Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
รถไฟ เรือเมล์ ลิเก ตำรวจ (และแมว) : ตอนที่ 1 ติดต่อทีมงาน

“สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับค่ะ วันนี้รับอะไรดีคะ...”

เสียงแจ่มใส และท่าทางกระตือรือร้นในการต้อนรับลูกค้าของบาริสต้าที่ร้องทักมาจากหลังเคาน์เตอร์บาร์ทำให้หญิงสาวที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาอดยิ้มไม่ได้ เพราะนี่ยังไม่ถึงเวลาเปิดร้าน และเธอก็ไม่ใช่ลูกค้ารายแรก หากเป็นผู้จัดการต่างหาก

แรกเริ่มเดิมที ร้านกาแฟแห่งนี้เป็นเพียงผลพลอยได้จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายเมล็ดกาแฟและอุปกรณ์เกี่ยวกับกาแฟของเจ้านายของเธอเท่านั้น เพราะแต่เดิมนั้น บริษัทมีเพียงห้องชิมกาแฟที่ขยายออกมาจากห้องแล็บ เพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองชิมรสชาติของกาแฟที่คั่วในระดับต่าง ๆ และ ‘เบลนด์’ คือ นำเมล็ดกาแฟจากหลายที่มาผสมกันออกมาเป็นสูตรเฉพาะตัวตามที่ลูกค้าสั่งมาให้ลูกค้าทดลองชิมว่ามีกลิ่น รส คุณภาพตามที่ต้องการหรือไม่

เมื่อกิจการที่เป็นอยู่เริ่มเข้าที่เข้าทางผู้จัดการฝ่ายการตลาดได้เสนอให้เปิดร้านกาแฟเพื่อส่งเสริมการขายไปในตัว และคิดเผื่อไปถึงเมื่อการบริหารจัดการลงตัว ก็อาจขายแฟรนไชส์เพิ่มได้อีกอย่างหนึ่ง ซึ่งในขณะที่มีการวางแผนจะเปิดร้าน ก็เป็นช่วงจังหวะที่นวลปรางเข้ามาทำงานกับบริษัทพอดี และนี่คืองานแรกที่เธอต้องลงมือทำอย่างเต็มตัว

เพื่อให้สร้างรูปแบบการขายให้เหมาะกับลูกค้าส่วนใหญ่ที่เป็นพนักงานบริษัทซึ่งไม่มีเวลาอยู่ในร้านนานนัก สิ่งที่เธอเสนอกับบริษัทจึงเป็น การจัดรูปแบบร้านแบบ ‘บาร์กาแฟ’ ที่เรียบง่ายแทนที่จะเป็นร้านนั่งเล่นอย่างร้านกาแฟทั่วไป

เพราะคำว่า ‘บาริสต้า’ ซึ่งมีที่มาจากคำในภาษาอิตาเลียนมีความหมายอย่างเดียวกันกับคำว่า ‘บาร์เทนเดอร์’ ในภาษาอังกฤษ ซึ่งคำหลังนั้น สำหรับคนไทยแล้วมักจะนึกถึงภาพของนักผสมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เสียมากกว่า แต่ไม่ว่าจะเป็นค็อกเทลหรือกาแฟ ทั้งบาริสต้าและบาร์เทนเดอร์ก็ต่างมีหน้าที่ให้บริการเครื่องดื่มตามสั่ง พูดคุยสนทนาด้วยความเป็นมิตร เอาใจใส่และจดจำรายละเอียดของลูกค้าแต่ละรายทั้งขาจรและขาประจำไม่ต่างกัน

