Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เพราะรักคือเธอ # 3 ติดต่อทีมงาน



1 # http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/08/W10965240/W10965240.html
       
2 # http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/09/W11031166/W11031166.html


...........................................................................................................

5#
       หลังจากวางสายกับเพื่อนสาว กรดาก็นึกภาพวิมาดาออกเลยว่าจะมีสภาพเช่นไร แม้ว่าเธอจะไม่เคยไปที่ทำงานของเพื่อนก็ตามเถอะ แต่ตลอดเกือบสี่ปีนี้เธอก็ฟังคำบ่น คำเล่าของเพื่อนจนจินตนาการออกเลยว่า ภายในสำนักงานใหญ่ของเครือสหวาริชนั้นเป็นอย่างไร ส่วนภายนอกนั้นกรดาก็เคยเห็นในข่าวเศรษฐกิจหรือตามรายการต่าง ๆ อยู่บ้าง ซึ่งเพื่อนของเธอคงต้องไปจมอยู่กับความบัดซบในชีวิตอยู่ ในจุดใดจุดหนึ่งของสำนักงานเป็นแน่ ถึงแม้จะเธอจะดูใจร้ายแต่ก็อดห่วงเพื่อนไม่ได้อยู่ดี

               ทำงานซะ เลิกร้องไห้ เย็นนี้ไปกินไอติมกัน... นั่นคือข้อความที่หญิงสาวพิมพ์ลงในโทรศัพท์ ทว่าพอกดส่งเธอก็พบว่าระบบไม่ตอบรับ

               “บ้าเอ๊ย” กรดาถอนหายใจเพราะรับรู้ว่าตัวเองอาการหนักจนกระทั่งไม่ได้สนใจจะเติมเงินโทรศัพท์ และไม่ใช่เพียงแต่โทรออกไม่ได้เท่านั้น มันยังลุกลามไปจนถึงส่งข้อความไม่ได้ แต่ก็ยังเป็นบุญที่เบอร์ไม่ได้โดนปิดไปเสียก่อน

               หญิงสาวยืนขึ้นแล้วฉับพลันความรู้สึกบางอย่างก็เข้ามากระทบ ให้เธอหยุดนิ่ง ลืมตาโพลง แล้วสะบัดหัวเบา ๆ วิมาดามองรอบข้างอย่างงุนงง ค่อย ๆ ซึมซาบอย่างเชื่องช้าว่าถึงคราวที่ตัวเองกำลังจะตื่นจากฝันร้าย ในห้องขนาดเล็กของเธอ คลาคล่ำไปเศษซากเวลา ที่ครั้งหนึ่งเคยไหลเวียนมีกลิ่นหอมราวกับดอกไม้แรกผลิบาน ทว่าแม้กลีบสวยยังไม่ถึงคราวโรยรา มันก็ถูกทำลายความจริงของสิ่งที่เรียกว่า ชีวิต...

               กรดาเคยมีความฝัน ชีวิตแสนหวาน บัดนี้ถูกกลบด้วยกลิ่นเหม็นอับ ของเวลาที่หยุดนิ่งที่ช่วงบทหนึ่งในชีวิต ทั้งที่โลกกว้างถึงขนาดนี้ เธอยังมีลมหายใจอยู่ที่นี่ ด้านซ้ายมือของหญิงสาวมีเตียงเก่า ๆ จากเตียงเดินไม่มาประมาณสี่ก้าวก็ถึงโต๊ะทำงาน ซึ่งเต็มไปด้วยกองกระดาษ แทบจะไม่มีที่วาง หนังสือ บิลค่าใช้จ่ายส่วนตัว ที่เสียบปากกา แล้วก็อัลบั้มรูปที่ถูกวางที่เอาไว้ นอกเหนือจากนั้นองค์ประกอบภายในห้องของเธอ ก็มีแค่ตู้เสื้อผ้าเล็ก ๆ และทีวีส่วนตัวที่นาน ๆ ครั้งถึงจะเปิดดูสักที

               อันที่จริงเธอก็ไม่คิดว่ามันน่าหดหู่สักเท่าไหร่ ถ้าสายตาไม่เหลือบไปเห็นกล่องที่วางเอาไว้บนพื้นห้อง ข้างโต๊ะทำงาน เธอหยิบขึ้นมาเปิด ในนั้นบรรจุภาพความหลังเมื่อครั้งสมัยเรียน นับตั้งวันแรกที่รู้ว่าสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ วันรับน้อง กิจกรรมต่าง ๆ สุดท้ายมาถึงรูปรับปริญญา กรดาไม่ได้สนใจดูภาพเหล่านี้มาหลายปีแล้ว ธรรมดานั่นแหละที่คนเราชอบเก็บสิ่งที่ทำให้ตัวเองออนแอเอาไว้ แล้วซุกซ่อนอยู่ในหลืบที่ตัวเองเห็นชัดแล้วทำเป็นแสร้งว่าไม่สนใจ มนุษย์เรานี่ก็แปลกกลัวแต่อยากรู้ เกลียดแต่กิน ไม่อยากได้แต่อยากมี

