ทั้งที่หญิงสาวเดินทางไปทำงานต่างถิ่นแทบทุกสัปดาห์ แต่ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ทำให้บุรัณกระวนกระวายคิดถึงเธอมากเท่าคราวนี้ ความห่างเหินแบบแปลกๆ ระหว่างเขาและอันดามันที่เกิดขึ้นในระยะหลังทำให้ชายหนุ่มเร่าร้อน ไม่ได้หลับอย่างเป็นสุขเลยสักราตรี
สองวันหนึ่งคืนที่ไปภูเก็ต ไม่ว่าเขาจะติดต่อหาอันดามันกี่ครั้ง เธอก็ไม่ยอมรับสายเขาเลยสักหน ไม่หรอก ถ้าจะพูดให้ถูกแล้ว เธอทำตัวห่างเหินออกไปอย่างเห็นได้ชัด นับตั้งแต่วันที่ตัดรอนด้วยถ้อยคำบาดใจคนฟังคราวนั้นแล้วต่างหาก เราน่าจะห่างกันสักพักนะคะ นี่ถ้าแม่รู้ว่าอันดามันพูดอย่างนี้ ท่านคงตีปีกดีใจ แล้วก็ซ้ำเติมเขาให้ช้ำใจเล่น พร้อมกับหาเหตุผลมาประณามหญิงสาวเช่นเคย นั่นสินะ! แม่เกลียดอันดามันออกขนาดนั้น ทำไมก่อนหน้านี้ เขาไม่เคยเอะใจสงสัยเลย ว่าการที่ท่านกำลังป่วยหนัก และยังบังคับให้เขาแต่งงานกับเพียงฤทัยนั้นมันไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด สตรีผู้เป็นที่รักเคยตั้งข้อสังเกตและเตือนเขาว่ามันเป็นเพียงแค่ลูกไม้ที่ปัณรสีใช้เพื่อแยกเขากับผู้หญิงที่ท่านไม่ถูกใจ ครั้งนั้นเขาหาว่าเธออคติกับแม่จนมองท่านในแง่ร้าย...เกินจริง เขาเพิ่งรู้ตอนนี้เองว่ายามตั้งป้อมโจมตีใคร แม่...ทำได้ร้ายกาจน่ากลัวขนาดไหน บทสนทนาเสียดสี ตำหนิอันดามันทั้งทางตรงและทางอ้อมทำให้เริ่มจะเชื่อข้อสังเกตที่หญิงสาวเคยบอกกับเขาไว้ขึ้นมาตงิดๆ น่าแปลก...เขาเพิ่งฉุกใจนึกออกว่ามีพิรุธมากมายซึ่งสนับสนุนสิ่งที่อันดามันเคยตั้งข้อสังเกตไว้ อาการป่วยของปัณรสีทุเลาขึ้นระหว่างเตรียมงานแต่งงานของเขากับว่าที่สะใภ้ที่ท่านเลือก และโรคร้ายนั้นก็หายขาดแทบจะทันทีที่การแต่งงานเสร็จสิ้น ทั้งที่ก่อนนั้นแพทย์ประจำตัวยืนกรานนักหนาว่าอาการเพียบหนัก ได้แต่รอวันแย่ลง ไม่มีแม้แต่โอกาสจะรักษาให้ทรงตัวเสียด้วยซ้ำ บุรัณหลับตาลงทั้งขุ่นเคืองระคนด้วยความโกรธเกรี้ยว เมื่อสำนึกว่าเสียรู้แก่มารดาผู้ใช้ความรักมาเป็นเงื่อนไขบังคับให้เขาเลือก และเขาก็ใช้ความกตัญญูเป็นที่ตั้งเดินไปตกหลุมพรางของท่านโดยง่าย ตรงข้ามกับอันดามันโดยสิ้นเชิง เธอไม่เคยแม้จะยื่นคำขาดสักครึ่งคำ แต่ยอมรับกับชะตากรรมและอดทนกับที่ทางที่เขาจัดวางให้แต่โดยดี นอกจากนับวินาทีคอยวันที่เขาจะหย่าแล้ว หญิงสาวไม่เคยกระเง้ากระงอดงอแง หรือเรียกร้องสิ่งใดเลย คุณรัณคิดจะหย่ากับภรรยาของคุณจริงๆ หรือที่ผ่านมาแค่หลอกให้เอ็มมีความหวังไปวันๆ กันแน่คะ คำถามที่เขาเคยกลัวจนไม่กล้าหาคำตอบ บัดนี้บุรัณรู้แล้วว่าเขาจะตอบอันดามันว่าอย่างไร บุรัณเคลื่อนรถเข้ามาจอดที่หน้ามุกช้าๆ แสงไฟในบ้านที่ยังคงเปิดสว่างทำให้ชายหนุ่มถอนหายใจหนักหน่วงกว่าเดิมก่อนลงจากรถด้วยอาการเหนื่อยหน่าย แม้จะพยายามหายใจเข้าลึกๆ แต่สีหน้าก็มิได้ดีขึ้น ยิ่งเมื่อเข้ามาในบ้านและเห็นเพียงฤทัยลุกขึ้นปรี่เข้ามาหาด้วยท่าทียินดี พี่รัณกลับดึกจังเลย ฤทัยโทร.