Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
Black Gun And Red Rose - กุหลาบแดงและปืนดำ - บทที่ 11 ติดต่อทีมงาน

บทที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11691462/W11691462.html

บทที่ 2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11703633/W11703633.html

บทที่ 3 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11718987/W11718987.html

บทที่ 4 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11728001/W11728001.html

บทที่ 5 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11751888/W11751888.html

บทที่ 6 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11770861/W11770861.html

บทที่ 7 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11795300/W11795300.html

บทที่ 8 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11817498/W11817498.html

บทที่ 9 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11842423/W11842423.html

บทที่ 10 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11862773/W11862773.html

------------------------

ขอบคุณกิฟท์จากคุณ GTW - ขอบคุณสำหรับคำชมที่ฝากถึงนักทวงแค้นครับอาจารย์จี ส่วนนายกบิลเจ็บด้วยอายด้วย งานนี้มีการแก้แค้นแบบจัดหนักแน่ๆ ครับ อิอิ

ขอบคุณกิฟท์จากคุณเพชรรุ้งพราย - ขอบคุณที่ตามอ่านนะครับ

ขอบคุณกำลังใจและไอติมจากคุณกาปอมซ่า - ขอบคุณสำหรับไอศกรีมนะครับ อุตส่าห์ไปหม่ำ เอ๊ย ไปหามาให้ คิคิ

วันนี้ฝนตก ขอเครื่องดื่มร้อนๆ มานั่งจิบฟังเสียงฝนสักแก้วสิครับ แฮ่ๆ

ขอบคุณกิฟท์จากคุณน้ำพรมหนำ - ผมก็โพสต์เพลินจนไม่ได้ดูเหมือนกันครับว่าโพสต์วันไหนไปมั่ง ฮ่ะๆ แต่โดยรวมแล้วจะโพสต์สัปดาห์ละ 1 ถึง 2 ตอนครับ พีภัทรจะเอายังไงกับพิชิต ติดตามได้ในบทนี้เลยครับ

ขอบคุณกิฟท์จากคุณกุหลาบมอญ - ขอบคุณที่ตามอ่านครับ

ขอบคุณกิฟท์จากคุณสะเก็ดดาวเสาร์ - ต้องดูครับว่าเดโชจะฉลาดไปถึงไหน อิอิ อีกสองสามบท ทุกคนก็จะทราบแล้วว่าเดโชเป็นอะไรกับเรณูและรัมภา โฮะๆๆๆ

ขอบคุณกิฟท์จากคุณใยไหมกะใบม่อน - ขอบคุณสำหรับกิฟท์และคำชมครับคุณใยไหม

ขอบคุณกิฟท์จากคุณ zoi - ขอบคุณสำหรับการติดตามครับพี่โส้ย

ขอบคุณกิฟท์จากคุณให้เพียงเธอหมดใจ - ใช่ครับ บทที่แล้วพีภัทรกับทิวากรได้บทเท่ห์ไปคนละแบบและคงเท่ห์ไปอีกหลายบทจนกว่าจะถึงตอนที่ทั้งคู่จะฟาดปากกันด้วยกำปั้น เอ๊ะ ยังไง อ๊ะ ฉะปอยยยยย์

ขอบคุณกำลังใจจากคุณห้าสิบป่าย - ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ

ขอบคุณกำลังใจจากคุณปันฝัน - ขอบคุณที่ตามอ่านครับ ขอบคุณสำหรับคำชม ขอบคุณมากๆ เลยครับ

ขอบคุณกิฟท์จากคุณกาแฟเย็นเพิ่มช็อต - ขอบคุณสำหรับกิฟท์ครับพี่กาแฟ

ขอบคุณกิฟท์จากคุณสามปอยหลวง - ขอบคุณสำหรับกิฟท์ครับผม

ขอบคุณกิฟท์จากคุณรุริกะ - ขอบคุณสำหรับกิฟท์และกำลังใจครับพี่รุริกะ เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้วครับ

