ตอนที่ 1
เฌอปรางค์ หรือมะปรางหญิงสาวรูปร่างสูงโปร่ง ท่าทางกระฉับกระเฉง แต่งกายด้วยชุดทะมัดทะแมงดูคล่องตัว ยืนอยู่หน้าท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ในมือถือกระเป๋าเดินทางขนาดย่อมอยู่หนึ่งใบ สาวเหนือผิวสีน้ำนมหันซ้าย หันขวาอย่างไม่รู้ทิศทาง ฉับพลันดวงตากลมโต ที่แฝงความดื้อรั้นอยู่เต็มเปี่ยม ก็สะดุดเข้ากับป้ายโฆษณาสินค้าขนาดใหญ่ซึ่งมี จักรวาล ซุปเปอร์สตาร์หนุ่มสุดหล่อ ขวัญใจสาวน้อย สาวใหญ่ สาวแท้ สาวเทียม ทั่วฟ้าเมืองไทยตั้งอยู่ไม่ไกลจากจุดที่เธอยืนอยู่ เฌอปรางค์เหยียดตามองป้ายนั้นอย่างเบื่อหน่าย เพราะไม่ว่าจะเดินทางไปทางไหน ก็จะเจอแต่ภาพของชายหนุ่มผู้นี้อยู่ทุกหนทุกแห่ง เรียกว่าป้ายโฆษณาของจักรวาลแทรกตัวอยู่แทบทุกตารางนิ้วของประเทศไทยเลยทีเดียว
‘หน้าตาก็ดี ไม่น่าเป็นเกย์เลย’ เฌอปรางค์คิดในใจ แล้วเบ้ปากใส่คนในรูปด้วยความหมั่นไส้อย่างไม่มีเหตุผล จากนั้นจึงก้าวเท้าอย่างว่องไวออกไปเรียกแท็กซี่
“จะให้ไปส่งที่ไหนครับ” โชเฟอร์วัยปลายคนเอ่ยถาม ขณะมองผู้โดยสารสาวผ่านกระจกมองหลัง เมื่อเห็นว่า เธอเข้ามานั่งในรถเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้บอกจุดหมายปลายทาง
“ไป...เอ่อ” หญิงสาวอึกอัก แล้วรีบก้มหน้าควานหาอะไรบางอย่างในช่องสี่เหลี่ยมเล็ก ด้านข้างของกระเป๋าเดินทาง เพียงอึดใจเดียว มือเรียวอย่างคนไม่เคยทำงานหนัก ก็ดึงกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาคลี่อ่าน แล้วตอบเสียงดังฟังชัดว่า “ไปทองหล่อค่ะ”
ระหว่างเส้นทาง จากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิไปยังซอยทองหล่อ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ถนนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นถนนสายธุรกิจสายหนึ่งของกรุงเทพฯ ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยป้ายโฆษณาสินค้านานาชนิด ซึ่งจักรวาลเป็นพรีเซนเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นที่ผนังด้านนอกของอาคารสูงระฟ้า บนดาดฟ้าของอาคารพาณิชย์ขนาดกลาง บนป้ายจอดรถโดยสารประจำทาง บนตัวรถโดยสารประจำทาง หรือแม้กระทั่งบนกระป๋องน้ำอัดลมที่วางอยู่ข้างตัวคนขับรถแท็กซี่ สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าซุปเปอร์สตาร์หนุ่มผู้นี้ ได้รับความนิยมสูงมาก
“จักรวาลนี่ดังมากเลยนะหนู ดูสิ หันไปทางไหนก็เจอแต่ป้ายโฆษณาของเขาเต็มไปหมด อย่างนี้คงรับทรัพย์อื้อซ่า หน้าตาก็ดี๊ดี สาวๆ กรี๊ดกันตั้งแต่เด็กเล็กยันคนแก่” คนขับรถชวนคุย
“แต่มีข่าวว่าเขาเป็นเกย์นี่” เฌอปรางค์พูดด้วยความหมั่นไส้ผู้ที่ถูกกล่าวถึงอย่างไม่มีเหตุผลขึ้นมาอีกครั้ง
“นั่นสิ ลูกสาวลุงมันก็ร้องห่มร้องไห้ เสียใจกับเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน มันบอกว่าเสียดายความหล่อ” โชเฟอร์กล่าวถึงบุตรสาววัยรุ่นของตนพลางหัวเราะเบาๆ