หา พี่ก็ปิดเครื่อง ฤทัยเป็นห่วงแทบแย่แน่ะค่ะ โทรศัพท์พี่แบตหมดน่ะ ขอโทษทีนะจ๊ะที่ลืมโทร.มาบอกก่อน บุรัณก้าวเข้าไปนั่งลงที่โซฟา และหลับตาลง ไม่ปรารถนาจะเห็นว่าผู้เป็นภรรยาทำอะไรให้เขาบ้าง ไม่เป็นไรค่ะ นี่พี่รัณทานอะไรมาหรือยังคะ มื้อค่ำวันนี้ฤทัยทำข้าวต้มทะเลให้คุณแม่ทาน มีแบ่งเก็บไว้ให้พี่รัณด้วย เดี๋ยวฤทัยไปอุ่นให้นะคะ เพียงฤทัยขยับเข้ามาปลดเนคไทออกให้เขาอย่างคนคุ้นเคยที่จะปรนนิบัติต่อกัน แล้วม้วนเก็บวางไว้ที่โต๊ะ จากนั้นจึงปลดกระดุมที่ปลายแขนเสื้อและพับขึ้นไปกองไว้ที่ใต้ข้อศอก เอ้อ... บุรัณพูดไม่ออกตามเคย เมื่อเพียงฤทัยลงไปนั่งที่พื้นยกเท้าเขาขึ้นเพื่อถอดถุงเท้าให้โดยมิต้องร้องขอ ชายหนุ่มจำได้ว่าครั้งแรกที่เธอทำแบบนั้นหลังจากแต่งงานกันใหม่ๆ เขาแทบจะชักขาหลบกระโดดขึ้นไปบนเก้าอี้เลยทีเดียว แต่เพียงฤทัยดึงดันว่าเธอยินดีกระทำดังนั้น และท่าทางก็แสดงออกถึงความเต็มใจ ไม่มีอาการรังเกียจจริงๆ เสียด้วย จากการแต่งงานด้วยการถูกบังคับ มันเริ่มเป็นความเคยชินตั้งแต่เมื่อไรก็สุดรู้ ที่เขาจะกลับบ้านมาพร้อมความอึดอัดที่ต้องเผชิญหน้ากับสะใภ้ที่แม่เลือก แต่แล้วความพิพักพิพ่วนนั้นก็กลับจางลง เมื่อเสียงแจ้วคอยเล่าอะไรต่อมิอะไรให้ฟังจ๋อยๆ อยู่ข้างหู ขณะมือขาวบอบบางคู่นั้นทำโน่นทำนี่ให้เขามิได้หยุดหย่อน เกือบปีที่เพียงฤทัยเป็นภรรยาที่สมบูรณ์แบบ ดูแลเขา ดูแลบ้านได้ไร้ที่ติ หลายครั้งทีเดียวที่เขาเคยคิดว่าถ้าไม่มีอันดามันเสียคน เขาคงรักผู้หญิงคนนี้ได้ไม่ยากเย็นเลย บุรัณเอื้อมไปดึงเธอขึ้นมานั่งเคียงกันบนโซฟา ปัดผมสีดำสนิทที่เรียบลื่นราวเส้นไหมญี่ปุ่นชั้นดีให้พ้นใบหน้าเพียงฤทัย ไล้ปลายนิ้วลงบนปานที่พวงแก้มเธอแผ่วเบาด้วยความสงสาร แม้เรื่องราวระหว่างเขาและเพียงฤทัยจะยังมองไม่เห็นทางออกว่าจะจบลงอย่างไร เพราะหญิงสาวทั้งรัก เทิดทูน และเชื่อใจเขาหมดทั้งหัวใจอย่างนั้น บุรัณจึงไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นบอกกล่าวภรรยาอย่างไร เธอไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่สมควรที่จะต้องถูกขอเลิกราแบบนี้ แต่อันดามันเล่า...