ขอบคุณกิฟท์จากคุณชมภัค - ขอบคุณสำหรับกิฟท์ครับพี่ชมภัค

ขอบคุณคุณชายยอดนักทดลอง - ขอบคุณที่ผ่านมาอ่านครับ แต่จะผ่านแล้วผ่านเลย ไม่แวะอยู่ต่ออีกสักนิดหรือครับ อิอิ แซวเล่นนะครับ

ขอบคุณกำลังใจจากคุณ Sniper-1500watt - โอ้ ยินดีต้อนรับเลยครับคุณ Sniper-1500watt ขอบคุณที่สละเวลาครึ่งวันนั่งอ่านรวดเดียวจนจบ ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ  

ขอบคุณกำลังใจจากคุณแพรวดาว - ถ้าเรื่องนี้มีวาสนาได้เป็นเล่มนะครับพี่แพรวดาว ผมจะส่งข้ามฟ้าผ่านทะเลไปให้พี่อ่านเลย! อิอิ

บทที่ 11 แล้ว ขอบคุณทุกคนที่ตามอ่านมากๆ ครับ

ขอบคุณมากครับ ขอบคุณจริงๆ


------------------------

บทที่ 11

เมืองลำปาง, ห้างฉัตร
คฤหาสน์อัครชัย

หยาดน้ำค้างกำลังพรมตัวลงมาบางๆ เมื่อพีภัทรเดินมาหยุดยืนอยู่ในเงามืดด้านนอกรั้วเหล็กของคฤหาสน์ที่ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่าหนึ่งไร่ อาณาบริเวณโดยรอบประกอบไปด้วยต้นไม้รกครึ้มเหมาะแก่การซ่อนตัว

คฤหาสน์ของพิชิตตั้งตระหง่านท้าทายความหนาวเย็น ดวงตาคมวาวของพีภัทรทอดมองผ่านรูของหมวกไอ้โม่งที่ดึงลงมาปกคลุมใบหน้า ขณะนี้เป็นเวลาตีสามสิบนาที ไม่มีแสงไฟใดในคฤหาสน์เปิดอยู่ มันเป็นชั่วโมงที่ทุกๆ คนภายในคฤหาสน์ควรจะหลับใหล

และเป็นเวลาเหมาะสมที่สุดที่จะลงมือ

ปืนของเขาเหน็บอยู่หลังเอวเตรียมพร้อมสำหรับการใช้งาน

พีภัทรสูดหายใจนำลมเย็นเยือกเข้าปอดหนึ่งที  ก่อนขยับกายถอยหลังและเกร็งกำลังที่ข้อเท้า สับเท้าออกวิ่งและสปริงตัวกระโดดขึ้นเกาะรั้ว เขามีความว่องไวเหมือนลิง ร่างของพีภัทรปีนขึ้นรั้วเหล็กที่สูงราวสองเมตรครึ่งและโหนกายข้ามสู่อีกด้านหนึ่งอย่างง่ายดาย

++++++++

เมื่อบ้านไม้สองชั้นหลังนั้นระเบิดตูมด้วยฤทธิ์ของระเบิดน้อยหน่าที่เดโชโยนเข้าไป พิชิตในวัยสิบหกปีก็ร้องตะโกนเตือนพี่ชายร่วมสาบานถึงลูกไฟที่กำลังพุ่งเข้ามาอันเป็นผลกระทบจากการระเบิด ที่ทำให้บังเกิดเศษไม้ผนังบ้านติดไฟแตกกระเด็นปลิวไปทั่วทุกทิศทางเหมือนลูกไฟจากนรก และหนึ่งในลูกไฟนั้นก็พุ่งมายังจุดที่เดโชยืนอยู่

