Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
Black Gun And Red Rose - กุหลาบแดงและปืนดำ - บทที่ 12 ติดต่อทีมงาน

บทที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11691462/W11691462.html

บทที่ 2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11703633/W11703633.html

บทที่ 3 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11718987/W11718987.html

บทที่ 4 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11728001/W11728001.html

บทที่ 5 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11751888/W11751888.html

บทที่ 6 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11770861/W11770861.html

บทที่ 7 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11795300/W11795300.html

บทที่ 8 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11817498/W11817498.html

บทที่ 9 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11842423/W11842423.html

บทที่ 10 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11862773/W11862773.html

บทที่ 11 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11882295/W11882295.html

----------------------------

ขอบคุณกิฟท์จากคุณรุริกะ - ขอบคุณสำหรับกิฟท์ครับพี่รุริกะ

ขอบคุณกิฟท์จากคุณใยไหมกะใบม่อน - แหม่ ไม่ยอมบอกอายุอ้ะ ชิชิ(ขอบคุณสำหรับกิฟท์เน้อครับ^^)

ขอบคุณกิฟท์จากคุณ zoi - ขอบคุณสำหรับกิฟท์ครับพี่โส้ย หลังจากนี้ความลับจะทยอยเปิดเผยทีละติ๊ด ทีละติ๊ดแย้วครับ นอกจากนี้ก็จะมีส่วนที่เป็นแอ็คชั่นแทรกเข้ามาแล้ว

ขอบคุณกิฟท์จากคุณ GTW - ทางออกในปมของพิชิตรออยู่ท้ายเรื่องแน่ะครับอาจารย์จี ขอบคุณสำหรับกิฟท์ครับ ^^

ขอบคุณกิฟท์จากคุณกุหลาบมอญ - ขอบคุณสำหรับกิฟท์และการติดตามครับ

ขอบคุณกิฟท์จากคุณ npuiy - ขอบคุณสำหรับกิฟท์ครับผม

ขอบคุณกิฟท์(ที่หมด) จากคุณห้าสิบป่าย - ขอบคุณสำหรับดวงดาวครับคุณห้าสิบป่าย ^^

ขอบคุณกิฟท์(ที่หมด)จากคุณกาปอมซ่า - วันนี้ขอเต้าหู้นมสดครับพี่กาปอม ทานแล้วจะได้สดชื่นรับอากาศที่แปรปรวนเหลือเกิ๊นนน

ขอบคุณกำลังใจจากคุณปันฝัน - ต้องดูครับว่าจะมีอะไรอยู่นอกเหนือจากปมที่เห็นอีกหรือเปล่า อิอิ ขอบคุณที่ติดตามครับ

ขอบคุณกิฟท์จากคุณให้เพียงเธอหมดใจ - ใช่แล้วครับ คือผมอยากสร้างนิยายที่ตัวละครมันรู้ทันกันไปซะทุกเรื่อง อยากดูว่ามันจะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง ดีไม่ดีก็ถือว่าเป็นการฝึกฝนการเขียนของตัวเองไปด้วย ขอบคุณสำหรับการติดตามนะครับ ขอบคุณมากๆ ^^

ขอบคุณกิฟท์จากคุณน้ำพรมหนำ - คนเขียนติดขนมครับ นอกจากขนมแล้วยังติดนมเป็นพิเศษ นมที่เป็นเครื่องดื่มนะครับ อย่าคิดมาก! ฮ่ะๆๆ ล้อเล่นครับ ขอบคุณสำหรับกิฟท์และการติดตามครับ

ขอบคุณกิฟท์จากคุณ Sniper-1500watt - ในขายหัวเราะผมใช้นามปากกาอยู่สองนามคือเธียร อาชาปราชญ์กับทะเลเดือด ไม่รู้เคยอ่านหรือเปล่านะครับ ถ้าไม่เคยก็สามารถติดตามอ่านเรื่องสั้นของทะเลเดือดได้ในขายหัวเราะเดือนนี้ล่ะครับ แต่ไม่รู้ว่าพิมพ์สัปดาห์ไหน แหะๆ(โฆษนาไม่แฝงเลยเนอะ กั่กๆๆ)

