+++รักพี่เอ๋ย...บทที่ 8+++
|
 |
๘.
โป๊ก!
หน้าผากของอิสรีย์โขกเข้ากับโต๊ะกินข้าว แม้ไม่แรงนักหากแต่ก็เรียกสติของหญิงสาวให้กลับคืนมา เธอมองรอบกายพลางกระพริบตาด้วยความงุนงง ภาพเมื่อกี้มันคืออะไรหว่า เธอพยายามเค้นสมองคิดทบทวน ทว่านึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกสักที
ช่างมันเถอะ! นึกออกเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น
อิสรีย์ตัดใจได้อย่างรวดเร็วเพราะคิดมากไป ก็รังแต่จะทำให้ปวดหัวเปล่าๆ เรื่องที่สำคัญสำหรับเธอในตอนนี้คือการหาอาหารมาใส่กระเพาะ เธอเปิดตู้เย็นสำรวจดูข้าวของ ใจชื้นขึ้นหน่อยที่พอจะมีอาหารสดให้ปรุงบ้าง และเมื่อเปิดดูหม้อหุงข้าว เห็นข้าวสวยมีอยู่มากกว่าครึ่งหม้อ ทำให้เธอนึกเมนูอาหารที่จะปรุงได้ขึ้นมาทันที ข้าวเย็นเหลือๆ แบบนี้ อะไรจะดีไปกว่าข้าวผัดกันเล่า
ว่าแล้วหญิงสาวก็ตระเตรียมเครื่องปรุงสำหรับทำข้าวผัด ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ข้าวผัดรวมมิตร ที่มีสารพัดเนื้อสารพัดผักก็ทำเสร็จออกมาเรียบร้อย หน้าตาท่าทางน่ากินเลยล่ะ เมื่อตักชิมรสชาติอร่อยเข้าขั้นใช้ได้ทีเดียว แต่...เมื่อมองข้าวผัดที่เต็มกระทะแล้วรู้สึกหนักใจ ไม่รู้ว่าจะกินหมดไหมนี่ อาจเป็นเพราะความหิวบวกกับความเสียดายแท้ๆ เชียวที่ทำให้เธอเผลอใส่ข้าวเย็นจนหมดหม้อ
หากแต่เจ้าความกลุ้มใจนั้นคงอยู่กับอิสรีย์ไม่นานนัก เพราะเสียงร้องทักทายของเด็กชายโอสธีนำโด่งมาก่อนที่ร่างกลมป้อมจะปรากฏตัว พี่เอ๋ย...น้องแอ้หิวจังเลย มีอะไรให้น้องแอ้ทานบ้างค๊าบ!
ตามด้วยเจ้าตุ่มที่เดินตามหลังอ้อแอ้มาติดๆ ทั้งคู่ท่าทางหิวซ่กมาเชียว เจ้าคำพูดคำจาที่เตรียมถากถางหดหาย และยิ่งเมื่อเห็นคนที่เดินรั้งท้ายสุด หน้าตาท่าทางเหมือนซังกะตายเหน็ดเหนื่อยเต็มทีก็ทำเธอพูดไม่ออก ได้แต่ตักข้าวผัดแบ่งใส่จานบริการให้ทั้งสามคนแทน
ออกไปไหนกันมานี่ทั้งสามคน
ไปสถานีตำรวจมาครับ
อิสรีย์ขมวดคิ้วกับคำตอบของหนุ่มลูกครึ่ง ทว่ายังไม่ทันจะได้เอ่ยปากซัก ตุ่มก็ตะโกนขึ้นมาเสียก่อน พี่เอ๋ยไม่สบายอาการหนักมากใช่ไหมเนี่ย
อาตุ่มนี่ถามแปลกๆ ก็เห็นๆ กันอยู่ว่าพี่เอ๋ยกำลังไม่สบาย อ้อแอ้เบ้หน้าสองมือเล็กยกปิดหู เพื่อกันเสียงแปดหลอดของคนเป็นอา
ก็
ก็ จู่ๆ มาตักข้าวตักปลาให้แบบนี้ไม่แปลกเหรอ ธรรมดาเคยทำแบบนี้ซะที่ไหน มีแต่ไอ้ตุ่มต้องเป็นคนคอยบริการหาข้าวหาน้ำให้กิน ผีเข้ารึเปล่าเนี่ยพี่เอ๋ย ตุ่มเอียงคอมองสำรวจเธอเขม็ง