การพุ่งของมันอยู่ระดับศีรษะพอดี

ไวเท่าความคิดและคำเตือนที่เปล่งออกไป พิชิตโถมตัวผลักพี่ชายกระเด็นไปด้านข้าง และกลายเป็นเขาเสียเองที่ถูกไฟลูกนั้นพุ่งเข้ามาปะทะเต็มใบหน้าด้านซ้าย โดยเฉพาะบริเวณแก้ม พิชิตแผดเสียงร้องอย่างเจ็บปวดสุดชีวิต เขาล้มลงไปคลุกใบหน้ากับพื้นโคลนสกปรกเป็นการดับไฟ ใบหน้าหล่อตี๋ตามแบบฉบับหนุ่มจีนปวดแสบและย่นยู่ด้วยความร้อน

เดโชได้ยินเสียงร้องของน้องชายร่วมสาบานก็ได้สติ ผุดกายลุกขึ้นมาอย่างร้อนรน  เดโชถอดเสื้อของตนเองเองออกมาตบเปลวไฟที่ใบหน้าของพิชิต ไฟดับลงในอีกไม่กี่วินาทีต่อมา แต่ก็ไม่อาจช่วยให้ใบหน้าของเด็กหนุ่มพิชิตกลับมาเป็นอย่างเดิมได้อีก...

พิชิตรู้ตัวว่าเขากำลังฝัน แต่เขาไม่สามารถขัดขวางความฝันได้

บ้านไม้ซอมซ่อหลังที่เกิดเหตุระเบิด เขาจำได้ดีว่าเป็นสถานที่ที่ใช้สำหรับการเป็นรังซ่องสุมของแก๊งจีนฮ่อแซ่เหลียงในเชียงรายที่เขากับเดโชสังกัดเป็นสมาชิกในแก๊งตั้งแต่สมัยหัวนมยังไม่แตกพาน แต่ก็มีอันต้องระเบิดกลายเป็นจุณเช่นนี้เพราะความทะเยอทะยานในวัยหนุ่มของพวกเขา

พิชิตไม่สามารถโทษใครได้นอกจากตัวเขาเองกับเดโชที่เขาเรียกว่าเฮียตั้งแต่อายุแปดขวบ พวกเขามีความทะเยอทะยานรวดเร็วเกินไป ทำให้ไม่กลัวตายและทำอะไรโดยไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดีเสียก่อน

อย่างเช่นการกระตุกหนวดเจ้าพ่อแก๊งจีนฮ่อด้วยการแอบมุบมิบเงินกองกลางบางส่วนมาเป็นของตัวเอง หวังเก็บหอมรอมริบเพื่อที่สักวันจะได้ออกเดินทางเผชิญโชคในถนนสายนักเลงเมื่อปีกกล้าขาแข็งเพียงพอ เป็นต้น

แต่โชคไม่เข้าข้าง พวกจีนฮ่อแซ่เหลียงรู้ตัว พิชิตและเดโชเลยถูกซ้อมปางตายในวันที่เปลี่ยนชีวิตของพวกเขาไป พวกเขาคงตายอย่างไร้หลุมศพหากเฮียโชของเขาไม่ฮึดสู้ พุ่งเข้าหาระเบิดน้อยหน่าที่วางอยู่บนโต๊ะจัดวางอาวุธ คว้าติดมือมาได้ลูกหนึ่ง จีนฮ่อพวกนั้นก็ถอยกรูด
เฮียโชชูระเบิดข่มขู่และพาเขาวิ่งออกมานอกบ้าน ไอ้โจรจีนฮ่อพวกนั้นจะวิ่งตามออกมา เฮียโชจึงแกะสลักระเบิดและโยนผ่านประตูเข้าไป...แล้วหลังจากนั้น ภาพทุกอย่างก็ค่อยๆ ย้อนกลับมาฉายอีกหนึ่งรอบ เกิดการระเบิด ลูกไฟกระจายตัว ความเจ็บปวดแสบร้อนบนใบหน้า ก่อนที่ทุกอย่างจะกลืนหายไปกับความมืดมิด