ด้วยเหตุที่นั้น ตำแหน่งการจัดวางเครื่องชงกาแฟให้ลูกค้าเห็นกรรมวิธีชงกาแฟและเครื่องดื่มของตัวเอง สัมผัสทั้งภาพ เสียง กลิ่น และรสชาติอย่างครบถ้วนในทุกขั้นตอนจากฝีมือของบาริสต้าที่กล่าวต้อนรับด้วยหน้าตายิ้มแย้ม และพิถีพิถันทำเครื่องดื่มถ้วยโปรดมาบริการถึงมือ และทำให้บาริสต้า รวมถึงพนักงานคนอื่น ๆ ในร้านต้องรักษามาตรฐานเรื่องความสะอาด ฝีมือ และการบริการของตัวเองให้ดีอยู่ตลอดเวลาไปในตัวด้วย

หากทุกคนไม่ให้ความร่วมมือ ร้านกาแฟเล็ก ๆ แห่งนี้อาจเป็นเพียงร้านกาแฟธรรมดาที่มีลูกค้าเดินเข้ามาแล้วก็ผ่านไป คงไม่อบอวลด้วยบรรยากาศอบอุ่น เป็นกันเอง แม้บริการรวดเร็ว แต่ก็ไม่ได้ทำให้ลูกค้าทั้งขาจรและขาประจำรู้สึกว่าตนเองถูกเร่งรัดให้ต้องรีบร้อนออกไปจากร้าน หากเป็นที่รู้กันว่าควรเปิดโอกาสให้คนอื่นได้ใช้พื้นที่เล็ก ๆ ในการพักผ่อนระหว่างงานบ้างแม้แต่น้อย และคงไม่มีลูกค้าขาประจำจากการโฆษณาแบบปากต่อปากมากมายอย่างทุกวันนี้แน่

“อืม... เลือกยากจัง” หญิงสาวแสร้งสวมบทบาทเป็นลูกค้า กวาดสายตาดูรายการเครื่องดื่ม ขนม และอาหารว่างเรียงรายอยู่บนผนังเหนือเคาน์เตอร์ที่ดูกลมกลืนจนเหมือนภาพประดับผนัง “พลอยแนะนำหน่อยได้ไหม ถ้าพี่อยากได้กาแฟเย็นสักแก้ว พี่จะสั่งอะไรดี”

“จำได้ว่า คุณปรางไม่ชอบกาแฟที่หวานมาก งั้นวันนี้รับเป็นเอสเปรสโซคอนปานญาหรือเฮเซลนัทลาเต้เย็น ๆ แต่ลดน้ำตาลลงจากสูตรปกติครึ่งหนึ่งดีไหมคะ”

ฟังจากสำเนียงก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้แนะนำกาแฟดำที่เสิร์ฟพร้อมวิปครีม หรือกาแฟใส่นมที่เติมความหอมหวานด้วยน้ำเชื่อมกลิ่นเฮเซลนัทให้กับเธอในฐานะลูกค้าหรอก แต่กำลังหยอกเธอด้วยการเลียนสำเนียงพูดของเธอซึ่งเป็นผู้จัดการของร้านกาแฟแห่งนี้ในยามที่กำลังแนะนำเครื่องดื่มให้ลูกค้าต่างหาก

“เดี๋ยวเหอะ ยัยพลอย” นวลปรางแกล้งดุ แต่ทำไปได้ไม่ตลอด ด้วยเริ่มต้นแค่คำแรก เธอก็ขำเสียเองกับท่าทางที่พลอยพราวถอดแบบเธอมาทุกกระเบียดนิ้ว

ผู้อ่อนวัยกว่ายกมือไหว้ขอโทษ แต่ยังไม่วายหัวเราะไปด้วย จนเธอตวัดสายตาค้อนไปทีหนึ่ง

“งั้นถามจริง ๆ ละ... คุณปรางจะรับอะไรดีคะ” บาริสต้าถาม หยิบเอาผ้ากันเปื้อนโทนสีเขียวอมน้ำตาลมาสวมทับชุดพนักงานที่เป็นเชิ้ตสีขาวพับแขนกับกางเกงสแล็กสีดำเตรียมพร้อมสำหรับการชงกาแฟแก้วแรกของวัน “ดูท่าทางคุณปรางยังง่วง ๆ อยู่เลย”