หญิงสาวตัวแข็งรีบเสกลบเกลื่อนทำโกรธขึ้งแทน มีปัญหามากหรือไง ที่ฉันทำกับข้าวให้เนี่ย จะกินหรือไม่กิน
กินจ้ากิน กับข้าวที่พี่เอ๋ยทำอร่อยที่สุดเลย ว่าแล้วตุ่มก็รีบตักข้าวผัดขึ้นกินคำใหญ่ เพื่อเป็นการเอาใจคนทำที่ยืนหน้าบูดหน้างอ และกำลังจ้องมองเขาด้วยสายตาเอาเรื่อง
แล้วคุณล่ะ จะทานด้วยไหม อิสรีย์หันมาถามเรวินทร์
ทานครับทาน ชายหนุ่มรีบทรุดกายลงนั่งที่เก้าอี้ว่างที่เหลือ ก้มหน้าก้มตากินข้าวผัดอีกจานทันที เพียงตักเข้าปากคำแรกก็ให้แปลกใจเป็นอย่างยิ่ง...อร่อยแฮะ เขาเหลือบตามองคนทำ ให้เผอิญว่าอีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมาสบตาเขาพอดี
มีอะไรเหรอคุณ เธอเลิกคิ้วถามน้ำเสียงเอาเรื่องชอบกล
เปล่าไม่มีอะไร ผมแค่อยากรู้ว่ามีพริกน้ำปลาไหมครับ
เออจริงแฮะ งั้นแป๊บนึงนะ หญิงสาวโคลงศีรษะ มิน่าล่ะถึงได้รู้สึกเหมือนขาดอะไรไป เธอลุกขึ้นไปเปิดตู้เย็นพลางค้นหาพริกขี้หนูเพื่อทำพริกน้ำปลา
โฮ่...ฝรั่งกินพริกเป็นด้วยเว้ย! ส่วนตุ่มไม่วายปากดีร้องแซว ก่อนเบิ่งตาแทบถลนเมื่อเห็นคนที่ตนนับถือเป็นลูกพี่ กำลังซอยพริกขี้หนูใส่ถ้วย เหยาะน้ำปลาบีบมะนาวแล้วนำมาตั้งตรงหน้าหนุ่มลูกครึ่ง
พี่เอ๋ยเปลี่ยนไป๋จริงๆ ด้วย
ฝ่ายอิสรีย์นั้นไม่สนใจ ไม่ได้คิดว่านี่เป็นการเอาอกเอาใจเรวินทร์ เธอก็แค่ต้องการเติมเต็มรสชาติของอาหารให้ครบรสเท่านั้น . . . . .
หลังจากจบอาหารกลางวันข้าวผัดฝีมือของอิสรีย์ และต่อด้วยอาหารมื้อค่ำจากฝีมือของตุ่มแล้ว เรวินทร์ยังหาโอกาสสนทนากับเธอตามลำพังไม่ได้เลย โดนขัดจังหวะตลอดเวลา มาจากตุ่มบ้าง จากเด็กชายบ้าง สองคนนี้ตามติดพันแข้งพันขาเขาตลอดเวลา จนเขาอยากจะบ้าเต็มแก่
บวกกับเซ็งมาจากเรื่องเมื่อกลางวัน นึกว่าไปสถานีตำรวจแจ้งความก็จบเรื่อง ที่ไหนได้เขากลับต้องมาติดอยู่ที่บ้านหลังนี้ต่อ ออกข้างนอกก็ไม่ได้ ผสมความหงุดหงิดในอารมณ์เพราะอยากรู้เหตุผล ที่เธอไม่ยอมอธิบายเรื่องเข้าใจผิดระหว่างเธอและเขา ให้แก่ญาติอย่างตุ่มฟัง
แม้เขาลอบส่งสายตาให้เธอเป็นระยะเพื่อหาโอกาสพูดคุย แต่ดูเหมือนเธอจะคอยหลบสายตาของเขาตลอดเวลา และแล้วโอกาสของชายหนุ่มก็มาถึง เมื่อตุ่มพาอ้อแอ้ไปอาบน้ำชำระกาย ห้องนั่งเล่นเหลือเพียงเขากับเธอสองคน
คุณเอ๋ย