รอบกายเงียบสงบ

ภาพบ้านไม้ เปลวไฟ และดินโคลนเลือนรางไป มีหมอกสีขาวแห่งความหนาวเย็นปรากฏขึ้นแทนที่ พร้อมกับสายฝนที่โปรยปรายเป็นเหรียญเงินและเหรียญทองวิบวับแวววาว พิชิตรู้สึกว่าตนเองมีอายุมากขึ้น เขายืนตากฝนโดยมีมือข้างหนึ่งจับมืออาหยงผู้เป็นภรรยา ส่วนอีกข้างก็กุมมือเล็กๆ ของอาหมิงในวัยเด็ก  เม็ดฝนที่เป็นเงินและทองเหล่านั้นหล่นใส่ตัวเขาจนเจ็บ

แต่ในฉับพลัน สายฝนกลับหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเทกระหน่ำลงมาใหม่อีกครั้งเป็นหยดเลือดและน่าขนลุกมากขึ้นไปอีกเมื่อมีเสียงที่ควรจะเป็นเสียงฟ้าคำราม กลับเป็นเสียงร้องไห้จ้าของทารกน้อย  

พิชิตจำเสียงร้องไห้อย่างเจ็บปวดนั้นได้ดี มันเป็นเสียงที่หนูน้อยนพคุณกรีดร้องในขณะที่คมมีดในมือของเดโชค่อยๆ กรีดลงไปบนพวงแก้มขาวบริสุทธิ์เพื่อสร้างรอยแผลเป็น พิชิตยกมืออุดหู อาหยง และอาหมิงหายไปจากข้างกายเขา

แล้วร่างของเดโชก็ก้าวเข้ามาพร้อมมีดเล่มนั้น เดโชมองรอบกายอย่างเลิ่กลั่ก ฝนเลือดยังกระหน่ำลงมาอย่างหนัก เสียงทารกกรีดร้องแผดดังจนแก้วหูของเขาแทบแตก พื้นดินปริแยกแตกออกเป็นสองซีก ศพคนตายจำนวนนับไม่ถ้วนที่เขากับเดโชสังหารขณะครอบคลุมอำนาจในห้างฉัตรรองจากพ่อเลี้ยงไกรศักดิ์ตลอดหลายสิบปีทยอยปีนขึ้นมาจากใต้ดิน

พิชิตเห็นเดโชเขวี้ยงมีดออกไป และชักปืนออกมากราดยิงอย่างบ้าคลั่ง ทุกอย่างโกลาหลยากควบคุม ศพมีชีวิตพวกนั้นคลานแยกเขี้ยวเข้ามา พิชิตจะหันหลังหนี ก็ได้ยินเสียงร้องของอาหยง เขาหันไปดู ศพพวกนั้นลากอาหยงลงไปใต้ดินได้กว่าครึ่งค่อนตัวแล้ว

พิชิตสับเท้าวิ่งหมายไปช่วยภรรยา แต่อีกฟากหนึ่งก็ได้ยินเสียงอาหมิงในวัยปัจจุบันคำรามลั่น เขาหมุนกายกลับไป พบว่าบุตรชายกำลังปกป้องลูกสาวของพ่อเลี้ยงทั้งสองคนอย่างถวายชีวิต โดยที่สายตาของคุณหนูรัมภายังติดตาเขาอยู่ไม่หาย พิชิตไม่รู้จะวิ่งไปทางไหนก่อนดี เขาได้แต่ตะลึงงันไม่ทันระวังตัว ผีร้ายตัวหนึ่งก็ลอบเข้ามาทางด้านหลังและฝังเขี้ยวยาวของมันลงบนหัวไหล่ของเขา

พิชิตสะดุ้งเฮือก ตื่นขึ้นมาสู่โลกของความจริง สองตาเปิดกว้างมองเพดานห้อง รู้สึกหายใจยากลำบาก

หน้าอกใต้ผ้าห่มกระเพื่อมขึ้นลงหายใจอย่างเหนื่อยหอบ เขายันกายขึ้นนั่งและยกมือลูบใบหน้า รอยแผลเป็นบนแก้มซ้ายของเขาเปียกเหงื่อชุ่มโชกเหมือนเปียกน้ำ

พิชิตหลับตาลงเพื่อรวบรวมสติ หัวใจของเขายังเต้นตึกตัก

ฝันร้าย?