ผู้จัดการสาวจัดการจ่ายเงินออกใบเสร็จให้ตัวเองแล้วส่งรายการสั่งให้คนที่รอรับ “เมื่อคืนนอนดึกไปหน่อยน่ะ... พี่ขอด็อปปิโอร้อนก็แล้วกัน”

“ได้ค่ะ” พลอยพราวถาม “เพราะคุยกับผู้กองชัชอีกหรือเปล่าคะ”

อีกฝ่ายเคยเล่าให้ฟังว่า ช่วงเวลาที่เธอกับคนที่ถูกเอ่ยถึงว่างตรงกัน มักจะเป็นเวลาหลังห้าทุ่มไปแล้วทั้งนั้น ด้วยฝ่ายหลังต้องเข้าเวร และบางวันที่ออกเวร เขาก็ต้องอยู่สะสางสำนวนคดีที่ค้างอยู่จนดึกดื่น

ทั้งเจ้านายของเธอและนายตำรวจผู้นั้นต่างเป็นคนสำคัญสำหรับเธอทั้งคู่ ด้วยคนแรก คือ ผู้สนับสนุนและให้โอกาสในการทำงานที่เธอรักแก่เธอ ส่วนคนหลัง คือ คนที่เธอรู้จักโดยบังเอิญ หากความช่วยเหลือของเขานั้นทำให้เธอได้สิ่งที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงที่มีคนขโมยไปกลับคืนมา ซึ่ง ณ ขณะนั้นเธอไม่ระแคะระคายเลยสักนิดว่า คนทั้งคู่สนิทสนมกัน จนกระทั่งพวกเขาตัดสินใจคบหากัน แล้วชายหนุ่มแวะมาหาเจ้านายของเธอที่ร้านนี้ เธอถึงได้รู้ว่า พวกเขาต่างเป็น ‘คนพิเศษ’ ของกันและกัน

“เปล่าหรอก... ช่วงนี้ เขากำลังยุ่งอยู่กับคดีอยู่ ไม่ได้คุยกันมาเป็นอาทิตย์แล้ว” นวลปรางบอก ยกมือขึ้นปิดปากหาว “พี่อ่านหนังสือเพลินไปหน่อย เผลอแป๊บเดียวก็ตีสองโน่น...”

“โห ถ้าเป็นพลอยนะ งอนแย่แล้ว” คู่สนทนาของเธอว่า และหันกลับมาที่เคาน์เตอร์บาร์พร้อมถ้วยด็อปปิโอ หรือเอสเปรสโซดับเบิลช็อตร้อน ๆ หอมกรุ่นตามที่เธอสั่ง “เล่นเอาแต่งานซะจนไม่ยอมคุยกับแฟนเนี่ย”

“เอาแต่ทำงานก็ยังดีกว่าขยันนอกใจละกัน” เธอบอกพลางถอนใจ ก่อนกล่าวขอบใจคนที่เอาถ้วยกาแฟมาวางให้ตรงหน้า แต่แล้วก็ต้องเลิกคิ้วน้อย ๆ เมื่อเห็นว่า บนจานรองถ้วยนั้นมีดาร์กช็อกโกแลตชิ้นเล็ก ๆ วางแถมมาให้ด้วย

บาริสต้ายิ้ม “พลอยแถมให้ค่ะ เช้า ๆ แบบนี้ ทานกาแฟอย่างเดียวไม่พอทำให้ตื่นได้หรอกนะคะ ต้องได้อะไรหวาน ๆ ด้วยนิดนึง ถึงจะสดชื่น เป็นดาร์กช็อกโกแลต 80% แบบที่คุณปรางกับผู้กองชอบ ไม่หวานมาก แต่แก้คิดถึงได้”

