Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
Defeat Love ปราชัยรัก ตอนที่2 กาแฟไม่ใส่น้ำตาลแต่... ติดต่อทีมงาน

สวัสดีคะ ^/l\^ ขอบคุณสำหรับทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ

วันนี้ก็เอาตอนที่ 2 มาลงคะ ยังไงก็ขอความกรุณานักอ่านทุกคนด้วยนะคะ ขอบคุณคะ



สำหรับชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ คำว่า defeat แปลได้สองความหมายคือ จะเอาชนะให้ได้ จะให้อีกฝ่ายปราชัย หรือว่า ปราชัยที่แปลว่า พ่ายแพ้

ที่ตั้งก้ำกึ่งๆก็เพราะว่าเรื่องราวความรักของนางเอกจะก้ำกึ่งระหว่างที่เคยยอมแพ้กับความรักและถูกเอาชนะด้วยความรักนะคะ

แต่คือภาษาอังกฤษหนูไม่เก่ง ถ้าผิดพลาดอะไรไปก็ขออภัยด้วยนะคะ แหะๆ

ขอบคุณคะ ^^

อ้างอิง :

defeat
defeat  (ดิฟีท')
vt. ทำให้พ่ายแพ้, ชนะ, ทำให้เสีย, ยกเลิก, ลบล้าง, กำจัด n.
การทำให้พ่ายแพ้, การได้ชัยชนะ, ความพ่ายแพ้, ความล้มเหลว





ตอนที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11907790/W11907790.html









ตอนที่ 2 กาแฟไม่ใส่น้ำตาลแต่...




โทรศัพท์ไร้สายถูกวางลง ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆอย่างอารมณ์ดีที่ได้แกล้งคน

พัฒนา ชายหนุ่มหน้าไทย จมูกโด่ง ตาคม คิ้วเข้ม หันมองออกไปยังกระจกหน้าต่างบานใหญ่ พลางดีดนิ้วฮัมเพลงอย่างมีความสุข

ชายหนุ่มอมยิ้มน้อยๆเมื่อนึกถึงหญิงสาวใส่แว่นผมสั้นประบ่าที่เขาเพิ่งจะได้โทรไปกวนประสาทเมื่อกี้นี้ หญิงสาวทำเสียงกัดฟันตอบเขา ถึงแม้จะไม่ได้เห็นหน้าอีกฝั่ง แต่เขาก็มั่นใจว่าเธอคงจะทำหน้าเบื่อหน่ายเขาอยู่เต็มทีเป็นแน่



พัฒนา อิฐธิกรยานนท์ ชายหนุ่มอนาคตไกล ถึงแม้เขาจะอายุแค่ 24 ปี แต่ก็เป็นถึงรองประธานบริษัท xxx บริษัทผู้นำเข้าและส่งออกที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆของประเทศไทย

นอกจากตำแหน่งที่มีดีของเขาแล้ว ทั้งด้านการศึกษาและหน้าตาของเขาเองนั้นก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าตำแหน่งเลยแม้แต่น้อย เขาเรียนจบปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจจากสหรัฐอเมริกาแค่ภายในสามปี และในทันทีก็สอบเข้าเรียนปริญญาโทในสาขาเดียวกัน ใช้เวลาแค่เพียงหนึ่งปีก็สามารถเรียนจบ แถมยังได้คะแนนสูงสุดในมหาวิทยาลัยของปีนั้น เรียกได้ว่าเพียบพร้อมไปทุกทิศทาง ทั้งหน้าตา ฐานะ และการศึกษา




ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...

เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้น พัฒนายิ้มกว้าง หันหน้ามองไปยังประตู เขารู้ว่าบุคคลที่มาเคาะประตูอยู่หน้าห้องของเขาตั้งแต่เช้านั้นคือใคร

เคาะประตูซะเหมือนจะพัง สงสัยจะโมโหมากแหะ ชายหนุ่มคิด ก่อนจะขานตอบรับให้อีกฝ่ายเข้ามาในห้อง

“เชิญเข้ามา”

เมื่อประตูถูกเปิด ก็ปรากฏร่างของหญิงสาวใส่แว่น ผมสั้นประบ่า หน้าตาจัดว่าสวย กำลังเดินตรงมายังโต๊ะของเขา ในมือถือถ้วยกาแฟที่ดูเหมือนว่าเพิ่งจะถูกชงได้ไม่นานเพราะยังมีควันลอยขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากแก้ว

เขายิ้มกว้างส่งไปให้เธอ แต่ดูเหมือนเธอจะไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย ถ้าเป็นปกติพนักงานคนอื่นๆคงจะเป็นลมล้มพับไปกับความหล่อเหลาของเขาแล้วเป็นแน่แท้ แต่ว่ากับเธอคนนี้ไม่ใช่ หญิงสาวยังคงทำหน้าเฉยชา ก่อนจะวางถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะของเขา





“กาแฟที่สั่งได้แล้วคะ” ญิณราพูดเสียงดัง ก่อนจะหันตัวเพื่อจะเดินออกจากห้อง กลับไปยังห้องทำงานของเธอ

“เดี๋ยวก่อนซิคุณหยิน” พัฒนาพูดขึ้นหลังจากเห็นหญิงสาวเตรียมตัวทำท่าจะเดินกลับไป แหม ได้แกล้งแล้วก็ขอแกล้งให้ถึงที่สุดซิ ญิณราทำหน้าเหรอหราหันกลับมามองชายหนุ่มผู้ซึ่งเป็นเจ้านาย มีอะไรอีกเนี่ย

“คะ?”

“ผมขอชิมกาแฟก่อนว่าอร่อยไหม” พัฒนาพลางยักคิ้วส่งให้หญิงสาว ญิณรามองหน้าชายหนุ่มด้วยความสงสัย นี่เขากำลังจะแกล้งอะไรเธออีกหรือเปล่า

“ค่ะ เชิญชิมได้เลยค่ะ” จบคำหญิงสาว พัฒนายกถ้วยกาแฟขึ้นมาจิบทันที อันที่จริงกาแฟดำที่ไม่ใส่น้ำตาล จะชิมหรือไม่ชิมใครๆก็รู้ได้ทังนั้นว่ารสชาติจะเป็นอย่างไร แต่เขาขอแค่ได้แกล้งหญิงสาวตรงหน้านี้นิดหน่อย ถือว่าเป็นความสุขก่อนจะเริ่มงานก็แล้วกัน

“หื้ม! อะไรเนี่ยคุณหยิน ทำไมมันขมอย่างนี้หล่ะ” ชายหนุ่มแกล้งทำท่าขม ก่อนจะรีบวางแก้วลงยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นมาดื่ม ญิณราคิ้วขมวดด้วยความไม่เข้าใจ

“ท่านรองสั่งกาแฟไม่ใส่น้ำตาลไม่ใช่เหรอคะ ดิฉันก็ไม่ได้ใส่เลยสักก้อน”

“แต่ผมไม่ได้บอกว่าเอาไม่หวานนี่นา” จบคำรองประธานหนุ่ม ญิณรากำมือแน่นด้วยความโมโหทันที ให้ตายซิ นี่เขาหาเรื่องแกล้งเธอแต่เช้าเลยใช่ไหมเนี่ย

พัฒนาหัวเราะเล็กน้อยเมื่อได้เห็นปฏิกิริยาของหญิงสาวตรงหน้า เขาจงใจแกล้งเธอ ตั้งแต่โทรไปให้หญิงสาวชงกาแฟมาให้ รวมถึงเรื่องกาแฟที่ขมไม่ใส่น้ำตาลแก้วนี้ด้วย

“ก็ถ้าไม่ใส่น้ำตาล มันจะหวานได้ยังไงหล่ะคะ” ญิณรากัดฟันพูด เธอพยายามที่จะระงับอาการโมโห ทั้งๆที่รู้ว่าอีกฝ่ายจงใจแกล้งเธอ แต่จะทำอะไรได้ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นถึงรองประธานบริษัท แถมยังเป็นลูกพี่ลูกน้องกับประธานบริษัท เจ้านายโดยตรงของเธอ

“แต่ผมก็ไม่ได้บอกว่าไม่ใส่นมข้นหวานนี่”

“...........”

