนั้นเค้าก็เดินเข้าไปในซอกทางเข้าบ้านป้า หนูก็เลยคิดว่าเป็นลุงไง”หญิงสาวไม่รีรอรีบเล่าทันที


“อีตาประดิษฐ์ เมากลับมานอนหลับตั้งแต่สี่ทุ่มแล้ว และไม่ได้ลุกไปไหนนะ ห้องน้ำก็ไม่ได้เข้า…แล้วใครจะลุกมาเดิน เอ็งตาฝาดไปหรือป่าว”


“ ไม่ได้ตาฝาดแน่นอนจ้ะ หนูเห็นเต็มสองลูกกะตา พี่แนนก็เห็นเหมือนกัน….คนที่หนูเห็นผอม อายุน่าจะยี่สิบต้นๆ ”


“ป้าว่าเอ็งตาฝาดแน่เลย…ใครจะลุกมาเดินดึกๆดื่นๆ” แกเอ่ยบอกด้วยสีหน้าและแววตาเริ่มมีความกังวลนิดๆ


“แต่หนูเห็นจริงๆนะคะ  ทุกๆคนไม่เชื่อหาว่าหนูกับพี่แนนเมา  วันนั้นถึงหนูจะกินเหล้าแต่ก็ไม่ได้เมาถึงกับว่าไม่มีสติ…ทีแรกหนูนึกว่าลุงลืมของไว้ในรถ  ก็เลยลุกมาเอา  แต่พอเห็นรูปร่างแล้วมานึกอีกทีหนูว่าน่าจะไม่ใช่ลุง” หญิงสาวยังคงยืนยันหนักแน่น….ทำเอาอีกฝ่ายที่มีสีหน้ากังวลอยู่แล้ว  กลับเพิ่มความกังวลมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด


“รูปร่างผอม สูงเหรอ”


“ใช่…หนูยังแอบคิดเลยว่า เหมือนลูกชายป้าที่เสียไปเมื่อสองปีที่แล้ว และพี่แนนก็คิดเหมือนกัน”


“ป้าไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้เลยนะ  ส่วนไอ้ตูนตั้งแต่ที่มันเสียไป  ป้าก็เจอแค่ในฝัน”


“หรือว่าเป็นคนอื่น….”


“ใครจะออกมาเดินดึกดื่น  คนเขาหลับเขานอน”


“ป้าคะ หนูขอโทษนะ หากเรื่องที่หนูเล่ามันทำให้ป้าไม่สบายใจ”หญิงสาวพนมมือไหว้ เมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่าย


“ไม่เป็นไรหรอก  เอ็งจะมาขอโทษป้าทำไม”


“ไม่รู้สิ หนูเห็นสีหน้าป้าแล้ว หนูไม่สบายใจยังไงไม่รู้”


“ป้าแค่คิดถึงไอ้ตูนก็เท่านั้นเอง…ป้าก็ใส่บาตรทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เขาประจำ  แล้วทำไมยังจะมาวนเวียนอยู่อีก”หญิงวัยกลางคนเอ่ยเสียงแผ่วเบาเหมือนกับว่ากำลังพึมพำกับตัวเอง



********************************************


“หมวย…”เสียงร้องเรียกทำเอาหญิงสาวหยุดชะลอก่อนที่จะก้าวเท้าขึ้นบันได


“ป้าเรียกหนูมีอะไรรึเปล่าคะ”


“เมื่อวานป้าไปหาร่างทรงมา…ป้าไม่ค่อยสบายใจ กังวลใจในสิ่งที่เอ็งบอก เกรงว่าคนที่เอ็งเห็นในวันนั้นจะเป็นไอ้ต๋อย  กลัวว่าเขาจะยังวนเวียนอยู่ …ท่านเป็นร่างทรงที่แม่นอยู่นะ  ป้าไปหาท่านมาหลายครั้งแล้วล่ะ” อีกฝ่ายรีบบอกพร้อมกับดึงมือหญิงสาวให้ตามไปนั่งที่ม้านั่งตรงบันได