สตรีผู้เป็นที่รัก เป็นความหวังที่จะพาเขาไปสู่ทุกจุดหมายในชีวิต เธอจะทำให้ชีวิตของเขาสมบูรณ์อย่างหาใดเสมอเหมือนมิได้ เขาสูญเสียเธอไปให้ใครอื่นไม่ได้เด็ดขาด! บุรัณจำต้องยอมรับด้วยความขมขื่นว่าเขากำลังอยู่ระหว่างผู้หญิงสองคนที่แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะทำใจเสียใครคนใดคนหนึ่งไปได้จริงๆ หรือ เมื่อคนหนึ่ง...มอบความรักให้เขาโดยไร้เงื่อนไข ขณะอีกคนหนึ่ง...คือความภักดีอันไม่มีที่สิ้นสุด บุรัณไม่อยากรับรู้เลยว่าตัวเองจะเป็นอย่างไร หากต้องเสียคนใดคนหนึ่งไปโดยไม่มีวันหวนคืน
ทั้งที่ยื้อเวลาในการหย่ากับเพียงฤทัยมาเนิ่นนาน แต่ครั้งนี้ความกลัวในสิ่งที่กำลังจะหลุดลอยทำให้เขาไม่กล้าเสี่ยงที่จะเสียเวลาไปอีกแม้แต่วินาทีเดียว
เพียงฤทัย...เทียบไม่ได้เลยกับอันดามัน
เพียงฤทัยมีความหมายแค่กับแม่และเขา
แต่อันดามัน...สำคัญกว่านั้น เธอสำคัญกับเขา และอนาคตของฟิวเจอร์เทคโนโลยีด้วยเช่นกัน
บริษัทขาดอันดามันไม่ได้เด็ดขาด!
ข้าวต้มทะเลงั้นหรือ เอาสิ เขาพยักหน้า วานฤทัยอุ่นให้หน่อยละกัน พี่ขอขึ้นไปคุยธุระกับแม่แป๊บเดียว เดี๋ยวลงมาทานนะจ๊ะ
เพียงฤทัยพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น แล้วลุกเข้าครัวไปทันที บุรัณถอนหายใจหนักหน่วงขณะมองตามแผ่นหลังของภรรยา หากเพราะตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว เขาจึงฝืนขึ้นไปเคาะประตูห้องนอน เชิญมารดาไปที่ห้องทำงาน เพื่อขอปรึกษา ปัญหา อันค้างคามาเนิ่นนาน
ผมต้องการหย่ากับเพียงฤทัย แม่ช่วยบอกฤทัยให้ผมทีได้ไหม ชายหนุ่มไม่เกริ่นนำ แต่เริ่มเข้าสู่ประเด็นโดยไม่อ้อมค้อม ชายหนุ่มรู้ดีว่าเขาขลาดเกินกว่าจะเผชิญหน้าและแจ้งข่าวร้ายนั้นกับภรรยาด้วยตนเอง
หย่า! รัณพูดอะไรของลูก แม่ไม่เข้าใจ
แม่แกล้งป่วย หลอกให้ผมแต่งงานกับฤทัย ตอนนี้แม่ก็สบายดีแล้ว ผมอยากจะหย่าก็ไม่เห็นแปลกเลยนี่ฮะ แม่บอกฤทัยให้ด้วยละกัน
ทำไมแม่จะต้องพูดให้ ในเมื่อแม่ไม่อยากให้รัณหย่ากับน้อง ถ้าลูกไม่กล้าบอกฤทัยเอง ก็ไม่ต้องหย่า
แม่! แม่ทำลายชีวิตผมแบบนี้ไม่ได้นะ เขาโวยเสียงแข็งคับห้อง เดินงุ่นง่านปึงปังไปมารอบๆ
ฤทัยเขาปรนนิบัติดูแลรัณบกพร่องตรงไหน ทำไมรัณถึงอยากจะหย่าล่ะลูก รัณอยู่ร่วมบ้านกับน้องมาเป็นปี ไม่รักไม่เอ็นดูน้องบ้างหรือ คนเขาจะว่ายังไงที่น้องแต่งงานได้ไม่นานลูกก็ขอหย่าอย่างนี้ ถ้าฤทัยเขาทำอะไรไม่ถูกใจรัณ ลูกให้เวลาน้องเขาพิสูจน์ตัวเองอีกหน่อยเถอะ แม่แน่ใจว่าฤทัยเขาจะต้องเต็มใจเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อลูก ปัณรสีประโลมเสียงอ่อน...
