บทที่ ๑ วันแรกในที่ทำงาน
นิ้วมือเรียวงามเสียบก้านดอกกุหลาบสีขาวดอกสุดท้ายลงไปในแจกันทรงสูงสีน้ำตาลอ่อน ใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักยิ้มอย่างพอใจ แล้วยกแจกันวางประดับไว้ที่เคาท์เตอร์ทำงานของเธอ เลขานุการสาว ผิวขาวนวลผุดผ่อง หน้าผากโหนกรับกับดวงตากลมโตแป๋วแหวว ผมดำขลับยาวเคลียไหล่ มาทำงานเป็นคนแรกในเช้าวันนี้
เสียงประตูกระจกถูกผลักเข้ามา ช่อทิพย์แปลกใจว่าใครหนอมาทำงานแต่เช้า เธอเงยหน้ามองไปตามเสียงนั้น
ชายหนุ่มวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาวอมชมพู รูปร่างสูงสง่า ใบหน้ามนรูปไข่ คิ้วคมเข้มเรียวยาวรับกับจมูกโด่งเป็นสันสวย ริมฝีปากได้รูปสวย ดวงตามีแววเฉลียวฉลาดและอ่อนโยน ผมสั้นพองามหวีจนเรียบแปล้เข้ากับชุดสูทสีกรมท่าที่เขาสวมใส่ กำลังก้าวเดินเข้ามาในสำนักงาน
นาน ๆ จะได้เห็นผู้ชายรูปร่างหน้าตาดีอย่างนี้สักคน เธอตะลึงมองอย่างลืมตัวไปชั่วขณะ รู้สึกถูกชะตากับชายหนุ่มแปลกหน้าคนนี้เสียเหลือเกิน ไม่ใช่เพราะความหล่อสะดุดตาของเขา แต่เป็นบุคลิกภาพที่ดูเป็นคนอ่อนโยนใจดี และกิริยาท่าทางที่ดูเป็นคนเฉลียวฉลาดสุขุม
สวัสดีครับ ผมชื่อธนันท์ครับ เข้ามาทำงานที่นี่เป็นวันแรก น้ำเสียงทุ้ม ๆ ฟังแล้วนุ่มหูกล่าวทักทายเธอพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยนทันทีที่เขาเดินมาจนถึงเคาท์เตอร์
เพียงแค่เขามายืนอยู่ใกล้ ๆ ช่อทิพย์ก็หัวใจเต้นแรง และรู้สึกตื่นเต้นมากเสียแล้ว แต่ก็พยายามอย่างที่สุดที่จะเก็บอาการไว้ให้ได้
สวัสดีค่ะ ทิพย์เป็นเลขานุการฝ่ายต้อนรับที่นี่ค่ะ คุณธนันท์มาทำงานฝ่ายไหนเหรอคะ ทิพย์จะได้บอกทางไปห้องทำงานให้ค่ะ สาวสวยหน้าหวานทักทายตอบ และยิ้มให้อย่างเขินอาย
ผมมาทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการครับ เขาตอบยิ้ม ๆ อย่างอ่อนโยน
อ๋อ! ผู้ช่วยคนใหม่ของคุณชวลิตนี่เอง คงต้องเหนื่อยหน่อยนะคะ เพราะเจ้านายไม่ค่อยได้อยู่ในสำนักงานเลยค่ะ คุณชวลิตเดินทางไปต่างประเทศบ่อย ออกไปพบลูกค้าก็บ่อย มักสั่งงานทางโทรศัพท์เป็นประจำค่ะ ช่อทิพย์พูดไปยิ้มไป
ใบหน้าอ่อนโยนนั้นพยักหน้าเล็กน้อย แล้วตอบอย่างสุภาพว่า
ครับ ผมทราบตั้งแต่ตอนสัมภาษณ์งานแล้วละครับว่างานเยอะมาก ๆ มีงานเยอะก็ดีกว่าไม่ค่อยมีอะไรทำน่ะครับ
งั้นก็ตามทิพย์มาทางนี้เลยค่ะ จะพาไปที่ห้องทำงานของคุณนะคะ พอพูดจบสาวสวยก็เดินออกมาจากเคาท์เตอร์ นำเขาไปยังห้องทำงานของผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ
เมื่อเดินมาถึงหน้าห้อง เธอผายมือชี้ไปทางห้องทำงานตรงหน้า พยักหน้านิดหนึ่งแล้วบอกเขาว่า
ห้องนี้ค่ะ ห้องทำงานของคุณ เชิญคุณตามสบายนะคะ ถ้ามีอะไรก็ถามทิพย์ได้ตลอดเลยค่ะ ทิพย์อยู่ที่เคาท์เตอร์หน้าบริษัทค่ะ
ธนันท์ก้มศีรษะให้เล็กน้อยพร้อมกับกล่าวขอบคุณ
ขอบคุณครับ
