4/1
คาชาล
เจ้าของชื่อชะงักขาที่กำลังจะก้าวขึ้นหลังม้า วิคเตอร์เดินมาจากไหนไม่รู้ตรงเข้ามาสวมกอดเขาแนบแน่น
ไง น้องชาย เดี๋ยวนี้เจ้าริอ่านทำผิดประเพณีเรอะ พ่อหนุ่มทิชกู ว่าพลางแลตามหลังนักท่องเที่ยวสาวซึ่งเดินห่างออกไป
คาชาลเชิดหน้าขึ้นอย่างเด็กดื้อ ถือดีต่อเสียงหัวเราะเจ้าเล่ห์ของเพื่อนพี่ชาย ทั้งที่อีกฝ่ายเพียงแค่หยอกล้อ เขาออกจากเผ่าและถูกสังคมเมืองกลืนกินเกินกว่าจะให้ความสำคัญกับประเพณีดั้งเดิม
เจ้ามาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร ทำไมไม่ไปดูแลลูกทัวร์เล่า
ข้ามาทางที่เจ้ารู้ดี น้ำเสียงไกด์หนุ่มกลับมาจริงจัง
เขาหมายถึงเส้นทางลับซึ่งไม่ต้องผ่านเจ้าหน้าที่เขตสงวน เลยขึ้นไปทางทิศเหนือผ่านช่องเขาหิน
พี่ชายเจ้าเขาพร้อมติดต่อกับเจ้าอาทิตย์หน้านี้...ที่เดิม ข้าเตือนมันแล้วว่าเจ้าซื่อเกินไป แต่มันไม่ฟัง คาชาล เจ้าจะให้ความลับของเราแพร่งพรายไม่ได้เชียว
คนซื่อหน้าม้าน เขาเป็นเด็กในสายตารุ่นพี่เสมอ ทั้งที่เขามีความตั้งใจและอุดมการณ์ไม่ต่างจากพวกพี่เลย ขาดแต่เพียงประสบการณ์และผลงานเท่านั้น
คาชาลขวนขวายความสำเร็จประสาคนหนุ่มไฟแรง โดยไม่สนคำสบประมาทของเพื่อนพี่ชาย แววตาอ่านง่ายของเขานั่นแหละคือจุดอ่อนอันอาจนำภัยมาถึงตัวเข้าสักวัน
.................
มิส มิสไปไหนมาคะ
สีหน้าติลมาไม่สู้ดี ตรงข้ามกับใบหน้าร่าเริงเปื้อนยิ้มปลอบใจของอีกฝ่าย
ฉันไปเดินเล่นมาน่ะจ้ะ เม็งโพบอกว่าด้านหลังมีลำธารฉันเลยลองเดินไปดู นี่ไงจ๊ะ ได้รูปสวยๆ มาเพียบเลย ว่าพลางกดภาพบนหน้าจอกล้องดิจิตอลให้เด็กสาวดู
ทว่าคนตาดีกลับตาไวเห็นภาพม้าสีน้ำตาลตัวเขื่องติดขอบเฟรม เอ๊ะ! นั่นม้าตัวโปรดของพี่คาชาลนี่คะ หนูจำจุดสีขาวบนจมูกมันได้ ทำไมไปอยู่ตรงนั้น
ลลิลดาคิดหาคำตอบเหมาะสม หากสถานการณ์นี้เกิดขึ้นกับเธอก่อนจะได้รู้จักชายผู้รักศักดิ์ศรีคนนั้น เธอคงตอบไปตามตรงโดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย แต่ตอนนี้เธอกลับคิดแทนเขา กลัวเขาจะถูกดูแคลนจากชาวทิชกูซึ่งยึดถือกฎเกณฑ์มายาวนาน
ฉันหิวจัง ติลมา หญิงสาวแสร้งโอดครวญก่อนกดปิดกล้อง
จริงด้วย หนูตามหามิสเพราะเรื่องนี้พอดีค่ะ เจ้าบ้านคล้อยตามง่ายดาย มิสกลับไปรอที่กระโจมก่อนนะคะ หนูจะขอแบ่งเนื้อแพะย่างไปให้
การประกอบอาหารของชาวทิชกูจะมีส่วนกลางที่แม่บ้านทุกคนช่วยกันทำ เช่นที่นักท่องเที่ยวสาวเคยเห็นตั้งแต่วันแรก กับอาหารซึ่งประกอบขึ้นเองเป็นพิเศษอย่างข้าวต้มของอัมมา
เดี๋ยว ติลมา แล้วอัมมาของเธอล่ะจ๊ะ เป็นไงบ้าง
ดีขึ้นแล้วค่ะ ยาของมิสดีมาก มิสกลับไปรอกับอัมมาก่อนนะคะ หนูจะรีบตามไป
ลลิลดาโคลงศีรษะขันความว่องไวของเด็กสาว ความสดใสของติลมาต่างจากความเรียบง่ายของผู้คนที่นี่ เหมือนเจ้านก ฮัมมิ่งเบิร์ด ตัวน้อยขยับปีกรัวเร็ว
.................