ขอบคุณสำหรับกิฟท์และการติดตามครับ

ขอบคุณกำลังใจจากพี่แพรวดาว - แล้วสนใจรับลูกชายคนโตสักคนมั้ยล่ะพี่? x:p

ขอบคุณกิฟท์จากคุณเพชรรุ้งพราย - ขอบคุณสำหรับกิฟท์และการติดตามครับ

ขอบคุณกิฟท์จากคุณสามปอยหลวง - ขอบคุณสำหรับกิฟท์ครับผม

ขอบคุณกิฟท์จากคุณสะเก็ดดาวเสาร์ - เดี๋ยวฝากบอกพีภัทรให้ครับว่ามีคนเป็นห่วง ขอบคุณสำหรับกิฟท์และการติดตามครับ ขอบคุณ ขอบคุณ ^^

ขอบคุณกิฟท์จากคุณชมภัค - ขอบคุณสำหรับกิฟท์ครับพี่ชมภัค

มาถึงบทที่สิบสอง มีส่วนที่เป็นแอ็คชั่นเต็มรูปแบบเข้ามาแล้ว และจะบู๊กันต่อในบทหน้า ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านครับ แอบกระซิบนิดหนึ่งว่าในตอนหน้ามีตัวละครบางตัวที่อยู่ในบทนี้ บาดเจ็บและเสียชีวิตด้วย!


----------------------------

บทที่ 12

เมืองลำปาง,ห้างฉัตร
สุสานประจำอำเภอห้างฉัตร

แสงแฟลชถ่ายรูปวูบวาบขึ้นเมื่อบรรดานักข่าวและช่างภาพได้รับอนุญาตให้ถ่ายรูปหน้าศพเป็นครั้งสุดท้าย ภาพที่ถ่ายออกมาได้คือภาพของเรณู บุษบายุธยืนหน้าเศร้าอยู่กลางภาพ ด้านซ้ายมีรัมภา ส่วนด้านขวาเป็นริสา และด้านหลังของทั้งสามคือโลงศพของพ่อเลี้ยงไกรศักดิ์ที่ตั้งอยู่ในสุสานอันแน่นขนัดไปด้วยผู้คนระดับพ่อเลี้ยงและเศรษฐีทั่วภาคเหนือ

การณาปนกิจศพกำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า ขณะนี้เมื่อการถ่ายรูปสิ้นสุดลง เจ้าหน้าที่จำนวนหกคนก็ช่วยกันยกโลงศพไปยังที่ๆ จัดเตรียมไว้สำหรับอาบน้ำศพก่อนจะนำโลงศพไปตั้งบนปราสาทซึ่งตั้งอยู่บนกองฟืนที่จัดสร้างเอาไว้เป็นกรณีพิเศษ  

ท้องฟ้ายามบ่ายแก่มืดครึ้มเหมือนกำลังจะมีฝนเทลงมา ริสาเดินแยกจากแม่เลี้ยงและน้องสาวต่างมารดามายังมุมเต็นท์ที่ทิวากรกำลังยืนหลบมุมคุยโทรศัพท์ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร

ริสายืนมองรัมภาถูกเรณูลากตัวออกจากเต็นท์ไปอีกด้านหนึ่งของสุสานที่เป็นลานดินเพื่อทำพิธีปักตะไคร้ไม่ให้ฝนตกก่อนที่การณาปนกิจศพพ่อเลี้ยงไกรศักดิ์จะผ่านพ้น เธอคิดว่าเรื่องของพิธีรีตองหรือเคล็ดที่อยู่เหนือธรรมชาติเหล่านี้มันช่างดูไม่เข้ากันเสียเลยกับโลกแห่งเทคโนโลยีที่พวกเธอกำลังใช้ชีวิตอยู่ ซึ่งดูจากสีหน้า รัมภาก็คงรู้สึกไม่ต่างจากที่ริสากำลังรู้สึกสักเท่าไหร่นัก เพราะถึงแม้เด็กสาวจะทำตามที่มารดาและผู้หลักผู้ใหญ่คนอื่นร้องขอ แต่ในดวงตาของรัมภาก็ปราศจากความเชื่อมั่น มีแต่ความสงสัยและไม่เชื่อถือเท่านั้นว่าการให้เด็กสาวที่ยังคงมีพรหมจรรย์บริสุทธิ์นำตะไคร้ปักกลับลงดินจะสามารถหยุดยั้งไม่ให้ฝนตกได้อย่างไร
แต่เพื่อความสบายใจของผู้ใหญ่ รัมภาก็ต้องทำตาม

ริสาเบือนหน้าออกจากภาพของรัมภาที่ถูกห้อมล้อมโดยกลุ่มผู้ใหญ่ เธอเหลือบมองทิวากรที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ข้างกาย สีหน้าของเขาแสดงความเครียดเขม็งตั้งแต่ที่เธอเดินมาถึง

เมื่อรู้สึกว่าถูกจับจ้อง ทิวากรก็สบตามองริสา ส่งเสียงขอบคุณปลายสายในโทรศัพท์อีกสองสามคำก็กดวางสายและหันมาทางเธอ  

“ใครโทรมาหรือ หมิง?” ริสาถามขณะหนุ่มตี๋ยัดโทรศัพท์เข้ากระเป๋าเสื้อสูทด้านใน

“พวกฝ่ายบัญชีของกลิ่นเกสรที่เชียงใหม่น่ะ” ทิวากรตอบ “หมิงให้เขาส่งบัญชีรวมยอดของปีที่แล้วรวมถึงของปีนี้มาให้ดู แต่บัญชีไม่อยู่ที่แผนกบัญชี พวกเขาเลยส่งมาให้ไม่ได้”

“ไม่อยู่ที่ฝ่ายบัญชีแล้วมันจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ?” หญิงสาวขมวดคิ้ว

“นั่นสิ ถามอะไรไปก็อึกๆ อักๆ ชอบกล” หนุ่มตี๋ส่ายศีรษะอย่างปวดหัว

“หมิงคิดว่ามีอะไรน่าสงสัยงั้นหรือ?”

“ก็ยังบอกไม่ได้เหมือนกัน” ทิวากรเม้มริมฝีปาก ทอดสายตามองไปยังบรรดาผู้บริหารระดับต่างๆ ของรีสอร์ทกลิ่นเกสรทั้งสามสาขาที่ยืนจับกลุ่มคุยกันอยู่ หนุ่มตี๋กำลังชั่งใจว่าจะเดินเข้าไปหาดีหรือไม่ ริสาก็ถามขึ้นอีกครั้ง

“ถ้าอย่างนั้นหมิงก็เชื่อในเรื่องที่โรสเล่าให้ฟังใช่มั้ย?”

ทิวากรหันกลับมามองผู้ถาม เขาเลิกคิ้วสูง ก่อนพยักหน้ารับคำ “ใช่ หมิงเชื่อ”

“แต่นั่นเท่ากับว่าหมิงก็ต้องเชื่อเรื่องที่นายวานิชคนนั้นพูดด้วยน่ะสิ” เสียงของริสาแผ่วเบาลงไปเมื่อกล่าวประโยคนี้ออกมา  “หมิงเชื่อว่ามีใครบางคนต้องการจะฆ่าโรสจริงๆ หรือ?”