“ใช่ไหมครับคุณหยิน” พัฒนาพูดพลางหยักคิ้ว ญิณรายังคงกำมือแน่น เธอส่งยิ้มกลับไปให้ชายหนุ่ม ให้ตายซิ นี่เขากำลังกวนประสาทเธออีกแล้วใช่ไหมเนี่ย

พัฒนาหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นท่าทางของหญิงสาวตรงหน้า ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเธอแกล้งยิ้ม แต่อันที่จริงกำลังโมโหเขาอยู่ต่างหาก

“ค่ะท่านรอง”

“ถ้างั้นช่วยไปชงถ้วยใหม่มาให้ผมหน่อยนะครับ” พัฒนาพูดพลางยกถ้วยกาแฟขึ้นส่งให้กับหญิงสาว ญิณรารับก่อนจะยิ้มแหยๆ นี่เธอจะต้องไปชงใหม่อีกแล้วใช่ไหมนี่ ให้ตายซิ เธอมาทำงานนะไม่ได้มานั่งชงกาแฟ แต่จะบ่นยังงั้นยังงี้ก็ไม่ได้ เพราะหน้าที่ชงกาแฟให้เจ้านายก็เป็นหน้าที่ของเลขาฯ แต่ว่านี่เค้าไม่ได้เรียกว่าหน้าที่ แต่เค้าเรียกว่าแกล้งกันชัดๆ ให้ตายซิ

“คะ ทราบแล้วคะ เดี๋ยวดิฉันจะชงมาให้ใหม่”

“ขอบคุณมากครับคุณหยิน” พัฒนากล่าวขอบคุณญิณรา เขาขำเบาๆเมื่อเห็นหญิงสาวทำหน้าตาบอกบุญไม่รับ เร่งรีบเดินออกไปจากห้องเขาทันที







“อ้าวพี่หยิน ชงกาแฟมาให้ท่านรองไม่ใช่เหรอคะ แต่ทำไมถึงยังถือออกมาอีกหล่ะ” จิตรา สาวรุ่นน้องผู้ซึ่งอันที่จริงมีตำแหน่งเป็นเลขาฯของรองประธานบริษัทเอ่ยถาม ญิณราหันหน้าไปยังจิตราก่อนจะทำหน้าเบื่อหน่าย วางถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะทำงานของรุ่นน้องก่อนจะยืนกอดอกอย่างไม่พอใจ

“ก็ท่านรองของน้องจิตต์นะซิ บอกให้พี่ไปชงใหม่” เพียงแค่ประโยคสั้นๆแต่ได้ใจความ จิตรายกมือขึ้นมาป้องปากก่อนจะขำเบาๆ สงสัยจะโดนแกล้งอีกแล้วแหงมๆ

“เอาน่าพี่หยิน ท่านรองแกก็เป็นแบบนี้บ่อยๆ ยังไม่ชินอีกเหรอคะ”

“ชินบ้าชินบออะไรกันหล่ะจิตต์ พี่เป็นเลขาฯท่านประธานนะ แต่นี่เกือบทุกวัน พี่ต้องเดินเทียวไปเทียวมาห้องประธานรองประธาน จนขาพี่จะมีกล้ามอยู่แล้วเนี่ย” หญิงสาวบ่นอย่างไม่พอใจ จิตรามองอย่างอ่อนใจ เธอเองก็เห็นใจรุ่นพี่สาวสวย แต่เธอจะทำยังไงได้เมื่อเธอเองก็เป็นแค่ลูกน้องเหมือนกัน