มื้อเย็นวันเดียวกันนั้นขาดสมาชิกไปหนึ่งคน ติลมาบอกว่าพี่ชายต้องอยู่โยงเฝ้าม้าสาวซึ่งใกล้ถึงกำหนดคลอดเต็มที ตามหน้าที่หมุนเวียนของชายฉกรรจ์ชาวทิชกูที่ต้องผลัดเปลี่ยนกันดูแลฝูงสัตว์เลี้ยงของพวกเขา
ลลิลดาวาบลึกในอก เธอหวังได้สบตาคมกล้าคู่นั้นอีกครั้งหลังความสนิทสนมเพิ่มพูน แต่แล้วที่นั่งฝั่งตรงข้ามกลับว่างเปล่า เออหนอ หญิงสาวลอบถอนใจเมื่อคิดว่าตนชักจะหลงเสน่ห์พ่อรูปเหมือนพระเอกขวัญใจผู้นี้เกินไปเสียแล้ว
ครั้นช่วยดูแลหาหยูกยาให้แม่เฒ่าเรียบร้อยก็ถึงเวลากล่าวราตรีสวัสดิ์กับสองยายหลาน ติลมาหรี่ไฟตะเกียง แว่วเสียงหายใจสม่ำเสมอของเจ้าหล่อนหลังจากนั้นไม่นาน
นักท่องเที่ยวสาวไม่รู้สึกง่วงแม้แต่น้อย อาหารในท้องไม่ทันย่อยดี ยามค่ำคืนเช่นนี้เธอปรารถนาจะออกไปเดินเล่นรับลมเสียมากกว่า แต่ก็ไม่อยากรบกวนเด็กหญิงซึ่งคงทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน
โธ่เอ๋ย ก็บรรยากาศที่นี่ออกจะดี อากาศบริสุทธิ์กว่าในเมืองใหญ่ตั้งเยอะ การมาที่นี่เหมือนมาพักปอดจากมลพิษรายรอบตัว เธออยากสูดลมเย็นให้ชุ่มฉ่ำ หรือนอนดูดาวบนพรมนุ่มสีเขียวขจีท่าจะดี
ความคิดลลิลดาล่องลอยไปเหยียบย่างเส้นแบ่งสู่ห้วงนิทรา ทว่าเสียงขยับของกรอบประตูเรียกสติเธอกลับมา เธอผุดลุกนั่ง ขณะเงาสูงโปร่งคืบคลานเข้ามา
คาชาล...