หนุ่มตี๋รู้ว่าริสากำลังพูดถึงเรื่องที่เธอบอกเขาเมื่อคืน เขาเงยหน้ามองท้องฟ้า สายลมอ่อนๆ พัดต้องเส้นผมของเขา ริสาจ้องมองทิวากรสูดหายใจทีหนึ่ง แล้วเขาก็ดึงสายตากลับลงมาสบตาเธอ

“หมิงคิดไม่ออกนะว่าหมอนั่นจะมาปั่นหัวโรสทำไมถ้ามันไม่เป็นความจริง ไม่มีใครได้ประโยชน์อะไรจากเรื่องนี้ และอีกอย่าง โรสก็เชื่อที่หมอนั่นพูดไม่ใช่หรือ?” หนุ่มตี๋ถามกลับบ้าง ดวงตาของเขาเป็นประกายเข้มขรึม

ริสาหลบตามองพื้นและถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เธอยอมรับว่าเชื่อในสิ่งที่ชายแปลกหน้าคนนั้นบอกกับเธอ แต่เธอก็ไม่สบายใจที่ตั้งแต่เขาปรากฏตัวขึ้นมา ห้างฉัตรที่สุขสงบก็เหมือนจะเกิดความวุ่นวายขึ้นทันตา

อย่างเช่นการบุกคฤหาสน์ของพิชิตนั่นไง ริสาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเมื่อคืนทิวากรไม่อยู่ที่นั่น บางทีพิชิตอาจถูกทำร้าย หรือบางทีมันอาจจะเลวร้ายกว่านั้น

ริสาสลัดความคิดและกล่าวออกมาในที่สุด “หมิงพอจะรู้หรือยังว่าเมื่อคืนคนที่บุกเข้าไปหาพ่อหมิงเป็นใคร?”

“ยังไม่รู้และก็ยังเดาไม่ถูกด้วยว่ามันจะบุกเข้ามาเพื่ออะไร” ทิวากรตอบพลางนึกถึงการกระทำอันแปลกประหลาดของบิดาที่นอกจากจะไม่ยอมพูดอะไรสักอย่างแล้ว ยังไม่ยอมแจ้งตำรวจหรือทำอะไรเพื่อเป็นการสืบหาตัวคนร้ายอีกด้วย

“แล้วหมิงสงสัยใครบ้างหรือเปล่า?” หญิงสาวถามต่อ

ทิวากรนิ่งคิด อันที่จริงเขาก็สงสัยอยู่คนหนึ่ง แต่มันดูไม่ค่อยมีเหตุมีผลสักเท่าไหร่ จึงตอบไปว่า “ไม่รู้สิ หมิงคิดไม่ออกว่าจะมีแรงจูงใจอะไรทำให้ใครบางคนแอบเข้าไปในห้องนอนของพ่อหมิงแบบนั้น หมิง – ”

“ – หมิงคิดว่าเหตุการณ์เมื่อคืนมีอะไรเกี่ยวข้องกับวานิช มิตรนิรันดร์ใช่มั้ย?” ริสาแทรกขึ้น สีหน้าจริงจัง

ทิวากรเผยยิ้มออกมาจางๆ “ถ้าหมิงตอบว่าใช่ล่ะ?”

รอยยิ้มฝีดฝืนปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของหญิงสาวเช่นกัน “โรสก็จะตอบว่า โรสก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน”

แล้วเธอก็หยุดชะงักเมื่อทอดสายตาไปยังปราสาทศพอันจัดสร้างอย่างอลังการ  ริสาคิดว่าหากพ่อได้มีชีวิตอยู่ ท่านคงไม่ชอบใจมากที่พบว่าภรรยาของท่านทุ่มเงินหลายแสนบาทเพื่อซื้อปราสาทไม้ที่จะเผาไหม้ไปกับศพในเวลาเพียงครู่เดียว มันคงเป็นการนำเงินมาละลายเล่นในสายตาของท่านแน่ๆ

”แต่ที่มันน่าสงสัยก็คือ ถ้าคนที่บุกเข้าไปในคฤหาสน์ของพ่อหมิงเป็นวานิช  มิตรนิรันดร์จริงๆ เขาต้องการอะไรถึงทำอย่างนั้น?” ริสากล่าวขึ้นอีกครั้ง สายตาของเธอยังจับจ้องอยู่ที่ปราสาทศพ

