Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
xxxซีรี่ย์ ดอกไม้ หัวใจในควันปืน : ไฟซ่อนรัก..บทที่๘ xxx (กรณ์ วรรณกานต์) ติดต่อทีมงาน

บทที่๗
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11835916/W11835916.html

.......................................................................

ภายในห้องทำงานใหญ่..ร่างสูงเพรียวของอนาวินยืนกอดอก สีหน้าเคร่งขรึมทอดสายตามองผ่านกระจกบานหนาออกไปเบื้องหน้าอย่างไม่มีจุดหมาย เมื่อลูกน้องรายงานถึงผลการประมูลงานชิ้นสำคัญที่บริษัทเขาต้องพลาดให้กับบริษัทคู่แข่งอย่างรัตนากร เป็นการประเดิมผลงานชิ้นแรกในการรับตำแหน่งแทนบิดา แม้จะรู้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่ความบกพร่องของเขา แต่เมื่อเขาขึ้นมายืนบนจุดนี้ คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากบรรดาผู้บริหารคนอื่นๆ โดยเฉพาะฝ่ายตรงข้ามคงยกเรื่องนี้มาค่อนแขวะเขาเป็นแน่ และตัวเขาเองคงต้องอดทนรับความกดดันในครั้งนี้และตั้งสติให้มั่นคงไม่เต้นตามแรงยั่วยุปลุกปั่นของผู้บริหารฝ่ายตรงข้ามให้ได้ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัส แต่เขาต้องพยายามทำให้ดีที่สุด

เสียงอินเตอร์คอมดังขึ้นจากเลขาหน้าห้อง เพื่อบอกให้รู้ว่าจตุพลมาขอพบ ซึ่งเขาก็ตอบอนุญาตให้เข้ามา..เพียงอึดใจต่อมา ร่างภูมิฐานของชายสูงวัยก็ก้าวเข้ามาภายใน ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

อนาวินเดินกลับมานั่งบนเก้าอี้ประจำตำแหน่งและเอ่ยทักทายอย่างเป็นกันเอง
“สีหน้าไม่ค่อยดีเลยนะคุณอา มีเรื่องอะไรหรือครับ”

จตุพลถอนใจฟืด
“ก็เมื่อกี้อาเจอกับนายดนุพงษ์น่ะสิ”

สีหน้าของผู้บอกเล่ายิ่งแสดงอาการฉุนเฉียว ยามนึกถึงผู้บริหารรุ่นน้องที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานานหลายปีและเพิ่งปะทะคารมกันมาเมื่อครู่
“หมอนั่นมันถากถางน่าดูที่บริษัทเราพลาดงานประมูลให้พวกรัตนากร หาว่าเป็นเพราะความอ่อนหัดของคุณ ผมก็เลยสวนกลับไปหลายคำ เล่นเอาปวดหัวเลย..สงสัยความดันจะขึ้น” กล่าวเสียงเนือยๆก่อนเลื่อนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานมายอบตัวลงนั่ง และมองหนุ่มรุ่นลูกที่ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่แสดงท่าทางฉุนเฉียวอย่างที่เขาคิด

“คุณดนุพงษ์นี่หูไวจริงๆนะ ผมเองก็เพิ่งจะรู้ผลเมื่อไม่นานนี่เอง”

“หมอนี่มันจ้องจะหาเรื่องอยู่แล้ว ตอนนี้ก็เลยทับถมได้เต็มที่ เฮ้อ! ผมเพิ่งรู้มาว่า หนึ่งในคณะกรรมการที่พิจารณางานน่ะเป็นเพื่อนกับนายคณิน..เพราะแบบนี้ล่ะมั้ง เราถึงได้แพ้”

“เสียดายที่เรารู้ช้าไป ไม่อย่างนั้นคงทำอะไรได้มากกว่าการยื่นอุทธรณ์เหมือนในตอนนี้”

จตุพลนิ่วหน้ามองคนพูด
“คุณจิลสั่งให้ยื่นอุทธรณ์ไปแล้วหรือครับ”

“ครับ”

“แหม ผมนึกว่าคุณยังไม่ได้ทำอะไรเสียอีก”