เพียงแค่เรวินทร์เรียกชื่อเท่านั้น อิสรีย์ถึงกับสะดุ้ง เธอแปรความนัยทางแววตาที่เขาเพียรส่งมาให้ผิด เข้าใจไปคนละทางกับหนุ่มลูกครึ่ง ทึกทักเอาเองว่าเขาต้องการเวลาส่วนตัวสำหรับจู๋จี๋สวีทหวานกับร่างนี้ ต้องแย่แน่ๆ เลย ถ้าเกิดเขาจับได้ขึ้นมา หญิงสาวรีบหาข้ออ้างเอาตัวรอด
เอ่อ...คือฉันรู้สึกเหนียวตัวจังค่ะ ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ
ผมขอเวลาคุยกับคุณก่อนได้ไหม มันคงไม่ทำให้คุณเสียเวลาเพิ่มขึ้นหรอกนะ เรวินทร์เอ่ยน้ำเสียงเริ่มขุ่นมัวขึ้นมาหน่อยๆ แล้ว เพราะมองออกว่าหญิงสาวตรงหน้ากำลังเตรียมเผ่นหนีเขาอยู่รอมร่อ
แต่...แต่ ไว้ให้ฉันอาบน้ำเสร็จก่อน ตอนนั้นเราค่อยคุยกันก็ได้นี่ อิสรีย์พยายามบ่ายเบี่ยง ตั้งท่าลุกหนีหากช้ากว่ามือใหญ่ที่เอื้อมคว้าข้อมือบางไว้เสียก่อน
ผมอยากคุยตอนนี้นี่ เรวินทร์เริ่มเสียงแข็ง เห็นกับตาว่าเธอจงใจหนีหน้าเขาชัดๆ
อิสรีย์พยายามบิดข้อมือตนให้หลุดพ้นจากการเกาะกุม ก่อนจะเลิกขัดขืนเมื่อเห็นว่าเปล่าประโยชน์ เมื่อไม่มีทางหลบเลี่ยงได้ เธอปั้นหน้าหงิกงอพยายามใช้อารมณ์โกรธเข้าข่ม อยากคุยอะไรล่ะคะ คุณไรท์
ทำไมคุณถึงไม่อธิบายให้ตุ่มเข้าใจเรื่องของเรา ทำไมถึงปล่อยให้ทุกคนเข้าใจผิด
เรื่องของเรา...เข้าใจผิด หญิงสาวทวนคำพลางเลิกคิ้วมองเขาอย่างแปลกใจ แต่แล้วเจ้าอาการปวดศีรษะกลับเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ทำเอาเธอเผลอร้องครางออกมา โอยปวด!
คุณเอ๋ยปวดหัวเหรอครับ นั่งพักก่อนเร็ว เรวินทร์ตกใจเมื่อเห็นหญิงสาวหน้าเซียวลงอย่างกะทันหัน ทำให้ลืมเลือนหัวข้อที่จะสนทนาต่อเสียสนิท เขารีบประคองพาเธอนั่งยังโซฟาพลางถามด้วยความอาทร คุณทานยาหลังอาหารรึยังครับ
หญิงสาวส่ายหน้าเบาๆ เขาย่นหัวคิ้วนึกอยากเอ็ดเธอนักที่ไม่ดูแลรักษาสุขภาพของตนเอง แต่พูดตอนนี้จะมีประโยชน์อันใด ช่วยเธอสำคัญกว่า ถุงยาของคุณอยู่ไหน
โต๊ะทานอาหารในครัว อิสรีย์หลับตาตอบเสียงเบา คิ้วเรียวสวยยังไม่คลายจากการขมวด คล้ายกับมีภาพบางภาพที่แวบเข้ามาในหัวสมอง แล้วเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว และเมื่อลืมตาขึ้นก็ไม่เห็นเรวินทร์เสียแล้ว อาการปวดหัวที่ว่าหายเป็นปลิดทิ้ง ราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ทานยาครับ ชายหนุ่มก้าวกลับเข้ามาในห้องนั่งเล่นอีกครั้ง ในมือประคองแก้วน้ำพร้อมถุงยามายื่นส่งให้เธอ
ขอบคุณค่ะ เธอผงกหัวลุกขึ้นรับยาที่เขาส่งให้แล้วดื่มน้ำตามจนหมด
ปวดหัวมากรึเปล่า