                กรดาวางกล่องไว้บนโต๊ะ จัดเรียงเศษเสี้ยวความทรงจำซึ่งกระจัดกระจายให้เข้าที่ แล้วปิดฝาบอกตัวเองมันมันเป็นแพนโดราที่ควรจะซ่อนเอาไว้ แม้ว่าโลกนี้จะมีสิ่งชั่วร้ายมากพอแล้วก็ตาม ไหล่ของหญิงสาวลู่ลง กรดาถอนแว่นตาออก ดึงที่หนีบผมตัวใหญ่ สยายผมยาวแค่ไหล่ออกมา แล้วหลับตาอย่างสงบ ในขณะที่เอียงคอไปมาอย่างผ่อนคลายนั้น ในหัวก็คิดว่า...นี่แหละชีวิต


           “กร เอางานไปส่งลูกค้าหน่อย!” กรดาลืมตาขึ้นทันทีเมื่อเสียงประกาศิตจากบิดาดังขึ้น หญิงสาวสะบัดหัวแรง ๆ สองสามครั้ง แล้วยืนขึ้นแน่นอนว่าอารมณ์เธอไม่โสภาสักนิด


               “นี่แหละชีวิต” เธอพูดกับตัวเองอย่างแค้นเคืองใจ ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป มีสิ่งหนึ่งที่กรดาอยากถามคนทั้งโลกว่าเป็นเหมือนกันกับเธอไหม ว่าชีวิตน่ะบางทีก็รักบางทีก็เกลียด ยิ่งรักมากยิ่งเกลียดมาก ยิ่งหวงแหนมากก็ยิ่งต่อต้านมาก แต่น่าตลกไหมว่าจริง ๆ แล้วต้องมีอะไรสักอย่างที่คุณจะต้องได้มาอย่างแน่นอน

               ด้านวิมาดาเองก็ดึงตัวเองออกจากมุมมืดของชีวิต ก้าวเข้าสู่แสงสว่างอันลวงตา เดินกลับไปยังโต๊ะทำงานที่อยู่ด้านในสุดของห้อง แม้ว่าเธอจะพยายามแต่งตัวดูดีแค่ไหน ก็ดูราวกับว่าโลกเบื้องหน้าจะไม่ยอมรับเธอ  ดังนั้นหญิงสาวจึงซุกตัวอยู่ด้านหลัง แล้วก็ทำงานแบบที่คนเบื้องหน้าเขาไม่ทำหรือควรทำแต่อ้างว่าไม่มีเวลาทำ ซึ่งอย่างหลังก็เป็นเหตุผลที่วิมาดาจนใจ ความเป็นจริงก็คือแม้แต่คนขี้อายที่สุดก็ไม่อยากยืนอยู่หลังใคร สิ่งที่ทุกคนอยากจะทำก็คือการทิ้งคนอื่นเอาไว้ข้างหลังนั่นเอง

               แม้ใครจะแอบคิดปฏิเสธ แต่ก็ยอมรับมาซะเถอะว่าใจจริงแล้วถึงจะเป็นเพื่อนกัน บางอารมณ์คุณก็อยากจะขัดขาเพื่อนให้ล้มแล้วเดินข้ามไม่เหลียวหลังกลับมา แล้วระเบิดเสียงหัวเราะให้สาแก่ใจ ทำไมเธอถึงคิดแบบนี้น่ะเหรอ วิมาดาโดนมานักต่อนักแล้วล่ะ ทั้งที่ไว้ใจทั้งที่เชื่อใจ ใช้เวลาร่วมกันเกินกว่าครึ่งในแต่ละวัน แต่นั่นไม่ได้รับประกันได้หรอก...ว่าคุณจะเป็นคนสำคัญสำหรับใครได้จริง ๆ เพราะจู่ ๆ วันหนึ่งจะเกิดคำถามขึ้นมาว่า ทำไมคุณถึงถูกทิ้งอยู่ข้างหลัง ในขณะที่ร่วงหล่นลงมาจากที่สูงด้วยแรงผลักของคนที่คิดว่าสนิทกัน