อนาวินแค่นยิ้ม
“ผมแค่ทำในสิ่งที่ทำได้ในขณะนี้เท่านั้น ที่เหลือก็ปล่อยให้คนของเราไปไฟต์เอาเอง ผมไม่สนใจหรอกว่าพวกบอร์ดจะจวกผมอย่างไง เพราะตอนนี้งานของผมก็แทบล้นมือแล้ว ขืนใส่ใจกับพวกนี้มากผมคงเครียดตาย”

และเป็นอีกครั้งที่จตุพลต้องมองคนพูดอย่างเต็มตากับท่าทางสงบนิ่งของชายหนุ่ม ซึ่งภาพลักษณ์ของหนุ่มเจ้าสำราญที่บางครั้งก็ทำอะไรตามใจตัวเองจนขัดใจกับผู้ให้กำเนิดเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนเกิดเรื่องแทบอันตรธานจนไม่เหลือเค้าให้เห็น และนึกไม่ถึงว่า เมื่อชายหนุ่มต้องขึ้นมากุมอำนาจสูงสุดอย่างกะทันหัน ซึ่งนอกจากจะต้องรับมือกับศึกภายนอกจากบรรดาคู่แข่งแล้วยังต้องจัดการกับศึกภายในบริษัทร่วมด้วย แต่ชายหนุ่มผู้นี้กลับควบคุมอารมณ์ให้สงบเยือกเย็นจนสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ

“บอกตามตรงนะครับ ว่าตอนที่คุณขึ้นมารับตำแหน่งแทนคุณอชิรวันแรกน่ะ ผมนึกว่าคุณต้องโดนพวกบอร์ดที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับเราจะรุมจวกเละแน่ๆ แต่คุณกลับแสดงให้ผมเห็นแล้วว่า ผมคิดผิดไปจริงๆ”

“แต่ผมก็เจ็บเนื้อเจ็บตัวมาพอสมควรล่ะ แล้วก็ถ้าไม่ได้คุณอากับผู้บริหารคนอื่นๆคอยหนุนหลังไว้ล่ะก็ ผมก็ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไงเหมือนกัน..ต้องขอบคุณคุณอาอีกครั้ง ที่ออกหน้าสนับสนุนผมนะครับ”

จตุพลยิ้มกว้างขวาง
“ไม่เป็นไรหรอกคุณจิล ผมน่ะนับถือพ่อของคุณมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว และในเมื่อคุณเป็นลูกของคุณอชิร ผมก็ต้องช่วยเหลือจนสุดความสามารถนั่นล่ะครับ”

“ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดครับ”

“เห็นคุณตอนนี้ ผมก็มั่นใจแล้วล่ะ ว่าอย่างไรเสีย คุณก็สามารถพาบริษัทนี้เดินหน้าต่อไปได้แน่..สมกับเป็นลูกของคุณอชิรจริงๆ”

จตุพลพูดทิ้งท้าย ก่อนลุกขึ้นยืน
“งั้นตอนนี้..ผมขอตัวก่อนนะครับ”

อนาวินลุกขึ้นเดินมายืนเคียงข้าง
“ขอบคุณอีกครั้งนะครับคุณอา..เดี๋ยวถ้าออกไปเจอกับคุณดนุพงษ์ ผมจะได้เตรียมรับมือกับเขาได้ทัน”

จตุพลหัวเราะครืน ก่อนเดินจากไป



อนาวินละสายจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือที่วางบนโต๊ะทำงานดังขึ้น โดยจากเตชิต
“มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเรอะ”

และเอ่ยถามกับผู้ที่โทรหาทันที เพราะก่อนออกจากบ้านเขาได้ขอให้เตชิตช่วยดูแลราโมน่าให้รอดพ้นภัยคุกคามจากน้องสาวให้ด้วย เพราะรู้ว่าในโลกใบนี้นอกจากบิดาแล้ว เตชิตจะเป็นอีกคนที่สามารถยับยั้งทุกการกระทำของน้องสาวได้ และเมื่อเตชิตโทรมาหาเช่นนี้ จิตใจของเขาก็นึกประหวั่นไปถึงราโมน่าขึ้นมาในทันที

“ผมไม่รู้ เพราะคุณหนูเล็กใช้ให้ผมไปรอเอาแบบเสื้อที่ร้านประจำ..ผมเลยโทรมาบอกคุณ”