เมื่อสายตาคุ้นชินกับความมืด เธอจึงมองเห็นใบหน้าคมสันคุ้นตาเลือนราง
ผมมาดูว่าคุณนอนหรือยัง มีลูกม้าเกิดใหม่ คุณอยากเห็นไหม เขาเอ่ยเสียงกระซิบ
เอาสิจ๊ะ ฉันอยากเห็น
ท่าทางสวมรองเท้าอย่างกระตือรือร้นส่งผลให้คนชวนใจชื้น ความลังเลในการกระทำของตนแต่แรกที่หาญกล้ามาชวนเจ้าหล่อนกลางดึกค่อยหมดไป เพียงเพราะระลึกถึงความตื่นเต้นดีใจของเธอยามได้พบเจอสิ่งแปลกใหม่ เขาก็ไม่อาจห้ามใจมาตามเธอได้ แม้เสี่ยงต่อความผิดหวังหรือไม่เหมาะสมในสายตาผู้อื่นก็ตาม
คาชาลทอดมองหญิงสาวก้มลงผูกเชือกรองเท้าผ้าใบอันขัดกับชุดพื้นเมืองซึ่งเจ้าหล่อนสวมใส่ แล้วก็ให้ชื่นชมในการพยายามปรับตัวให้กลมกลืนไปกับพวกเขา เมื่อลดทิฐิ เธอก็เป็นเพียงหญิงผู้มีมนุษยสัมพันธ์ดีคนหนึ่ง ไม่ได้ก๋ากั่นอย่างที่เขาเคยนึกตำหนิเลย
เขาจงใจมองข้ามความสนิทสนมระหว่างเธอกับชายชาวต่างชาติคนนั้น บางทีพวกเขาอาจเป็นเพียงเพื่อน เพราะหากเป็นคนรักกันคงไม่ยอมปล่อยแฟนสาวหายมาเที่ยวคนเดียวเสียหลายวัน ความคิดเช่นนี้ช่วยให้เขาค่อยหายใจสะดวกทีเดียว
ชายหนุ่มพานักท่องเที่ยวสาวลัดเลาะผ่านกระโจมของหลายครอบครัวซึ่งตั้งอยู่เรียงราย ท่ามกลางความมืดมิด มีเพียงแสงจากดวงจันทร์และดาวดวงน้อยเท่านั้นส่องสว่าง คนจากเมืองใหญ่ไม่ชินกับความมืดนัก มือบางคว้าแขนเสื้อสีขาวของเจ้าถิ่นเมื่อเขาเริ่มทิ้งระยะห่างมากไป
คาชาลหลุบตามองมือซึ่งจับปลายแขนเสื้อตน ปลายนิ้วเจ้าหล่อนเฉียดใกล้ข้อมือเขา ราวกับมีกระแสอบอุ่นประหลาดสะท้อนสู่ใจของคนสองคน
ลลิลดากระแอมก่อนเอ่ยแก้เก้อ ฉันว่าเราลืมตะเกียงนะ คาชาล
ไม่หรอกครับ เขามองข้อมือว่างเปล่าของตนอย่างแสนเสียดาย พวกเราที่นี่ชินกับความมืด เมื่อก่อนไม่มีตะเกียงด้วยซ้ำ เมื่อไรที่สายตาคุณเริ่มชินก็จะเห็นว่าแสงจันทร์สว่างดีทีเดียว
เธอแหงนคอมองจันทร์ แสงของมันสว่างนวลตาอยู่หรอก แต่คงไม่พอสำหรับสายตาซึ่งคุ้นชินกับแสงไฟจ้า
เอ่อ หรือคุณจะจับแขนผมไว้ก็ได้
ลลิลดาเลิกคิ้วมองเจ้าของแขนที่ยื่นมาตรงหน้าทว่ากลับหลบตาเธอ ใบหน้าสะสวยเผยยิ้มเอ็นดู เธอวางมือลงบนแขนเขาอย่างไม่ให้อีกฝ่ายเสียหน้า เสียน้ำใจ
น่าแปลกที่เธอไม่เคยนึกกลัวหรือระแวดระวังตัวเป็นพิเศษกับชายแปลกหน้าผู้นี้เลย เธอเชื่อในความซื่อสัตย์ต่อประเพณีของเขา คนหยิ่งทะนงและยึดถือกฎเกณฑ์เช่นเขาย่อมไม่มีวันทำสิ่งใดให้เสื่อมเสียเกียรติยศศักดิ์ศรีของตัวเอง
.................