ใช่ ฝันร้าย มันเป็นฝันร้ายครั้งแรกในรอบหลายปีของเขาทีเดียว ตามปกติแล้ว พิชิตจะเป็นคนที่นอนหลับโดยไม่ฝัน เพราะเวลาขึ้นเตียงนอน เขาจะตัดทุกอย่างออกจากหัวสมอง แต่ในค่ำคืนนี้มันมีอะไรที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นมากมาย ตั้งแต่ความวุ่นวายที่งานศพ ทิวากรไปมีเรื่องกับลูกชายของพ่อเลี้ยงกำธรขนาดนั้น หลังจากนี้ไปไหนมาไหนคงต้องระวังตัว เพราะเป็นที่รู้กันดีว่านิสัยของกบิลนั้นคนละขั้วกับพ่อเลี้ยงกำธร คือนอกจากจะเป็นนักล่าผู้หญิงแล้ว ยังเป็นอันธพาลหมาลอบกัด ทำได้ทุกอย่างเพื่อลบล้างความอับอายขายหน้า

และยังไม่นับความสัมพันธุ์ระหว่างบุตรชายของเขากับบุตรสาวคนเล็กของพ่อเลี้ยงไกรศักดิ์อีก ถึงแม้ทิวากรจะบอกว่าไม่คิดอะไรกับคุณหนูรัมภาก็ตาม แต่พิชิตก็ยังไม่สบายใจสักเท่าไหร่ สายตาของคุณหนูรัมภาที่มองทิวากรตามไปหลอกหลอนเขาถึงในความฝัน พิชิตทราบดีว่าความรักในวัยคนหนุ่มสาวก็เหมือนน้ำมันกับไฟ หากทั้งสองฝ่ายโอนเอนเข้าหากัน - แม้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น -ไฟรักก็สามารถจุดติดพรึ่บพรั่บขึ้นมาได้ง่ายๆ

เมื่อตอนค่ำ พิชิตได้แต่กำชับบุตรชายให้อยู่ห่างๆ จากคุณหนูรัมภาและอย่าเผลอตัวเผลอใจเด็ดขาด ด้วยว่าในงานวันนี้เขาได้ยินเรณูพูดคุยกับนักธุรกิจที่ชื่อสันติเรื่องการหมั้นหมายคุณหนูรัมภาในอนาคตกับหนุ่มนักเรียนนอกลูกครึ่งไทย – อเมริกันที่ชื่อเจมส์ แต่พิชิตก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้ทิวากรรู้ เพราะคุณหนูรัมภาก็ยังไม่รู้เรื่องนี้เหมือนกัน มันเป็นเรื่องที่รู้กันอยู่ในวงของผู้ใหญ่เท่านั้น

แต่เหนืออื่นใด สิ่งที่ทำให้บุรุษผู้มีรอยแผลเป็นบนใบหน้านอนว้าวุ่นใจกลับเป็นการที่จู่ๆ บุตรชายก็ขับรถจากบ้านพักหลังรีสอร์ทกลิ่นเกสรมายังคฤหาสน์อัครชัยของเขาที่หนองหล่มกลางดึก ทิวากรไตร่ถามถึงความคืบหน้าการค้นหาตัวชื่นจิตร – เด็กรับใช้ผู้ที่หายตัวไปในคืนที่พ่อเลี้ยงเสียชีวิต