               “เอานี่ไปซีร๊อกซ์ด้วยนะ คุณลีย่าจะเอา” กระดาษปึกใหญ่ถูกโยนมาตรงหน้าวิมาดาที่กำลังก้มหน้าก้มตาตัดข่าวในหนังสือและนิตยสารที่พูดถึงบริษัท



               “แล้วทำไมเธอถึงไม่ทำเองล่ะ” คนตัดกระดาษเงยหน้าขึ้นมาพูดเสียงแข็ง แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้สนใจอะไร  เพราะวิมาดาได้แค่การไหวไหล่น้อย ๆ กลับมา



               “ฉันต้องไปเอาชุดน่ะ เผอิญวันนี้คุณลีย่าอารมณ์ไม่ดีเลยไม่ไปงานเลี้ยงเปิดตัวของบริษัทคุณสกลแล้ว แต่ไอ้ครั้นไม่ไปเฉย ๆ ก็น่าเกลียด ก็เลยให้ฉันเอาดอกไม้และก็ของขวัญไปแสดงความยินดีแทน เอ๊ะ อย่าทำตาแบบนั้นใส่ฉันสิ” ท้ายประโยคคนพูดขึ้นเสียงสูงอย่างแปลกใจ ทั้งที่เห็นอาการของวิมาดามาตั้งนานแล้ว



               “ช่วยไม่ได้นี่วิฉันไม่ว่างจริงๆนะ เราเป็นเพื่อนร่วมงานก็ต้องช่วยเหลือกันใช่ไหม”



               “ทำไมเธอไม่ไปใช้คนอื่น” สาบานได้ว่าเสียงของวิมาดาตอนนี้เย็นจนหมีโพลาร์มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเลยเชียวล่ะ



               “คนอื่นก็ไม่ว่าง” คำตอบง่าย ๆ ที่ได้รับพร้อมกับการเดินผละไปเฉย  ๆ นั้น ทำให้วิมาดาเห็นเพื่อนร่วมแผนกอีกคนที่กำลังยืนยิ้มหวานแบบไม่จริงใจให้เธออยู่

               ฮึ ยัยแม่มด...วิมาดาคิดในใจ อีกฝ่ายที่เดินนวดนาดสี่ก้าวเข้ามาถึงโต๊ะทำงานของเธอนั้นมีชื่อว่า ขวัญพร เป็นคนที่เข้าทำงานพร้อมกับเธอ และตอนนี้ก็ได้กลมกลืนไปกับหญิงสาวที่พยายามบำรุงบำเรอตัวเองให้มากที่สุด เพื่อที่จะเป็นหน้าเป็นตาของบริษัท แน่นอนเรื่องความสวยความงามเป็นสิ่งจำเป็นที่เธอเข้าใจ แต่วิมาดาไม่เข้าใจว่าทำไมสุดท้ายต้องเป็นเธอคนเดียวที่รับเรื่องยุ่งยากประเภทกระดาษเอาไว้ เมื่อตอนสมัครในตำแหน่งพีอาร์ หญิงสาววาดฝันถึงชีวิตที่งามสง่าและเฉิดฉายท่ามกลางผู้คน ทั้งยังเตรียมใจที่จะยอมยุ่งหัวปั่นมีเวลาเป็นของตัวเองน้อยแสนน้อย

               แต่นี่นอกจากเวลาจะน้อยและยุ่งหัวปั่นแล้ว เธอยังไม่ได้ทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริงเลยสักนิด ซึ่งใครจะว่าไม่เกี่ยวก็ไม่เป็นไร แต่นี่แหละเป็นเหตุผลที่ว่าเธอไม่อยากจะไว้ใจใคร ให้มาสนิทแนบแน่นขนาดเป็นคนรักกัน เพราะยิ่งรักกันเท่าไหร่ก็ยิ่งช้ำมากเท่านั้น วิมาดาไม่ใช่คนที่เจอความเจ็บช้ำมามากจนเข็ดขยาด แต่เธอเห็นความเจ็บช้ำของเพื่อนและคนรอบข้างมากพอที่ไม่อยากจะเป็นแบบนั้น ทว่าเมื่อโลกนี้สร้างให้ผู้หญิงเกิดมาคู่กับผู้ชาย ใครเลยจะต้านทานสิ่งที่อยู่ในส่วนลึกได้ ยิ่งคนอ่อนไหวอย่างเธอแล้วด้วย พอเห็นหนุ่มหล่อตรงสเป็กก็ไม่ผิดหรอกที่จะเผลอใจไปบ้าง...