“แต่ก็แปลกนะคะ ท่านรองแกไม่ค่อยอะไรกับจิตต์เท่าไหร่ จะมีก็แค่นิสัยชอบผลุบๆโผล่ๆแว๊บๆหายๆเหมือนท่านประธาน แต่นอกจากนั้นก็...ไม่มีนะคะ ไม่เคยแกล้งจิตต์เลยแม้แต่สักครั้งเดียว”

จิตราทำท่าคิดย้อนไปตั้งแต่วันแรกที่เธอมาทำงานในตำแหน่งเลขาฯ ชายหนุ่มรองประธานถึงแม้บางครั้งจะชอบหายตัวไปไหนบ่อยๆแต่ก็ไม่เคยแกล้งเธอหรือทำให้เธอรู้สึกลำบากใจเหมือนหญิงสาวรุ่นพี่เลยแม้แต่ครั้งเดียว แถมจะออกแนวใช้หญิงสาวรุ่นพี่มากกว่าเธอเสียด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเรื่องเล็กน้อย ชงกาแฟ เอาเอกสาร ชายหนุ่มก็มักจะชอบโทรตรงไปยังโต๊ะของหญิงสาวรุ่นพี่ให้ทำให้เขา

“ท่านประธานของพี่เองก็ไม่ค่อยจะอะไรกับพี่สักท่าไหร่ จะมีก็แต่ท่านรองของจิตต์แหละ ที่เป็นอะไรกับพี่มากรึเปล่า” เมื่อจบคำพูดของหญิงสาวรุ่นพี่ จู่ๆจิตราเกิดฉุกคิดบางอย่างขึ้นมา หรือว่าท่านรองจะ...

“เอ๋ ที่ว่าอะไรกับพี่หยินเนี่ย อะไรยังไงแบบไหนเหรอคะ” จิตราเอ่ยถามอย่างอยากรู้ ญิณราขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ หญิงสาวรุ่นน้องกำลังหมายถึงอะไร

“แบบไหนเหรอ ก็แบบไม่ชอบขี้หน้าพี่ ไม่ถูกชะตา อะไรแบบนี้หล่ะมั้ง”

“โธ่ จิตต์ว่าอาจจะไม่ใช่แบบนั้นก็ได้มั้งคะ”

“ไม่ใช่แบบนั้น แล้วแบบไหนหล่ะจิตต์ นี่ถ้าไม่ใช่ไม่ชอบขี้หน้าพี่มาก ก็คงไม่แกล้งพี่แบบนี้หรอก” ญิณราพูด จิตราหัวเราะร่วน ทั้งคู่คุยกันอย่างออกรสได้สักพัก ญิณราจึงขอตัวไปชงกาแฟถ้วยใหม่ จิตรามองตามหลังรุ่นพี่สาวสวยก่อนจะถอยหายใจออกมาเบาๆ เธอไม่เคยคิดสังเกตมาก่อนว่าทำไมรองประธานจึงดูสนอกสนใจรุ่นพี่สาวสวยเป็นพิเศษ บางทีนอกจากอยากจะแกล้ง อาจจะมีอะไรบางอย่างมากกว่านั้น

“สงสัยเรื่องนี้จะมีลุ้น” จิตราพูดพลางทำสีหน้าเจ้าเล่ห์ ตอนจบเรื่องราวจะพลิกล็อคเป็นแบบไหน สงสัยเธอต้องติดตามดูซะแล้ว






“ไอ้รองประธานบ้า ไอ้รองประธานเฮงซวย ว้อยๆ บ้าๆๆๆ เฮงซวย” ญิณราโวยวายอย่างไม่ลืมหูลืมตา ตอนนี้เธอกลับมาถึงยังห้องทำงานของตนเองเรียบร้อยแล้ว แต่กว่าจะได้กลับมา เธอต้องชงกาแฟใหม่ให้ชายหนุ่มครั้งแล้วครั้งเล่ารวมทั้งสิ้นห้าถ้วย โดยที่ชายหนุ่มอ้างว่าบางถ้วยหวานไป บางถ้วยก็ร้อนไป บางถ้วยก็เย็นไป ชงไปชงมาอยู่อย่างนั้นเกือบชั่วโมง เธอเดินไปเดินมาระหว่างห้องทำงานกับห้องครัว จนเมื่อยขาจะตายอยู่แล้ว