พิชิตรู้สึกว่าบุตรชายได้ทราบข้อมูลอะไรบางอย่างที่เขาไม่รู้ ทิวากรถามหาถึงทนายประจำตระกูลบุษบายุธที่จะเป็นผู้เปิดเผยพินัยกรรมซึ่งตั้งแต่พ่อเลี้ยงเสียชีวิตก็ยังไม่ปรากฏตัวและไม่มีใครสามารถติดต่อได้ ทิวากรถามอะไรๆ อีกหลายอย่างที่เกี่ยวกับผู้บริหารในโรงงานเซรามิก และผู้บริหารในรีสอร์ทกลิ่นเกสรสาขาเชียงรายกับเชียงใหม่ รวมถึงคำถามแปลกๆ เกี่ยวกับเดโชและเรณู

เขาไม่รู้ว่าบุตรชายจะถามไปทำไม แต่ถึงกับลงทุนขับรถมาดึกๆ ดื่นๆ อย่างนี้ คงจะไม่ใช่เรื่องไร้สาระ แต่พอเขาซักถามกลับไปบ้าง ทิวากรกลับไม่ตอบ บอกมาเพียงว่าเขามีอะไรบางอย่างต้องขบคิดซึ่งข้อมูลที่เขาถามไปนั้น อาจจะไม่มีอะไรเป็นประโยชน์เลยก็ได้

สุดท้าย กว่าที่จะคุยกันเสร็จก็เกือบตีหนึ่ง ก่อนที่ทิวากรจะกลับบ้าน ก็ขอแวะเข้าไปเยี่ยมนางอัมพรผู้เป็นแม่ในห้องนอน มันเป็นจังหวะที่นางอัมพรตื่นอยู่พอดี ทิวากรจึงถูกรบเร้าให้นอนค้างที่นี่ในคืนนี้อย่างปฏิเสธไม่ได้

พิชิตถอนหายใจ เรื่องว้าวุ่นใจของเขายังไม่หมด ยังมีเรื่องของวานิช มิตรนิรันดร์เข้ามาอีกหนึ่งเรื่อง

ในงานศพเมื่อช่วงค่ำ เดโชได้เข้ามาบอกกับเขาว่า จากการตรวจสอบในสิ่งที่เฟยสอบสวนมาจากวานิช มิตรนิรันดร์ ข้อมูลทุกอย่างเป็นเรื่องโกหก ไม่มีคนที่เป็นนักธุรกิจตระกูลมิตรนิรันดร์อยู่ในโลกนี้ และโรงงานผลิตผลไม้กระป๋องอะไรนั่นก็ไม่มีอยู่จริง

และตั้งแต่ที่มีคน ‘เห็น’ วานิช มิตรนิรันดร์ไปหาสิงห์ ผลใหม่ที่สำนักงานหนังสือพิมพ์ห้างฉัตร เดลี่ก่อนจะขับรถสปอร์ตหายออกไปด้วยกันตลอดบ่าย ก็ไม่มีใครเห็นหน้ามันอีก

คำถามก็คือ ตัวจริงของวานิช มิตรนิรันดร์คือใคร? มาที่นี่เพื่ออะไร? และมันไปคุยอะไรกับสิงห์ ผลใหม่?

พิชิตไม่แปลกใจเลยที่เขาจะนำเรื่องราวทุกอย่างมาขมวดรวมกัน และกลายเป็นฝันร้ายที่ชวนปวดหัวอย่างนั้น

นาฬิกาดิจิตอลบนโต๊ะข้างเตียงแสดงเวลาตีสามสามสิบห้านาที ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงกว่าจะได้เวลาที่เขาจะล้างหน้าล้างตาและเข้าห้องฟิตเนสด้านล่างเพื่อออกกำลังกายยามเช้าครึ่งชั่วโมง