หญิงสาวยิ้มขันปนหมั่นไส้ในความรู้ทันและรู้ใจของนักชงกาแฟซึ่งขอตัวไปล้างอุปกรณ์ชงกาแฟอีกมุมหนึ่งของร้าน เพื่อจะเปิดโอกาสให้เธอได้อยู่กับตัวเองสักพักก่อนถึงเวลาที่พนักงานคนอื่น ๆ จะมาถึง  

เธอกัดดาร์กช็อกโกแลตนั้นไปครึ่งหนึ่ง สัมผัสได้ถึงรสขมจากเนื้อขนมสีน้ำตาลไหม้ที่เริ่มละลาย หากเมื่อดื่มกาแฟตามลงไป รสขมของกาแฟเข้มข้นกลับกลายเป็นกลมกล่อม และทิ้งรสหวานไว้ในปากหลังกลืนกาแฟและช็อกโกแลตลงคอไปพร้อมกัน

ดับเบิลเอสเปรสโซที่เสิร์ฟมาพร้อมกับดาร์กช็อกโกแลต คือ เครื่องดื่มโปรดของชัชพล ส่วนคนที่แนะนำให้เขารู้จักกับวิธีดื่มกาแฟแบบนี้ คือ เธอ และเธอเคยบอกกับเขาว่า ชีวิตก็เหมือนกาแฟดำกับดาร์กช็อกโกแลต ซึ่งขมเป็นพื้นฐาน ไม่ได้หวานมาตั้งแต่แรกเริ่ม สิ่งที่ตามมาหลังจากเราผ่านเรื่องราวที่ ดูเหมือนจะยากลำบาก คือ ความสุข ซึ่งสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าเราไม่เคยลิ้มรสความขมขื่นมาก่อน

จะว่าไปแล้ว ชายหนุ่มมีบางอย่างที่คล้ายกับกาแฟดำและดาร์กช็อกโกแลตอยู่ไม่น้อย...

ในภาพลักษณ์ภายนอกที่ดูไม่เป็นมิตร เหมือนกาแฟดำที่ขม เข้มจนดื่มแทบไม่ลง สำหรับหลาย ๆ คน และบางคนก็อยากจะเททิ้งไปให้พ้น ๆ ด้วยซ้ำไป ทว่ากับเธอแล้ว เขากลับเป็นเหมือนดาร์กช็อกโกแลต แม้จะไม่หวาน บางแง่มุมอ่อนโยนที่เขาไม่ค่อยแสดงออกให้ใครเห็นมากนักแฝงอยู่ คงมีเฉพาะคนที่รู้จักเนื้อแท้ของเขาเท่านั้นที่รับได้

อย่างไรก็ตาม เธอก็อดคิดไม่ได้ว่าเขาก็เหมือนกาแฟดำมากกว่าในบางครั้ง ตรงที่คำพูดของเขาหลายคำทำให้เธอ ‘ตาสว่าง’ ในยามที่มีปัญหา และมีอีกหลายคราวที่ การกระทำและคำพูดของเขาก็ทำให้เธอมี ‘ใจสั่น’ และ ‘นอนไม่หลับ’ ได้อย่างไม่ทันตั้งตัว...  


นวลปรางกินช็อกโกแลตและดื่มกาแฟที่เหลืออยู่จนหมด ทว่ารสชาติของทั้งสองสิ่งนั้นยังคงติดอยู่บนริมฝีปาก และในวินาทีนั้นเอง บางสิ่งก็แวบผ่านเข้ามาในความทรงจำ...

เธอแตะปลายนิ้วลงบนริมฝีปากของตนเองแผ่วเบา... สัมผัสที่เขาฝากไว้ในวันสุดท้ายที่ได้พบหน้ายังไม่จางหายไปจากความรู้สึกของเธอด้วยเช่นกัน...


-------------------------------------------------------------------

(มีต่อนะคะ)

แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 55 01:44:12

แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 55 16:48:24

จากคุณ : ปิยะรักษ์
เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 16:47:49




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com