               “นี่...มัวเหม่ออะไรอยู่” เสียงคนพูดประกอบการทุบโต๊ะเบา ๆ เรียกเธอให้ตื่นจากภวังค์ วิมาดาถอนหายใจหนัก การที่มีเพื่อนซึ่งไว้ใจได้คนเดียวอย่างกรดานั้นทำให้เธอดูเป็นคนเงียบและเก็บตัวไปเลย ทั้งที่สภาพแวดล้อมออกจะมีสีสันไม่เหมือนกับเพื่อนสนิทสักนิด

               “มีอะไรก็ว่ามา” ในเมื่อว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว หญิงสาวก็เลือกที่จะขอพูดให้มันจบ ๆ เรื่องไปเร็ว ๆ เสียดีกว่า วิมาดาตีสีหน้าเย็นชาเธอไม่เคยลืมว่าอีกฝ่ายทำอะไรไว้หรอก

               “จัดการประชุมให้หน่อยสิ” ขวัญพรพูดอย่างง่าย ๆ ก่อนหันไปคว้าเอกสารตั้งใหญ่และแฟ้มอีกสามอันมาวางต่อหน้าเธอ

               “ทำไมเธอถึงไม่จัดเองล่ะ มันเป็นโปรเจกต์ที่เธอเสนอนี่” วิมาดาว่าเธอไม่ค่อยได้สนใจอีกฝ่ายนัก แต่ได้ยินเสียงพูดข้ามหัวไปมา ว่ารูปแบบงานที่ขวัญพรเสนอขึ้นไปนั้นเป็นที่ถูกอกถูกใจของลีลามาก อันที่จริงเธอคงไม่อิจฉาหรอกถ้าไม่ได้ยินเสียงพูดอย่างตาร้อนของคนอื่นว่า งานที่เสนอให้ทำเพื่อประชาสัมพันธ์บริษัทนั้น ได้รับคำชมเชยจากชนาเมธด้วย

               “ที่ให้เธอทำไม่ใช่โปรเจกต์ที่ฉันเสนอสักหน่อย เพราะที่ฉันเสนอคือเรื่องการจัดการประชาสัมพันธ์แบบเชิงรุกที่ทำให้บริษัทของเรามีความภาพลักษณ์ทางด้านสังคมที่ดีขึ้นย่ะ รู้ไหมว่ามันสำคัญมากเลยนะ แล้วคิดเหรอว่าโปรเจกต์ที่คุณเมฆเห็นชอบถึงขนาดเอ่ยปากชมขึ้นมาแบบนี้ฉันจะให้เธอทำ ความสามารถระดับเธอมันต้องเรื่องนี้” ปลายนิ้วที่ตกแต่งมาเป็นอย่างดีชี้ย้ำไปตรงหัวข้อบนหน้าปกแฟ้มงาน

               การประชุมผู้ร่วมทุนไทย-ญี่ปุ่น ... วิมาดาอ่าน แล้วเธอก็เลิกคิ้วอย่างแปลกใจ สงสัยว่างานที่อีกฝ่ายโยนมาให้ตัวเองทำสำคัญน้อยกว่าโปรเจกต์เพื่อสังคมนั่นได้อย่างไร การขยายตลาดและทำกำไรให้กับองค์กรนี่หรือ...ที่ขวัญพรบอกว่าไม่สำคัญ

               “นี่มันงานใหญ่นี่”

               “ก็ใหญ่อยู่หรอก แต่ฉันไม่มีเวลาหรอกนะ งานมันก็เร่ง  ๆ เหมือนกันหมด ฉันก็เลยเสนอคุณลีย่าว่า เรื่องสถานที่และจิปาถะต่าง ๆ จะให้เธอทำส่วนวันจริงเดี๋ยวฉันจะช่วยดำเนินงานเอง เท่ากับว่างานครั้งนี้เราร่วมงานกันนะ”

               “ร่วมงาน” วิมาดาถามเสียงสูง เธอเค้นหัวเราะนี่เป็นงานที่โยนให้เธอทำแล้วเอาหน้าของขวัญพรต่างหาก เหมือนที่เคยทำเสมอมา

               “ใช่ เราต่างก็ทำงานที่เราถนัด เธอถนัดอยู่เบื้องหลัง ฉันชอบอยู่เบื้องหน้าแฮปปี้ทุกฝ่ายมาไหม”

             

แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 55 00:02:35

แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 55 00:02:10

แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 55 23:59:01

จากคุณ : เมเปิ้ลสีขาว
เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 23:57:31




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com