แต่เขาก็นอนไม่หลับอีกแล้ว  พิชิตเลิกผ้าห่มออก เหวี่ยงขาลงจากเตียง เหลียวไปทอดสายตามองที่ว่างข้างๆ กายซึ่งเคยเป็นพื้นที่ของอาหยงคู่ชีวิต แล้วเขาก็รู้สึกห่อเหี่ยวใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

ตั้งแต่ที่อาหยงหกล้มคราวนั้น หล่อนก็ไม่ยอมพูดคุยกับเขาอีกเลย เห็นหน้าเขาทีไรก็มีแต่จะชี้หน้าด่าว่า เหตุที่หล่อนต้องเป็นอย่างนี้ก็เพราะเวรกรรมที่เขาเที่ยวร่วมมือกับเดโชก่อไว้ในอดีต ระยะหลังก็มักจะพร่ำเพ้อถึงเด็กคนนั้นที่ยกให้ญาติลูกพี่ลูกน้องไปเลี้ยงดู อาหยงบอกว่า สักวัน เด็กคนนั้นจะได้รู้ความจริงว่าพ่อแม่ของตัวเองตายยังไง เพราะสวรรค์ย่อมให้ความยุติธรรมกับดวงวิญญาณของผู้บริสุทธิ์เสมอ ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วก็ตาม  

พิชิตก็ได้แต่รับฟังอย่างปลงตก อาหยงคงมีอาการทางสมองตามที่ใครหลายคนคิดจริงๆ

ขณะสลัดความคิดทั้งหมดออกไป พิชิตก็ลุกขึ้นยืน ภายในห้องนั้นมืด มีแสงจากโคมไฟหัวเตียงเป็นแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียว เขาเอี้ยวตัวบิดขี้เกียจ ในสมองครุ่นคิดถึงสิ่งต่างๆ ที่จะต้องทำในวันนี้จนไม่ทันรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวที่ว่องไวและไร้สุ้มเสียงเหมือนเงาจากมุมหนึ่งของห้อง

“อรุณสวัสดิ์ คุณพิชิต”เสียงนั้นดังขึ้นจากด้านหลัง พร้อมกับที่อะไรบางอย่างแข็งๆ จ่อแนบที่ท้ายทอยของเขา

พิชิตตระหนักได้ว่ามันคือปลายกระบอกปืน เขาพยายามควบคุมสติ ข่มกลั้นความสับสนและแตกตื่นว่าเกิดอะไรขึ้นกับบรรดาคนงานจำนวนสองคนที่รักษาความปลอดภัยอยู่ด้านนอก เขากล่าวตอบไปด้วยน้ำเสียงที่ควบคุมจนเกือบจะเป็นปกติว่า

“อรุณสวัสดิ์ เข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต มันเสียมารยาทนะ รู้รึเปล่า?”  

“คนอย่างคุณ ไม่สมควรสอนคนอื่นเรื่องมารยาท” ผู้มาเยือนในความมืดพูดเสียงเข้ม

“คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ผมทำอะไรให้คุณไม่พอใจอย่างนั้นหรือ?” พิชิตปล่อยมือลงข้างตัวพร้อมกับเกร็งกำลังแน่น เขาสังเกตเงาของผู้มาเยือนที่ทอดอยู่บนพื้นห้อง ผู้มาเยือนไม่ใช่คนที่ตัวเล็กเลย เขาอาจจะต้องคิดให้ดีถ้าจะต่อสู้กับคนร่างสูงใหญ่ที่ถือปืน ในขณะที่ตัวเขาเองมีแต่สองมือเปล่า

ผู้มาเยือนหัวเราะหึๆ “เดี๋ยวคุณก็รู้”