นอนพักก่อนดีกว่าไหม หนุ่มลูกครึ่งว่าพลางคุกเข่าลงตรงหน้าเธอ มือใหญ่เอื้อมแตะหว่างคิ้วของหญิงสาวด้วยความลืมตัว หัวแม่มือช่วยแตะนวดไปตามแนวคิ้วของเธออย่างแผ่วเบา
ไม่...ไม่เป็นไรแล้วค่ะ อิสรีย์เบือนหน้าหนีมือหนา ด้วยความขัดเขินปนโกรธเคืองในเวลาเดียวกัน บอกไม่ถูกว่าชอบสัมผัสอันอ่อนโยนของเขา หรือไม่ชอบที่เขาจะมาถูกเนื้อต้องตัวกันแน่
ผมว่าเราควรกลับไปโรงพยาบาล ให้หมอดูอาการคุณสักหน่อยดีกว่าไหม ดูคุณจะปวดหัวถี่จัง เรวินทร์กังวลกับอาการของหญิงสาว มือใหญ่ที่วนเวียนอยู่แถวหน้าตาของหญิงสาวชะงักกึก ก่อนชักมือหนีด้วยความตกใจ นี่เขาทำตัวสนิทสนมกับเธอมากเกินไปแล้ว
ฉันไม่เป็นไรหรอกค่ะ อาจจะแค่จำอะไรๆ ไม่ได้บ้างเท่านั้น เธอเผลอหลุดปากออกไปโดยไม่ทันรู้ตัว
คุณจะบอกว่าคุณความจำเสื่อมอย่างนั้นเหรอ
หญิงสาวสะดุ้งหันกลับมาจ้องหน้าเขาด้วยความตกใจ ละล่ำละลักแก้ตัว ความจำเสื่อมที่ไหน ไม่มี...สมองฉันยังเป็นปกติดีทุกอย่าง
นั่นสิ แค่หัวแตกเองไม่น่าจะถึงขั้นความจำเสื่อมได้หรอก เรวินทร์พึมพำอย่างเห็นด้วย
ถ้าอย่างนั้น ฉันขอตัวขึ้นไปพักผ่อนบนห้องนอนก่อนนะคะ คนป่วยสบโอกาสรีบลุกจากโซฟา พร้อมกับหาข้ออ้างหลบหนี
เรวินทร์เลิกคิ้วมองกริยาลุกลี้ลุกลนของเธออย่างปลงๆ ดูท่าเธออยากจะหนีหน้าจากเขาจริงๆ ซะเหลือเกิน ก่อนคลี่ยิ้มออกมาในสถานการณ์แบบนี้ ใช่ว่าเธอจะได้ประโยชน์คนเดียวเสียหน่อย เขาก็ได้ด้วยเหมือนกันนี่ เมื่อไม่มีใครอยู่ด้านล่างสักคนอย่างนี้ ก็เท่ากับไม่มีตัวขัดขวาง เป็นทางสะดวกของเขาแล้ว จะได้ออกจากบ้านหลังนี้เสียที
เชิญครับ เดินขึ้นบันไดก็ระมัดระวังหน่อยนะครับ ตกลงมาจะแย่เอา
อิสรีย์กระพริบตามองเขาอย่างงุนงง กับท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วของอีกฝ่าย เมื่อครู่ทำท่าเหมือนขู่เข็ญเธอจะเป็นจะตายให้ได้ แล้วดูตอนนี้สิแสดงความสนใจไยดีเธอเกินเหตุ สีหน้าสีตาแสดงความดีใจเต็มที่ ต้องมีเบื้องหลังอะไรแน่ๆ เลย หญิงสาวนึกสงสัย หรือว่า...คิดหนีเที่ยว คงคิดว่าเธอไม่สบายอยู่ล่ะสิ ไร้เรี่ยวแรงที่ตามเขาไปไหนต่อไหนได้
คนป่วยเบ้หน้าเดินขึ้นบันไดไม่คิดจะสนใจอะไรอีกต่อไป...ผู้ชายแย่ๆ พรรค์นั้น
นึกๆ ไปก็สงสารเจ้าของร่างนี้เหมือนกันแฮะ นึกว่าได้จะแฟนดี ที่แท้ก็แค่พลอยหุง อิสรีย์ชะงักเท้าเมื่อขึ้นบันไดมาได้สองขั้น ถ้าเธอปล่อยเขาไปแบบนี้ มิเท่ากับเธอทำให้ครอบครัวของคนที่เธอสิงร่างอยู่นี่แตกแยกรึ ไม่ได้การแล้วเธอต้องช่วยผู้หญิงคนนี้เขาเสียหน่อย