คาชาลพาเข้ามาในกระโจมหลังหนึ่งห่างไกลจากกระโจมที่พักออกไป ไออุ่นห่มปกคลุมร่างกายเมื่อก้าวเข้าไปภายใน แสงสว่างเรืองรองจากกองไฟซึ่งก่อไว้สร้างความอบอุ่นแก่แม่ม้าลูกม้าส่องให้เห็นโดยรอบ
ภายในกระโจมปูด้วยฟาง ไร้เครื่องเรือนประดับตกแต่งดังที่อยู่อาศัยของคน แม่ม้านั่งหมอบผูกติดอยู่กับเสาหลักกลางกระโจม ลูกม้าแรกคลอดเดินโซซัดโซเซใกล้ๆ กัน
น่ารักจัง
ขนสั้นสีน้ำตาลอ่อนของมันมันเงาแต่ก็สะอาดอย่างได้รับการดูแลอย่างดี แต้มสีขาวบริเวณข้อเท้าสี่ข้างเหมือนสวมถุงเท้าไว้แลดูน่ารักในสายตาเธอ ลลิลดาสืบเท้าไปหาลูกม้าผอมกะหร่อง มันเดินเข้ามาสำรวจอย่างใคร่รู้เช่นกัน
ชาวทิชกูผูกพันกับม้ามาก มันเป็นเพื่อนและพาหนะของพวกเรา ในอดีตเมื่อต้องรอนแรมไป เราก็ได้มันช่วยบรรทุกข้าวของ ชาวทิชกูเชี่ยวชาญการขี่ม้ามากจนสามารถนอนบนหลังมันก็มี
จริงเหรอ ฉันนึกภาพไม่ออกเลย
ผมถึงอยากให้คุณไปกับพวกเรา
คำตอบรวดเร็วราวผู้พูดไม่คิด หรือในอีกแง่หนึ่งอาจเป็นสิ่งที่เขาคิดมาตลอด ส่งผลให้คนฟังเก้อไปได้เหมือนกัน
ดูสิ ไม่กลัวคนสักนิด เธอเฉไฉ
รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเจ้าหล่อนยามแหย่เล่นกับเจ้าลูกม้าส่งผลให้หัวใจชายหนุ่มพองโต ภูมิใจว่าตนได้สร้างความสุขความประทับใจให้แก่เธอ
คุณอยากตั้งชื่อให้มันไหม
ได้หรือจ๊ะ เธอหันมาถามเสียงสูง
ครับ
ใบหน้าคาชาลชมพูระเรื่อ เขาเท่านั้นที่รู้ว่าตนกำลังมอบสิทธิพิเศษเกินกว่านักท่องเที่ยวธรรมดา สิทธิที่จะสร้างความผูกพันระหว่างเธอกับที่นี่
ฉันรู้จักภาษาทิชก้าอยู่ไม่กี่คำ บาบารี แปลว่าดอกไม้ใช่ไหมจ๊ะ พ้องกับ ลิลลี่ ชื่อเล่นฉันที่เป็นดอกไม้พอดี เธอชอบชื่อนี้ไหม คาชาล
ครับ บาบารี...สมตัวดี
เออนะ สมตัวทั้งเจ้าลูกม้าและเจ้าของชื่อที่มีความหมายว่าดอกไม้นั่นทีเดียว
แกชื่อ บาบารี แล้วนะเจ้าตัวน้อย ชอบไหม...ชอบไหม... ลลิลดาตบแผงคอมันแรงไปนิดด้วยความมันเขี้ยว
ลูกม้าตัวน้อยสะบัดหลุดไปหลบหลังแม่ม้า ก่อนหันมาค้อนคว่ำให้คนมือหนักที่ชอบแกล้งมัน
เธอต้องเฝ้าที่นี่คนเดียวทั้งคืนหรือจ๊ะ
ครับ ผมมักได้อยู่ทำคลอดสัตว์ประจำ พวกเขาบอกว่าผมทำได้ดี แต่ก็อาจไม่จริงเท่าไร
ฉันเห็นด้วยกับพวกเขานะ เธอน่ะดูๆ ไปก็เป็นคนอ่อนโยนดี ฉันเป็นผู้หญิงแท้ๆ ยังมือหนักเสียกว่า ดูเจ้าบาบารีสิ เผ่นไปหาแม่ของมันเลย
คนถูกชมเสหลบตา เสี้ยวหน้าแดงซ่านของเขาเหมือนเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ แสนขี้อาย หญิงสาวอมยิ้มเอื้อเอ็นดู
เจ้าลูกม้าเริ่มสิ้นฤทธิ์หลังดูดดื่มน้ำนมจากแม่ของมัน มันนั่งหมอบอย่างอ่อนเพลียใกล้กองไฟ เป็นสัญญาณว่าหมดเวลาเล่นสำหรับวันนี้เสียแล้ว ลลิลดาลุกหยิบเศษฟางซึ่งติดตามกางเกง กลับกระโจมคราวนี้คงได้หลับสนิททั้งคืน
.................