อีกด้านหนึ่งของสุสาน พิธีปักตะไคร้เสร็จสิ้นลงแล้ว และเมฆดำทะมึนบนท้องฟ้าก็กำลังถูกสายลมลากเกี่ยวจากไปเหมือนขบวนเรือยนต์ในท้องทะเล ดวงอาทิตย์ยามเย็นแผดแสงปรากฏกายอีกครั้งอย่างน่าประหลาดเมื่อเรณูกับรัมภาและบรรดาขบวนที่ตามติดเดินกลับเข้าในเต็นท์อีกครั้ง

แต่ทิวากรกำลังอยู่ในห้วงคิดของตัวเองจนไม่ได้สนใจความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศด้านบน เขาถามออกมาอย่างประหลาดใจว่า “โรสคงไม่คิดว่าพ่อของหมิงจะเป็นคนที่หมอนั่นพูดถึงหรอกนะ?”

มันอาจจะดูเหมือนเป็นคำถามที่ปกป้องบิดาของตัวเอง แต่ริสาก็เข้าใจเขาดี เธอหันหน้ากลับมาส่งยิ้มให้เขาพร้อมกับตอบคำถามด้วยการส่ายศีรษะกล่าวว่า

“ไม่หรอก โรสมั่นใจว่าคุณอาชิตต้องไม่ใช่คนที่ต้องการฆ่าโรสแน่ๆ มันต้องเป็นคนอื่น แต่โรสก็ไม่อยากคิด กลัวว่ามันจะออกมาจากอคติของตัวโรสเอง”
 
ทิวากรไม่พูดอะไรอีก เขารู้ดีว่าริสากำลังพูดถึงใคร...หนุ่มตี๋ยกมือกอดอก เหม่อมองไปยังทิศทางที่เรณูกับรัมภานั่งอยู่บนเก้าอี้ซึ่งหันหลังให้ตำแหน่งที่เขากับริสากำลังยืนอยู่  ความคิดบางส่วนของเขาก่อตัวชัดเจน แต่บางส่วนก็พร่ามัวเกินไปที่จะพูดออกมา ดังนั้นในเมื่อยังไม่มีหลักฐานอะไรแน่ชัด ทิวากรคิดว่าเงียบไว้ก่อนจะดีกว่า

แต่ขณะนั้นเอง ความเงียบและห้วงคิดของทิวากรก็สะดุดลงเมื่อมีเสียงอันแปลกหูของใครบางคนดังขึ้นจากด้านหลัง

“ขอโทษครับ ไม่ทราบว่าคุณเรณู บุษบายุธอยู่ไหนครับ?”

เมื่อทิวากรหมุนตัวกลับไป เขาก็พบสายตาหลังกรอบแว่นสีดำของบุรุษวัยสี่สิบกว่าๆ จ้องตอบกลับมา ชายคนนี้มีรูปร่างไม่สูง และจากชุดสูทสีเทาที่ใส่และกระเป๋าเอกสารที่ถือก็ทำให้ตัวของเขาดูสั้นลงไปอีก

แต่ใบหน้าและท่าทางคงแก่เรียนนั้นก็ทำให้ดูออกว่าเป็นผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับตัวบทกฎหมายและมีเล่ห์เหลี่ยมพอตัว

“มาติดต่อเรื่องอะไรครับ?” ทิวากรถาม

“ผมมาติดต่อเพื่อแจ้งเรื่องการส่งมอบพินัยกรรม” ชายร่างเตี้ยตอบ “ผมชื่อทรงกลด เป็นทนายประจำตระกูลที่คุณไกรศักดิ์มอบหมายให้จัดทำพินัยกรรมครับ”

++++++++

แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 55 11:52:16

จากคุณ : ทะเลเดือดพันธุ์ร็อค
เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 11:20:32




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com