คิดได้ดังนั้นอิสรีย์จึงย้อนกลับไปยังห้องนั่งเล่นอีกครั้ง แล้วก็เป็นจริงดังที่เธอคาดเดาไว้ไม่ผิด เจ้าของเรือนร่างสูงกำลังจัดการแบกสัมภาระขึ้นหลัง
มีอะไรให้ช่วยไหมคะ อิสรีย์ร้องถามเสียงหวานเจี๊ยบ แล้วนี่แบกเป้จะไปไหนเหรอคะ
เรวินทร์สะดุ้งเมื่อหันมาเจอเธอ โชคยังดีที่ไม่ใช่สองคนนั่น...เจ้าจอมวุ่นกับตุ่ม เขาจึงตอบเธอตามตรง ผมว่าผมควรจะออกจากที่นี่ได้แล้วนะ
หมายความว่ายังไง หญิงสาวรีบก้าวไปดักหน้าของเขาไว้
ผมก็จะกลับบ้านผมบ้างสิ ชายหนุ่มตอบวางแผนคร่าวๆ ในใจ กะว่าคืนนี้เขาจะไปขอค้างกับทิษณุสักคืน แล้วค่อยออกเดินทางท่องเที่ยว
แล้วนี่คุณไม่คิดห่วงฉันบ้างเหรอ ทั้งๆ ที่ฉันไม่สบายอยู่แบบนี้นี่นะ อิสรีย์โวยเสียงเบา
ไม่ห่วง ก็คุณมีตุ่มอยู่แล้วทั้งคนนี่ เขาต้องดูแลคุณได้ดีอยู่แล้ว
คำตอบที่ได้จากเรวินทร์ ทำเอาหญิงสาวอึ้งสนิท ที่เขาไม่มีเยื่อใยต่อเธอสักนิด กว่าจะหายงงหายอึ้งเขาก็เดินไปจนเกือบถึงหน้าประตูบ้านแล้ว...ไม่ได้นะ เธอจะไม่ยอมปล่อยเขาไปไหนเด็ดขาด
คุณไรท์! อิสรีย์คว้าต้นแขนของเขาเอาไว้ ก่อนทิ้งตัวลงนั่งเอาดื้อๆ พร้อมทั้งแกล้งร้องเสียงดัง โอ๊ย! ทำไมฉันปวดหัวจังเลย
ชายหนุ่มเขม้นมองไม่ใคร่เชื่อมารยาของเธอเท่าไหร่นัก เมื่อเขาทำท่าผละหนี เธอจึงแกล้งร้องเสียงดังมากยิ่งขึ้น
โอ๊ย!...เจ็บๆๆ
เรวินทร์ถอนหายใจเสียงดังก่อนหมุนตัวลงไปนั่งยองๆ ข้างๆ ร่างบางพร้อมทั้งกล่าวเสียงเย็นว่า นี่คุณ คนที่เขาป่วยจริงๆ เขาคงไม่มีแรงมาร้องเสียงดังเป็นควายถูกเชือดอยู่อย่างนี้หรอก
อี๋! ฝรั่งอะไรปากจัดชะมัด ซวยจริงๆ เลยผู้หญิงคนนี้ ได้หมอนี่เป็นแฟน...อิสรีย์ได้แต่คิดหากปากกลับเถียงไปอีกทางแทน ทำไมจะไม่มี ก็คนคลอดลูกไง ร้องเสียงดังจะตาย คุณไม่เคยได้ยินเหรอตามห้องคลอดของโรงพยาบาลไง
นั่นเขาไม่ได้เรียกว่าป่วยนะครับ เรวินทร์ส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย ก่อนเอ่ยดักทาง แล้วที่คุณเถียงผมได้ฉอดๆ แบบนี้แสดงว่าหายเจ็บแล้วงั้นสิ
ฉันปวดหัวจริงๆ นะคะ คนป่วยแกล้งโอดตีหน้าเบ้ อาศัยช่วงจังหวะที่เขาเสมองทางอื่นเพราะทนมองการเล่นละครของเธอไม่ไหว วงแขนเรียวก็คล้องหมับเข้าที่ต้นคอของชายหนุ่มด้วยความรวดเร็ว
เฮ้! นี่คุณจะทำอะไร เรวินทร์อุทานด้วยความตกใจ กว่าจะทันรู้ตัวก็หงายหลังก้นจ้ำเบ้า โดยมีร่างบางที่โถมทับมาทั้งกาย ทำให้เขาต้องกอดประคองเธอเอาไว้ด้วยความลืมตัว