ถ้าต้องอยู่ที่นั่น เธอจะได้นอนหรือจ๊ะ
ได้งีบบ้างครับ
แล้วเธอต้องเฝ้าสัตว์เลี้ยงแบบนี้บ่อยไหม
ไม่หรอกครับ อย่างมากก็อาทิตย์ละสองครั้ง
ความจริงถ้าพวกเธอล้อมรั้วก็ไม่จำเป็นต้องอยู่เฝ้าก็ได้นี่นา
เราไม่ใช่ฟาร์ม เราเลี้ยงสัตว์เป็นเพื่อน ใช้ผลผลิตจากมันเพื่ออุปโภคบริโภคเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เหลือก็เก็บไว้แลกเปลี่ยน ไม่ได้เลี้ยงเพื่อฆ่าหรือส่งขายอย่างฟาร์มหรือโรงงาน
คาชาล เธอได้เรียนหนังสือไหม
แม้ถ้อยความยาวๆ นั้นจะกระท่อนกระแท่น หากความหมายซึ่งแฝงอยู่นั้นแสดงถึงความคิดมากมายในหัวของเขา
เปล่าครับ
เมื่อคนนำทางชะงักเท้า ลลิลดาจึงหยุดเดินตาม
ความคิดของผมก็เหมือนความคิดของทุกคนที่นี่ มันตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น และจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป
ลมเย็นพัดผ่านมาจนชายเสื้อปลิวไปข้างหลัง หญิงสาวห่อไหล่ขนลุกพลางจิกปลายเท้ากับพื้นดินราวกับกลัวว่าตัวเองจะปลิวตาม ทว่าร่างสูงโปร่งกลับยืนนิ่งอย่างไม่สะทกสะท้านกับลมหนาว เธอเหลือบมองเสี้ยวหน้าคมคายภายใต้ความมืด สายตาคมกล้าเหม่อมองไปบนฟ้าไกล
พระจันทร์หลังค่ำคืนก็องโกลันยังคงส่องสว่าง ท้องนภามืดมิดประดับด้วยดวงดาววับวาวดุจดั่งผู้วิเศษโปรยเพชรแต่งแต้มไว้ บ่งบอกว่าฟากฟ้าที่นี่ยังบริสุทธิ์สะอาด ไร้มลพิษมาบดบัง
นับวันเธอยิ่งรักและผูกพันกับสถานที่แห่งนี้ มันเป็นความรักที่อยากทะนุถนอม รักษาบรรยากาศแบบนี้ไว้ตลอดไป ลลิลดาคิดว่าตนพอเข้าใจความรู้สึกของชาวทิชกูทุกคนแล้ว พวกเขาย่อมรักและหวงแหนธรรมชาติรอบตัวที่พวกเขาดำรงชีวิตอยู่ด้วยมาช้านาน
คาชาล ฉันดีใจที่รู้ว่าเธอภูมิใจกับชีวิตตัวเองอย่างนี้ คนส่วนใหญ่ต่างกระตือรือร้นที่จะมีชีวิตที่ดีกว่า สะดวกสบายกว่า แต่ก็ไม่รู้ว่าปลายทางที่พวกเขาหวังนั้นจะสิ้นสุดตรงไหน นักท่องเที่ยวสาวชื่นชมจากใจ ฉันนิยมเธอมากนะ คาชาล ขอให้รู้ไว้เถอะว่ามีผู้หญิงจากแดนศิวิไลซ์คนหนึ่งที่ชื่นชมและอิจฉาเธอ
คาชาลนิ่งงันประมวลประโยคยาวๆ นั้น เขาพยายามค้นหาความหมายระหว่างคำ ความหมายว่าเธอก็รักที่นี่เหมือนพวกเขาเช่นกัน
ลลิลดากล่าวราตรีสวัสดิ์กับชายหนุ่ม เขายังคงสบตาเธออย่างค้นคว้า แต่ต่างฝ่ายก็มิได้เอ่ยคำใดออกมา
จากคุณ |
:
ภาพิมล (thezircon)
|
เขียนเมื่อ |
:
27 มี.ค. 55 11:10:13
|
|
|
|