อนาวินทอดถอนใจกับความกังวลที่ถาโถมเข้าจู่โจม “ให้ตายสิ!  ฉันไม่คิดว่าหนูเล็กจะเล่นไม้นี้..โอเค ขอบใจนะ” และตัดสายทันที ก่อนจะลุกขึ้นพร้อมหยิบเสื้อสูทที่ถอดพาดบนพนักเก้าอี้มาสวม ก้าวยาวๆออกจากห้องสั่งกับเลขาสาวรัวเร็ว

“ผมจะออกไปข้างนอก ถ้ามีเรื่องสำคัญเร่งด่วนอะไรให้คุณพิมพ์ศิริจัดการได้เลย”

และยังไม่ทันที่เลขาสาวจะเอ่ยตอบรับ ร่างสูงเพรียวของเจ้านายหนุ่มก็หันก้าวยาวๆตรงไปที่ลิฟต์เสียแล้ว



โมรียานั่งเปิดดูนิตยสารภายในศาลาท่าน้ำ โดยเรียกลูกน้องที่เหลือในบ้านอีกหกชีวิตให้มาอยู่ในสายตาของเธอ เพราะเกรงว่าจะมีใครขัดคำสั่งแอบโทรศัพท์ไปบอกพี่ชายถึงเรื่องที่เธอกระทำต่อแขกคนสำคัญ
แต่เพียงไม่นาน..เธอก็เห็นรถสปอร์ตของพี่ชายแล่นเข้ามาจอดใต้มุขหน้าบ้านพร้อมรถของผู้ติดตาม และอึดใจต่อมาร่างของพี่ชายก็เปิดประตูก้าวยาวๆตรงเข้าบ้าน ในขณะที่โจ้เพิ่งจะเปิดประตูรถอีกคันพร้อมผู้ติดตามสามคนออกมายืนมองตามหลังผู้เป็นนายด้วยความงุนงง ที่จู่ๆเจ้านายหนุ่มก็ขับรถราวกับจะเหาะออกมาจากบริษัทตรงกลับบ้าน..โมรียาปิดนิตยสารอย่างหงุดหงิด เพราะไม่คิดว่าพี่ชายจะรีบแจ้นกลับบ้านเร็วขนาดนี้ พลางขมวดคิ้วสงสัยว่า อาจจะมีใครบางคนแอบโทรศัพท์ไปฟ้องพี่ชายของเธอก็เป็นได้ จึงลุกขึ้นตวาดเสียงเขียวใส่บรรดาชายฉกรรจ์ที่ยืนเรียงรายตรงหน้า

“บอกมาเดี๋ยวนี้นะ ว่าใครโทรไปฟ้องเฮีย”

ซึ่งลูกน้องทั้งหมดต่างก้มหน้าปฏิเสธ
และยังไม่ทันที่โมรียาจะคาดคั้นหาคำตอบใดๆ เสียงของพี่ชายก็ตะโกนเรียกหาลั่น

“หนูเล็ก!”

หญิงสาวจึงละสายตาจากกลุ่มชายฉกรรจ์ หันไปหาพี่ชายที่กำลังก้าวยาวๆตรงมาหาด้วยสีหน้าถมืงทึง โดยมีคนสนิทและผู้ติดตามก้าวตามมาไม่ห่าง..บรรดากลุ่มชายฉกรรจ์ต่างเปิดทางให้เจ้านายหนุ่มได้เผชิญหน้ากับน้องสาวทันที และเริ่มทำสีหน้าลำบากใจ เมื่อเสียงกร้าวของอนาวินระเบิดใส่น้องสาวอย่างไม่มีปิดบัง หลังจากที่ขึ้นไปยังห้องพักของราโมน่าแล้วก็พบเพียงความว่างเปล่า ถามคนรับใช้ภายในบ้านก็ไม่มีใครเห็น และแน่ใจว่าหญิงสาวไม่มีทางหนีรอดออกจากบ้านหลังนี้ได้..แต่เมื่อเห็นว่าบรรดาลูกน้องทั้งหมดมาออรวมกันที่ตรงนี้ จึงมั่นใจว่าน้องสาวของเขาเป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้ราโมน่าหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นนี้

“ราโมน่าอยู่ไหน”

โมรียากอดอก
“จะไปรู้ได้ยังไง หนูเล็กไม่ได้นั่งเฝ้าเขานี่นา”

ใบหน้าคนฟังเครียดเขม็งจนแดงเข็ม
“หนูเล็ก! เฮียจะถามอีกครั้งว่าราโมน่าอยู่ไหน..อย่าให้เฮียต้องโมโหขึ้นมาจริงๆนะ”