สิ้นคำนั้น ลำแขนแข็งแกร่งข้างหนึ่งก็สอดลอดใต้รักแร้ของพิชิตจากด้านหลัง ร่างของพิชิตลอยวูบ เขาถูกเหวี่ยงทิ้งบนพื้นห้อง หัวไหล่ของเขากระแทกพื้นดังพลั่ก พิชิตสะกดความเจ็บปวดม้วนตัวกลิ้งออกห่าง แต่ผู้มาเยือนในความมืดก็กระโจนตามเข้ามาว่องไวเกินกว่าที่เขาจะทันตั้งตัว พิชิตทันเห็นแวบหนึ่งว่าผู้มาเยือนสวมหมวกไหมพรมอำพรางใบหน้าก่อนที่มันจะจับเขาพลิกตัวนอนคว่ำหน้าบนพื้น และใช้หัวเข่ากดแผ่นหลังของเขาไว้และใช้ปลายปืนจ่อหน้าท้ายทอยเขาตลอดเวลา

นี่เป็นการกระทำของนักฆ่ามืออาชีพชัดๆ พิชิตแน่ใจพันเปอร์เซ็นต์

“โอเค เอาล่ะ ค่อยๆ พูดกันดีกว่า” พิชิตพยายามหยั่งเชิงอีกฝ่ายว่าถ้าเป็นนักฆ่าอาชีพ จะเป็นนักฆ่าระดับไหน  “คุณเป็นใคร? ต้องการอะไร? ผม - ”

“ - ผมเป็นใครก็เรื่องของผม” ผู้มาเยือนกระซิบสวนคำ “ส่วนสิ่งที่ผมต้องการ...ผมต้องการคำตอบบางอย่างจากคุณ”

“คำตอบอะไร?”

เงียบไปครู่หนึ่ง แล้วผู้มาเยือนก็กล่าวตอบในที่สุด

“พวกคุณฆ่านิเทศ ดำรงธรรมและภรรยาของเขาทำไม?”

พิชิตเย็นวาบไปทั่วกาย “คุณ...ใครจ้างคุณมา?”

“ผมถามว่าพวกคุณฆ่านิเทศดำรงธรรมและภรรยาของเขาทำไม?”

“ผมไม่รู้ว่า – ”พิชิตพูดไม่ทันจบ ปลายกระบอกปืนก็เพิ่มน้ำหนักทิ่มท้ายทอยของเขา

“ผมมีเวลาให้คุณยี่สิบนาที ชีวิตของคุณจะเป็นหรือตาย ขึ้นอยู่กับคำตอบของคุณหลังจากนี้” ผู้มาเยือนพูดเสียงเย็น “ผมจะถามคำถามเป็นครั้งสุดท้าย พวกคุณฆ่านิเทศ ดำรงธรรมและภรรยาของเขาทำไม?”

คำถามนั้นลอยอยู่ในอากาศ พิชิตแนบใบหน้าด้านหนึ่งกับพื้นพรม เผยให้เห็นแก้มด้านที่มีรอยแผลเป็นในแสงสลัวจากโคมไฟ

“ผมคงไม่มีทางเลือกสินะ?” พิชิตถามอย่างไร้จุดหมายเพราะรู้คำตอบดีอยู่แล้ว

“ถูกต้อง คุณไม่มีทางเลือก” ผู้มาเยือนตอบ “เพราะถ้าคุณไม่ตอบ ผมจะฆ่าคุณ และผมก็จะไปฆ่าเมียคุณที่นอนป่วยอยู่อีกห้องหนึ่ง เมื่อฆ่าเมียคุณเสร็จแล้ว ผมก็จะฆ่าคนอื่นๆ ที่เหลืออยู่ในบ้านหลังนี้ให้หมด เป็นไง คำตอบของผมชัดเจนพอหรือยัง?”

“ชัดเจนมาก” พิชิตแค่นหัวเราะขมขื่น ในที่สุด วันนี้ก็มาถึงเขาจนได้ “ถ้าอย่างนั้น มาเริ่มต้นคุยเรื่องที่คุณอยากรู้กันเลย”

++++++++

จากคุณ : ทะเลเดือดพันธุ์ร็อค
เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 11:45:23




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com