ก็บอกแล้วไงคะว่า ปวดหัวๆ ฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่องเหรอคะ หญิงสาวกระซิบอยู่กับอกเขาเสียงเครียด
เสียงกระซิบข่มขู่พร้อมกับร่างในอ้อมกอดที่สั่นน้อยๆ น่าแปลก! ทำไมเขาถึงได้รู้สึกยินดี เบิกบานในอารมณ์จนอยากเปล่งเสียงหัวเราะออกมา หากแต่เขากลับขำไม่ออกเมื่อสายตาสะดุดเข้ากับร่างของสองจอมจุ้น ที่ตอนนี้เริ่มโผล่หน้าออกมาเมียงๆ มองๆ ที่พวกเขาทั้งสองคน
อ้อแอ้ปราดเข้ามาถามไถ่ด้วยความรวดเร็ว เล่นกันอะไรอยู่ครับพี่เอ๋ย...พี่แองเจิ้ล เล่นพ่อแม่ลูกอยู่เหรอ น้องแอ้เล่นด้วยสิ แล้วเจ้าตัวน้อยก็โถมกายเข้ากอดคอเรวินทร์อีกคน
พระเจ้า! เรวินทร์อุทานในอก...นี่เขาหนีครอบครัวนี้ไม่พ้นจริงๆ เหรอเนี่ย!
พี่เอ๋ยถอยไปหน่อยสิ พี่แองเจิ้ลเขาเป็นของหนูนะ อ้อแอ้พยายามเอาร่างอ้วนป้อมของตนเองแทรกระหว่างหนุ่มสาว มือเล็กๆ พยายามดันร่างของเธอให้ถอยห่างจากชายหนุ่ม
เอ๊! อิสรีย์อุทานเพราะโดนผลักหลายๆ ทีเข้า อารมณ์เริ่มหงุดหงิดชักหมั่นไส้เด็กชายตรงหน้าแล้วสิ...หวงนักใช่ไหม ดวงตากลมโตแวววับเอาเรื่อง
เรานั่นแหละที่จะต้องถอยไป นี่มันแฟนฉันนะ หญิงสาวพูดไม่คิด เพราะนิสัยชอบเอาชนะด้วย และอาศัยที่มีร่างกายโตกว่าเบียดแทรกเด็กชายจนกระเด็นหลุดวงโคจร ไปนั่งก้นจ้ำเบ้ากับพื้น
พี่เอ๋ยขี้โกง น้องอ้อแอ้เป็นคนเจอพี่แองเจิ้ลก่อนนะ อ้อแอ้ลุกขึ้นยืนกระทืบเท้าเร่าอย่างขัดใจ
เหรอ-อ-อ อิสรีย์ลากเสียงยาวล้อเลียน หายหงุดหงิดเป็นปลิดทิ้ง เมื่อสามารถทำให้เด็กชายหัวปั่นคืนได้บ้าง
อ้อแอ้โกรธแล้วนะ รีบถอยออกจากพี่แองเจิ้ลของหนูเดี๋ยวนี้เลย
น่ากลัวจังเลย อิสรีย์ลอยหน้าลอยตาหาได้หวาดกลัวตามคำขู่ของหลานชายตัวน้อย แถมยั่วอีกฝ่ายด้วยการยื่นหน้าไปหอมแก้มชายหนุ่มติดๆ กันสองที ทำเอาชายหนุ่มถึงกับเหวอที่โดนเธอจู่โจม เพียงวันเดียวเขาก็โดนขโมยจูบไปแล้วถึงสามหน
งั้นเราจะได้เห็นดีกัน! พ่อหนูน้อยแผดเสียงยกกำปั้นทั้งสองข้างขึ้นขู่ ก่อนไขว้แขนเป็นรูปกากบาท ขอแปลงร่างเป็นด๊อกเรนเจอร์
ประจัญบาน
แล้วเด็กชายโอสธีก็คลานสี่ขา พร้อมทั้งส่งเสียงเห่ากรรโชกใส่หญิงสาวเป็นการใหญ่ โฮ่งๆๆ โบ๊ว
และดูท่าสงครามระหว่างสองป้าหลานจะไม่ยุติลงง่ายๆ เรวินทร์รีบห้ามทัพหลังจากที่ปลงตกได้ เลิกเล่นกันได้แล้วทั้งสองคน คุณเอ๋ยลุกขึ้นเถอะครับ อ้อแอ้ด้วยเห็นมั้ยว่าบนพื้นสกปรก อ้อแอ้อาบน้ำแล้วนะครับ