หญิงสาวปรายตามอง เธอรู้ดีว่าพี่ชายนั้นแม้จะมีนิสัยใจร้อนและฉุนเฉียวง่าย แต่ก็ยังสามารถควบคุมอารมณ์โกรธให้อยู่ในระดับสมดุลได้บ่อยครั้ง แต่ถึงกระนั้น..ในวัยเยาว์เธอก็เคยเห็นความน่าสะพรึงกลัวของอารมณ์โกรธยามที่พี่ชายหลุดการควบคุมแล้วเช่นกัน ซึ่งมันก็ทำให้เธอรู้สึกหวาดหวั่นไม่น้อย และแม้จะแน่ใจว่า พี่ชายไม่มีวันทำร้ายร่างกายของเธอเหมือนกับคู่อริ แต่เธอก็ไม่อยากถูกพี่ชายมึนตึงใส่มากไปกว่านี้เช่นกัน

“หนูเล็กแค่รู้สึกรำคาญสายตาที่เห็นศัตรูมานั่งชูคอในบ้าน ก็เลยให้คนพาไปไว้ในที่ที่พ้นหูพ้นตาหน่อยเท่านั้นเอง”

อนาวินหายใจลึก พยายามระงับสติอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่าน แค่นเสียงถามดวงตาวาวโรจน์
“ที่ไหน”

โมรียาอึกอัก ก่อนตอบ
“ห้องเก็บของใต้ดิน”

อารมณ์โกรธที่พยายามเก็บกดแทบระเบิดใส่คนพูด
“ให้ตายสิหนูเล็ก! ราโมน่าเป็นคนของเฮียนะ”

หญิงสาวจ้องตอบสายตากระด้างดุดันของพี่ชาย
“คนของเฮียเรอะ! นังนั่นมันเป็นคนของศัตรูต่างหากล่ะ เป็นศัตรูที่คิดจะฆ่าป๊ากับอาเจ๊กนะ เฮียลืมไปแล้วรึไง”

“เรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฝ่ายนั้นเป็นคนทำรึเปล่า แล้วอีกอย่างราโมน่าก็ไม่เกี่ยว หนูเล็กควรจะแยกแยะบ้างนะ ไม่ใช่ใช้แต่อคติมาเป็นตัวตัดสิน”

“หนูเล็กไม่ได้ใช้อคติ แต่หนูเล็กมองตามความเป็นจริง..ตัวของเฮียนั่นล่ะ ที่ถูกเสน่ห์ของนังนั่นครอบงำจนมองไม่เห็นอะไรแล้ว”

“หุบปากไปเลยนะหนูเล็ก” อนาวินตวาดลั่นก่อนแค่นเสียงเข้ม “แล้วเฮียก็ขอเตือนเป็นครั้งสุดท้าย ว่าอย่ายุ่งกับราโมน่าอีก..ไม่งั้นได้เห็นดีกันแน่” ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจฟืดข่มกลั้นอารมณ์โกรธ หันผละจากน้องสาวตรงไปยังห้องเก็บของใต้ดิน..ใบหน้าบึ้งตึงมองตามหลังพี่ชาย เมื่อคิดว่าพี่ชายนั้นหลงใหลในความสวยงามของศัตรูจนไม่เห็นหัวเธอหรือใครทั้งนั้นแล้ว และไม่กี่อึดใจ หญิงสาวก็เดินตามพี่ชายไปดูสถานการณ์ห่างๆ


ทันทีที่ถึงประตูหน้าห้องเก็บของ อนาวินทุบบานประตูพร้อมตะโกนเรียกหาราโมน่าลั่น
“โม้นา!”

ซึ่งภายในก็ยังคงเงียบกริบ จนหัวใจของชายหนุ่มร้อนรน
“โม้นา ได้ยินพี่ไหม..โม้นา!”