เฌอปรางค์ไม่ชอบสนทนากับคนแปลกหน้าเท่าใดนัก ดังนั้นเธอจึงแสร้งหยิบนิตยสารกอสซิปบันเทิง ซึ่งเสียบอยู่หลังเบาะออกมาอ่าน เพื่อปิดการสนทนา นิ้วเรียวยาว ปลายเล็บตัดสั้นสะอาดตากรีดหน้ากระดาษแต่ละหน้าเพียงผ่านๆ แต่แล้วก็สะดุดกึกอยู่ที่คอลัมน์หนึ่ง ซึ่งมีรูปของจักรวาลในสภาพเปลือยกาย นอนกอดก่ายกับผู้ชายร่างกายกำยำอยู่บนเตียงนอน โดยมีอักษรตัวโต สีสันสะดุดตากำกับไว้เหนือภาพว่า
ภาพหลุด ! ! ! จักรวาลนอนเปลือยกายเผยให้เห็นอวัยวะส่วนสำคัญคู่กับหนุ่มคู่ขา ในห้องพักโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง
หญิงสาวรีบปิดหนังสือหน้านั้นทันที แล้วสลัดศีรษะอย่างแรง เพื่อขับไล่ภาพอันน่าขยะแขยงให้หลุดออกจากการรับรู้ จากนั้นใบหน้ารีรูปไข่จึงหันออกไปมองท้องถนนที่สับสนวุ่นวายของเมืองหลวง สถานที่ซึ่งเธอตั้งใจจะใช้เป็นที่ซ่อนตัว
นิตยสารกอสซิปบันเทิงฉบับเดียวกันถูกโยนลงมาตรงหน้าจักรวาลอย่างแรง ตามด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดของเสี่ยสาโรจน์ ผู้บริหารสูงสุดของบริษัทแฮปปี้เอ็นเตอร์เทนเมนท์ “มีแต่ข่าวคาวๆ ออกมาได้ไม่เว้นแต่ละวัน รู้ไหมว่ามันทำให้บริษัทของฉันเสียหายขนาดไหน !”
ซุปเปอร์สตาร์หนุ่มเพียงแค่ปรายตามองนิตยสารฉบับนั้นอย่างไม่พอใจนิดหนึ่ง แต่ไม่คิดจะหยิบมันขึ้นมาอ่าน เพราะก่อนหน้านี้เขาได้เห็นภาพข่าวของตัวเองที่นอนเปลือยกอดกับผู้ชายมาก่อนแล้ว ภาพข่าวนี้ถูกแพร่กระจายไปทั่วอินเตอร์เน็ต และตามหน้านิตยสารบันเทิงทุกฉบับ
“เด็กอนุบาลยังดูออกเลยว่ารูปนี้เป็นรูปตัดต่อ เสี่ยจะโวยวายทำไม”
“จะให้ฉันนั่งนิ่งๆ แล้วยิ้มรับความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างนั้นน่ะเหรอ” เสี่ยสาโรจน์ตะคอกพร้อมกับทุบโต๊ะเสียงดังอย่างโกรธจัด
“ใจเย็นๆ นะคะเสี่ยขา ข่าวเล็กๆ แค่นี้ริชชี่เคลียร์ได้สบายมากค่ะ แค่เปิดโต๊ะแถลงข่าวนิดหน่อยเรื่องก็จบแล้ว เรื่องแค่นี้ จิ๊บๆ สบายมากค่ะ” เรืองฤทธิ์ ผู้จัดการร่างชายแต่ใจหญิงของจักรวาลรีบออกหน้าเสนอตัวเคลียร์ปัญหานี้ ด้วยน้ำเสียงกระตุ้งกระติ้งราวหญิงสาวแรกรุ่น
“ไอ้ฤทธิ์ ! ฉันเห็นพูดอย่างนี้ทุกทีที่มีเรื่อง แต่ก็ไม่เคยจัดการอะไรได้สักอย่าง”
“ริชชี่ค่ะ” เรืองฤทธิ์ส่งสายตาเว้าวอนให้เจ้านายเรียกเธอว่า ริชชี่ แทนชื่อจริงที่ฟังแล้วเป็นชายชาตรีเสียเหลือเกิน
“ไอ้ฤทธิ์ !” ผู้เป็นเจ้านายถลึงตาใส่คนไม่รู้กาลเทศะ
“ค่ะ...ไอ้ฤทธิ์ก็ไอ้ฤทธิ์ค่ะ” เรืองฤทธิ์ทำหน้าม่อย เสียงอ่อย แล้วก้มหน้าหลบสายตาดุดันของเจ้านาย