“แล้วท่านว่าไงบ้างล่ะป้า”หญิงสาวรีบเอ่ยปากถามทันทีด้วยความอยากรู้


“ท่านบอกว่า…คนที่เอ็งเห็นในคืนนั้น เป็นวิญญาน ไม่ใช่คนหรอก”


“จริงเหรอ…หนูขนลุกไปหมดแล้วนะเนี่ย” ท่าทางเธอตกใจอย่างเห็นได้ชัด เอามือลูบแขนไปมา


“ตอนแรกป้าก็ไม่เชื่อหรอก    คือรถปิคอัพคันนี้ป้าซื้อมามันเป็นรถมือสอง เจ้าของคนเก่าก็คือน้องชายที่เป็นญาติห่างๆของตาประดิษฐ์  แล้วร่างทรงก็ทักว่ารถคันนี้เคยชนคนตาย…ไม่เชื่อให้ถามเจ้าของคนเก่าดู  แล้วมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ “


“ป้าไม่เคยรู้มาก่อนเลยหรอ”


“ไม่รู้นะสิ  เมื่อวานตอนเย็นถึงได้โทรไปถามเขาไงล่ะ”


“แล้วเขาว่าไงคะ”


“เขาบอกว่า…เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามีคนตาย  รู้แต่เพียงว่าเป็นวัยรุ่นอายุประมาณ ยี่สิบต้นๆ  วันนั้นเขาเมาและมันดึกมากแล้ว”


“ป้า…หมายความว่าเขาขับรถชนคนแล้วหนีอย่างงั้นเหรอ!”


“คงจะประมาณนั้นแหล่ะ”


“เวรกรรม!  ทำไมถึงได้ใจร้ายกันจัง ”


“ถึงว่า…เขาถึงตามไม่ลดละ”


“แล้วป้าจะทำยังไงคะ”


“ร่างทรงท่านทำพิธีให้แล้วล่ะ…ส่วนตัวป้าก็จะใส่บาตรทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เขาไป บอกเขาแล้วให้เขาไปในที่ๆควรไป อย่าได้มีเวรมีกรรมต่อกันเลย ถ้าป้ารู้ตั้งแต่ตอนแรก ก็คงจะไม่ซื้อมันหรอก รถที่มีประวัติแบบนี้”


“มันคงจะไม่มีอะไรแล้วล่ะป้า ”


“ป้าก็ไม่สบายใจ… กังวลว่าจะเป็นลูกชายกลัวว่าเขาจะยังวนเวียนอยู่ไม่ยอมไปไหน…รู้แบบนี้ป้าก็สบายใจแล้วล่ะ  ขอบใจเอ็งมากนะ ที่บอกกล่าวเรื่องนี้”


“วันนั้นหนูเห็นสีหน้าและแววตาป้า หนูยังแอบเสียใจอยู่เลยค่ะ หนูขอโทษนะคะ” หญิงสาวพนมมือไหว้ขอโทษ


“ไม่เป็นไรหรอก…ได้รู้แหล่ะดีแล้ว  มีอะไรก็บอกกล่าวกันได้…ถึงจะเชื่อไม่เชื่อมีคนทักเราก็รับฟัง ก็ไม่ได้เสีหายอะไร ”


“ต่อไปหนูคงไม่ออกไปไหน ดึกๆดื่นๆอีกแล้ว…ป้ารู้ไหมว่าภาพมันติดตามาก  หนูนอนไม่หลับตั้งหลายคืน หนูไม่กล้าลุกออกมาที่ระเบียงด้วยซ้ำ”


“ดีแล้วที่เอ็งไม่คิดที่จะออกไปไหนตอนดึก  มันอันตรายรู้ไหม” น้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความเมตตาทำเอาหญิงสาวพนมมือไหว้อีกครั้ง


“ขอบคุณค่ะป้า  หนูคงไม่กล้าแล้วล่ะ  ตอนมืดๆหนูยังไม่กล้ามองไปที่ต้นมะขามเลย  ภาพมันติดตาอ่ะ”



*****************************************************

จากคุณ : ใยไหมกะใบม่อน
เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 08:18:30




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com