“นี่มันจงใจแกล้งชัดๆ คอยดูนะ จะต้องเอาคืนให้ได้เลย” เธอพูดอย่างอาฆาต ก่อนจะทำท่ากระฟัดกระเฟี้ยดเดินไปนั่งยังโต๊ะทำงาน แต่สักพักพอสงบสติอารมณ์ได้ หญิงสาวก็ทำน้าหงอยก่อนจะฟุบลงไปกับโต๊ะ กำมือแน่นพลางทุบเสียงดังสองสามที “เฮ้อ แต่เราจะไปทำอะไรได้ อีกฝ่ายเป็นถึงเจ้านาย แถมยังระดับรองประธานอีก ฮือๆ แค้นๆ”

“แค้นอะไรใครเหรอหยิน” จู่ๆก็มีเสียงชายหนุ่มดังขึ้นมาจากหน้าประตูห้อง ญิณรารีบเงยหน้าขึ้นหันไปมองทางต้นเสียง หญิงสาวยิ้มแหยๆ ก่อนจะเอ่ยทักทายเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มนั้นคือใคร

“ไงมาร์ท แหะๆ มาตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ”

“ก็มาตั้งแต่ยินบ่นอะไรงึมงำๆ แค้นๆเนี่ยหล่ะ” ชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องก่อนจะยิ้มอย่างขำๆ อดีตสาวแผนกบัญชีมาดขรึมตั้งแต่ย้ายมาเป็นเลขาฯประธานบริษัท ดูมาดขรึมๆนั้นจะตกไปเยอะ

“เปล่า ไม่มีอะไรหรอก มาร์ทหล่ะมีอะไรเหรอ” ญิณราตอบก่อนจะถามกลับ

มาร์ท หรือ สมาร์ท เพื่อนสนิทชายแผนกบัญชี สมัยก่อนทั้งเธอและเขาต่างก็เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงของแผนกด้วยกันทั้งคู่ แต่ทั้งเธอและเขาก็ไม่เคยคิดจะแก่งแย่งหรือเป็นศัตรูด้านการงานกันเลยแม้แต่น้อย แต่ว่าต่างช่วยกันทำงานจนแผนกประสบความสำเร็จและได้รับรางวัลแผนกดีเด่นของบริษัท ก่อนที่เธอได้รับการผลักดันจากทัศพรให้ได้มาทำงานเป็นเลขาฯของประธานบริษัท และสมาร์ทเองก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นรองผู้จัดการในที่สุด

“อ้อ คือพี่บุ๋มให้มาถามว่าท่านประธานมาหรือยังนะ แกเป็นห่วงเรื่องเอกสาร” สมาร์ทตอบ ญิณราส่ายหัวเล็กน้อยเป็นการปฏิเสธ ก่อนจะส่งยิ้มให้ชายหนุ่ม

“ยังเลยมาร์ท กว่าท่านจะเข้าก็คงราวๆสิบโมงนั่นแหละ”

“อ้าวเหรอ”

“ใช่ บอกพี่บุ๋มนะว่าไม่ต้องเป็นห่วง ถ้าท่านเข้ามาแล้วเราจะรีบเอาให้ท่านพิจารณาและเซ็นให้เรียบร้อยเลย”

“อืม ขอบคุณนะ งั้นเรากลับไปทำงานก่อนหล่ะ บาย” ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณ โบกมือลาและเดินออกไปจากห้องทำงานของหญิงสาวทันที ญิณรายกมือขึ้นโบกลาตอบ เมื่อชายหนุ่มออกไปจากห้องสักพัก หญิงสาวจึงเริ่มจัดแจงเอกสารบนโต๊ะให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนจะลงมือทำงานอย่างจริงจัง





ขอบคุณมากๆคะ ^^

แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 55 12:27:22

แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 55 12:26:37

จากคุณ : mollaly
เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 12:22:00




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com