หนังสือพิมพ์รายวันอีกฉบับหนึ่งถูกโยนตามมา ข่าวหน้าหนึ่งกรอบใหญ่พาดหัวข่าวตัวโตว่า แฟนคลับสาวปลิดชีพตัวเองในห้องน้ำโรงเรียน ดับอนาถ เหตุซุปตาร์หนุ่มเป็นเกย์ ! ! ! ข่าวนี้ถือเป็นข่าวใหม่สำหรับจักรวาล ดังนั้นเขาจึงรีบคว้าหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นมาอ่านเนื้อข่าว เรืองฤทธิ์ซึ่งนั่งอยู่ติดกัน ชะโงกหน้าเข้าไปร่วมอ่านด้วยความตื่นตระหนก
“ว้าย...แม่เจ้า” เรืองฤทธิ์ร้องเสียงหลง ยกมือขึ้นทาบอก
“ข่าวใหญ่ขนาดนี้แกยังจะแก้ข่าวไหวไหมไอ้ฤทธิ์” เสี่ยสาโรจน์ตะคอกถามด้วยน้ำเสียงเครียดจัด
จักรวาลและเรืองฤทธิ์มองหน้ากันอย่างคาดไม่ถึง ว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรง เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายเกิดขึ้นเช่นนี้
“ข่าวเด็กนักเรียนฆ่าตัวตาย มีผลกระทบต่องานของจักรมาก” เสี่ยสาโรจน์เว้นจังหวะการพูด แล้วระบายลมหายใจหนักๆ ก่อนจะกล่าวต่อว่า “เจ้าของสินค้าทุกรายที่จักรเป็นพรีเซนเตอร์อยู่ ขอยกเลิกสัญญา และเรียกร้องค่าเสียหาย ฐานที่จักรทำให้ภาพลักษณ์สินค้าของพวกเขาพังยับเยิน จนยอดขายร่วงระเนระนาด” เสี่ยสาโรจน์พูดจบก็หันไปส่งสัญญาณให้เลขาฯ สาวยกแฟ้มเอกสารที่เตรียมไว้เข้ามาให้ศิลปินหนุ่มอ่าน
“นี่คือรายละเอียดค่าเสียหายที่ทางเจ้าของสินค้าทั้งหมดส่งมาให้ค่ะ” เลขาฯ สาวพูดขณะวางแฟ้มเอกสารลงตรงหน้าซุปเปอร์สตาร์หนุ่ม
จักรวาลเมินเฉยต่อเอกสารตรงหน้า เรืองฤทธิ์จึงเป็นฝ่ายหยิบแฟ้มนั้นมาเปิดอ่านเสียเอง “แม่เจ้า...สี่สิบห้าล้าน เราจะทำยังไงกันดีคะเสี่ยขา” เรืองฤทธิ์ปากคอสั่น พร้อมยกมือขึ้นทาบอกในท่าประจำตัว เมื่อเห็นตัวเลขค่าเสียหายที่ถูกเรียกร้อง
“ไม่ใช่เรา แต่เป็นจักรคนเดียว” เสี่ยสาโรจน์ชี้นิ้วไปที่จักรวาล พร้อมกับจ้องตาชายหนุ่มอย่างขึงขัง
“หมายความว่ายังไงครับ” จักรวาลเอ่ยถามด้วยท่าทีเดียวกัน
“หมายความว่า บริษัทจะไม่ร่วมรับผิดชอบในความเสียหายครั้งนี้ เพราะมันเป็นเรื่องที่เกิดจากพฤติกรรมส่วนตัวของจักรเอง ทางบริษัทไม่จำเป็นต้องร่วมรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น” ผู้เป็นเจ้านายกล่าวอย่างเห็นแก่ตัว แน่นอนว่าในวงการธุรกิจ เรื่องผลประโยชน์ย่อมต้องมาก่อนเสมอ และนักธุรกิจเขี้ยวลากดินอย่างเสี่ยสาโรจน์ ย่อมไม่มีทางยอมเสียเงินจำนวนมหาศาลนี้ไปอย่างเปล่าประโยชน์แน่นอน
“เงินมากมายขนาดนี้ จักรจะหาที่ไหนมาจ่ายล่ะค่ะเสี่ยขา” เรืองฤทธิ์พูดพลางควักยาดมออกมาจากกระเป๋าถือ แล้วสูดอย่างแรงหลายครั้งติดๆ กัน
“เงินแค่นี้ ผมมีปัญญาจ่ายครับพี่ฤทธิ์ แต่ในเมื่อผมไม่ได้เป็นอย่างที่ข่าวลง แล้วทำไมผมจะต้องจ่าย ยังไงผมก็ไม่มีทางยอมจ่ายแน่ๆ เจ้าของสินค้าหน้าไหนอยากฟ้องก็เชิญ ผมพร้อมจะสู้” จักรวาลพูดอย่างไม่ยี่หระ คนอย่างเขาถ้าทำผิดเขายินดียอมรับผิดเสมอ แต่หากเรื่องใดที่เขาไม่ผิดอย่าได้หวังว่าเขาจะยอมรับ
