^ ชอบขนมครกเหมือนกันค่ะคุณปู่
หนูยังเคยคิดจะไปเปิดโรงทานขนมครกในวัดเลย แฮ่ๆ

+ + + +
มาเล่าเรื่อง บึงมรณะ กับ ผ้าห่อคนเป็น ตามที่สัญญากับคุณใยไหมไว้ค่ะ ^^
คือตอนเด็ก ๆ เราก็อยู่บ้านนอกเหมือนกัน แต่แม่ย้ายตามพ่อไปอีกอำเภอนึง เพราะว่าพ่อย้ายไปสอนในโรงเรียนอีกที่หนึ่ง ซึ่งเจริญขึ้น และฐานะครอบครัวก็ขยับขึ้นอีกหน่อย แต่บ้านนอกหลังเก่าซึ่งมีคุณตาอยู่ (คุณยายเสียไปแล้ว) เราก็ไปอยู่ช่วงปิดเทอมบ้าง วันหยุดบ้าง คือบ้านใหม่ก็ยังไม่ค่อยมีเพื่อน บ้านเก่าเพื่อนซึ่งเป็นเด็กข้างบ้านก็อยู่กันคนละโรงเรียน แต่เราก็อยากมีเพื่อนนะ เวลากลับบ้านเก่าก็จะมองหา ว่าใครเดินผ่านหน้าบ้าน ก็จะวิ่งตามเขา ไปขอเขาเล่นด้วย ตาก็จะคอยบอกว่าอย่าไปๆ มานวดมาเหยียบหลังให้ตานี่ เราก็จะบอก ไม่เอาๆ อยากมีเพื่อนเล่น
ปรากฏว่า เพื่อนพาไปแกล้งค่ะ ^^;;
คือเขาพาลงไปในบึงซึ่งเจ้าของกำลังขุดลอก มีแต่โคลนเต็มเลย ลึกด้วย แต่เพื่อนบอกว่า ไปผจญภัยใต้บึงกัน แล้วเราก็เชื่อ ไถลสไลเดอร์ลงไปในบึง แต่เพื่อนค่อยๆไต่ลง แล้วบอกเราว่า ลองหาทางขึ้นจากบึงซิ ไปปีนทางโน้นนะ เราก็ไปตามทางที่เพื่อนบอก ปรากฏว่ามันเป็นด้านที่ไม่มีเถาวัลย์ ไม่มีชั้นหินให้เกาะ เราปีนเท่าไรก็ลื่นตกลงไปก้นบ่ออีกค่ะ กว่าจะหันไปถามเพื่อนว่าจะให้ขึ้นไปยังไง เพื่อนก็หนีไปจากบ่อ กลับบ้านกันไปหมดแล้ว
เราก็ขึ้นจากบ่อไปทางฝั่งที่เพื่อนหนีไป ตัวเปื้อนโคลนเลอะเทอะไปหมด ร้องไห้กลับบ้าน ตาโกรธมาก ดีนะไม่จมลงไปในบึงเพราะถ้าจมลงไป กว่าใครๆจะรู้ก็คงหมดทางช่วย ห้ามไม่ให้เราคบเพื่อนกลุ่มนี้อยู่พักนึง แต่เราก็ดื้อ ไปอีกค่ะ เป็นที่มาของผ้าห่อคนเป็น....
คือเพื่อนจับเราไปห่อด้วยผ้าห่มน่ะค่ะ ^^ แต่คราวนี้แกล้งแบบมีศิลปะมาก คือไม่ให้รู้ว่าถูกแกล้ง ด้วยการบอกว่า มาเล่นปรับอุณหภูมิกัน ด้วยการเอาผ้าห่มมาทับเราทีละชั้น จนหนักอึ้งเลย น่าจะผ้าห่มประมาณ 10 ผืน จากนั้นให้เรามุดผ้าห่มออกมา แล้วถามเราว่า
"เย็นไหม"
เราก็ "อื้อๆ เย็นดี"
ทำอยู่อีกตั้งหลายทีแหน่ะค่ะ เอากลับมาอวดแม่ด้วย แม่อยากเย็นไหม เดี๋ยวหนูทำให้ เล่าให้แม่ฟังแม่จะเป็นลม บอกตายๆ ดีเราไม่ขาดอากาศหายใจอยู่ในผ้าห่ม
สรุป เกือบตายเพราะความอยากมีเพื่อนมาแล้วหลายหน

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ถ้าใครบางคนไม่อยากเ็ป็นเพื่อนกับเรา ก็อย่าไปเซ้าซี้เขาเลยนะคะ เดี๋ยวเขาฆ่าเอาได้
ด้วยความปรารถนาดีจาก งุงิ