และเสียงตะโกนเรียกผสานเสียงทุบโครมๆดังลั่นกับบานประตู แทรกเข้ามาในอนุสติที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวของคนที่นั่งขดตัวสั่นเทาในความมืด เริ่มหยุดสะอื้นและตั้งใจฟังอีกครั้ง และในความเลื่อนลอยดำมืดเหมือนว่าได้ยินเสียงของอนาวินกำลังเรียกหาเธอ

หญิงสาวตั้งใจฟังอีกครั้งจนแน่ใจว่าเสียงที่ได้ยิน เป็นเสียงของชายหนุ่มจริงๆ..ความรู้สึกในใจเหมือนได้รับแสงสว่างที่สาดส่องให้เห็นหนทางในความดำมืดขึ้นมาทันที และอยากจะลุกขึ้นและเปล่งเสียงโต้ตอบเขา แต่ร่างกายในขณะนี้กลับอ่อนเปลี้ยจนลุกไม่ขึ้น และเสียงของเธอก็แหบโหยเหลือเกิน สิ่งที่สามารถทำได้ขณะนี้คือ เพียงแค่ตบบานประตูด้วยเรี่ยวแรงที่เรียกคืนมาได้น้อยนิด พร้อมเปล่งเสียงอันสั่นสะท้านที่ดังเพียงแค่ในลำคอเท่านั้น

“พี่จิล..ช่วยโม้นาด้วย โม้นากลัว..พาโม้นาออกไปที..พี่จิล..”

อนาวินเงี่ยหูฟังเสียงที่โต้กลับเพียงแผ่วเบาของเธอใจก็ยิ่งหดหาย ตะโกนตอบกลับไป
“โม้นา หลบให้พ้นประตู พี่จะเข้าไปเดี๋ยวนี้ล่ะ”

ราโมน่าเพียงแค่นอนราบกับพื้นขดตัวงออยู่ตรงนั้น..ขณะที่ด้านนอกอนาวินหันไปหาคนสนิทเพื่อเรียกหาปืน และเสี้ยวอึดใจ..กระสุนสองนัดซ้อนก็ถูกลั่นใส่แม่กุญแจโดยไม่รอให้ใครไปเอาลูกกุญแจมาจากแม่บ้าน

เปรี้ยง!!..เปรี้ยง!!

ราโมน่าสะดุ้งเฮือกกับเสียงที่ได้ยิน และในวินาทีต่อมา บานประตูก็เปิดกว้างให้ร่างของผู้ที่เปรียบเสมือนแสงสว่างก้าวเข้ามาพร้อมวงแขนแกร่งกวัดรัดร่างของเธอขึ้นกอดกระชับแน่น ให้เธอได้ซุกหาไออุ่นซบหน้ากับแผ่นอกกว้างสะอึกสะอื้นปลดปล่อยความหวาดหวั่นพรั่นพรึงให้เขารับรู้

“พี่จิล..พาโม้นาออกไปที..โม้นากลัว..”

อนาวินกอดร่างที่ยังสะอื้นฮักแน่นพร้อมลูบแผ่นหลังบางอย่างนึกสงสารจับใจ กดริมฝีปากบนริมขมับชื่นเหงื่อและกระซิบปลุกปลอบอ่อนโยน
“ไม่ต้องกลัวนะคนดี พี่อยู่นี่แล้ว พี่จะไม่ยอมให้ใครทำร้ายโม้นาได้อีกแล้ว..โม้นาไม่ต้องกลัวนะ”

หญิงสาวพยักหน้าเชื่อมั่นในคำพูดที่ได้ยินแต่สองเรียวแขนที่สั่นระริกยังคงรัดร่างหนาแกร่งของเขาแน่น อนาวินโอบประคองพาเธอให้ก้าวพ้นประตูออกมาและเผชิญหน้ากับโมรียา ซึ่งหญิงสาวใจหายวาบ เมื่อเห็นสภาพใบหน้าเผือดซีดจนแทบไร้สีเลือดชุ่มโชกด้วยเม็ดเหงื่อผุดพรายและดวงตาสีเขียวน้ำทะเลเจิ่งนองด้วยหยาดน้ำตาตวัดมองสบไม่กี่อึดใจก็ผินหน้าหลบซุกซบกับแผ่นอกของพี่ชายแสดงชัดถึงความหวาดหวั่น  

อนาวินนึกอยากจะต่อว่าน้องสาวนัก แต่ความห่วงใยในหญิงสาวที่กำลังโอบกอดนั้นมีมากกว่า เขาจึงได้แต่ตวัดสายตาขึ้งโกรธสบน้องสาวขณะโอบประคองราโมน่าเดินผ่านหน้าไป และตรงเข้าบ้านพาขึ้นห้องพักของหญิงสาว



ต่อค่ะ

จากคุณ : ระรินใจ
เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 11:18:14




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com