ลุกก็ได้ เด็กชายยอมอย่างง่ายดาย หากไม่วายมีข้อต่อรอง แต่คืนนี้พี่แองเจิ้ลต้องมานอนที่ห้องหนูด้วยนะ
ครับ
ไชโย! อ้อแอ้กระโดดโลดเต้นเข้าไปแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ ยักคิ้วให้คุณป้ายังสาว เห็นไหม บอกแล้วว่าพี่แองเจิ้ลเขาเป็นของหนู
ชิ! อิสรีย์สะบัดหน้า ก่อนแสร้งทำเป็นกระฟัดกระเฟียดเดินหนีกลับเข้าบ้าน ทั้งที่ความจริงนั้นความโล่งใจ ในที่สุดภารกิจเหนี่ยวรั้งเขาไว้ให้อยู่กับเธอก็สำเร็จ แถมคืนนี้เธอไม่ต้องนอนร่วมห้องกับเขาอีกต่างหาก โชคดีจริงๆ เลย . . . . . เรวินทร์วางสัมภาระของตนเองลง พลางกวาดตามองห้องนอนเด็กชายโอสธี ห้องนอนที่ตกแต่งอย่างเรียบง่าย มีเครื่องเรือนเพียงสามชิ้น โต๊ะ ตู้ เตียงนอน เท่านั้น เขาเหลียวมองรอบกายที่ไร้ของประดับตกแต่งใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีของเล่นสักชิ้น หรือหนังสือนิทานสักเล่มวางอยู่ในห้องเหมือนห้องนอนของเด็กปกติทั่วไป
ห้องโล่งจังเลยนะครับ
ไม่ต้องแปลกใจไปหรอกคุณ เป็นกฎของพี่เอ๋ยเขาน่ะ เขาบอกว่าห้องนอนก็ต้องเอาไว้ใช้นอนหลับพักผ่อนอย่างเดียวเท่านั้น ห้ามทำกิจกรรมอย่างอื่น ถ้าอยากเล่นอยากดูหนังก็ให้ลงไปห้องข้างล่าง ตุ่มอธิบาย
พี่แองเจิ้ลนอนที่ห้องกับน้องแอ้นะคับ เด็กชายชวนด้วยสีหน้ากระหยิ่มยิ้มย่อง คืนนี้ล่ะจะขอพรเพิ่มจากพี่แองเจิ้ลให้เยอะๆ เลย
ได้ไงล่ะ ถ้านอนที่ห้องนี้ด้วยกัน แล้วอาตุ่มจะไปนอนที่ไหนล่ะ ตุ่มโวยเตียงนอนไม่กว้างพอให้ผู้ใหญ่สองคนกับเด็กอีกหนึ่งนอนเบียดกันได้
อาตุ่มก็ไปนอนข้างล่างสิ นี่ห้องหนูนะหนูไม่อนุญาต
อะไรฟะ เห็นทุกทีนอนอยู่กับพี่เอ๋ยไม่ใช่เหรอเรา ตุ่มพยักพเยิด เพราะถึงยังไงเขาก็คงไม่ปล่อยให้นายไรท์ไปนอนห้องเดียวกับพี่เอ๋ยแน่ ยังไงก็ต้องป้องกันไว้ก่อน ถึงอย่างไรผู้หญิงก็เป็นฝ่ายเสียหายและเสียเปรียบอยู่ดี และเขาต้องเฝ้าระวังแฟนของพี่เอ๋ยไว้ให้ดีๆ เผลอไม่ได้เชียวล่ะ ดูอย่างวันนี้สิยังคิดหลบหนีจากเขาและอ้อแอ้ไปตั้งหลายรอบ
คุณนอนนี่แหละ ตุ่มชี้ที่เตียงอีกฟาก ไม่สนใจคำร้องโวยวายของเจ้าอ้อแอ้ รีบฉวยโอกาสเอนกายลงนอนหันหน้าไปทางประตู กันท่าไว้เผื่อเรวินทร์คิดหลบหนี จะได้ยากๆ หน่อย ส่วนเราเจ้าแอ้ไปนอนกับพี่เอ๋ยเลยไป
ไม่ไป อาตุ่มนั่นแหละต้องออกไป อ้อแอ้พยายามผลักร่างที่ใหญ่โตกว่าให้พ้นไปจากเตียงนอนของตัว แต่อีกฝ่ายก็ทำนิ่งเฉยเสียไม่หือไม่อือ
ทำแบบนี้ไม่ดีนะครับ เรวินทร์เข้าช่วยห้ามปราม ดึงเด็กชายลงมาจากเตียง คืนนี้อ้อแอ้ไปนอนที่ห้องพี่เอ๋ยก่อนดีไหมครับ