“มีสัญญาอีกหนึ่งฉบับค่ะ” เลขาฯ สาวคนเดิมเลื่อนเอกสารเรียกร้องค่าเสียหายของบริษัทแฮปปี้เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ไปตรงหน้าจักรวาล
“นี่มันอะไรกันครับเสี่ย !” ทันทีที่อ่านเอกสารจบ จักรวาลก็โยนแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว แล้วลุกพรวดขึ้นยืนจ้องหน้าเสี่ยสาโรจน์อย่างระงับอารมณ์ไม่อยู่ เรืองฤทธิ์รีบกระตุกชายเสื้อเชิ้ตของซุปเปอร์สตาร์หนุ่มเลือดร้อนให้นั่งลง แต่ก็ไม่เป็นผล
“นี่คือเอกสารยกเลิกสัญญาการเป็นศิลปินของบริษัท พร้อมเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินสิบล้านบาทค่ะ” เลขาฯ สาวทำหน้าที่ให้รายละเอียดอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เรืองฤทธิ์หน้าซีดเผือด ทำท่าจะเป็นลมล้มพับเมื่อได้ยินข้อมูลดังกล่าว
“คุณไม่ต้องย้ำ ผมอ่านภาษาไทยออก แต่ที่ผมถามน่ะ ผมอยากรู้ว่า เสี่ยทำแบบนี้หมายความว่ายังไง” น้ำเสียงแข็งกร้าวของจักรวาลทำให้เลขาฯ สาวหน้าเจื่อนไปถนัดตา
“เรื่องนี้ริชชี่จะจัดการเคลียร์ให้สะอาดหมดจดทุกข่าว ทุกกรณีเลยค่ะ เสี่ยใจเย็นๆ ก่อนนะคะ อย่าถึงกับยกเลิกสัญญาหรือฟ้องร้องกันเลยค่ะ ริชชี่ขอร้องนะคะ ส่วนเรื่องเจ้าของสินค้าทั้งหลายแหล่ ริชชี่จะไปทำความเข้าใจกับทุกรายเองค่ะ ริชชี่ขอร้องนะคะเสี่ยขา ให้โอกาสจักรสักครั้งนะคะ” เรืองฤทธิ์วิงวอนจนแทบจะเข้าไปกอดขากอดเข่าผู้เป็นนายอยู่รอมร่อ
“ฉันจะปั้นชยตร์ขึ้นมาแทนจักร แล้วฉันก็คิดว่าเขาคงไม่สร้างปัญหาให้ฉันต้องปวดหัวทุกวี่วัน เหมือนศิลปินหัวแข็งบางคนด้วย”
“การจะปั้นใครสักคนให้ดังอย่างจักร ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นะคะ เสี่ยจะต้องเสียเงินอีกตั้งเท่าไร แล้วก็ไม่มีอะไรรับประกันด้วยว่าชยตร์จะดังได้เท่ากับจักร ถ้าเขาจะดัง ก็คงดังไปตั้งนานแล้วล่ะค่ะ เป็นดารามาตั้งหลายปีก็ไม่เห็นจะดังสักที เสี่ยอย่าเสียเวลาปั้นเขาเลยนะคะ ริชชี่สัญญาว่าจะเคลียร์ข่าวของจักรให้สะอาดหมดจดโดยเร็วที่สุด นะคะเสี่ยขา ให้โอกาสริชชี่ ให้โอกาสจักรสักครั้งนะคะ” เรื่องฤทธิ์พยายามเกลี้ยกล่อมเจ้านายสุดชีวิต
เสี่ยสาโรจน์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบตกลง เพราะถึงอย่างไร จักรวาลก็ถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ในการสร้างรายได้ให้แก่บริษัท และจะการปั้นศิลปินคนหนึ่งให้โด่งดังแบบจักรวาลนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่เรืองฤทธิ์พูดจริงๆ “ถ้าคิดว่าทำได้ ฉันก็จะให้โอกาสสักครั้ง แต่ต้องเคลียร์ให้จบภายในสามวันนะ ถ้าทำไม่ได้ เราก็ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก” เสี่ยสาโรจน์เดินออกจากห้องทันทีที่พูดจบ โดยมีเลขาฯ สาวสวยเดินตามหลังไปติดๆ
จากคุณ |
:
ปัณณรี (พันธนาการแสงดาว)
|
เขียนเมื่อ |
:
31 มี.ค. 55 21:43:58
|
|
|
|