ช่อทิพย์เดินจากไปแล้ว ธนันท์เข้าไปสำรวจห้องทำงานใหม่ของเขา ห้องนี้กว้างพอสมควร กั้นห้องด้วยกระจก มีโต๊ะทำงานตั้งอยู่กลางห้อง เครื่องโทรสารและเครื่องคอมพิวเตอร์วางอยู่บนโต๊ะคอมพิวเตอร์ ที่ต่อออกไปทางด้านขวาของโต๊ะทำงานเป็นรูปโค้งสวยงาม และทำให้ทำงานสะดวก ด้านหลังของห้องเป็นม่านปรับแสงสีครีมยาวจนเกือบถึงพื้นทำให้ห้องดูสว่าง ด้านซ้ายเป็นตู้เก็บเอกสารทรงสูงเรียงกันยาวจนเต็มผนังห้อง มีโซฟายาวอยู่ที่มุมห้องด้านขวา
ชายหนุ่มนั่งลงอ่านเอกสารที่อยู่บนโต๊ะของเขา ตำแหน่งผู้ช่วยฯต้องทำงานแทนเจ้านายหลายอย่าง แต่ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจใด ๆ งานส่วนใหญ่ต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการตอบแฟกซ์ ตอบจดหมาย เขียนรายงาน ร่างสัญญา มีแต่งานดูแลสำนักงานแทนเจ้านายเท่านั้นที่ต้องใช้ภาษาไทยเป็นหลัก
เวลาผ่านไปจนถึงสิบโมงเช้า เลขานุการฝ่ายต้อนรับก็มายืนยิ้มแป้นอยู่หน้าห้องทำงานของเขาพร้อมกับพูดขึ้นว่า
เมื่อสักครู่นี้เจ้านายโทรเข้ามาค่ะ บอกว่าวันนี้ไม่เข้าสำนักงานนะคะ ให้ทิพย์ช่วยพาคุณธนันท์ไปแนะนำให้เพื่อนร่วมงานรู้จักค่ะ เธอดีใจที่ได้ทำหน้าที่แนะนำตัวผู้ช่วยผู้จัดการคนใหม่แทนเจ้านายของเธอ
อ้อ! ครับ เขาตอบ แล้วลุกขึ้นเดินตามเลขานุการคนสวยไปทันที
ช่อทิพย์พาธนันท์ไปแนะนำให้เพื่อนร่วมงานทุกคนได้รู้จัก รวมทั้งยุพิน พนักงานบัญชีของบริษัทด้วย
อ้าวทิพย์ วันนี้ควงใครมาเนี่ย คนหน้าจืด ไว้ผมซอยสั้น ร่างเล็กบาง ผิวขาว วัย 24 ปี กล่าวทักทายอย่างล้อเล่น
สาวสวยหันไปมองหน้าธนันท์อย่างเขิน ๆ ก่อนที่จะตอบว่า
แหม! พิน วันนี้คุณชวลิตไม่เข้าสำนักงาน ทิพย์ก็เลยต้องรับหน้าที่พาผู้ช่วยของคุณชวลิตมาแนะนำตัวจ้า
ต๊าย! คุณชวลิตเข้าใจเลือกผู้ช่วยนะ อย่างกับเลือกนายแบบ หรือพระเอกหนังแน่ะ ยุพินคนหน้าจืดพูดล้อเล่นอย่างเป็นกันเอง เล่นเอาธนันท์วางหน้าไม่ถูก ได้แต่ยืนอมยิ้มฟังสองสาวโต้ตอบกัน
คุณธนันท์คะ นี่! ยุพิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน ช่อทิพย์หันไปพูดกับธนันท์
ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณยุพิน ธนันท์พูดยิ้ม ๆ และโค้งศีรษะเล็กน้อย
นี่พามาแนะนำตัวกับเราเป็นคนสุดท้ายเลยสินะเนี่ย ใช่ซิ! ก็เรามันไม่ค่อยสำคัญนิ ยุพินคนหน้าจืดพูดแล้วแกล้งค้อนเพื่อนร่วมงานคนสวย
โอ๋! โอ๋! อย่าใจน้อยไปเลยน่า ก็กว่าจะผ่านด่านฝ่ายการตลาด ฝ่าย ซัพพอร์ต (Support) มาได้ก็กินเวลาเป็นชั่วโมงแล้วจ้ะพิน ก็ฝ่ายบัญชีอยู่ด่านสุดท้ายนี่จ๊ะ แต่ก็ดีนะ ได้เวลาพักเที่ยงพอดีเลย เราพาคุณธนันท์ไปทานกลางวันด้วยกันเลยดีไหมจ๊ะ แม้จะรู้ว่ายุพินล้อเล่นแต่ช่อทิพย์ก็ปลอบโยนเป็นการรับมุขไปในตัว
ช่อทิพย์ ธนันท์ และ ยุพินก็ไปรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน นับแต่นั้นมา เพื่อนร่วมงานสามคนนี้ก็มักจะไปรับประทานอาหารกลางวันด้วยกันเป็นประจำ และค่อย ๆ มีความสนิทสนมกันมากขึ้นตามลำดับ
จากคุณ |
:
Chocolate_X
|
เขียนเมื่อ |
:
2 เม.ย. 55 05:09:10
|
|
|
|