ไม่เอา! หนูจะนอนห้องนี้ นี่มันห้องของหนูนะ อาตุ่มนั่นแหละถ้าอยากนอนก็นอนที่พื้นสิ
โอเค...งั้นเดี๋ยวพี่นอนบนพื้นข้างล่างแทนก็ได้ ด้วยนิสัยที่ชอบประนีประนอมทำให้เรวินทร์ไม่อยากขัดใจเด็กชาย
ก็ดีเหมือนกัน ขาคุณยาวนอนบนเตียงของเจ้าอ้อแอ้ไม่ได้แน่ ขืนนอนไปมีหวังปวดขาตายเลย ตุ่มเห็นด้วย พลางกุลีกุจอเปิดตู้หยิบชุดเครื่องนอนอีกชุดออกมาช่วยจัดเตรียมให้หนุ่มลูกครึ่ง ปูที่หลับที่นอนข้างเตียงๆ ใกล้ด้านที่เจ้าตัวเล็กนั่งอยู่
อ้อแอ้มองผู้ใหญ่ทั้งสองคนตาปริบๆ ตั้งท่าจะค้าน แต่คนมีศักดิ์เป็นอารีบดุสำทับเสียก่อน อย่าโวยวายเชียวนะ ไม่อย่างนั้นจะฟ้องพี่เอ๋ยให้มาจัดการ คืนนี้จะได้ไม่ต้องนอนข้างคุณไรท์เลย
เจ้าหนูทำปากยื่นอย่างขัดใจ ยอมปิดปากเงียบ เพราะหวั่นเกรงคำขู่เหมือนกัน
เมื่อเสร็จเรื่องเรวินทร์ก็จัดแจงรื้อเสื้อผ้าของตัวเองออกมาวางกองไว้ พลางเอ่ยปาก ขอบใจมากนะตุ่มที่ช่วยจัดที่หลับที่นอนให้ แล้วนี่ห้องน้ำอยู่ไหนเหรอคุณบอกได้ไหม ผมอยากอาบน้ำเหนียวตัวมาทั้งวันเลย
มาสิคุณเดี๋ยวผมพาไป ตุ่มก้าวออกจากห้อง เดินนำเขาไปยังห้องน้ำที่อยู่ถัดไปเพียงสองห้อง
หลังจากจัดการอาบน้ำชำระกายเสร็จเรียบร้อย ครั้นเมื่อเปิดประตูห้องน้ำออกมา เห็นตุ่มยืนแกร่วรอเป็นยามเฝ้าอยู่หน้าห้องน้ำให้ ทำเอาเรวินทร์อ่อนใจ ไม่รู้จะระแวงอะไรนักหนา ยังไงคืนนี้เขาก็หนีไปไหนไม่รอดหรอก
(ติดตามต่อตอนหน้านะคะ)
+++++++++++++++
คุณพิมพ์นรา...ค่า ขอบคุณสำหรับกิ๊ฟด้วยนะคะ ^0^ คุณปุ๊กกุย...มาต่อแล้วค่ะ ขอบคุณสำหรับกิ๊ฟเช่นกันนะคะ ^_^
+++++++++++++++++
ลิงค์ตอนเก่าจ้า...
บทที่ 6-7... http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11859551/W11859551.html บทที่ 5... http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11829456/W11829456.html บทที่ 4... http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11798581/W11798581.html บทที่ 3
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11768529/W11768529.html บทที่ 2
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11734893/W11734893.html บทที่ 1... http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11706142/W11706142.html
จากคุณ |
:
แก้วชมพู
|
เขียนเมื่อ |
:
27 มี.ค. 55 21:10:04
|
|
|
|