ไม่ แม่ก็รู้ว่าผมไม่ได้รักฤทัยแบบนั้น ผมเห็นฤทัยเป็นน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น
งั้นรัณจะบอกแม่ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา รัณแต่งงานกับน้องแค่ในนามเหมือนในละครอย่างนั้นหรือ ปัณรสีแสร้งทำสีหน้าสงสัย
ผม... บุรัณเถียงไม่ออก
ถ้าลูกคิดจะหย่ากับน้อง ก็ไม่ควรใช้ชีวิตอย่างสามีภรรยากัน แบบนั้น เพื่อที่หลังจากหย่ากันไป น้องก็จะได้ยังมีทางถอยให้ตัวเองบ้าง แต่นี่รัณปฏิบัติกับฤทัยเหมือนผัวเมียคู่อื่นๆ รัณไม่คิดว่านี่จะเป็นการเห็นแก่ตัวเกินไปหรือ จู่ๆ วันนี้ลูกก็ลุกขึ้นมาบอกว่าต้องการหย่า แล้วฤทัยล่ะ รัณเคยคิดถึงน้องบ้างหรือเปล่าว่าจะรู้สึกยังไง จะผิดหวังเสียใจแค่ไหน แล้วน้องจะเริ่มต้นใหม่ได้ยังไง
นั่นไม่ใช่ปัญหาของผมน่ะแม่ นั่นเป็นเรื่องที่แม่ต้องจัดการต่างหาก เพราะแม่เป็นคนทำให้เรื่องทั้งหมดล่วงเลยมาจนถึงขนาดนี้
เลิกทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโตได้แล้วนะรัณ ผู้หญิงคนนั้นเขาไม่เคยรักลูกอย่างที่ฤทัยรักเลยสักนิด รัณจะไปอาวรณ์ทำไม แม่คนนั้นมันคิดแต่จะปอกลอกลูกเท่านั้น
ถ้าแม่ทำใจให้รักเอ็มไม่ได้ อย่างน้อยก็อย่าเกลียดเขา...ผมขอร้อง ปัณรสียิ้มเกรียม ถ้ารัณเกลียดมันไม่ได้ อย่างน้อยก็อย่ารักมัน แม่ขอร้องบ้าง รัณทำให้แม่ได้ไหมล่ะ
แม่! เมื่อจนด้วยคำพูด บุรัณหันรีหันขวาง ถ้าแม่ไม่ยอมจัดการอย่างละมุนละม่อมให้ ผมก็จะบอกฤทัยไปตรงๆ สั้นๆ ง่ายๆ ได้ใจความ ผมจะขอหย่าโดยไม่บอกเหตุผล
ตามใจรัณสิลูก ชีวิตของรัณนี่ แม่เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้รัณแล้ว ถ้ารัณจะผลักไสออกไป สนใจอยู่แต่กับเรื่องความรักเลื่อนลอยของตัวเอง แม่ก็จนใจ สีหน้าบุตรชายที่ละห้อยโหย ไร้ราศีทำให้ปัณรสีถอนใจ
ผมขอร้องแม่! ผมต้องหย่ากับฤทัยจริงๆ นะ
น้ำเสียงอ้อนวอนนั้น ทำให้หญิงสูงวัยลูบใบหน้าบุตรชายแผ่วเบา ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้รักรัณ ถ้าลูกไม่เชื่องั้นก็คอยดูกันไป แม่ขอเวลาอีกแค่เดือนสองเดือนเท่านั้น รับรองว่าแม่นั่นจะต้องคอยไม่ไหวแน่นอน แม่ดูคนไม่ผิดหรอก
ตกลงฮะแม่ ผมเข้าใจแล้ว เขาเอ่ยคำต่อไปช้าๆ เมื่อแม่ไม่จัดการเรื่องนี้ให้ผม ผมก็จะจัดการเอง
บุรัณสบตามารดาอย่างเจ็บปวด ท้ายที่สุดเขาเดินผ่านหน้าปัณรสีออกจากห้อง บรรจงงับประตูตามหลังเงียบกริบ ชายหนุ่มหยุดระงับอารมณ์และความผิดหวังให้กลับเป็นปกติ แล้วฝืนยิ้มลงบันไดเพื่อไปสมทบกับเพียงฤทัยที่ห้องครัว
จากคุณ |
:
สิริณ (แม่มณี)
|
เขียนเมื่อ |
:
27 มี.ค. 55 07:31:32
|
|
|
|